"ใช่ค่ะ" รอยยิ้มของซินเหยามันหวานเอามาก แต่ปากของเธอหวานยิ่งกว่า เธอพูดขึ้นว่า : "ฉันไม่เคยสนใจและเอาคุณมาอยู่ในสายตาฉันอยู่แล้ว เพราะฉัน……เอาคุณมาอยู่ในใจตลอด"
แค่คำพูดคำเดียวก็ทำให้จิงเฉินรู้สึกดีขึ้นมาดั่งเวทมนต์ ในใจของจิงเฉินตอนนี้รู้สึกพลิบานไปด้วยดอกซากุระสีชมพู เขาก็รู้อยู่แล้วว่าคำพูดที่ซินเหยาพูดออกมาอาจจะเชื่ออะไรไม่ค่อยได้ แต่เขาก็ชอบฟังคำหวานๆพวกนี้ที่ออกมาจากปากเธอเอามากเหมือนกัน
"เอาหล่ะ ฟังจากเสียงน่าจะเป็นคุณยายเฟย ไม่รู้ว่าว่าแกมีเรื่องอะไรหรือป่าว" ซินเหยาพลักไปที่หน้าอกอันแข็งแกร่งของจิงเฉินออก และพูดอย่างจริงจัง
จิงเฉินก้มหัวลงและกัดไปที่ริมฝีปากของซินเหยา ใช้ฟันกัดไปเบาๆ แต่ไม่ได้ใช้แรงอะไร กัดเสียจนขาของซินเหยาอ่อนระโทยไปหมด
เสียงเท้าเดินค่อยๆใกล้เข้ามา จิงเฉินจึงปล่อยปากของตัวเองออกอย่างรู้สึกน่าเสียดายน่าเสียใจ มือที่กอดอยู่ที่เอวของซินเหยาก็ปล่อยลงพร้อมกัน จากนั้นก็ถอยไปหนึ่งก้าวให้อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาทั้งสอง
ซินเหยาจับไปที่ปากที่โดนกัดจนชาของตัวเอง และใช้สายตามองไปที่จิงเฉิน
"พี่ซินเหยาคะ" หนูน้อยซูหยวนก็มาด้วย เมื่อเห็นซินเหยาก็เรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หวานใส
ซูหยวนยังเล็กอยู่ เสียงจึงแหลมใสตามประสาเด็ก ตัวของเธอยังมีกลิ่นของน้ำนมติดมาอยู่ด้วย มันน่ารักจนกระแทกเข้าไปในใจของซินเหยาจริงๆ
"ซูหยวนหนูเป็นเด็กดีเอามาก" ซินเหยายื่นมือออกและลูบไปที่ผมอันนุ่มของซูหยวน
ซูหยวนเมื่อเดินเข้ามาก็เห็นจิงเฉินทันที ตาที่เบิกกว้างของเธอมองไปที่จิงเฉิน เขย่าไปที่มือของคุณย่าของเธอและพูดอย่างดีอกดีใจพร้อมชี้ไปที่จิงเฉินว่า : "คุณย่าคะ คุณย่าดูสิคะบ้านของพี่ซินเหยามีผู้ชายที่หล่อมากๆอยู่ด้วยค่ะ"
ตอนนี้ยายเฟยเพิ่งจะเห็นจิงเฉิน แต่ก็รู้สึกว่าเขาก็หล่อเอามากเหมือนกัน เธออายุปูนนี้แล้วก็พึ่งจะเคยเห็นผู้ชายที่หล่อขนาดนี้เป็นครั้งแรก มันหล่อกว่าดาราในทีวีพวกนั้นเสียอีก เป็นไอเท็มแรมากจริงๆ
"คุณยายคะ นี่คือจิงเฉินคะ เออ….เขาเป็น……เออ……" ซินเหยาไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวเขาในฐานะอะไรดี จะบอกว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝ่ายพ่อก็ไม่ใช่ เพราะนามสกุลก็ไม่ได้เหมือนกัน เฮ้ออ
จิงเฉินหยุดคำพูดของจิงเฉินและพูดขึ้นแทนว่า : "ผมเป็นแฟนเธอเองครับ"
ซินเหยา : ……
ป๊ะป๋าคุณบอกว่าคุณเป็นแฟนฉัน แต่ฉันยังไม่รู้เลยนะคะ
สีหน้าของคุณยายเฟยดูอิ่มเอมไปด้วยรอยยิ้ม และดูไปที่จิงเฉินแว้บหนึ่งและพูดขึ้นว่า : "อื่ม ดีดี หนูทั้งสองก็ทั้งสวยทั้งหล่อทั้งคู่ ยืนข้างกันแบบนี้ก็ดูเหมาะกันเอามาก เหมือนกิ่งทองใบหยกจริงๆ คงจะเป็นบุพเพสันนิวาสสินะ"
ซินเหยาหลังจากที่ได้ยินคุณยายเฟยพูดก็ทำเอาเธอไปไม่เป็นเลย เธอจึงได้เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นและพูดว่า : "คุณยายคะ ดึกขนาดนี้แล้วคุณยายมาทำอะไรคะ ทางที่ใช้เดินมาก็ไม่ค่อยจะดี อีกอย่างซูหยวนก็ยังเล็ก คุณยายต้องระวังให้มากๆนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ทางนี้ยายคุ้นดี หลับตาเดินมายังได้เลย พวกหนูพึ่งมาถึงคงยังไม่ทันจะได้ทำกับข้าวใช่ไหม ยายทำเผื่อไว้เยอะเลย ไปกินกับยายที่บ้านโน้นนะ" คุณยายเฟยมองไปที่ซินเหยาและพูดขึ้น
เออ……ซินเหยารู้สึกลังเลไปชั่วขณะ เพราะว่าบ้านคุณยายก็ไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย ถ้าเกิดไปกินที่บ้านคุณยายก็รู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ
ในขณะที่ซินเหยายังคงครุ่นคิดอยู่นั้น ซูหยวนก็ได้นำมือข้างหนึ่งจับไปที่มือของซินเหยา ส่วนมืออีกข้างก็จับไปที่มือของจิงเฉิน และพูดว่า : "พี่ซินเหยากับพี่จิงเฉินไปกินข้าวบ้านพวกเรานะคะ คุณย่าของหนูทำกับข้าวอร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ"
เธอมองไปที่จิงเฉินและผงกหัวตกลง พร้อมพูดว่า : "ได้ค่ะ งั้นวันนี้พวกพี่จะไปกินข้าวที่บ้านซูหยวนนะคะ รบกวนคุณยายด้วยนะคะ"
"รบกวนอะไรกัน เพิ่มมาสองคนก็เพิ่มตะเกียบมาสองคู่ พวกหนูมากินข้าวเป็นเพื่อนยายกับหนูหยวนหยวนก็ทำให้บรรยากาศมันครึกครื้นขึ้น" คุณยายเฟยพูดขึ้น
หนูน้อยซูหยวนไม่ได้สนใจที่จิงเฉินจะหน้าเย็นชาเลย เธอชอบเล่นกับจิงเฉินเอามาก
อายุน้อยขนาดนี้ก็รู้จักดูคนหล่อแล้วหรอ โลกของเด็กๆตอนนี้ก็กลายเป็นโลกที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกไปแล้วหรือไงกัน
"พี่จิงเฉินคะ พี่จิงเฉินทำงานอะไรหรอคะ? ร้องเพลงอยู่ในทีวีรึปล่าวคะ?" ซูหยวนลากเก้าอี้เล็กๆตัวหนึ่งมานั่งข้างๆจิงเฉิน เงยหัวขึ้นและถามเขา
ในโลกของเด็กผู้หญิงนั้น คนที่หล่อคนที่สวยต่างก็ต้องไปอยู่ในทีวีหมดแหละ
"ไม่ใช่ครับ" ใบหน้าของจิงเฉินยังมีความเย็นชา แต่แววตาของเขามันดูอบอุ่นขึ้นมากว่าเมื่อกี้
เมื่อเห็นหน้าของซูหยวน ก็ทำให้จิงเฉินคิดถึงเด็กสองคนนั้นที่ตนเจอที่สนามบินและโรงเรียนครั้งก่อน เวลาก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงจริงๆว่าเขายังจำหน้าเด็กสองคนนั้นได้อย่างแม่นยำชัดเจน เมื่อคิดถึงเด็กสองคนนั้นที่คนหนึ่งน่ารัก ส่วนอีกคนนิ่งๆขรึมๆมันก็ทำให้ใจและแววตาของจิงเฉินดูอบอุ่นนุ่มนวลขึ้นมาเอามาก
ถ้าเกิดว่าถึงวันที่โรงเรียนจัดงานกีฬาสีประจำฤดูร่วงก็อาจจะได้เห็นหน้าเด็กที่น่าสนใจสองคนนั้นแล้ว
ซินเหยาช่วยคุณยายเฟยยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ เมื่อเธอเหลือบไปเห็นสายตาของจิงเฉินที่มีความนุ่มนวลอบอุ่น ใจเธอก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาชอบซูหยวนขนาดนี้เลยหรอ? ไม่รู้ว่าถ้าเขาเจอลั่วหลิงกับเข่อหลานแล้วจะชอบพวกเขาแบบนี้ด้วยหรือป่าว?
"งั้นพี่จิงเฉินทำงานอะไรคะ?" ซูหยวนถามขึ้น
"หนูซูหยวน หนูเรียกพี่เขาผิดแล้ว หนูต้องเรียกว่าคุณลุงจิงเฉิน ไม่ใช่เรียกพี่"
ตอนที่ซินเหยาเอาอาหารมาวางที่โต๊ะก็ได้แกล้งจิงเฉินไปหนึ่งดอก เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน หรือว่าเธอจะอิจฉาที่จิงเฉินแสดงแววตาที่นุ่มนวลอบอุ่นนั้นกับซูหยวน? แต่สายตาแบบนี้ไม่เคยมีต่อเข่อหลานและลั่วหลิง?
ซินเหยาเธอคิดแบบนี้ไม่ได้นะ จิงเฉินยังไม่รู้เลยว่าลั่วหลิงและเข่อหลานมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ใช่เป็นเธอเองหรอกหรอที่ซ่อนปกปิดอย่างสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้เขารู้?
"ผู้ชายที่แก่แบบนี้ ก็ควรที่จะเรียกว่าคุณลุง" ซินเหยาพูดให้ซูหยวน
"พี่จิงเฉินไม่ได้แก่นะคะ พี่จิงเฉินหนุ่มมาก ซูหยวนชอบค่ะ!" ซูหยวนพูดดื้อดึง
จิงเฉินมองไปที่ซินเหยาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ตอนนี้ซินเหยาชาไปทั้งตัว จากนั้นเธอจึงได้หัวเราะออกมาเบาๆเพื่อแก้สถานการณ์และพูดว่า : "หึหึ พี่ซินเหยาแค่พูดเล่นหน่า พี่จิงเฉินไม่ได้แก่เลย อีกอย่างเขายังเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกด้วย"
"ใช่ค่ะ" ซูหยวนผงกหัวอันเล็กๆของเธอ แสดงให้เห็นว่าเธอเห็นด้วยกับที่ซินเหยาพูดไปเมื่อตะกี้
ซินเหยาจับไปที่จมูกของตัวเองและลูบไปลูบมา และเดินเข้าครัวไปเพื่อไปช่วยคุณยาย
คุณยายให้ซินเหยาออกไปเล่นกับพวกเขาอยู่ข้างนอก ตรงนี้ไม่ได้ต้องการให้เธอช่วยอะไรเลย แต่ซินเหยาก็ยังขออยู่ต่อในนี้เพื่อที่จะฝึกฝีมือการทำอาหารจากคุณยาย
ใครจะโง่ออกไปข้างนอกให้ไปเจอใบหน้าที่เย็นชาของจิงเฉินล่ะ ใบหน้าที่เหมือนคนอื่นกำลังติดหนี้เขาอยู่แปดล้านยังไงยังงั้น ถ้าออกไปก็เจ็บใจเปล่าๆนะสิ
มื้อค่ำวันนี้มันดูตระการตาและเยอะเป็นพิเศษ แต่วิธีทำก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ก็เป็นกับข้าวบ้านๆธรรมดาๆทั่วไป
มีซุปไก่ตุ๋นเห็ดหอม เนื้อไก่ผัดพริกหยวก ไข่ทอด หมูแดดเดียว และยังมีผัดผักกวางตุ้ง
MANGA DISCUSSION