"หม่ามี๊ ผมรบกวนการนอนของหม่ามี๊รึปล่าวครับ?" เสียงที่อ่อนนุ่มแต่สุขุมของลั่วหลิงส่งผ่านออกมาจากมือถือ เสียงในนี้ต่างจะเสียงจริงหน่อย แต่ซินเหยาก็ฟังออกว่าเป็นเสียงของลั่วหลิง
แน่นอนว่ารบกวนแน่สิ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น
"ลั่วหลิงลูกรัก ทำไมลูกถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ นี่ยังห่างจากเวลาที่ต้อง
ไปโรงเรียนอยู่มากนะ ทำไมไม่นอนให้อิ่มกว่านี้ล่ะคะ แล้วจะตัวสูงไหมล่ะทีนี้" ซินเหยาปิดประตู และเดินออกไปนอกโรงแรม ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มจะสว่างอรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน เหมือนกำลังแสดงให้เห็นถึงการต้อนรับวันใหม่สินะ
(นี่เป็นประเด็นที่บอกหรอ?)
"ผมมีเรื่องที่จะคุยกับหม่ามี๊ครับ" เสียงของลั่วหลิงที่ดูจริงจังพูดขึ้น
ซินเหยารู้นิสัยของลูกตัวเองดี เขาไม่เคยพูดไปเรื่อยตีไข่ใส่นมใดๆทั้งสิ้น เวลานี้โทรมาไม่ได้โทรมาบอกแค่ว่าพวกเขาคิดถึงหม่ามี๊แน่ๆ
"ฮึ? มีอะไรหรอ? " ซินเหยาถามกลับอย่างจริงจัง
เธอค่อนข้างที่จะเคารพลั่วหลิงมาก ไม่ค่อยแอ๊บกับเขาเหมือนเด็กทั่วไปที่เธอพบ ในเมื่อลูกน้อยของเธอมีเรื่องที่พูด เธอก็จะฟังมันอย่างตั้งใจ
"หม่ามี๊และจิงเฉินอยู่ที่ชนบทนั้นไม่ก่อน ยังไม่รีบกลับมา และไม่ต้องติดต่อกับโลกภายนอกด้วย" ลั่วหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักอึ้งและดูจริงจังเอามาก
เมื่อได้ยินลูกน้อยของเธอพูดเช่นนี้ซินเหยาก็คิดว่าต้องเกิดเรื่องแปลกๆขึ้นแน่
"ทำไมหรอ?" ซินเหยาถาม
"เพราะคนที่ออกไปสำรวจที่ชนบทกับเราได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนกับรถบรรทุกขนาดใหญ่คันหนึ่งเข้า ทำให้มีคนตายในที่เกิดเหตุสองคน และตายตอนช่วยชีวิตอีกหนึ่งคน คนที่เหลือกำลังช่วยชีวิตอยู่ ตอนนี้ข่าวที่เกิดขึ้นโดนปิดเอาไว้หมด" ลั่วหลิงพูด
มือตอนนี้ของซินเหยาจับมือถือไปด้วยความสั่นเครือ เมืองHที่บรรยากาศสวยงาม สายลมแสงแดดแม่น้ำดีขนาดนี้ทำไมตอนนี้จึงทำให้เธอรู้สึกถึงความหนาวสั่นจากท่อนล่างขึ้นบนได้?
ลั่วหลิงเพียงแค่กำลังพูดความจริงให้เธอพัง แต่ว่ากลับเล็ดลอดรายละเอียดต่างๆให้เธอไปมากด้วย
ถ้าเกิดว่าตอนนั้นไม่ได้เกิดเรื่องต่างๆที่เป็นเรื่องบังเอิญพวกนี้ขึ้น คนที่จากไปก่อนคงจะเป็นซินเหยาและจิงเฉินแทนแล้วมั้ง ตอนนี้พวกเขาอาจจะลอยอยู่ในทะเลเเล้ว ไม่ก็นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด
แค่คิดก็เสียวจะแย่
"ค่ะ หม่ามี๊รับทราบแล้ว" ซินเหยาตอบกลับด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ
นอกจากซือชิงแล้วเธอก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆเลย เธอกับซือชิงแค่รู้จักกันโดยบังเอิญเท่านั้น เธอคิดไปคิดมา ตอนนี้เหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทำลังทับอยู่กลางอกของอก ทับจนเธอรู้สึกหายใจไม่ออกยังไงยังงั้น
"หม่ามี๊ก็อย่ากังวลใจไปครับ เรื่องทุกอย่างจะสามารถดีขึ้นมาได้ ผมกับน้องจะรอหม่ามี๊กลับมาอยู่ที่บ้านนะครับ" ลั่วหลิงพูดปลอบใจซินเหยาด้วยน้ำเสียงที่เเข็งทื่อแต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงที่มีต่อแม่ของตน
ซินเหยายิ้มมุมปากขึ้นเมื่อได้ยินคำหวานๆที่ออกมาจากปากของลั่วหลิง เธอจึงรู้สึกดีขึ้นจากเมื่อกี้หน่อยๆแล้ว
"อื่ม เอาล่ะลูกรัก ลูกกับเข่อหลานอยู่บ้านรอหม่ามี๊อย่างเชื่อฟังนะ หม่ามี๊รักพวกหนูตลอดนะ" ซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นจากเมื่อกี้
"ผมก็รักหม่ามี๊ครับ งั้นผมวางสายแล้วนะครับ ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นผมจะติดต่อกลับไป" ลั่วหลิงพูดจบก็วางหู
หลังจากที่วางหูจากสายของลั่วหลิงแล้วนั้น ซินเหยาก็จับไว้มือถือของเธออย่างแน่นด้วยความจิตตก
ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้นะ? ทำไมลั่วหลิงถึงบอกให้พวกเขายังไม่ต้องกลับไปและยังไม่ต้องติดต่อกับคนภายนอกนะ ทำไมกันนะ?
นี่อาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ แต่เป็นฝีมือของใครสักคนหรอ?
ทางในชนบทแบบนี้ที่มีแต่ดินโคลนยากต่อการขับขี่ บวกกับทางที่ทุรกันดาร แต่เกิดอุบัติเหตุกับรถบรรทุกแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?
ถนนสายนั้นปกติคนก็น้อยอยู่แล้ว รถผ่านไปผ่านแทบจะไม่มี บางครั้งอาจจะมีแค่รถซีดานหรือไม่ก็รถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปผ่านมาเท่านั้นไม่ใช่หรอ?
ซินเหยารู้สึกว่าตัวเธอสัมผัสถึงความเย็นยะเยือก เหมือนกับใจของเธอเป็นรูโบ๋และลมสามารถที่จะพัดเข้าไปได้อย่างเต็มเหนี่ยว
ตัวเธอสั่น จึงกอดไปที่เสื้อผ้าของเธอและเดินกลับโรงเเรม
เธอคืนมือถือให้เถ้าแก่เนี้ย หน้าของเถ่าแก่ดูไม่ดีเอามาก ซินเหยาแสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจเหตุผลของเถ้าแก่ เพราะทุกคนต่างก็เจอเรื่องแย่ๆมาเหมือนกัน
เธอกลับถึงห้องและนอนไปที่เตียง แต่นอนยังไงก็นอนไม่หลับ
เธอพลิกไปพลิกมาบนเตียงอยู่นาน ในหัวคิดแต่เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเต็มไปหมด
จิงเฉินเห็นเธอพลิกไปพลิกมาก็ลำคาญจึงเอามือกอดไปที่เอวของเธอ ดึงเธอให้มาอยู่ในอ้อมกอดตัวเองและพูดว่า : "นอนดีๆ อย่าวุ่นวาย"
ซินเหยายังรู้สึกไม่ดีอยู่ จึงพลิกกลับไปชนกับหน้าของจิงเฉินและดันเขาออกไปพร้อมพูดว่า : "คุณอย่านอนแล้ว มีเรื่องอะไรจะปรึกษาคุณหน่อย"
"เรื่องอะไร? ค่อยคุยกันพรุ่งนี้" จิงเฉินไม่ได้ลืมตาขึ้นและตอบซินเหยาแบบปัดๆไป
"เรื่องที่สำคัญมาก" ซินเหยาพลักไปที่จิงเฉินอีกครั้งและพูดขึ้นต่อว่า : "คุณรู้ไหมว่าระหว่างทางที่ซือชิงพวกเขากำลังไปที่ชนบท อยู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น ตายไปก็หลายคน ส่วนคนที่เหลือก็บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันทำไมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลยังไงก็ไม่รู้ คุณว่านี่มันใช่……"
จิงเฉินลืมตาขึ้นอย่างทันที ตาของเขาสว่างขึ้นมาว๊าบ ไม่เหมือนคนที่พึ่งตื่น
สายตาของเขาคมเอามาก เหมือนเยี่ยวที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าเสาะหาเหยื่อ
"คุณพูดว่าไงนะ?" จิงเฉินถามขึ้นและมองไปที่ซินเหยา
ซินเหยาโดนจิงเฉินทำให้ตกใจไปหนึ่งดอก เธอปรับระดับอารมณ์ตัวเองสักพัก นอนอยู่บนเตียงกับจิงเฉินและหันหน้าชนกันพร้อมพูดขึ้นว่า "ฉันพูดว่า คนที่ออกมานอกสถานที่กับเราที่ไปชนบท ระหว่างทางก็ประสบอุบัติเหตุทางรถบนต์ขึ้น ตายไปก็หลายคน ส่วนที่เหลือก็กำลังรักษาตัวอยู่ในห้องICU และเรื่องพวกนี้ก็ถูกปิดไว้ด้วย เพราะงั้นสถานการณ์ตอนนี้เป็นไงก็ไม่อาจรู้ได้"
จิงเฉินไม่ได้พูดอะไร มีเพียงแค่มือที่ลูบเบาๆอยู่บนเอวของซินเหยา สายตาของเขาที่กำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากที่บอกเรื่องนี้กับจิงเฉินเธอก็รู้สึกเบาขึ้นมาอีกนิด เหมือนกับก้อนหินเมื่อกี้ที่ตัวเองได้แบกไว้มันถูกยกออกยังไงยังงั้น
ป๊ะป๋าไม่ได้ดูถูกเธอหรอกหรอว่าเธอโง่ เรื่องที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนเเบบน้ีก็ยกให้ป๊ะป๋าไปปวดหัวคนเดียวดีกว่า อีกอย่างเซ้นส์เธอบอกว่าเรื่องนี้จะต้องพุ่งเป้ามาที่ป๊ะป๋าแน่ๆ
ความคิดของซินเหยาได้หยุดชะงักเมื่อจิงเฉินถามขึ้นว่า : "เมื่อกี้ใครโทรมาหาคุณ?"
"เพื่อนคนหนึ่ง ทำไมหรอ?" ซินเหยาใจเต้นรัวขึ้น แต่สีหน้าเธอยังคงนิ่งๆอยู่
"ไม่มีอะไร"จิงเฉินมองซินเหยาด้วยสายตาที่ครุ่นคิดอะไรสักอย่าง และถามต่อว่า : "เขายังพูดอะไรอีกรึปล่าว?"
"เขาบอกให้เราอยู่ตรงนี้ไปสักพักก่อน ไม่ต้องรีบกลับไป และไม่ต้องติดต่อกับคนภายนอก" ซินเหยาตอบกลับด้วยสติที่เธอหลงเหลืออยู่
"เขารู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นี่? และยังมีเบอร์โทรของเถ้าแก่ที่นี่?" จิงเฉินหรี่ตาถามซินเหยา
ซินเหยากัดไปที่ริมฝีปากของตนเองและจ้องไปที่ป๊ะป๋าพร้อมพูดว่า : "ประเด็นมันไม่ใช่อยู่ตรงนี้ ประเด็นอยู่ที่ฉันเชื่อเขา เขาไม่มีวันทำร้ายฉันแน่นอน"
จิงเฉินนิ่งเงียบไปไม่พูดอะไร เพียงแต่ใช้สายตาที่เหมือนกับเครื่องเอกซเรย์กำลังสแกนไปบนใบหน้าของซินเหยา
MANGA DISCUSSION