ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 27 ยั่วยวนเสน่หา โลกาเสพสม
หลี่เวยทางนั้นยังคงติดวอลล์เปเปอร์ต่อไป ทำไมถึงรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างซินเหยากับบอสใหญ่มันดูกลมกลื่นกันอย่างน่าประหลาด
อือออ…..คงจะคิดไปเองมั้ง
ซินเหยา "……."
ถ้าปิ่นโตนั้นโดนยึดไปเธอควรจะไปเอาเงินสี่เท่านั้นจากป๊ะป๋ะหรือว่าจากหลี่เวย
ยากจังเลยย……
ซินเหยารู้สึกว่าเธอต้องไปเอาปิ่นโตนั้นกลับคืนมาเพื่อทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น
ซินเหยาเงียบไปสักพัก จากนั้นก็แสดงรอยยิ้มอันหวานชื่นออกมา
"ประธานเย่คะ คุณเอาปิ่นโตของหลี่เวยคืนได้ไหม สาเหตุที่เธอต้องกินข้าวในเวลางานเพราะว่าตอนพักเที่ยงเธอยุ่งอยู่กับเอกสาร จึงไม่มีเวลาไปกิน จริงๆนะคะ ในส่วนของฉันคุณยึดไปได้เลยค่ะ ฉันยินดี" ดวงตาใสแป๋วของซินเหยาจดจ้องไปที่ประธานเย่
ป๊ะป๋ะคุณเห็นสายตาอันจริงใจของฉันหรือเปล่า?
หลี่เวยที่กินข้าวสองชามไปในตอนเที่ยง บวกกับชานมไข่มุกอีกหนึ่งแก้ว และพุดดิ้งอีกสองถ้วย "….."
ใบหน้าของจิงเฉินเต็มไปด้วยความมืดทมิฬไม่พอใจ เขาเห็นเต็มสองตาว่าหลี่เวยกับซินเหยากำลังกินพุดดิ้งอยู่ในห้องทำงานเมื่อตอนเที่ยง
เพียงแต่มองเห็นตาใสแป๋วคู่หนึ่งของซินเหยา เขาก็ตัดสินใจที่จะทำเป็นไม่เห็นเรื่องเมื่อเที่ยงนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ปล่อยเรื่องนี้ไปดื้อดื้อ ในใจของเขายังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่สามารถไว้ใจได้มากพอ
ในกระดูกของเขายังฝังลึกไปกับนิสัยของนักธุรกิจ เขาคุ้นเคยกับการปล้นสดมภ์มานับครั้งไม่ถ้วน
ซินเหยาพยายามเลียนแบบลักษณะความน่ารักของเข่อหลาน——-การอ้อน
"นะคาาาท่านประธานเย่ ได้ไหมคาาา ขอร้องล่ะคะ"
ซินเหยาเห็นว่าจิงเฉินไม่ได้พูดอะไร รอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็ยิ่งหวานยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ดีและบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเยี่ยงนัก
"ฉันอยากกินกาแฟร้านนั้นที่อยู่ท้ายซอย" จิงเฉินเหลือบดูซินเหยาพรางพูด
"ท้ายซอย?!ตรงนี้มันหัวซอยเลยนะ"
ต่อให้นั่งแท็กซี่ก็ใช้เวลา
ป๊ะป๋าคุณแสดงอาการบ้าบิ่นออกมาอีกแล้วนะ
ฉันอยากจะตบป๊ะป๋าให้ติดกำแพงเสียจริง
"ได้สิ ฉันจะไปซื้อมันให้ท่านประธาน" ซินเหยาตอบตกลงทำตามโดยทันที
จิงเฉินมองไปที่ซินเหยาที่กล้าโกรธแต่ไม่กล้าแสดงมันออกมา เขาจึงได้ยิ้มมุมปากขึ้นสายตาของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความตลกและความสุขใจ
"ถ้าคุณรู้สึกมันเป็นการบังคับ งั้นก็ไม่ต้องไป เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะดื่มอยู่แล้ว"
ถ้าไม่อยากดื่มแล้วจะพูดออกมาทำไม?
ซินเหยายิ้มออกมาดั่งลูกท้อที่กำลังผลิดอกออกในฤดูหนาวเดือน12แล้วพูดว่า "ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกถูกบังคับเลย การที่ฉันได้ไปซื้อกาแฟให้ท่านประธานมันเป็นเกียรติของฉันมากเสียยิ่งกว่ากระไร ฉันรู้สึกดีใจมากจริงๆ ห้าห้า ดีใจจริงๆ"
ดีใจกับผีสิ
"ในเมื่อดีใจขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่รีบไปล่ะ" จิงเฉินยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ซินเหยามองดูจิงเฉินด้วยความเหลิกหลัก คุณควรให้เงินฉันด้วยสิ
มองดูท่าทีที่ไม่ขยับเขยื้อนของจิงเฉินแล้ว ซินเหยาในใจรู้สึกถึงความหดหู่ยิ่งนัก นี่มันเป็นการกินอาหารของพระราชาจอมเอาแต่ใจหรืออย่างไรกัน
เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ของเธอด้วยความเศร้าใจและไปซื้อกาแฟให้ป๊ะป๋ะ
ในใจตอนนี้ของเธอรู้สึกสงสารลู่อันหลานแฟนสาวของเย่จิงเฉินยิ่งนัก มีแฟนแบบป๊ะป๋ะแบบนี้ชาติที่แล้วคงไปทำกรรมอะไรไว้มาก ชาตินี้ถึงได้ต้องมาชดใช้กรรม
ก่อนที่ซินเหยาจะจากไปนั้น จิงเฉินพูดขึ้นว่า "ตอนแรกผมกะจะให้เงินคุณไปซื้ออยู่หรอก แต่ดูท่าทางคุณดีใจที่ได้ไปซื้อกาแฟให้ผมขนาดนี้แล้ว ถ้าคุณได้เลี้ยงผมอีกแล้วล่ะก็ คงจะยิ่งดีใจและเป็นเกียรติอีกมากล่ะสิ"
ดวงตาของซินเหยาเต็มไปด้วยไฟอันร้อนระอุ
ป๊ะป๋า ถึงแม้ว่าคุณจะรวย แต่ทำไมคุณถึงเย็นชา ไร้ความรู้สึก ไร้ซึ่งความเมตตา ไร้เหตุผลมากขนาดนี้
ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะก็ อีกหน่อยใครเขาจะกล้ามีแฟนเป็นคุณ
สุดท้ายคุณคงจะได้แค่เอาเงินเน่าๆของคุณไปซื้อโรงศพให้ตัวเองแล้วกระมัง
ในวันที่ร้อนระอุเช่นนี้ ซินเหยาเหมือนได้เข้าห้องอบซาวน่าแบบฟรีๆ
เธอเกลียดห้องซาวน่าเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าให้เข้าฟรีก็ไม่ไป
ป๊ะป๋าไข่เน่า ความเป็นมิตรขอเรามันได้แค่นี้จริงๆ
จิงเฉินมองดูซินเหยาจากไป และได้เผลอยิ้มมุมปากออกมาโดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว
แต่กับหลี่เวย เธอรู้สึกยิ่งกลัวมากขึ้นทุกวัน ตลอดระยะเวลาห้าปีที่เธอทำงานกับจิงเฉิน เธอไม่เคยเห็นเขายิ้มมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มออกมา
กาแฟท้ายซอยร้านนั้นมันไม่เลวจริงๆ ซินเหยาต้องต่อแถวเกือบสิบนาทีกว่าจะถึงคิวเธอ
เข้าไปนั่งดื่มกาแฟเย็นสักแก้ว แล้วค่อยสั่งกาแฟจาเมกาบลูเมาท์เทนกลับไป
ลวดสั่งกาแฟมอคค่าให้หลี่เวยอีกแก้วแล้วกัน
หลังจากที่กลับมาถึงบริษัท ผิวขาวละมุนของซินเหยาก็โดยความร้อนแผดเผาจนเปลี่ยนเป็นสีแดง ผิวบอบบางราวหยกสีขาวของเธอได้แปลเปลี่ยนเป็นสีผสมอมชมพู มันเพิ่มความสวยและเสน่ห์เย้ายวนใจให้กับเธอจริงๆ
รอยยิ้มหวานๆบนใบหน้าของเธอ ไม่แสดงให้เห็นถึงความโกรธแค้นใดๆ
"ว้าวซินเหยา ฉันเพิ่มรู้นะเนี่ยว่าเธอสวยขนาดนี้ " หลี่หลานรับกาแฟของเธอไป
ซินเหยาพูดด้วยความใจเย็นว่า "การประจบสอพลอครั้งนี้ของเธอมันไม่เนียนนะ"
นึกว่าฉันจะฟังไม่ออกหรอว่ากำลังประจบอยู่
อีกอย่างเรื่องที่บอกว่าฉันสวยไม่จำเป็นต้องให้เธอมาย้ำอีกรอบ เพราะตั้งแต่วันที่ฉันเข้าบริษัทมาทุกคนเขาก็ลือกันให้แซ่บ(เรื่องในห้องพักเบรค)
ซินเหยาแสงรอยยิ้มที่หวานที่สุดของเธอออกมา และมันทำให้เห็นฟันหมาเสน่ห์ของเธอ พร้อมพลักประตูเข้าไปห้องทำงานของท่านประธาน
"ท่านประธานที่ฉลาดหลักแหลมสง่าผ่าเผยที่สุด กาแฟของท่านได้แล้วค่ะ นี่เป็นกาแฟจาเมกาบลูเมาท์เทนที่คุณชอบที่สุด เชิญลิ้มรสได้แล้วค่ะ" ซินเหยาส่งกาแฟให้จิงเฉินด้วยมือทั้งสองข้าง
จิงเฉินเห็นรอยยิ้มอันแสนหวานและดวงตาคู่นั้นที่ราวกับมีดวงดาวนับหมื่นดวงกำลังส่องแสงระยิบระยับของซินเหยา ในใจของเขารู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างใน และรับกาแฟจากมือของซินเหยา
ซินเหยามองไปที่กาแฟที่กำลังเข้าปากของจิงเฉิน รอยยิ้มที่เธอยิ้มออกมาเหมือนกับผสมผสานไปด้วยความชั่วร้ายเล็กน้อย
ฟันหมาเสน่ห์สองซี่ของเธอเปล่งประกายขึ้น
ซินเหยามองไปที่จิงเฉินด้วยความมุ่งร้ายนิดๆ
"กาแฟต้องดื่มตอนร้อนๆ เย็นมาจะไม่อร่อยเอา" ซินเหยาเร่งให้เขาดื่ม
เย่จิงเฉินเปลี่ยนอริยาบทที่สบายมากยิ่งขึ้น เอนกายลงบนเก้าอี้นวดที่สั่งตรงแฮนด์แมคจากอิตาลี มือสองข้างพักไว้บนน่องขา
"ในระยะเวลาที่ผ่านมา คุณซินเหยาได้ตั้งใจทำงานเพื่อนิทรรศการจะได้ออกมาให้ดีที่สุด ผมเห็นถึงความตั้งใจทั้งหมดของคุณ" จิงเฉินหยุดฉงักไปพักหนึ่ง
ดวงตาของซินเหยาเปล่งประกายขึ้นดุจดั่งเพชรที่กำลังเปล่งประกายอยู่ใต้แสงสุริยา
อัตราการเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้น เช่นนี้จะได้เพิ่มเงินเดือนกลายเป็นคนรวยมีชื่อเสียงและก้าวไปอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตหรอ?! เธอยังไม่ทันได้เตรียมตัวนะ