เยี่ยจิงเฉินทำงานอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปด้านหน้าของถังซินเหยและฟางซวี่เจ๋อก็มีสัญญาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว
มิตรภาพระหว่างฟางซวี่เจ๋อและเยี่ยจิงเฉินเป็นไปได้ด้วยดี เขาไม่ได้แปลกใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในตรงกันข้ามถังซินเหยากลับทั้งพูดไม่ออกและทั้งรู้สึกประหลาดใจ
พอเห็นว่าสัญญาไม่ได้มีปัญหาอะไร พวกเขาก็เซ็นต์มันทันที
ตัวหนังสือของเยี่ยจิงเฉินดูแข็งแกร่งทรงพลัง ดูออกเลยว่าเขาเป็นคนที่มั่งคงและแน่วแน่คนหนึ่งเลย
การเซ็นต์สัญญาวันนี้ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี คงจะหลีกเลี่ยงการทานข้าวมื้อเที่ยงวันนี้ด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะ
เยี่ยจิงเฉินพาฟางซวี่เจ๋อและถังซินเหยาไปทานอาหารที่……โรงอาหารของบริษัท
คุณป่าปี้เป็นเจ้าพ่อของที่นี่ไม่ใช่หรอ? ต้องกินอาหารจากโรแรมหรูเจ็ดดาวสิ โต๊ะอาหารจะต้องทำด้วยหยกขาวที่มีเนื้อแกะวางเรียงไว้อยู่ จะต้องมีดอกไม้ที่สั่งตรงมาจากเนเธอร์แลนด์ ส่วนผ้าปูโต๊ะจะต้องทำมาจากผ้าไหม อาหารบนโต๊ะต้องหรูหราโออ่าไม่ใช่หรอ ?
ไปทานข้าวที่โรงอาหารบริษัทอย่างนี้ไม่สมกับคนบุคลิกแล้วก็ภาพลักษณ์แบบคนอย่างคุณเลยสักนิดเดียว?
ถ้าเป็นอย่างนี้ ต่อไปคงไม่มีใครคิดจะมาผูกมิตรกับคุณหรอกนะโอเค๊?
ความรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ไปทานข้าวมื้อใหญ่ ทำให้ถังซินเหยาตัดสินใจทานอาหารเพิ่มอีกจานหนึ่งในตอนเท่ียงนี้ ในเมื่อชนะด้วยคุรภาพอาหารหรูไม่ได้ งั้นก็ขอเติมเต็มหัวใจด้วยปริมาณอาหารแทนแล้วกัน
อืม……เอาจริงๆนะ ถึงแม้โรงอาหารพนักงานของเยี่ยหวงจะไม่โอ่อ่าหรูหราเทียบเท่ากับโรงแรมระดับเจ็ดดาว แต่ก็รสชาติอาหารนี่อร่อยใช้ได้เลย
ในระหว่างที่ทานข้าวพวกเขาก็ยังพูดคุยกันเรื่องรายละเอียดงาน ดังนั้นทั้งสามคนเลยทานข้าวไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย
แต่เขานี่สิ ทำอะไรอยู่เนี่ย เลือกกินมันไม่ดีนะ !
"ท่านประธานเยี่ยคะ เลือกทานมันไม่ดีนะคะ แครอทสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ ส่วนกระเทียมก็มีวิตามินซีนะคะ ดีต่อตับ สายตาและการไหลเวียนเลือดนะคะ ทานเข้าไปแล้วมันดีต่อสุขภาพทั้งหมดเลย" ถังซินเหยามองเยี่ยจิงเฉินด้วยใบหน้าที่จริงจัง
เยี่ยจิงเฉินฟังคำของถังซินเหยา ตะเกียบของเขาคีบตับอยู่ชิ้นหนึ่งแล้วเลือกกินต่อไป
ถังซินเหยายกคิ้วขึ้นพร้อมพูดกับเยี่ยจิงเฉินอย่างจริงจังเสียงแข็งว่า "ไม่ฟังกันเลยนะคะ ห้ามเลือกกทานไงคะ ทานเข้าไปให้หมดเลยนะ!"
เยี่ยจิงเฉินตะลึง
ฟางซวี่เจ๋อเองก็ตกใจ
ถังซินเหยาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเยี่ยจิงเฉิน จู่ๆก็คิดขึ้นมาว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรอ…….
อ่า……. เธอทำผิดจริงๆด้วย
เค่อหลานกับลั่วหลิงลูกของเธอก็เลือกทานเช่นกัน ทั้งสองไม่ชอบกินผัก แครอทและตับ
เธอเป็นคนที่ไม่ชอบการเห็นที่ได้เห็นคนอื่นเลือกกินที่สุดเลย สุดจะทนจริงๆ
เยี่ยจิงเฉินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความลำบากใจ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่นราวกับว่าพบเจอปัญหาที่หาทางแก้ไม่ได้ยังไงอย่างงั้นเลยทีเดียว
เขาเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของถังซินเหยาแล้วพูดกับเธออย่างจดจ่อไปว่า "แต่อาหารพวกนี้มันทานยากนี่"
ถังซินเหยาแทบจะร้องไห้โฮกับท่าทาการแสดงออกจากคุณป่าปี้ของลูกๆเธอ ปกติเวลาที่ลั่วหลิงเจอหาอาหารที่ตัวเองไม่อยากทานก็จะแสดงกิริยาอาการแบบนี้ เป็นกิริยาที่เกินต้านสำหรับเธอเลยจริงๆ
รอให้ลั่วหลิงโตเป็นผู้ใหญ่ก็คงจะเหมือนกับเยี่ยจิงเฉินในตอนนี้
สรุปได้ว่าการเลือกกินของลั่วหลิงที่ตกทอดมาจากเยี่ยจิงเฉิน ส่วนความเฉลียวฉลาดของลูกนั้นคงตกทอดมาจากตัวเธอ
ถังซินเหยาใช้ตะเกียบของเธอคีบตับที่อยู่ในจานของเยี่ยจิงเฉินขึ้นมาแล้วนำเข้าปากตัวเอง แล้วพูดว่า "ไม่นี่คะ รสชาติดีมากเลย"
ท่าทีของฟางซวี่เจ๋อราวกับโดนฟ้าผ่า
เขามองถังซินเหยาสลับกับเยี่ยจิงเฉินอย่างครุ่นคิด
เมื่อเยี่ยจิงเฉินเห็นว่าถังซินเหยาทานมันเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อยจึงคีบตับจากจานของถังซินเหยาขึ้นมา ดูเหมือนว่ารสชาติมันไม่น่าจะแย่แบบที่คิดนะ อีกทั้งมันยัง…….
บรรยากาศระหว่างทั้งสองทำเอาฟางซวี่เจ๋อที่นั่งอยู่ข้างราวกับโดนความรักแยงตาแทบบอด หยุดเลยนะสองคนนี้น่ะ
ลั่วหลิงกับเยี่ยจิงเฉินพ่อของเขาเหมือนกันมากเกินไปจนทำให้ถังซินเหยาไม่สามารถทำตัวให้เหมือนกับคนเพิ่งเจอกันครั้งแรกได้เลยทีเดียว และเธอเองไม่คิดว่า "การเจอกันครั้งแรก"ของทั้งสองคน แล้วพวกเขาทำแสดงกิริยาอาการแบบนี้คงจะไม่ถูกกาลเทศะเท่าไหร่
และในฐานะที่เยี่ยจิงเฉินเป็นจุกจิก มีนิสัยจุกจิกรักความสะอาด ไม่ชอบการสัมผัสกับใคร แต่เขาไม่มีปฏิกิริยารังเกียจผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเลย การกระทำของพวกเขาสองคนดูสนิทสนมกันมากไปเกินไปสำหรับคนที่เจอกันครั้งแรก ไม่คิดว่าในใจของพวกเขาต้องสนิทกันหรอ ?
"พวกคุณเคยเจอกันมาก่อนใช่มั้ยครับ?"
คำพูดประโยคนี้ของฟางซวี่เจ๋อแทบจะทำเอาถังซินเหยาฉี่ราดไปเลยที่เดียว เธอรีบส่ายหัวแล้วปฏิเสธไปทันที "ไม่ค่ะ ไม่เคยเจอ!"
"หรอครับ? แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหน้าคุณคุ้นๆนะครับ"
"ฮ่าๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันหน้าโหลรึเปล่าคะ"
เยี่ยจิงเฉิน "……"
"ขอบคุณสำหรับการต้อนรับในวันนี้นะครับ พวกเขาขอตัวกลับก่อน"
ถังซินเหยากลับไปพร้อมกับความกังวลใจ
"คุณซินเหยาครับ จริงๆแล้วจิงเฉิงคือว่าที่สามีของลูกพี่ลูกน้องผมน่ะครับ" ฟางซวี่เจ๋อพูดขึ้นลอยๆในระหว่างทางกลับ
ในระหว่างทางกลับถังซินเหยาครุ่นคิด ว่าที่ฟางซวี่เจ๋อพูดนั้นมันหมายความว่าอะไร
อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันเตรียมซองแดงไปร่วมงานแต่งของเยี่ยจิงเฉินกับลูกพี่ลูกน้องของเขา? แต่เพื่ออะไรกันล่ะ?
เยี่ยจิงเฉินเป็นถึงผู้มีอิทธิพลของที่นี่ ถ้าอย่างนั้นว่าที่ภรรยาของเขา ลูกพี่ลูกน้องของประธานฟางก็ต้องเป็นผู้หญิงที่สวยและเพอร์เฟคมากๆแบบนั้นมั้ยนะ ? ซองแดงมันจะน้อยไปรึเปล่านะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะถูก
ให้เยอะไปก็ไม่ได้อะไรกลับมานี่นา จะยังไงก็ไม่คุ้มอยู่ดี นี่ประธานฟาง คุณเล่นมาหลอกต้มตุ๋นฉันอย่างนี้แล้วต่อไปจะหยอกเล่นขบขันอย่างสนุกกันได้ยังไงล่ะเนี่ย ?
สติปัญญาฟั่นเฟือนไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย…..เห้อ……
MANGA DISCUSSION