ลั่วหลิงยืนถือจานผลไม้อย่างนิ่งเงียบอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องหนังสือ ซ่อนตัวอยู่หน้าประตูที่เปิดอยู่ ลัวหลิ่งได้ยินบทสนทนาทั้งหมดระหว่างถังซินเหยาและฟางซวี่เจ๋อไม่พลาดสักประโยค ใบหน้าของเขาหมองลง
หลังจากถังซินเหยาวางสายโทรศัพท์ ลั่วหลิงเม้มริมฝีปากแน่น เคาะประตูห้องหนังสือที่เปิดอยู่เบาๆ
ถังซินเหยาวางโทรศัพท์ของเธอไว้ข้างๆ เงยหน้าขึ้นมองลูกชายตัวเองที่ยืนอยู่นอกประตูราวกับสุภาพบุรุษตัวน้อย เธออดยิ้มไม่ได้ “เข้ามาเร็ว ลูกแม่มาทำไมจ๊ะ?”
“ผมล้างผลไม้มาให้หม่ามี้ทาน” ลั่วหลิงเดินเข้าไปอย่างใจเย็น วางจานผลไม้ไว้บนโต๊ะทำงาน แล้วพูดเบาๆ
“อ่อ งั้นก็ขอบคุณนะคะลูกที่น่ารักของหม่ามี้” ถังซินเหยาเอื้อมไปหยิบผลไม้เข้าปาก เพราะลูกชายสุดที่รักล้างมาให้กับมือ รสชาติจึงหวานมาก และเธอมีความสุขเป็นพิเศษ ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ “อืม แอปเปิ้ลหวานจังเลย”
“หม่ามี้ เมื่อกี้ผมได้ยินที่หม่ามี้คุยกับคุณลุงฟาง” ลั่วหลิงยังไม่ได้เดินออกไป เขาเอื้อมมือไปหยิบภาพออกแบบที่ถังซินเหยาวาดไว้ขึ้นมาดู แล้วพูดออกไปตรงๆ
ถังซินเหยาก็ไม่ได้ต้องการปกปิดลูกชายตั้งแต่แรก เธอพูดอย่างใจกว้าง “อืม ใช่จ้ะ คืนพรุ่งนี้แม่ชวนลุงฟางไปทานอาหารค่ำด้วยกัน ก็เพื่อขอบคุณที่ช่วงนี้เขาช่วยดูแลลูกกับน้อง ตอนที่หม่ามี้ออกไปปฏิบัติงานข้างนอก”
“การออกแบบของหม่ามี้ดูมีจิตวิญญาณขึ้นเรื่อยๆนะครับ” ลั่วหลิงมองไปยังแบบในมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมองถังซินเหยา
ถังซินเหยามองไปยังแบบร่างที่ลั่วหลิงถืออยู่ในมือ แล้วยิ้ม “หลิงหลิงของแม่ฉลาดมาก เข้าใจแบบของหม่ามี้อย่างแท้จริง ตอนที่หม่ามี้ออกไปทำธุระครั้งนี้ หม่ามี้ได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมาย เรื่องที่ได้ประสบพบเจอ ทำให้หม่ามี้มีแรงบันดาลใจ และมีความสุขมาก”
การออกแบบชุดนี้สำหรับเธอแล้ว เธอก็พึงพอใจอย่างมากเช่นกัน
ลั่วหลิงกระพริบตา การออกแบบของถังซินเหยาที่เขาเคยเห็นมาเนื้อหาถูกแยกออกจากความรักมาโดยตลอด แม้ว่าเนื้อหาครั้งนี้จะสวยงามตามแบบคราสสิกของจีนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เบี่ยงเบนไปจากสไตล์ของถังซินเหยาเลย การออกแบบของถังซินเหยาครั้งนี้มีจิตวิญญาณอย่างมาก มีความหมายลึกซึ้งจริงๆ
“ครับ หม่ามี้ออกแบบได้สวยมากๆ” ลั่วหลิงวางแบบไว้ที่เดิม แล้วพูดอย่างเป็นเด็กวางนอนสอนง่าย “งั้นผมไม่รบกวนหม่ามี้แล้วดีกว่า ผมออกไปก่อนนะครับ”
ถังซินหยาไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่ลั่วหลิงคิด ครั้งนี้เธอมีแรงบันดาลใจมากมายจริงๆ เมื่อลั่วหลิงออกไป เธอก็จมอยู่ในโลกของตัวเองอีกครั้ง เริ่มวาดแบบอย่างสบายใจ
เค่อหลานกำลังดูการ์ตูนอยู่ในห้องนั่งเล่น ลั่วหลิงหั่นผลไม่ไปให้น้องสาว จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปเล่นคอมพิวเตอร์ในห้อง
เมื่อคอมพิวเตอร์เปิดเครื่อง ก็เข้าสู่ระบบของQQ แล้วคลิกเปิดหน้าต่างแชทสนทนา
“วันนี้คุณลุงฟางโทรหาหม่ามี้ นัดหม่ามี้ออกไปทานอาหารเย็นด้วยกันคืนวันพรุ่งนี้” ลั่วหลิงเปิดหน้าต่างแชทสนทนา เสียงแคะแป้นพิมพ์ดังขึ้น ถังซินเหยาถูกขายไปแล้ว
หน้าต่างแชทสนทนาของเยี่ยจิงเฉินปรากฏขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นข้อความที่แฮ็กเกอร์ตัวน้อยส่งมาให้ เขาก็เลิกคิ้วทันที
“‘งั้นเหรอ?” ข่าวการออกเดตของแม่แฮ็กเกอร์ตัวน้อยสำหรับเขาขาดความน่าสนใจไปแล้ว
“หม่ามี้ของผมก็ชอบคุณเหมือนกัน ถ้าหม่ามี้ปล่อยให้ลุงฟางตามจีบ หลังจากนั้นผมและน้องสาวก็ต้องเรียกลุงฟางว่าป่าปี้ แต่ผมไม่ต้องการ” ลั่วหลิงพูดออกไปอย่างเด็กๆ
“นายมีน้องสาวด้วยเหรอ?”
“ครับ เราเป็นแฝดชายหญิงกัน”
“นายไม่ชอบคุณลุงฟาง? เขาทำแย่ๆกับนายและน้องสาวงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ
“เขาดีขนาดนี้ แล้วทำไมนายไม่อยากเรียกเขาว่าป่าปี้ล่ะ?”
“ก็เพราะว่าคุณเป็นป่าปี้ของผมและน้องสาว”
เยี่ยจิงเฉินรู้สึกว่านี่ช่างเป็นเรื่องน่าขำจริงๆ แฮ็กเกอร์น้อยคนนี้อินมากเกินไปแล้ว และเขาก็จำไม่ได้ด้วยว่ามีลูกชายตัวใหญ่ขนาดนี้
“ถ้าหม่ามี้ของนายหาที่พักพิงดีๆสักที่ได้ ฉันก็ยินดีอวยพรให้เธอ” ใครจะไม่รู้ว่าแม่ของแฮ็กเกอร์น้อยคนนี้จะเป็นคนอย่างไร
“ถ้าหม่ามี้ต้องแต่งงานกับคนอื่นจริงๆ ทั้งชีวิตของผมและน้องสาวก็ไม่ได้รู้จักคุณอีก”
เยี่ยจิงเฉินจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก ร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ได้ แฮ็กเกอร์น้อยคนนี้คารมณ์ดีทีเดียว
“เยี่ยมมาก อันที่จริงฉันก็ไม่อยากมีลูกตั้งสองคนที่ไม่รู้จักที่มาที่ไป ถ้าจะให้ฉันพูด ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ตั้งใจจะให้กำเนิดลูกกับฉันได้” เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างไม่แยแส และเขาก็ไม่ได้คิดว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขาจริงๆ
ลั่วหลิงเงียบไปชั่วครู่ เขากำลังโกรธ
“เรื่องของคุณที่รับปากไว้ผมทำไปแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน เยี่ยหวางก็คงจะเละไม่เป็นท่า แล้วเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องกลับไปเป็นประธาน คุณจะสามารถเรียกคืนสิ่งที่คุณสูญเสียไปได้” หลังจากที่กดส่งประโยคนี้ไป ลั่วหลิงก็กดออก
เยี่ยจิงเฉินมองไปยังรูปภาพขาวดำ นอกเหนือความหมายหมายอยู่หน่อย โกรธงั้นเหรอ?
แต่เขาไม่สนใจอีกต่อไป เพียงแค่แฮ็กเกอร์ตัวเล็กๆที่เขารู้สึกสนใจ เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว เพียงแค่สนุกบางเวลา สำหรับที่แฮ็กเกอร์ตัวน้อยบอกว่าจะช่วยเขาชิงเยี่ยหวางกลับมา เขาไม่สนใจเลยสักนิด
แม้จะไม่มีแฮ็กเกอร์คนนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องชิงเยี่ยหวางกลับมา เพราะเยี่ยหวางเป็นของเขาตั้งแต่ต้น ไม่เคยหายไปไหน แล้วจะชิงกลับมาทำไมกัน?
ลั่วหลิงกำลังโกรธจริงๆ จากนี้เขาตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเยี่ยจิงเฉินอีก
ในเมื่อเขาไม่สนใจตัวเองและน้องสาว งั้นตัวเองและน้องสาวก็ไม่ใช่ของหายากสำหรับอีกต่อไป แต่ในใจก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย ความโศกเศร้าที่ถูกพ่อของตัวเองไม่ชอบ
แต่เขาฉลาดมาโดยตลอด ทั้งไอคิวและอีคิวก็สูงทั้งคู่ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ตนเองดีมาก จากนั้นไม่นานก็ปรับอารมณ์ได้
คิดจะให้โอกาสเยี่ยจิงเฉินอีกครั้ง ถ้าในอนาคตเยี่ยจิงเฉินได้รู้จักตัวตนของพวกเขาและยังไม่ชอบพวกเขาอีก เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้จักพ่อคนนี้อีกต่อไปเช่นกัน
ข่าวที่เยี่ยจิงเฉินกลับมาไม่ได้มีเจตนาปกปิดใดๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมเหตุอยู่แล้ว ที่ลู่อันหรันจะรู้ว่าเขากลับมาเมือง B แล้ว
ลู่อันหรันโทรนัดเยี่ยจิงเฉินให้ออกไปรับอาหารเย็นด้วยกันกับเธอข้างนอก เยี่ยจิงเฉินเห็นว่าไม่ได้สำคัญอะไร จึงตอบตกลงไป
คิดซะว่าเพื่อชดเชยให้ผู้หญิงคนนี้ ในความสัมพันธ์ของเขาและลู่อันหรัน ทั้งสองคนล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ ผู้ชนะที่แท้จริงคือตระกูลเจี่ยและตระกูลลู่ เขารู้ว่าลู่อันหรันชอบเขา และลู่อันหรันก็เป็นสเปคเขาเช่นกัน แต่เป็นเวลาห้าปีมาแล้ว เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปมาโดยตลอด
เขาพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่อาจชอบลู่อันหรันได้จริงๆ
ดังนั้นเขาจึงเย็นชาต่อลู่อันหรันเสมอมา เพราะไม่อยากให้ความหวังกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าลู่อันหรันกลับไม่ได้สนใจใยดีสักนิด ราวกับว่ามองไม่ออกว่าตนเองไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อเธอ
เขาต้องการยกเลิกสัญญาการแต่งการระหว่างพวกเขาสองคน ที่ตระกูลเยี่ยและตระกูลลู่ทำไว้มาโดยตลอด แต่ลู่อันหรันไม่เห็นด้วย
เพื่อชดเชยให้แก่ลู่อันหรัน เขาสัญญาว่าจะให้เวลาตลอดห้าปีนี้กับเธอ ให้เธอต่อสู้ และพยายามทำให้ตัวเขาเองตกหลุมรักเธอ
ผ่านไปแล้วสี่ปี่ครึ่ง สิ่งที่ได้รับมากลับน้อยมาก
ลู่อันหรันชวนเขาไปรับประทานอาหารมื้อค่ำ เขาคิดแล้วคิดอีก อย่างไรก็ตามยังอีกเวลาอีกครึ่งปี ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธลู่อันหรัน
MANGA DISCUSSION