เมื่อเจ้าของร้านเถื่อนนี้ได้รับเงินจากซินเหยาไปแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเริงร่าหน้าหวานชื่นและพูดว่า : "นังหนูและไอ้หนุ่มน้อย ครั้งหน้ามาใช้บริการอีกนะ ถึงแม้ว่ากับข้าวของทางเราจะแพงไปหน่อย แต่ผักพวกนี้เราก็ปลูกเอง ปลอดสารพิษไว้ใจได้ ทั้งสองก็ไม่ใช่คนจนอะไร คงไม่สนใจเศษเงินพวกนี้หรอก ครั้งหน้ามาอีกนะ"
ถุย……ถึงเธอจะมีเงินล้นฟ้าก็ขอสาบานว่าจะไม่มาร้านแบบนี้อีก
ซินเหยาลากไว้มือของจิงเฉินและเดินออกมานอกร้านทันที
แม่เจ้า โดนขูดรีดขูดเนื้อหลอกจนได้ เศร้าใจจริงๆ
รอให้มีคนมารับเธอจากในเมืองHก่อนนะ เธอจะเอาเงิน800นี้กลับมาให้ได้ คิดจะมาขูดรีดเธอหรอ อย่าหวังไปเลย
"เอาล่ะ อย่าโกรธไปเลย" จิงเฉินเห็นซินเหยาเสียดายเงินพวกนั้นและแสดงสีหน้าที่เศร้าเป็นตูดลิงออกมาจึงพูดปลอบเธอด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเสียงหัวเราะ
"คุณเป็นคนรวยคุณไม่มีทางโกรธหรอก กับข้าวแค่นั้นนะหรอปาไป800 ยังแพงกว่าในเมืองBอีก" ซินเหยาปล่อยมือที่จับจิงเฉินออก และพูดขึ้นต่อว่า : "วันนี้ค่าอาหารเสียไป856หยวน คนละครึ่ง คุณต้องให้ฉัน428"
ซินเหยาจดใส่ในสมุดน้อยของเธอว่าจิงเฉินติดหนี้เธอ428หยวน
"เห็นแก่ที่คุณเป็นหัวหน้าฉัน ฉันจึงไม่คิดดอกเบี้ยให้" ซินเหยาพูดอย่างใจกว้าง
ในสายตาของจิงเฉินเงิน428นี่มันไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย ในสายตาเขาเงินที่สามารถที่จะอยู่ได้ต้องอย่างน้อยหลัก10ล้าน แต่ถึงแม้เงิน428จะน้อยเอามาก เขาก็ไม่อยากคืนโดยทำตามความต้องการเธอ
"คุณก็รู้ว่าตอนนี้ผมล้มละลาย ไม่มีเงิน" จิงเฉินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
"คุณไม่ใช่มีเงินเดือนหรอ?" ซินเหยาถามอย่างไม่พอใจ
"คุณรู้จักคำว่าล้มละลายคืออะไรไหม? ก็คือยังติดหนี้อื่นๆอีกเพียบ ทุกเดือนใช้ได้แค่1พันหยวน เงินที่เหลือต้องเอาไปจ่ายหนีในธนาคารหมด" จิงเฉินอธิบายให้ซินเหยาฟัง
แม่เจ้า เดือนหนึ่งใช้แค่พันเดียวหรอ
ชีวิตของป๊ะป๋ามันดูโหดร้ายไปหรือป่าว เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดๆอยู่ภายใน
"แต่ยังไงคุณก็ต้องคืน ฉันให้คุณแบ่งจ่ายเป็นงวดๆได้" ซินเหยาหยวนได้แค่นี้จริงๆแล้วนะ
เธอเกิดรู้สึกสงสารป๊ะป๋าขึ้นมาแล้วจะไม่ให้ป๊ะป๋าจ่ายนี่นะ หึหึ……เธอไม่ได้เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่ใจดีขนาดนั้น ที่จริงเธอเป็นหญิงที่เหี้ยมเอามากๆ เพราะงั้นไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ต้องคืน
หึหึ……ถ้าเกิดป๊ะป๋าเอาตัวเข้าแลก เธอก็จะรับพิจราณาไว้
"ผมเดินไม่ไหวแล้ว" จิงเฉินมองดูซินเหยาและยืนอยู่กับที่พร้อมพูดขึ้น
"งั้นคุณก็ยืนอยู่ตรงนั้นไป รอเดินได้เมื่อไหร่ค่อยเดิน" ตั้งแต่ที่ซินเหยาเดินออกมาจากร้านอาหารนั้นเธอก็ได้ถอดรองเท้าสนสูงเธอมาหิ้วไว้ที่มือแล้ว สำหรับเรื่องที่จิงเฉินเดินไม่ไหวนั้น เธอไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย
เธอไม่มีวันบอกว่าจะแบกจิงเฉินขึ้นหลังแน่ เพราะจิงเฉินหนักขนาดไหน ไม่มีคนรู้ดีไปกว่าเธอแน่นอน
"งั้นคุณก็จับมือผมด้วยสิ" จิงเฉินยื่นมือที่เรียวสวยดุจดั่งนักจิตรกรได้บรรจงละเอียดแกะสลักออกมาไปให้ซินเหยา พูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำและเซ็กซี่ เมื่อฟังแล้วมันรู้สึกชาไปทั้งใจ
ความรู้สึกนี้มันชาจะสะอิดสะเอียนก็ไม่ใช่ แต่มันทำให้เธอลุ่มหลงได้จริงๆ
ซินเหยาจับไปที่มือของจิงเฉิน แม่เจ้า นี่มันเป็นภาพที่สวยเอามาก
เธอยอมจับมือเขาเดินไปบนท้องถนน
ท้องถนนในชนบทนี้ไม่ได้เหมือนถนนในเมือง ตอนนี้แค่ทุ่มกว่าๆ แต่มันก็ดูมืดไปหมด มีเพียงไฟที่สาดส่องออกมาจากหน้าต่างไม่กี่บาน ไฟบนทางเท้าไม่มีอยู่เลย
จิงเฉินและซินเหยากว่าจะหาโรงเเรมเล็กๆนี้เจอไม่ง่ายเลย
โรงแรมนี้ถ้านอน1คืนราคา200หยวน……แพงจัง
เเต่ถ้าไม่ได้เสียเงิน800นั่นไปเมื่อตะกี้ คงจะยอมรับกับราคาโรงแรมนี้ได้อยู่
"เงินตอนกินข้าว ฉันจ่าย แต่เงินพักโรงแรมนี้ นายจ่าย" ซินเหยาหันหน้าไปคุยกัยจิงเฉินเพื่อให้เขาควักเงินของตัวเองออกมา
จิงเฉินเอากระเป๋าเงินออกมา ข้างในล้วนมีแต่บัตรเครดิต ไม่มีเงินสดเลย
ซินเหยารู้สึกว่าแปลกๆ เธอจึงถามเถ้าแก่เนี้ยว่า : "คือว่า ขอถามหน่อยนะคะ ตรงนี้รูดบัตรได้รึปล่าวคะ?"
"ไม่ได้คะ ได้แค่เงินสดเท่านั้น"
เป็นไงล่ะ เซ็นส์เธอไม่มีวันผิด
ได้แค่เงินสด รูดบัตรไม่ได้ จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหม เห้ออ
ซินเหยาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าของเธอและพูดว่า : "พวกเราเช่าหนึ่งห้องค่ะ"
"ค่ามัดจำ100 ค่าห้อง200 รวมเป็น300ค่ะ"
ตอนที่ซินเหยาหยิบเงินสามร้อยให้เถ้าแก่เนี้ย จิงเฉินก็ยิ้มอยู่ข้างๆและพูดว่า : "ฮะ? สองคนหนึ่งห้องหรอ?"
ซินเหยามองบนให้จิงเฉินและพูดว่า : "ห้องเดียวก็พอแล้ว คุณไม่ได้เป็นคนจ่ายคุณไม่รู้สึกหรอก ยังไงก็แค่คืนเดียว นอนเบียดๆเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว อย่าฟุ่มเฟือยไปหน่อยเลย"
มาที่นี่ยังไม่นาน กระเป๋าตังค์เธอก็แบนขนาดนี้เเล้วหรอ?
ตอนที่จิงเฉินให้เงินมันดูยาจกมาก แต่ว่าตอนจ่ายนี่สิ ทำไมทำให้เขาดูรวย หึหึ
โรงเเรมเล็กๆนั้น มัน 'เล็ก' จริงๆนะ
ห้องนอนเล็กๆห้องหนึ่ง อ่างล้างมือที่แค่จะหันหลังหมุนตัวก็ยังลำบาก ในห้องใส่ได้แค่เตียงอันเดียว ไม่มีทีวี ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีแอร์ ที่บอกว่าว่างเปล่า แต่ในห้องกลับแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เหลือว่างเลย
ถ้าเทียบกับรูหนูที่ซินเหยาพักในตอนที่เธอลำบากยาจกมากที่สุดในชีวิตยังรู้สึกดีกว่าโรงเเรมนี้เลย
ทั้งสองอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกัน
ดีนะที่เตียงนี้เป็นเตียงคู่2เตียงไม่ใช่เตียงเดี่ยว ทั้งสองนอนลง มันไม่มีที่ว่างบนเตียงเหลืออยู่เลย
เหนื่อยมาทั้งวัน ซินเหยาเพียงแค่อยากนอนอยู่บนเตียงไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว
แต่จิงเฉินที่เป็นดั่งสัตว์ป่านี้เห็นได้ชัดว่ายังหลงเหลือแรงอีกอยู่
เขาพลิกตัวไปทับไว้ที่ตัวของซินเหยา ลมหายใจที่แรงขึ้น และน้องน้อยใต้สะดือที่พร้อมจะผยองเดชก็เริ่มจะตื่น
ซินเหยาเพียงแค่อยากจะสบถคำด่าออกมายาวสามเมตร ตอนนี้ร่างกายเธอไม่หลงเหลือแรงอะไรแม้แต่นิด เธอมองไปที่จิงเฉินด้วยความลำคาญและพูดว่า : "วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน คุณไม่เหนื่อยหรอ ลงไป ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว"
"เหนื่อยไม่เหนื่อย เดี๋ยวก็รู้" มือของจิงเฉินค่อยๆที่จะเคลื่อนสำรวจไปที่เนินเขาใต้เสื้อยืดสีขาวของเธอ
อุณหภูมิร่างกายของซินเหยาค่อนข้างสูง มือของจิงเฉินค่อนข้างเย็นเล็กน้อย มือที่เย็นลากผ่านบนตัวของซินเหยาที่ร้อน มันทำให้เธอกระตุกขึ้น รู้สึกจะควบคุมตัวเองไม่อยู่โดยการกระตุกหายใจออกมา เสียงหายใจนั้นมันเบาและดูเซ็กซี่เอามาก เธอสงสัยตัวเองว่าเธอโดนปีศาจสุนัขจิ้งจอกสิงร่างหรืออะไรกัน
จิงเฉินฟังเสียงหายใจที่เบาและเซ็กซี่ของเธอ พร้อมกับจังหวะหายใจที่เร็วและถี่ขึ้นของตัวเอง
MANGA DISCUSSION