ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 139 : ป๊ะป๋าไม่ชอบผู้หญิงบ้ากามสายรุก
ก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้ถึงจะไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่แต่มันก็อยู่ในสายเลือด
ลีลาสกิลครั้งแรกของผู้ชายมันปราดเปรื่องมากกว่าครั้งแรกของผู้หญิงเอามาก
ปกติเคยชินกับการที่ตนเองเป็นคนคุมเกม แต่ตอนนี้โดนซินเหยาทับไว้และคุมเกมอย่างสิ้นเชิง จิงเฉินไม่คุ้นกับมันเท่าไหร่เลย
ซินเหยาทับไปบนตัวของจิงเฉินอย่างบ้าคลั่ง กระชากเสื้อของเขาลง จากนั้นก็ฝากรอยของความรักสีแดงสดไว้ที่หน้าอกของจิงเฉิน
เธอลูบจับไปบนกล้ามเนื้อของจิงเฉินอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นจึงหัวเราะออกมาและมองไปที่จิงเฉินพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ฮ่าๆ จิงเฉินนายมันเป็นปีศาจที่ชอบยั่วยวนจริงๆนะ เดี๋ยวนายหญิงอย่างข้าจะกลืนนายลงท้องเอง"
เธอแลบลิ้นออกมาและเลียไปที่ริมฝีปากของตัวเอง สีหน้าดูกระหายเอามากๆ
จิงเฉินจับมือข้างหนึ่งที่ไม่เชื่อฟังของซินเหยาไว้ แต่มืออีกข้างของซินเหยาก็ยังมืออยู่ เธอได้ใช้มือข้างนั้นจับไปที่ประตูสู่สวรรค์ของจิงเฉิน รู้สึกว่ามันจะซู่มือเอามากๆ อีกอย่างยังแข็งทื่อขึ้นมาอีก ซินเหยาหัวเราะออกมาเบาๆและพูดว่า : "จิงเฉิน ปีศาจร้ายที่ชอบยั่วยวนอย่างนาย ปากบอกไม่อยากได้ แต่ร่างกายกลับเรียกหาสินะ หึหึ"
จิงเฉินขมวดคิ้วขึ้น จากนั้นจึงถีบเธอลงไป
"โอ้ย……เจ็บ……เอวของข้า" ซินเหยาตกลงจากเตียง ยังม้วนไว้ผ้าห่มลงไปด้วย แต่ยังดีที่มีผ้าห่มจึงทำให้เธอตกลงไปไม่เจ็บเท่าไหร่ และพูดขึ้นว่า : "ไอ้บ้าที่ไหนมันไม่แหกตาดู กล้ามาถีบนายหญิงอย่างข้าลงมา"
ซินเหยาฝันว่าตัวเองเป็นพระพันปี และกำลังเสพสมอยู่กับของเล่นใหม่ของตนเองอยู่ แต่ของเล่นชิ้นนี้มันคุ้นหน้าคร่าตาเอามาก และของเล่นชิ้นนี้มันหล่อเสียจนทำให้พระพันปีอย่างเธอหลงไปหมด
เธอกำลังอยู่ในจุดพีค แต่จู่ๆก็มีคนเตะลงมา
เธอนั่งตัวตรงขึ้น มองขึ้นไปดูคนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง ทำไมหน้าตาละม้ายคล้ายกับของเล่นของเธอเป็นอย่างมาก ตอนนี้สีหน้าเธอแสดงออกถึงความกลัวและสั่นเครือไปหมด
ตอนนี้เธอก็ได้ตื่นจากฝันจริงๆแล้ว รู้ว่าคนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นไม่ใช่ของเล่นของตัวเอง และเธอก็ไม่ได้เป็นพระพันปี
คนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเป็นเจ้านายเธอ และเธอก็เป็นแค่เลขาตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น
เพียงแต่ว่าวันนี้เจ้านายของเธอดูท่าทางเซ็กซี่ไปซะหน่อย เสื้อผ้าบนตัวทำไมถึงหลุดลุ้ยขนาดนั้น บนหน้าอกก็มีรอยแดงๆประทับไว้ มันแดงสดจริงๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ทำให้เธอตื่นจากฝันจริงๆ อีกอย่างริมฝีปากนั้นก็ยังแดงและช้ำอีก มันเหมือนกับหนังตรงริมฝีปากจะถลอกออกหน่อยๆด้วย แววตาที่มีน้ำกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ภายใน และสุดท้ายผมบนหัวที่ยุ่งเหยิงเอามากๆ ดูสภาพนี้ของเขาแล้วเหมือนโดนใครลงโทษมายังไงยังงั้น
สภาพนี้มันไม่ค่อยจะเห็นได้บ่อยจริงๆ ซินเหยาดูจนหลงเอามาก
"โอ้ยยย……เจ็บจะตายอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงตกลงมาจากเตียงมานอนอยู่ที่พื้นได้" ซินเหยานวดไปที่เอวของตัวเอง จากนั้นจึงลุกขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โยนผ้าห่มกลับไปบนเตียง และก็บิดขี้เกียจไปหนึ่งแมตช์พร้อมพูดว่า : "ฟ้าก็สว่างแล้ว คุณหิวรึยัง? ฉันจะออกไปซื้อมื้อเช้า ถ้าคุณนอนอิ่มแล้วก็ลุกขึ้นมา แต่ถ้ายังนอนไม่อิ่มก็นอนอีกสักหน่อยก็ได้"
เธอหยิบเสื้อผ้าที่อยู่บนหัวเตียงและเดินออกไป
ซินเหยาเพียงแค่จ้องไปที่ซินเหยาด้วยสายตาที่ไม่กระพริบ ซินเหยารู้สึกชาขึ้นที่หนังหัวไปหมด จากนั้นจึงวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
แม่เจ้า มันดูอันตรายมากเมื่อกี้
รอยที่แดงก่ำบนหน้าอกของจิงเฉินและริมฝีปากที่แดงช้ำของจิงเฉินต่างก็เป็นฝีมือของเธอหรอกหรอ?
ที่แท้ของเล่นที่หน้าตาคุ้นมากก็เป็นป๊ะป๋าหรอ แม่เจ้า อีกนิดเธอก็จะข่มขืนเขาแล้วงั้นหรอ
คิดถึงสายตาป๊ะป๋าที่เมื่อกี้สามารถที่จะกินคนไปได้ทั้งคนก็น่ากลัวขนหัวลุกซ่าแล้ว
หึหึ…..แต่ว่า……เธอจับไปที่ริมฝีปากของตัวเอง รสชาติก็ไม่เลวนะ ><
ที่แท้รสชาติของเนื้อที่ตนอยากกิน กับรสชาติของเนื้อที่คนอื่นบังคับให้กินมันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ
แต่ว่าเหมือนกับว่าป๊ะป๋าจะไม่ชอบผู้หญิงที่ดุดันสายรุกดูกระหายนะ ไม่งั้นก็คงไม่โดนป๊ะป๋าถีบลงมาจากบนเตียงหรอกมั้ง! หึหึ……อีกหน่อยเธอคงไม่ต้องกลัวว่าป๊ะป๋าจะมารังควานเธออีกแล้วสินะ
เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของจิงเฉิน จากนั้นจึงไปตลาดด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นมาเป็นเท่าตัว
ตลาดในชนบทก็คึกคักเหมือนกัน คนเดินไปเดินมา ถึงแม้จะดูไม่คึกคักเท่าตลาดในเมืองเท่าไหร่ แต่มันก็ดูคึกคักกว่าตอนที่มาใหม่ๆเอามากแล้ว
ข้างถนนต่างก็เต็มไปด้วยคนขายผักขายปลา ยังมีของกินเล่นและข้าวเช้าอีก
ซินเหยาไปร้านที่คนค่อนข้างจะเยอะ เป็นร้านตั้งแผงขายมื้อเช้า เธอซื้อปาท่องโก๋และเต้าฮวยมาสองถ้วย จากนั้นก็เห็นน้ำเต้าหู้ที่ต้มสดๆใหม่ๆจึงได้ซื้อมาอีกสองถุง และยังมีไข่ต้มใบชา เธอซื้อหนึ่งลูกชิมหนึ่งลูก
กลิ่นชาหอมฟุ้งเข้มข้น บวกกับไข่ที่ได้จากไก่ที่เลี้ยงเอง รสชาติของมันสุดยอดมาก
เธอจึงซื้อไข่ต้มใบชาไปหกฟอง และยังมีซาลาเปาไส้เนื้ออีกสิบลูก
เนื้อในซาลาเปาสดใหม่มาก อีกอย่างยังห่อได้สวยอีกด้วย เพราะเถ้าแก่ของร้านเป็นคนห่อเองกับมือ และไม่ได้ใส่ผงฟูที่โอเวอร์เกินเบอร์
ตอนกลับไป มือสองข้างของเธอเต็มไปด้วยของกินต่างๆ
ตอนที่ยังไม่ถึงบ้าน ก็เห็นจากที่ไกลๆว่าจิงเฉินเดินเข้ามาหาเธอแล้ว
ในตลาดเต็มไปด้วยคนที่เดินไปเดินมาคับคั้ง อาจจะเป็นเพราะว่าจิงเฉินมีหน้าตาที่ค่อนข้างจะโดนเด่นไปหน่อย เวลายืนอยู่ในฝูงชนก็เหมือนกับหงส์ในฝูงไก่ เพราะงั้นถึงได้แยกออกได้ง่ายมากว่าเป็นเขา
ซินเหยาก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ จู่ๆก็วิ่งไปหาเขาและเงยหัวขึ้นพร้อมพูดด้วยแววตาที่ใสวิ้งๆว่า : "จิงเฉิน ทำไมนายออกมาแล้วล่ะ?"
จิงเฉินรับของจากซินเหยาไปบางส่วนและมองเธอด้วยสายตาที่ไร้อารมณ์พร้อมพูดอย่างช้าๆว่า : "โง่จะตายอยู่แล้ว ช้าขนาดนี้ ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว เพราะงั้นจึงออกมาดูคุณว่าตั้งใจให้ผมรอจนไส้ขาดรึปล่าว"
ซินเหยาแบ่งมื้อเช้าส่วนหนึ่งไปให้จิงเฉินถือไว้ ส่วนเธอก็ก้มหน้าหาไปในถุงพลาสติกที่อยู่ข้างล่าง จากนั้นก็หยิบซาลาเปาขึ้นมาหนึ่งลูก
ซาลาเปาที่ขาวๆนุ่มๆ ลูกใหญ่มากจริงๆ
ไม่เหมือนซาลาเปาในเมืองBเลย สองลูก1.5หยวน ดูภายนอกก็ใหญ่อยู่หรอก แต่พอกัดลงไปเท่านั้นจึงได้รู้ว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย อีกอย่างเนื้อในนั้นก็แทบจะหาไม่เจอ ถ้าเกิดว่าใช้มือบีบไปคงจะใหญ่เท่าลูกชิ้นหนึ่งลูกกระมั้ง เข้าปากคำเดียวก็หมดแล้ว
เธอใช้มือที่ขาวนุ่มของเธอแบ่งซาลาเปาออกเป็นสองซีก เนื้อข้างในมันได้เยอะมาก อีกอย่างน้ำที่แทรกอยู่ระหว่างเนื้อข้างในก็ทะลักออกมาจะไหลย้อยไปที่มือของซินเหยาอยู่แล้ว
ซินเหยากัดไปหนึ่งคำ โอ้ยย……รสชาติทำไมเยี่ยมแบบนี้
น้ำที่แทรกอยู่ระหว่างเนื้อในนี้ทั้งสดทั้งหวาน เธอหลับตากินด้วยความฟิน
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ยื่นให้จิงเฉิน จิงเฉินเมื่อเห็นซินเหยากินจนปากมันเยิ้มไปหมดก็กลืนน้ำลายไปหนึ่งอึกและพูดว่า : "มือทั้งสองข้างของผมก็ไม่ได้ว่าง จะให้ผมกินยังไง?"
ซินเหยาคาบซาลาเปาซีกหนึ่งไว้ในปาก จากนั้นค่อยๆเขย่งขาขึ้น และเอาซาลาเปาอีกซีกหนึ่งใส่เข้าไปในปากของจิงเฉิน
ได้กลิ่นถึงความหอมของเนื้อเตะเข้าไปในจมูกผ่านไอร้อนๆที่ส่งออกมาจากซาลาเปา และเห็นใบหน้าที่ยิ้มแยมของซินเหยา จิงเฉินยิ้มมุมปากขึ้นและงับไปที่ซาลาเปาซีกนั้นอย่างมีความสุข