ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 54 ก็เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉันไงล่ะ
ท่านประธานฟางคะ คุณเป็นคนรวยที่แค่เศษเสี้ยวนาทีก็สามารถหาเงินมากกว่าห้าล้านมาฟาดหัวพวกเขาให้ตายได้ เพราะฉะนั้นคุณอย่าไปฟังพวกเขานะคะ
ถึงคุณจูบลงไปก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี จริงๆนะ…….
อย่าถามว่าทำไมเธอถึงรู้ เพราะคนที่คนอื่นบอกให้เขาจูบก็คือซินเหยา ห้าห้าห้า
มือสองข้างของเธอดันไปที่อกที่ผ่านการออกกำลังกายมาจนแข็งโปกของซวี่เจ๋อ ดันไม่ออกสักที
แม่เจ้า คนอื่นก็จะแกล้งเธอ เพราะเธอแรงน้อยไหมนะ ┬_┬……
เธอตัดสินใจแล้วว่าแต่นี้ต่อไปเธอจะกินผักโขม ซินเหยามองไปที่ใบหน้าของซวี่เจ๋อ มันยิ่งใกล้เข้ามาทุกที
หัวของเธอเอียงไปข้างหลังอย่างช้าๆ เอวของเธอตอนนี้มันงอต่ำลงอยู่ในสภาพที่คิดไม่ถึงจริงๆ
เอวของเธอมันอัศจรรย์ขนาดนี้เลยเชียวหรือ ไม่รู้มาก่อนนะเนี่ย
แม่เจ้า มันถึงจุดสุดแล้ว เอวของเธอโค้งต่ำไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้ายังโค้งต่ำกว่านี้อีก เอวเธอก็คงจะหักแล้ว
หน้าของซวี่เจ๋อใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลมหายใจของเขาถึงกับไปกระทบกับใบหน้าของเธอ ลมหายใจของทั้งสองผสมผสานกันไปชั่วขณะ มันแทบจะกลมกลืนไปด้วยกัน
ช่วยชีวิตลูกด้วยเจ้าคะพระแม่มารี ถ้าเกิดจูบลงไปแล้ว อีกหน่อยจะปฏิเสธไงล่ะทีนี้?
พระแม่มารีอาจจะมีอยู่จริงๆก็ได้นะ เธอถึงได้ยินเสียงหล่อสะบัดหางเย็นชาจากที่ใดสักที่ดังขึ้นแล้วพูดว่า "ปล่อยนะ"
เสียงนี้มันคุ้นๆแฮะ เสียงมันคุ้นมากจริงๆ
ในขณะที่ซินเหยายังคิดไม่ออกว่าเป็นเสียงของใครกันแน่ ร่างกายของเธอก็ได้ไปซบอยู่ที่อกของอีกคนหนึ่งที่หอมเย็นแล้ว มือข้างหนึ่งของคนๆนั้นได้โง้มกอดไปที่เอวของเธอ เหมือนจะกลืนกินเธอยังไงยังงั้น
"จิงเฉิน นี่มันหมายความว่ายังไง?" ซวี่เจ๋อหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาก็ยังเหมือนเดิม แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นกลับหายไป มันเย็นชาเอามากตอนนี้
ซินเหยาเหงยหน้าขึ้นไปดู แต่กลับถูกจิงเฉินกดหัวลงไปที่หน้าอกของเขาเหมือนเดิม ไม่ให้เธอพูด
จิงเฉินไม่ได้ตอบกลับซวี่เจ๋อ แต่กลับใช้สายอันเย็นชามองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ข้างๆที่กำลังมุงดูอยู่
"ทุกคนคงเหลือพลังงานมากสินะ คงจะไม่เหนื่อย อยากจะทำโอทีต่อใช่ไหม?" หลังจากที่ท่านประธานเยี่ยกวาดสายตาไปมอง ทุกคนต่างหดหัวหมด เขาพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก และพูดกับหลี่เวยว่า "หลี่เวย พาพวกเขาไปกินมื้อดึก พวกเธอไปก่อนเลย ใบเสร็จคิดรวมเป็นของผม"
หลี่เวยสีหน้าที่ดูจะได้ใจพร้อมสะใจ แล้วพูดอย่างทันทีว่า "ได้ค่ะ"
เห็นหรือยัง พวกมนุษย์ธรรมดาหน้าโง่ เห็นหรือยัง
น้องซินเหยาตัวน้อยเป็นของท่านบอสใหญ่ของเราต่างหาก หึๆ
ซินเหยาตอนนี้ยังซบอยู่ที่อกของจิงเฉิน มือสองข้างที่เรียวสวยกดเธอไว้ไม่ให้เงยหัวขึ้นมา
"วันนี้เธอไม่มีเวลา พอแค่นี้เถอะ" สีหน้าที่ดูไร้ซึ่งอารมณ์ของจิงเฉินมองไปที่ซวี่เจ๋อแล้วพูด มันทำลายแผนสารภาพรักของซวี่เจ๋อลงอย่างราบคาบ
"จิงเฉิน นี่มันเรื่องระหว่างเราสองคน ไม่เกี่ยวกับนาย อย่าแทรกเข้ามาจะดีกว่า" ปากของซวี่เจ๋อเม้มแน่นมากยิ่งขึ้น สายตาดูเฉียบแข็งทื่อมากยิ่งขึ้น น้ำเสียงก็มีความรู้สึกว่ามีความโกรธอยู่ในนั้นหน่อยๆ
ซินเหยาไม่เคยได้ยินซวี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน เขาคงจะหัวร้อนจริงๆ
"วันนี้เธอเป็นคนของฉัน ถ้าไม่ได้รับอนุญาติจากฉัน เรื่องนี้มันก็แค่เรื่องตลกที่เกิดขึ้นเท่านั้น" จิงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง
เดี๋ยวๆ ป๊ะป๋านี่มันลุงของป๊ะป๋านะ ทำแบบนี้กับเขามันจะดีหรอ
"จิงเฉิน นี่มันจะเกินไปแล้วนะ ซินเหยามีความคิดเป็นของตัวเอง นี่มันเป็นการละเมิดสิทธิของเธอไปแล้ว" ซวี่เจ๋อเป็นหนุ่นอบอุ่นจิงๆ พูดออกมามันดูมีหลักการมาก
ท่านประธานฟาง เป็นหนุ่มที่เก่งดีจริๆ
พูดได้ดีมาก ยกนิ้วให้นายสามสิบสองนิ้วไปเลย
เพราะฉะนั้นนะป๊ะป๋า อีกหน่อยเคารพเธอหน่อยได้หรือป่าว เธอก็มีศักดิ์ศรีนะ
จิงเฉินหัวเราะออกมาแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่เข้าใจ
หน้าของเธอแนบชิดไปที่อกอันแข็งของป๋ะป๋า จึงสัมผัสได้ถึงว่ามันกำลังสั่นอยู่
"เกินไปไม่เกินไปไม่ใช่เธอเป็นคนตัดสิน ตอนนี้ยังมีงานที่เธอยังทำไม่เสร็จ ตอนนี้เธอต้องไปกับฉัน" จิงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งทื่อและเอาแต่ใจ คำพูดที่เอาแต่ใจพวกนี้มันน่าจะทำให้คนอื่นเกลียด แต่จิงเฉินพูดขึ้นมามันกลับกลายเป็นว่าทุกสิ่งอย่างที่เขาพูดมันดูเป็นสิ่งที่ถูกต้องมีหลักการยังไงยังงั้น
ป๊ะป๋า หลับตาโกหกแบบนี้ ได้คิดถึงความรู้สึกของซินเหยาบ้างหรือป่าว?
"ซินเหยา……" ซวี่เจ๋ออ้าปากพูดขึ้น อยากจะสรรหาคำมาทำให้ซินเหยาอยู่ต่อ สายตาของเขาจ้องมองไปแต่ที่ซินเหยา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวังต่อพระเจ้า "เธออย่าไป ได้หรือป่าว?"
ในใจของซินเหยาก็รู้สึกผิดเหมือนกัน เธอหันหัวไปหาซวี่เจ๋อแล้วพูดว่า"พรุ่งนี้ตอนกลางคืนกินข้าวด้วยกัน มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยพูดก็ได้"
หลังจากที่จิงเฉินฟังซินเหยาพูดจบ สายตาเหมือนครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่
แต่กลับกัน หลังจากที่ซวี่เจ๋อฟังจบ หน้าก็ยิ้มระรื่นขึ้นมาทันที
"ได้ พรุ่งนี้เจอกัน" ซวี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยความปลื้มใจ
"อึม" ซินเหยาตอบกลับด้วยอารมณ์คงที่
เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอติดหนี้ซวี่เจ๋อยังไงยังงั้นแหละ ในใจถึงได้รู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้
"เมื่อกี้ขอบคุณคุณนะ ประธานเยี่ย สำหรับอาหารมื้อดึกฉันก็ไม่ไปแล้ว ฉันขอกลับก่อน" ซินเหยาพูดกับจิงเฉินหลังจากที่ซวี่เจ๋อกลับไปแล้ว
จิงเฉินดึงมือของซินเหยาที่หันหลังอยู่และกำลังจะเดินจากไป แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เฉยชาว่า "ผมอนุญาตให้คุณกลับหรอ?"
ป๊ะป๊าอย่าทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยเลยหน่า
ตอนนี้มันเวลาเลิกงานแล้ว เธออยากกลับบ้านคงไม่ต้องให้คุณเซ็นอนุญาติก่อนถึงจะกลับได้ โอเครไหม?
"แต่ว่าตอนนี้มันเลิกงานแล้วนะคะ" ซินเหยาอยากจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา
"เมื่อกี้ผมก็ได้บอกไปแล้วว่าคุณยังมีงานที่ยังทำไม่เสร็จ"
พูดมั่ว เธอไม่ได้มีงานที่ยังทำไม่เสร็จเลย
"เมื่อกี้มันไม่ใช่ข้ออ้างหรอคะ? ฉันมีงานที่ยังทำไม่เสร็จด้วยหรอคะ" ป๊ะป๋า อย่าทำตัวเป็นเด็กไปเลย
"ผมเป็นเจ้านาย บอกมีก็ต้องมีสิ"
ป๊ะป๋า คุณไร้เหตุผลแบบนี้พนักงานในบริษัทรู้เรื่องรึปล่าว
"เรื่องวันนี้ที่เกิดขึ้นเธอรู้สึกยังไง?" ป๊ะป๋าจับจ้องมองไปแต่ข้างหน้า รถขับไปอย่างเรียบนิ่ง
"เรื่องอะไรคะ" ซินเหยาถาม
"ทำเป็นไม่รู้รึไง"
"คุณถามไม่ชัดเจนเองนะคะ"
"ผมบอกคุณให้นะ ไม่อนุญาติให้คุณตอบตกลงฟางซวี่เจ๋อ"
ป๊ะป๋าทำตัวเป็นเด็กอีกแล้ว เธอก็ไม่ได้อยากจะตอบตกลงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่จะบอกให้ป๊ะป๋ารู้ทำไม
"ทำไมล่ะคะ?"
"ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงของฉันไง!"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ ใจของซินเหยาก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ วิ่งวนไปด้วยความตื่นเต้น
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่จิงเฉิน อาจจะเป็นเพราะว่าวันนั้นแสงไฟมันมืด หรืออาจจะเป็นเพราะว่ารถคันนั้นมันแพงมาก เธอมองทะลุไปที่ดวงตาอันเย็นยะเยือกของจิงเฉิน มันเต็มไปด้วยควมอบอุ่น มันสามารถทำให้เธอหลุดลงไปยังสายตาอันเย้ายวนอบอุ่นนี้ได้