ตื่นเช้ามาอีกวันก็เกือบเที่ยง
โต๊ะข้างเตียงมีน้ำอุ่นหนึ่งแก้ววางอยู่และมียาแก้โรคกระเพาะวางอยู่ข้างๆ
นอกจากนี้ยังมีโจ๊กผสมยาวางอยู่ในกล่องเก็บความร้อนซึ่งช่วยบำรุงและย่อยได้ดีมาก ถังซินเหยารู้ว่าเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ความฝันมีคนลูบท้องของเธออย่างใส่ใจทั้งคืนจริงๆ
เยี่ยจิงเฉินและหลิวซื่อหรงเดินนำหน้า ถังซินเหยาและเพื่อนร่วมงานสาขาอื่นเดินมาตามหลัง
"เลขาถัง ตอนพักเที่ยงไม่ทราบว่าคุณพอมีเวลาหรือเปล่า" ซือชิงผู้จัดการฝ่ายการเงินของสาขาย่อยถามเธอ
เขาได้เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งเพียงพอที่จะเห็นความสามารถและทักษะในการสื่อสารของเขา
"หือ?" ถังซินเหยาหันไปมองใบหน้าของซือชิง ช่างเป็นอาหารตาชั้นดี"ผู้จัดการซือเมื่อกี้คุณพูดอะไรนะคะ ขอโทษฉันไม่ทันได้ฟังค่ะ"
ซือชิงยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า "ตอนเที่ยงพวกเราไปทานข้าวด้วยกันนะครับ"
ถังซินเหยาพยักหน้าและยิ้ม: "โอเคค่ะ"
เมื่อเยี่ยจิงเฉินหันกลับมาเขาเห็นถังซินเหยาและชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเขามาจากไหนจ้องมองและพูดคุยกันอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังกล้าที่จะส่งรอยยิ้มหวานให้คนอื่น
สีหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่ดวงตาของเขากำลังลุกเป็นไฟ
เขาหยุดเดิน และคนอื่นๆก็หยุดตามโดยไม่รู้ตัว
ถังซินเหยามองเยี่ยจิงเฉินด้วยความมึนงงและก็พบว่าเขาจ้องมองมาที่เธอ
หัวใจของเธอเต้นแรงและเธอเห็นได้ว่าป่ะป๊ากำลังโกรธ แต่เขามองเธอมีหมายความว่าอะไรก็ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ
เยี่ยจิงเฉินเห็นถังซินเหยามองกลับมาที่เขาด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสาความโกรธของเขายิ่งเพิ่มระดับขึ้นไปอีกสายตาที่โหดเหี้ยมในดวงตาของเขาทำเอาถังซินเหยาถึงกับรู้สึกหวาดกลัว
"ถังซินเหยาในฐานะเลขาของผม นี่คือท่าทีในการทำงานของคุณหรือ?" น้ำเสียงของเยี่ยจิงเฉินเรียบนิ่งแต่ก็สามารถรับรู้ความโกรธจากน้ำเสียงของเขาได้
ถังซินเหยารู้สึกงุนงงเล็กน้อย สรุปว่าเธอทำอะไรผิด?
"ท่านประธานคะฉันขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้วค่ะ "ถังซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
คนจนมักจะไม่มีเกียรติ
เงินซื้อได้ทุกอย่าง ทั้งศักดิ์ศรีทั้งความรัก
แม้ว่าถังซินเหยาจะยอมรับผิด แต่เยี่ยจิงเฉินก็โกรธมากที่ถังซินเหยาทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร
"คุณรู้หรือยังว่าคุณผิดตรงไหน?" เยี่ยจิงเฉินถามเธออย่างเย็นชา
ผิดบ้านคุณสิ ถังซินเหยารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร
"คุณรู้ไหมว่าหน้าที่ของคุณในฐานะเลขาคืออะไร?" เยี่ยจิงเฉินถาม
เธอคิดว่าในฐานะเลขาเธอต้องรับผิดชอบบุคลิกภายนอกให้ดูดีและสวยอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
"คุณรู้ไหมว่าผมพูดอะไรกับประธานหลิว?" เยี่ยจิงเฉินถามด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
เขาโกรธเพราะว่าเธอไม่ได้สนใจ?
"ฉันผิดไปแล้วค่ะประธานเยี่ย" ถังซินเหยายอมรับความผิดของเธออย่างจำยอม
"ตามมาให้ทัน" เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างเย็นชา
ถังซินเหยาหันไปพูดกับซือชิงเบาๆ "ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ"
เยี่ยจิงเฉินหันกลับมาเห็นอีกครั้ง สีหน้าของเขายิ่งเพิ่มความโกรธมากขึ้นไปอีก
เธอรีบเดินไปข้างๆของเยี่ยจิงเฉินอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าเธออาจพลาดข้อมูลสำคัญไป การเอาตัวรอดของเธอทำให้เยี่่ยจิงเฉินมีสีหน้าที่ดีขึ้นและน้ำเสียงก็อ่อนโยนลงมากซึ่งทำให้หลิวซื่อหรงและทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในสมัยโบราณมีฮ่องเต้องค์หนึ่งที่โกรธจนเปลี่ยนเลือดให้ไหลเป็นสายน้ำ และความโกรธของเยี่ยจิงเฉินก็เหมือนกันทำให้ทุกคนอึดอัดไปด้วย
หลังจากคุยธุระเสร็จในช่วงเช้าเยี่ยจิงเฉินต้องการที่จะมอบหมายงานให้กับหลิวซื่อหรง แต่กลับพบว่าถังซินเหยาไม่รู้หายไปไหน ในตอนเช้าไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่จีบถังซินเหยาต่อหน้าทุกคนก็ไม่เจอแล้ว เยี่ยจิงเฉินโกรธจนกำหมัดแน่น
หลิวซื่อหรงมองจากด้านหลังของเขาด้วยความหวาดกลัวและต้องการซ่อนตัวจากเยี่ยจิงเฉิน
เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาถังซินเหยา ก็จำได้ว่าเขาทำมันพังไปแล้ว
เขาโกรธจนต้องการลากตัวถังซินเหยากลับมาทันที อยากจะทำร้ายให้บาดเจ็บและหักโบนัสประจำปีของเธอด้วย เมื่อนึกสภาพถังซินเหยามาอ้อนวอนขอเงินจากเขาเยี่ยจิงเฉินรู้สึกว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นมาก หลิวซื่อหรงชวนเขาไปทานอาหารกลางวันด้วยกันและเขาก็ตอบตกลง
เรื่องราวนี้มันซับซ้อนนัก ต้องจัดการไปทีละเรื่อง
ในเวลานี้ถังซินเหยากำลังอยู่กับซือชิง
เธอนั่งรถของซือชิงออกมาจากบริษัท
ซือชิงพาเธอมาที่ร้านอาหารตะวันตกเพื่อรับประทานอาหาร ในร้านบรรยากาศดีมากและสภาพแวดล้อมก็เงียบสงบ มันทำให้ถังซินเหยารู้สึกว่าสถานที่นี้ค่อนข้างแปลกแต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
ทั้งสองเดินเข้าไปด้วยกัน ซือชิงดึงเก้าอี้ให้เธอนั่งลงซึ่งทำให้เขาดูเป็นสุภาพบุรุษมาก
"เลขาถังคุณอยากกินอะไรครับ" ซือชิงถาม
ถังซินเหยาจิบน้ำมะนาวบนโต๊ะแล้วเลิกคิ้วมองไปที่ซือชิง"ไม่รอคนอื่นก่อนเหรอคะ?"
ซือชิงมองไปที่ถังซินเหยาอย่างแปลกใจ"ไม่มีคนอื่นมาแล้วครับ"
"อะไรนะ……"
"มาแค่พวกเราสองคนเหรอคะ."
ถังซินเหยาเข้าใจมาตลอดว่าซือชิงจะเป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้เพื่อรับประทานอาหารร่วมกับทุกคนในโครงการ
อย่างไรก็ตามยังมีงานอีกมากมายที่ต้องร่วมมือกับเขาในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นการดีที่จะติดต่องานกับเขา รู้จักกันไว้ก็ดี
แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าอาหารมื้อนี้ซือชิงจะเลี้ยงเธอเป็นการส่วนตัว
ถังซินเหยายิ้มและพูดว่า"อ๋อ ฉันนึกว่าคุณชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาด้วย"
"ต้องโทษผมที่ไม่ได้พูดให้ชัดเจนและทำให้คุณเข้าใจผิด" ซือชิงก็เพิ่งรู้ว่าถังซินเหยาเข้าใจความหมายของอาหารมื้อนี้ผิด
"ถ้าเป็นความเข้าใจผิดมันก็เป็นความเข้าใจผิดที่สวยงาม เป็นเกียรติสำหรับฉันที่ได้รับประทานอาหารร่วมกับประธานซือ ประธานซือได้เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งถือว่ามีความสามารถมากๆเลยค่ะ" ถังซินเหยาส่งยิ้มหวานให้กับซือชิง
เฮ้อ ในเมื่อมาแล้วจะกลับตอนนี้ก็ไม่ได้ มันจะเป็นการขัดความหวังดีของเขา?
ถังซินเหยาไม่มีความบกพร่องในการเข้าสังคม
เธอมีใบหน้าที่ดูสวยหวานแม้แต่คำพูดของเธอก็ยังไพเราะอ่อนหวานซึ่งทำให้ผู้คนที่ใกล้ชิดเธอต่างรู้สึกหลงใหลในคำพูดของเธอ คำพูดหวานๆไม่ได้มีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่พูดได้ ผู้หญิงก็สามารถพูดได้เหมือนกัน
แน่นอนว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของซือชิงยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ฟังแค่สองประโยค
"พวกเราสองคนมานั่งทานข้าวด้วยกันนับว่าเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหมครับ?" ซือชิงถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ถังซินเหยาพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ "แน่นอนค่ะ"
ซือชิงถึงกับพูดอย่างนี้แล้วเธอไม่นับได้หรือ?
อย่างไรก็ตามซือชิงก็ถือว่าเป็นคนดีและมีความสามารถ ผูกมิตรกับคนที่มีความสามารถเธอไม่สามารถหาเหตุผลที่จะปฏิเสธได้
อย่าถามเธอว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าซือชิงเป็นคนดี ก็เพราะเขาค่อนข้างหล่อยังไงล่ะ
มันเป็นยุคสมัยที่ดูหน้าตาก่อนเป็นอันดับแรก เขาหล่อขนาดนี้คงไม่เป็นคนเลวหรอกมั้ง
"ถ้าอย่างนั้นคุณไม่ควรเรียกผมว่าประธานซือแล้ว ควรเรียกผมว่าซือชิงดีกว่า"ซือชิงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
ซือชิงขอให้เธอเรียกเขาแบบนี้ เธอเองก็ไม่ควรให้เขาเรียกเธอว่าเลขาถังแล้ว
"ถ้าอย่างงั้นคุณก็เรียกฉันว่าซินเหยาเถอะค่ะ" ถังซินเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม
MANGA DISCUSSION