เยี่ยไท่ไท่ชักมือของเธอกลับจากมือฟางซวี่เจ๋อ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงประหลาด : "คุณฟางซวี่เจ๋อที่เอง คุณมีเวลาเข้ามาด้วยหรอ? และนี่มันเรื่องของฉัน คุณอย่ามายุ่งดีกว่า"
ถังซินเหยารู้สึกกระอักกระอวนเล็กน้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการปกป้องจากการกอดจากผู้ชายคนนี้
"เรื่องนี้ผมคงไม่ยุ่งไม่ได้ครับ" ฟางซวี่เจ๋อปล่อยมือที่โอบเอวของถังซินเหยาออก : "คุณถังซินเหยาเธอเป็นแฟนผมครับ ถ้ามีอะไรที่เธอยังไม่เข้าใจ ขอคุณเยี่ยไท่ไท่อย่าไปใส่ใจมากนะครับ"
เยี่ยจิงเฉินเดินเข้าห้องประชุมพอดีจึงได้ยินสิ่งฟางซวี่เจ๋อพูด
ใบหน้าของเขาหมองลง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของฟางซวี่เจ๋อหรือการมาของเยี่ยไท่ไท่ผู้เป็นแม่ของเขา
ถังซินเหยารู้สึกราวกับว่าในใจของเขามีม้าราวๆพันตัววิ่งอยู่ในนั้น
ประธานฟาง คุณพูดอะไรไปน่ะ?
เป็นฟงเป็นแฟนอะไรกัน? นี่เธอมีแฟนแล้วแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้เลยงั้นหรอ
ความสามารถในการคิดเองเออเองของฟางซวี่เจ๋อนี่เกือบได้คะแนนเต็มเลย
"คุณซวี่เจ๋อคะ……" ถังซินเหยาเม้มปาก ทำตัวไม่ถูก
ถึงแม้เธอจะทนไม่ได้กับความไร้ยางอายและไม่มีเหตุผลของเยี่ยไท่ไท่
แต่เธอก็ไม่อยากจะหลบอยู่ข้างหลังฟางซวี่เจ๋อ แล้วให้เขามารับหน้าแทนเช่นกัน
"หึ…….." ฟางซวี่เจ๋อส่งยิ้มปลอบใจถังซินเหยาพร้อมกับใช้มือของเขาสัมผัสกับริมฝีปากแดงของถังซินเหยาแล้วกล่าวว่า"อย่ากังวลเลยครับ เรื่องนี้ให้ผมจัดการเถอะ"
ถังซินเหยาคิดว่าฟางซวี่เจ๋อคิดว่าเธออ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือไง เธอแสดงท่าทีอะไรที่แสดงออกให้เห็นว่าเธอกังวลงั้นหรอ? เธอไม่ได้กังวลอะไรเลยต่างหากล่ะ?
ถ้าเธอเพิกเฉยต่อการที่ฟางซวี่เจ๋อออกหน้าแทนเธอ มันจะเป็นการไม่ไว้หน้าเขาหรือเปล่านะ?
เยี่ยจิงเฉินขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นว่าถังซินเหยาและฟางซวี่เจ๋อกอดกันอยู่ (ไม่สิ) ในใจของเขาก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา
"คุณแม่ครับ คุณแม่มาทำอะไรที่นี่ครับ?" เยี่ยจิงเฉินเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้านิ่งของเขา
แม้ว่าเขาเจอกับเยี่ยไท่ไท่ผู้เป็นแม่แล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็ยังไร้กิริยาอาการใดๆอยู่
เยี่ยจิงเฉินกวาดตามองถังซินเหยาและฟางซวี่เจ๋อ เขาก็รู้สึกวิตกกังวลราวกับมีหนาวทิ่มอยู่ด้านหลัง
ถังซินเหยาถอยตัวออกจากอ้อมกอดของฟางซวี่เจ๋อพร้อมกับยืนออห่างของฟางซวี่เจ๋อ
เธอละสายตา ไม่กล้าแม้แต่จะมองไปหาเยี่ยจิงเฉินที่กำลังจ้องมองเธออยู่
ในใจของเธอรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ ราวกับว่ามีกระต่ายกำลังวิ่งอยู่ในใจเธอยังไงอย่างงั้น
อยากจะหาสักที่เพื่อหลบจากตรงนี้ด้วยความรู้สึกผิด
"ลูกดูสิทำไมตอนนี้เยี่ยหวงถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทำไมถึงมีคนแบบนี้ได้? ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายพี่ชายลูก ลูกยังให้มันอยู่บริษัทเราได้ยังไงกัน? เอามันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ " เยี่ยไท่ไท่กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ถังซินเหยา
ว้า ยัยป้าคนนี้ก้าวร้าวกว่าประธานเยี่ยเสียอีก
"การจัดการทั้งหมดของบริษัทนี้คุณพ่อมอบหมายมันให้ผมหมดแล้วครับ" เยี่ยจิงเฉินกล่าว
ความหมายชัดเจนแล้วว่าตอนนี้ทุกอย่างในบริษัทตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเขา ดังนั้นผู้หญิงบ้าคนนี้ก็หุบปากไปได้เลย
ป่าปี้ เอเนอจี้ป่าปี้มันก้าวร้าวจริงๆ
เทวดาดีๆนี่เอง ฉันจะอาคุณมาเป็นพ่อของลูก (ไม่ว่าใช่ว่ามีลูกด้วยกันถึงสองคนแล้วหรอ)
"แม้แต่พี่ชายลูก ลูกก็จะไม่สนเลยหรอ?"
"เรื่องค่ารักษาพยาบาลบริษัทจะออกให้เองครับ"
เขาจะค่ารักษาพยาบาลให้ ดังนั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเสียหน่อย
"ลูกดูสิ ลูกกับฟางซวี่เจ๋อโดนนางจิ้งจอกคนนี้มันล่อลวงอยู่รู้มั้ย ถึงได้ออกหน้าปกป้องคนไร้ยางอายแบบนี้ แม้แต่พี่ชายตัวเองที่โดนนางจิ้งจอกคนนี้ทำร้ายจนได้นอนอยู่โรงพยาบาลลูกก็ยังเฉย" เยี่ยไท่ไท่พูดด้วยน้ำเสียงโหโกรธา
แม่เจ้า คุณน่ะสินางจิ้งจอก ครอบครัของคุณมันจิ้งจอกทั้งหมด
แล้วก็ยังเป็นนางจิ้งจอกแก่ด้วย
เยี่ยจิงเฉินกับเยี่ยเจวี๋ยที่อยู่ดีๆก็โดนกล่าวหา : ……….
"เรื่องนี้มันพี่ใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกันครับ" เยี่ยจิงเฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งรวมถึงท่าทของเขาเองก็นิ่งมากเช่นกัน
"นี่คงปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ แม้แต่คำพูดของแม่ลูกก็ไม่ฟังแล้วอย่างนี้" เยี่ยไท่ไท่แสดงสีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกับชี้หน้าถังซินเหยา : "แม่ไม่สนอะไรทั้งนั้น วันนี้แม่จะต้องถีบส่งนางผู้หญิงคนนี้ออกจากบริษัทไปแล้วไปขอโทษพี่ใหญ่ลูกให้ได้"
ต่อคนหน้าคนมากมายขนาดนี้คุณยังแสดงกิริยาท่าทางที่ไม่มีเหตุผลของคุณแบบนี้หรอ นี่คุณเป็นอะไรมากป่ะ?
"มานี่" เยี่ยจิงเฉินคว้ามือของถังซินเหยามาจับไว้
ว้าว เห็นหญิงหม้ายเป็นหมาหรอ?
จะมาจับมือแค่นี้แล้วจะกระดิกหางแล้วเดินตามอ่ะ
"ประธานเยี่ยคะ" ถังซินเหยาเดินข้างๆเยี่ยจิงเฉินพร้อมกับสิ่งยิ้มหวานของเธอ
สายตาที่เยี่ยจิงเฉินใช้มองเธอและฟางซวี่เจ๋อเมื่อกี้นี้ทำให้เธอรู้สึกผิด
แม่เจ้า……นี่เธอรู้สึกผิดอย่างงั้นหรอ?
เธออยากจะหยิกหูทั้งสองของเธอจริงๆ ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
ฟางซวี่เจ๋อเม้มปากพร้อมกับมองดูถังซินเหยาที่เดินตามเยี่ยจิงเฉินไป
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา อยากจะคว้ามือของถังซินเหยาเอาไว้แต่มือของเขาก็ค่อยๆลดลง
เยี่ยจิงเฉินกล่าว : "ถ้าเกิดคุณแม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับบริษัทหรือมีธุระกับผม ให้คุยกับคณะกรรมการหรือคุณพ่อได้เลยนะครับ"
"ถ้าคุณแม่ไม่มีอะไรที่ไม่พอใจสามารถรายงานผมหรือคณะกรรมการได้เลย" เมื่อเยี่ยจิงเฉินพูดจบ การสนองก็ตอบกลับแบบรวดเร็ว ท่านประธานแห่งเยี่ยหวง —- เยี่ยเจวี๋ย
หน้าตาของเขาคล้ายคลึงกันกับเยี่ยจิงเฉินมาก เพียงแต่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าและนิ่งกว่าเท่านั้นเอง เป็นคุณลุงสุดหล่อคนนึงเลย
นี่มันโลกแห่งการดูกันด้วยหน้าตาชัดๆ แม้จะเป็นคุณลุงแล้ว แต่ก็ยังหล่อเหลาเอาการ ในขณะเดียวกันก็น่ารักคิขุอาโนเนะเช่นเดียวกัน
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีอะไรแล้วไม่พูดกันดีๆ มามีเรื่องอะไรกันที่บริษัทนี้?" คุณลุงเยี่ยเจวี๋ยสุดหล่อแสดงท่าทีที่ไม่ดีออกมาพร้อมกับหน้าเคร่งขึมของเขา แต่ใบหน้าของเขาตอนเคร่งขึมกับตอนที่เยี่ยจิงเฉินเป็นก็ยังมีความต่างกันอยู่
"ก็ลูกชายตัวดีของคุณไงคะ ทำบริษัทของเราให้เป็นซะอย่างนี้ เอาพนักงานหญิงของบริษัทอื่นมาเยี่ยหวง แล้วก็ยังมารบกวนจิงซิงอีก ฉันก็แค่อยากจะมาคุยเรื่องที่มันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง แต่ดูสิคะ ผู้หญิงหยิ่งยโสคนนี้กลับทำทีราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด" เยี่ยไท่ไท่พูดกับคุณลุงสุดหล่อด้วยท่าทีท่ีอ่อนน้อมและความคับแค้นใจที่เห็นได้ชัดจากการแสดงออกของเธอ
ว้าว สีหน้าของเธอนี่มันเปลี่ยนได้ไวจริงๆ
เมื่อกี้ตอนพูดกับเธออย่างกับหมาบ้าที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าอย่างงั้นแหละ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นพูดจาอ่อนหวานว่านอนสอนง่ายเหมือนหมาแลบราดอร์ซะอย่างนั้น
ท่านประธาน คุณจะปิดหูปิดตาพูดแบบนี้เลยหรอ ไม่กลัวจะโดนฟ้าผ่าบ้างหรอ?
ที่จริงแล้วใครกันแน่ที่หยิ่งยโส คนที่ใช้จมูกมองหน้าคนน่ะ?
"เยี่ยจิงเฉินโตแล้ว มีคความคิดเป็นของตัวเอง ที่ผมพูดก็ไม่เคยฟังบ้าง จริงแล้วผคงไม่ควรเรียกให้จิงซิงมาที่บริษัทเลย หล่อให้จิงเฉินคิดว่าจิงซิงจะมายึดทุกอย่างจากเขา ไม่ใช่แค่ผมที่ถูกลูกเกลียดแต่จิงซิงก็กลายเป็นหนามในสายตาของจิงเฉินเหมือนกัน"
เสแสร้งได้ขนาดนี้เลยหรอ
คนหยิ่งผยองอย่างป่าปี้ก็เหมือนกันกับประธานผู้เย็นชาถูกเปิดสวิตซ์นั่นแหละ
ยังจะมองขยะอย่างเยี่ยจิงซิงอีกหรอ?
อย่ามาตาสูงไปหน่อยเลย ถ้ามาเทียบกับป่าปี้ นายเยี่ยจิงซิงคนนั้นก็เป็นแค่ขยะไรค่าเท่านั้นแหละ
แม้แต่ปลายเล็บของป่าปี้ก็ไม่ต้องเอามออกมาเทียบก็โอเคกินขาดไปแล้วด้วยซ้ำ
MANGA DISCUSSION