จิงเฉินไม่ได้ทับไปบนตัวเธออีกแล้ว แต่ว่าเขากลับกัดไปที่คอของเธอแทน เจ็บจนเธอต้องเสียวส้านออกมา พูดได้คำเดียวว่า’เจ็บ’ จิงเฉินเอาฟันของตัวเองออกมา จากนั้นใช้ลิ้นตวัดเลียไปที่รอยที่เขากัดไปเมื่อสักครู่
“ซี๊ดดด……เจ็บ”ซินเหยาขมวดคิ้วขึ้น แสดงสีหน้าที่ไม่พอใจออกมาและด่าเขาว่า : “คุณเกิดปีหมาหรอ?”
“ช่วงนี้คุณดูสนิทสนมกับซวี่เจ๋อมากนะ” แววตาที่พูดออกมาของเขามันช่างดูโหดร้ายและเย็นยะเยือกเอามาก ทำให้คนไม่กล้ามองไปเลย
เธอจะสนิทสนมกับใครมันเกี่ยวอะไรกับป๊ะป๋าด้วยล่ะ ป๊ะป๋าก็ไม่ใช่ผัวของเธอซะหน่อย อีกอย่างก็ไม่ใช่หัวหน้าของเธอแล้ว จะมายุ่งวุ่นวายว่าเธอจะสนิทสนมกับใครทำเพื่อ
“อีกอย่างคุณยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาต่อว่า : “คุณยังกล้าปิดมือถือใส่ผม”
“งั้นคุณได้รับโทรศัพท์จากฉันหรือเปล่าคะ? เมื่อคืนฉันโทรหาคุณไปเกือบจะ 100 สาย ทำไมคุณถึงไม่รับ?” ซินเหยาหารอยรั่วได้
“งั้นตอนเช้านี้คุณก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากผมเหมือนกัน” จึงเฉินบ่น
“งั้นฉันก็ไม่ได้มาเยี่ยมคุณแล้วหรือคะ ตอนนี้ยังเอาซุปเอาข้าวมาให้คุณอีก” ซินเหยาตอบกลับ
“คุณจำเรื่องที่คุณรับปากผมไม่ได้แล้วหรือไง?” จิงเฉินยื่นมือออกไปและจับไปที่คางของเธออย่างเบาๆ
ซินเหยาสะดุ้งขึ้น รู้สึกว่าตัวเองน่าจะอยู่ในความไม่ปลอดภัยแล้ว
เธอจ้องไปที่จิงเฉินอย่างงงๆ เรื่องอะไร? ไปรับปากตอนไหน?
วันหนึ่งวันเธอก็พูดมากเป็นล้านเรื่อง ใครจะไปจำได้ว่ารับปากเรื่องอะไรไว้?
จิงเฉินเห็นแววตาของเธอมีความมึนงง จึงรู้ว่าเธอจำไม่ได้แล้ว
เขาหรี่ตาเล็กลงอย่างน่ากลัว จากนั้นมือที่จับอยู่ที่คางของเธอก็เริ่มที่จะเคลื่อนลงไปข้างล่าง มันไปหยุดที่คออันขาวนวลของเธอ และพูดว่า : “จำไม่ได้จริงๆหรอ?”
เธอรู้สึกกลัวจึงกลื่นน้ำลายลงไปหนึ่งอึก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขารู้ว่าเธอจำไม่ได้แล้ว เห็นดวงตาที่เบิกออกใหญ่ขนาดนี้ มันเหมือนแมวที่ทำให้คนทั้งรำคาญทั้งหัวเราะในขณะเดียวกันจริงๆ
เขาก็พูดว่า : ทำไมคุณถึงสอนไม่รู้จักจำเลย? ผมไม่ใช่บอกคุณแล้วหรอว่าห้ามไปสนิทสนมกับซวี่เจ๋อให้มันมาก?”
ในตอนที่เขาพูด มือของเขาก็เริ่มที่จะใช้แรงมากยิ่งขึ้น เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บนิดๆบริเวณคอของเธอ
แม่เจ้า เขายังจำเรื่องนี้ได้อีกหรอ? ไม่ใช่ผ่านมานานมากแล้วหรอ?
“ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฟังกันเอาซะเลย” เขาบีบไปที่ของของเธอ ให้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวกายเธอได้รับบาดเจ็บใดๆ
เขาควบคุมแรงที่ใช้ได้ดีมาก มันทำให้เธอตกใจมากจริงๆ
ในโลกที่ดูรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้ ป๊ะป๋าไม่ได้เป็นแค่คนที่หล่อเหลาอย่างเดียว แต่เขายังเป็นคนที่มีเงินอีกมากมายมหาศาล ถึงแม้ว่าป๊ะป๋าจะฆ่าเธอทิ้ง แต่เพราะความหล่อของป๊ะป๋าแล้ว คงมีไม่กี่คนที่จะโทษผู้ชายที่หล่อและรวยขนาดนี้ว่าเป็นฆาตกร “คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ คุณกับว่าที่ภรรยาของคุณยังดูสนิทสนมชิดเชื้อออดอ้อนออเซาะกันอยู่เลย ฉันแค่ออกไปกินข้าวกับเพื่อนด้วยกัน แล้วมันจะทำไม? ทีคุณยังทำได้ และฉันจะทำไม่ได้งี้หรอ?”
เขามองไปที่เธอด้วยสายตาที่มืดทมิฬ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกเต้นรัวขึ้น
เธอเบี่ยงสายตาออก ไม่ได้มองไปที่แววตาที่ทำให้คนรู้สึกกลัวนั้นอีก
“ผมเตือนคุณอีกครั้ง ครั้งต่อไปอย่าไปสนิทสนมชิดเชื้อกับมันอีก อย่าทำให้ผมโกรธล่ะ” เขาตั้งหัวของเธอให้ตรง จากนั้นก็ขยับหน้าผากของตัวเองเข้าไปใกล้เธอ ปลายจมูกของทั้งสองแนบชิดติดกัน มันได้กลิ่นอบอวลไปด้วยกลิ่นของฝั่งตรงข้าม
มันทำให้ใจของเธอร้อนรนไปหมดเหมือนมีอะไรวิ่งวนก็ไม่ทราบเหมือนกัน
“ฉัน……” เธอเปิดปากขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ห๊ะ?” เขาใช้จมูกเปล่งเสียงออกมา ลมที่ออกมานั้นมันพัดไปบนหน้าของเธอ เขาพูดขึ้นอีกว่า “พูดสิ”
ในตอนที่เขาพูดอยู่นั้น ริมฝีปากของเขาก็ลากผ่านมาที่ริมฝีปากของเธอ
“แล้วคุณล่ะ?” เธอคิดคำนี้อยู่นานกว่าจะพูดออกมา
คำนี้มันดูจู่จู่ก็พูดขึ้น แต่เธอรู้ว่าเขาต้องเข้าใจแน่นอน
“เรื่องของผม คุณอย่ามายุ่ง” เขาจูบไปที่ปากของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบอยู่หน่อยๆ
เขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางที่จะชอบอันหรานได้ ไม่ว่าจะเป็น 5 ปี หรือ 10 ปีก็ไม่มีวัน
ในเมื่อรับปากอันหรานว่าอีกห้าปี ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ครึ่งปีแล้ว เขาก็ไม่อยากที่จะดื้อดึงความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป
การกระทำของเขาในแต่ละอย่าง เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง
หลายปีที่ผ่านมา จิงเฉินไม่มีผู้หญิงคนไหนข้างกายเลย ร่างกายของเขาตอนอยู่กับคนอื่นต่างก็เย็นยะเยือกมาก มีเพียงตอนที่อยู่กับซินเหยาเท่านั้น ร่างกายของเขาถึงจะรู้สึกมีชีวิตชีวาและอารมณ์ขึ้นมา
เรื่องพวกนี้ เขาไม่จำเป็นต้องบอกให้เธอฟัง
เป็นเพราะสีหน้าที่ดูเย็นชาของเขา ทำให้เธอรู้สึกสั่นไปทั้งตัว จากเมื่อกี้ใจที่เต้นร้อนรนอยู่ข้างใน ตอนนี้มันก็รู้สึกเย็นขึ้นลงแล้ว
“เอาล่ะ พอได้แล้ว ตอนนี้ฉันก็ออกมานานมากแล้ว ฉันจะกลับไปแล้ว ที่บ้านยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก” สีหน้าของเธอมันก็ดูเย็นลงมาก แต่ไหนแต่ไรเธอก็เป็นคนที่ชอบเอารอยยิ้มมาปิดบังความรู้สึกของตนเอง เพียงแต่ว่าตอนนี้อารมณ์ของเธอมันได้แสดงออกมาอย่างเปิดเผย
เมื่อเขาเห็นถึงสีหน้าที่เย็นยะเยือกนั้นของเธอ สติก็หลุดออก เขาไม่ได้เห็นใบหน้าที่เย็นชาแบบนี้ของเธอบ่อยนัก
เธอเห็นเขาไม่ได้ขยับดุกดิกอะไร จึงใช้มือและเท้าผลักเขาออกไปจากตัวเธอ
เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งจะสืบดูว่าผัวนอกใจไหม ความฉลาดของพวกเธอเป็นรองจากไอน์สไตน์
เมื่อพวกเธออกหัก งานเขียนของพวกเธอเป็นรองจากม่อเหยียน (กวีจีน)
และเมื่อพวกเธอโกรธ พลังการต่อสู้ของพวกเธอก็เป็นรองจากอุลตร้าแมน
เพราะงั้นเธอก็ถีบเขาลงไปล่างเตียง ส่วนตัวเองก็ลุกขึ้นและออกมาจากอีกฝั่ง
“คุณรักษาตัวดีๆนะคะ ฉันไปก่อน” จากนั้นก็หยิบปิ่นโตที่อยู่บนโต๊ะและเดินออกไป
จิงเฉินจับไปที่หน้าผากของตัวเอง เจ็บมากจริงๆ
เขาอยากเรียกให้เธอหยุดอยู่ตรงนั้น แต่เห็นเพียงเงาด้านหลังของเธอ
แววตาของเขาดูมืดหม่นลงมาก เขายังมีเรื่องที่จะพูดกับเธออีก แต่ก็ไม่รู้ว่าครั้งหน้าตอนไหนที่เธอจะมาโรงพยาบาลอีก
ในตอนแบบนี้ เขาก็เริ่มที่จะคิดตริตรองดูตัวเองแล้วว่า ตัวเองทำให้เธอโกรธเรื่องอะไร?
ตอนที่ซินเหยาออกมาจากโรงพยาบาลนั้น เธอไม่ได้สังเกตเห็นอันหราน แต่อันหรานเห็นเธอ
อันหรานไม่ชอบเธอเป็นอย่างมาก เหมือนเป็นศัตรูตั้งแต่ชาติปางก่อน
แค่ครั้งแรกที่เห็นหน้าเธอ อันหรานก็ไม่ชอบแล้ว นี่คงเรียกว่าไม่ถูกชะตากันสินะ
MANGA DISCUSSION