กับข้าวพวกนี้อร่อยมากๆ โดยเฉพาะซุปไก่ ตุ๋นได้หอมมาก ผักกวางตุ้งก็ไม่ได้ขมอะไรเลย ส่วนหมูแดดเดียวก็เป็นหมูที่คุณยายทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง รสชาติจึงเป็นแบบต้นตำรับของตระกูลนี้ มันอร่อยมากจริงๆ ส่วนไข่ก็ได้จากไก่ที่เลี้ยงไว้เอง รสชาติก็ไม่เลวเลย
ผักที่ใช้ทำกับข้าวเป็นผักที่ปลูกเอง เพราะงั้นจึงไม่ได้ฉีดยาอะไร ไก่ก็เลี้ยงเอง ไม่ได้ไปกินของแปลกปลอมที่ไหน เพราะงั้นเนื้อสัมผัสของมันจึงค่อนข้างจะอร่อยและอุดมไปด้วยสารอาหารโภชนาการ
"คุณยายคะ ฝีมือการทำกับข้าวของคุณยายอร่อยมากเลยค่ะ" ซินเหยากินอย่างพุงกาง แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้ลืมน้องน้อยซูหยวน
ซินเหยาหยิบเนื้อไก่มา จากนั้นฉีกมันเป็นชิ้นๆพร้อมผสมน้ำซุปไปหน่อยเอาให้ซูหยวน
"อะไรกัน หนูกับจิงเฉินมาจากเมืองใหญ่ จะไม่เคยกินของอร่อยๆกว่านี้ก็คงไม่ใช่ นี่มันเป็นเพียงผักที่ยายปลูกเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่หายากอะไรขนาดนั้น"
"ก็เป็นเพราะว่าผักพวกนี้ปลูกเองน่ะสิคะถึงได้หายากเอามากๆ อยู่ในเมืองใหญ่อย่าหวังเลยค่ะว่าจะมีบุญวาสนาได้กินของพวกนี้"
"ถ้าพวกหนูชอบล่ะก็ ครั้งหน้าก็มาบ่อยๆนะ ยายปลูกผักไว้สองแปลงกินก็ยังกินไม่หมดเลย"
"ได้ค่ะ พวกหนูจะมาบ่อยๆเลย" ซินเหยาพูดด้วยใบหน้าที่เต็มอิ่มไปด้วยรอยยิ้ม
ซูหยวนจับไว้ช้อนกินเข้าไปคำโตๆอย่างเอร็ดอร่อย
"ซูหยวนหนูเก่งจังเลยค่ะ อายุแค่นี้ก็กินข้าวเองได้แล้ว ต้องกินเยอะๆนะคะถึงจะได้ตัวสูงๆ" ซินเหยาพรางพูดพรางหยิบส่วนใบของผักกวางตุ้งให้ซูหยวน กลัวว่าส่วนก้านเธอจะเคี้ยวไม่ได้
ลั่วหลิงและเข่อหลานตอนก่อนจะได้สามขวบก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องดูแลอะไรมากเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เธอไม่ต้องดูแลพวกเขา แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาดูแลเธอเป็นอย่างดีต่างหาก
แต่ว่าตอนที่ลูกน้อยเธอยังได้หนึ่งถึงสองขวบ เธอไม่ใช่เป็นคนเลี้ยงพวกเขากับมือ
ตอนนี้ถึงแม้ว่าสกิลการเลี้ยงลูกของเธอจะเลือนลางไปบ้าง แต่ก็รู้สึกว่ามันเริ่มกลับมาแล้ว ความเป็นเพศแม่ของเธอค่อยๆที่จะซึมเข้าในสายเลือดอีกครั้ง มันจะหายไปได้อย่างไรกัน
ซูหยวนกินจนปากมันเยิ้มไปหมด ข้างแก้มก็ยังมีเม็ดข้าวติดอยู่ ซูหยวนมองไปในถ้วยที่มีผักกวางตุ้งอยู่ข้างในและพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีใจว่า : "พี่ซินเหยาคะ หยวนหยวนไม่ชอบกินผักกวางตุ้ง ไม่กินค่ะ"
ซินเหยามองไปที่ซูหยวนด้วยความอดทนพร้อมพูดว่า : "ไม่กินผักไม่ได้นะคะ ไม่กินเนื้อก็จะไม่สูง ไม่กินผักก็จะไม่สวย หรือว่าซูหยวนไม่อยากโตขึ้นมาเป็นคนสวยหรอคะ?"
"สวยเหมือนพี่จิงเฉินหรอคะ?" ซูหยวนมองไปที่จิงเฉินและถามขึ้น
สวยเหมือนพี่จิงเฉิน? หึหึ……ใช้คำว่าสวยมาบรรยายผู้ชายเนี่ยนะ ทำไมรู้สึกว่าเหมือนมันไม่เป็นการชมยังไงยังงั้น
ซินเหยามองไปที่จิงเฉิน เห็นเขาชะงักขึ้น จึงพูดตอบกลับในทันทีว่า : "อื่ม สวยเหมือนพี่จิงเฉินเลยค่ะ"
"งั้นหนูก็จะกินค่ะ" ซูหยวนอ้าปากขึ้นและคีบผักเข้าปากเธอไป
เพราะงั้นโลกของเด็กตอนนี้ ก็ได้กลายเป็นโลกที่มองแต่รูปลักษณ์ภายนอกแล้วด้วยสินะ
จิงเฉินเพียงแค่มองดูไปที่ซินเหยาด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก ดูซะจนทำให้ซินเหยารู้สึกเย็นจนหัวหดยังไงยังงั้น
แม่เจ้า……ทำไมเธอต้องไปทำให้พี่ศาจร้ายอย่างป๊ะป๋ะโกรธด้วย แกว่งเท้าหาเสี้ยนหรือไรกัน?
คุณยายเฟยเอาใจใส่พวกเขามาก เติมกับข้าวให้อยู่ตลอด
จิงเฉินคีบตับไก่ออก ซินเหยาขมวดคิ้วขึ้น อดทนค่ะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
"จิงเฉิน จะเลือกกินแบบนี้ไม่ได้นะ ตับไก่มีประโยชน์มาก" ซินเหยารู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของจิงเฉินที่เลือกกินแบบนี้เอาซะเลย
ลั่วหลิงและเข่อหลานน่าจะได้รับการถ่ายทอดเรื่องการเลือกกินมาจากจิงเฉิน ผักหลายอย่างพวกเขาไม่ชอบกินเลย สำหรับการเลือกกินเธอนั้นไม่สามารถทนดูเฉยๆได้จริงๆ
"ผมไม่ชอบกิน" จิงเฉินยังคงคีบตับไก่ออกอย่างไม่สนใจ
"ทำไมคุณทำตัวเหมือนเด็กอย่างงี้ล่ะ คุณดูซูหยวนเด็กขนาดนั้นยังไม่เลือกกินเหมือนคุณเลย" ซินเหยาไม่สนใจพริกหยวกและกระเทียมที่ซูหยวนหยิบออกมา พร้อมถามด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนว่า : "ซูหยวนคะ ที่พี่ซินเหยาพูดถูกรึปล่าวคะ การเลือกกินเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยใช่ไหมคะ คุณดูซูหยวนยังไม่ได้เลือกกินเหมือนคุณเลย"
ซูหยวนค่อยๆนำพริกหยวกและกระเทียมที่อยู่ในช้อนเอาเข้าปากไป พร้อมผงกหัวขึ้น และพูดอย่างจิงจังว่า : "ใช่ค่ะ พี่ซินเหยาพูดถูก พี่จิงเฉินจะเลือกกินแบบนี้ไม่ได้นะคะ"
ซินเหยามองไปที่จิงเฉินด้วยสีหน้าที่ได้ใจ พร้อมคีบตับไก่อีกหนึ่งชิ้นให้จิงเฉินและพูดว่า : "ดูสิ ซูหยวนที่เล็กขนาดนี้ยังรู้เลยว่าการเลือกกินเป็นสิ่งไม่ดี คุณอย่าทำตัวเป็นแบบอย่างที่แย่กับเธอเลย กินไป อย่าเลือกกินเป็นอันขาด"
เส้นเลือดบนหน้าผากของจิงเฉินกระตุกขึ้น จากนั้นก็กินตับไก่นั้นลงไปอย่างกล้ำกลืนฝืนทน
แต่ใบหน้าที่เขาแสดงออกมามันดูอัศจรรย์มาก อัศจรรย์เสียจนทำให้คนไม่สามารถมองได้จริงๆ
ซินเหยายิ้มหัวเราะอยู่ในใจ หัวเราะจนทำให้หน้าของเธอตอนนี้แดงไปหมด แต่ก็ไม่ได้หัวเราะเป็นเสียงออกมา กลัวว่าจะไปทำให้ปีศาจอย่างจิงเฉินโกรธเข้า (เธอคิดหรอว่าเธอไม่หัวเราะออกมา ปีศาจร้ายอย่างเขาก็จะปล่อยเธอไปง่ายๆ? โง่ไร้เดียงสาสิ้นดี)
หลังจากกินข้าวไปได้สักพัก ซินเหยาก็ได้ห้ามคุณยายเฟยไว้ เธอจะเป็นคนดูแลซูหยวนตอนกินเอง
ซูหยวนยังกินข้าวไม่เสร็จ ซินเหยาก็นั่งไปที่เก้าอี้เล็กๆนั้น ให้ซูหยวนนั่งอยู่บนตักของเธอ มือสองข้างก็โอบไปที่ซูหยวนทั้งตัว มือข้างหนึ่งจับถ้วย ข้างหนึ่งจับช้อน บนตักของซูหยวนยังมีผ้าเช็ดปากของเล็กๆอีกด้วย
ในข้าวมีน้ำซุปไก่ผสมไป ข้างในมีเนื้อไก่ที่ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ยังมีไข่และผักกวางตุ้ง ส่วนหมูแดดเดียวซูหยวนเคี้ยวไม่ได้จึงไม่ได้เอาใส่ไปให้
"มาค่าาา……อาาาา……อ้าปากค่าาา" ซินเหยาเป่าข้าวในช้อนให้เย็นลงจึงจะเอาเข้าปากของซูหยวน
ซูหยวนอ้าปากอย่างเชื่อฟัง พร้อมกับกินข้าวที่เธอป้อนลงไปในปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
รอถึงตอนที่ซูหยวนกินใกล้จะเสร็จแล้ว จากนั้นซินเหยาจึงเอาผ้าเช็ดปากที่อยู่บนตักของซูหยวนค่อยๆเช็ดไปบนคาบน้ำมันเยิ้มที่ติดอยู่ข้างปากเธอ ดูภาพนี้แล้วมันสวยมากจริงๆ ภายใต้แสงไฟสะลัวสะลัว ซินเหยาไม่รู้จริงๆว่านี่มันเป็นภาพที่สวยเอามากๆ
จิงเฉินที่กำลังมองดูอยู่ข้างๆ รู้สึกว่าเขาจะดูจนหลงไปหมดแล้ว
ข้าวถ้วยหนึ่งซูหยวนไม่นานก็กินเสร็จ ซินเหยาวางถ้วยลงพร้อมถามซูหยวนว่า : "ซูหยวน กินอิ่มรึยังคะ"
ซูหยวนผงกหัวรับ และพูดว่า : "กินอิ่มแล้วค่ะ"
เธอยื่นมือไปนวดๆที่พุงน้อยๆของซูหยวน กลัวว่าซูหยวนจะกินอิ่มจนท้องอยู่ไม่เป็นสะดวก หรือว่าซูหยวนจะเหนื่อยนะ เพราะซินเหยานวดไปนวดมามันสบายมากจริงๆ ไม่นานซูหยวนก็หลับตาลงและผลอยหลับไป
คุณยายเฟยไม่นานก็จัดการเรื่องต่างๆเสร็จ จากนั้นจึงรับซูหยวนที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่จากซินเหยาไป
"ซินเหยา รบกวนหนูแล้วนะ ส่งหยวนหยวนให้ยายก็ได้แล้ว" คุณยายเฟยรับซูหยวนไปพรางยิ้มพูดกับซินเหยา
MANGA DISCUSSION