ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 108 เสียงเดินแปลกๆที่เกิดขึ้นตอนดึก
"ไปโรงแรมก่อน" จิงเฉินเห็นรอยยิ้มซินเหยาแข็งทื่อค้างไว้ที่มุมปาก ก็ยิ้มมุมปากของตัวเองขึ้นอ่อนๆแล้วพูดขึ้น
ตอนนี้ซินเหยาอยากจะข่มขืนจิงเฉินอย่างหนักๆจากปากซอยไปท้ายซ้าย และจากท้ายซ้อยกลับมาปากซอยอีกรั้ง แต่ทำได้แค่พูดว่า "ขอบคุณประธานหลิวมากนะคะที่มารับพวกเรา อีกอย่างยังรบกวนประธานหลิวอีกด้วย เรื่องงานต่างๆก็ต้องฝากประธานหลิวช่วยชี้แจงแนะนำด้วยนะคะ"
"ที่ไหนกันล่ะครับ แค่ท่านประธานเยี่ยมาเมืองHนี้ก็เป็นเกียรติของพวกผมแล้วครับ เพราะท่านสามารถที่นำสาขาของเราก้าวไปได้ไกลมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ" ประธานหลิวกล่าวอย่างจริงใจ
ดูทรงแล้วประธานหลิวคนนี้ค่อนข้างที่จะนับถือจิงเฉินมากเลยนะ เขาไม่ได้ดูถูกจิงเฉินแม้แต่นิดเรื่องที่เขาโดนลากลงมาจากตำแหน่งประธาน แต่กลับกัน เขาให้ความเคารพจิงเฉินเป็นอย่างมาก
ซินเหยารู้สึกเชื่ออย่างมั่นใจว่าระยะเวลาที่ทำงานอยู่ที่เมืองHนี้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นแน่ๆ เพราะไม่มีใครคอยขัดขวางดักขา
ตอนที่นั่งอยู่บนรถ ซินเหยาอยากจะถามจิงเฉินเรื่องต่างๆเอามาก แต่ทำได้แค่เงียบไว้
พอถึงโรงแรม จิงเฉินก็เอามือลูบไปที่หัวของซินเหยา ลูบจนหัวของเธอตอนนี้ยุ่งไปหมดแล้ว
ซินเหยาได้แต่โกรธอยู่ภายในใจ ไม่สามารถแสดงอาการอะไรออกมาได้ ตอนนี้จิงเฉินยังแกล้งเธออีก เธอก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ทันใดนั้นฝ่ามือของเธอก็ตบไปที่มือของจิงเฉินเข้าอย่างจัง ปั๊ว! มันแรงตึงเอามาก ซินเหยาตอนนี้เกร็งไปหมดไม่รู้จะทำไงต่อแล้ว เมื่อกี้เธอไม่ได้ตั้งใจตบแรงขนาดนั้นนะ มือของจิงเฉินเมื่อกี้ที่โดนตีไปก็แดงขึ้นเรื่อยๆ
ภายในใจตอนนี้ของเธอวิ่งวนไปด้วยความกลัว จิงเฉินไอ้หมอนั่นบางคร้ังก็ร้ายกาจใช่เบานะ
"หัวขาดได้ แต่ทรงผมไม่สามารถที่จะยุ่งได้" ซินเหยาหรี่ตาเล็กลงและมองไปที่จิงเฉิน เห็นเพียงแต่มือของเขาที่แดงมาจากแรงตีของเธอเมื่อกี้
จิงเฉินมองไปที่มือของตัวเองที่ยังมีรอยแดง และยื่นมือออกไปจัดทรงผมของซินเหยาพร้อมพูดว่า : "โอเครแล้ว"
ซินเหยา : ……
เธอต้องบ้าอีกแน่ๆ โดนจิงเฉินทำให้บ้าอีกแน่ๆ
เมื่อกี้มองไปที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกของจิงเฉินเห็นแววตาของเขาที่เหมือนจะมีรู้สึกตัวเองเป็นฝ่ายเสียหาย
จิงเฉินรู้สึกตัวเองเสียหาย? อย่าโวยวายไปหน่อยเลย!
นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
"หึ……" ซินเหยาเอามือออกมาและจัดไปที่ผมของตัวเอง แต่ไม่ได้พูดอะไร
"ยังโกรธอยู่หรอ?" จิงเฉินรั้งซินเหยาก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องไปและพูดขึ้น
"เรื่องความรู้สึกท่านประธานก็ชอบล้อเล่นกับฉัน เห็นฉันเป็นคนโง่ตลอด" ซินเหยาสบัดมือของจิงเฉินที่พาดอยู่บนไหล่ของเธอออก และพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความโกรธเล็กน้อย
แม่เจ้า เธอก็เป็นผู้หญิงโง่จริงๆนั่นแหละ เธอเชื่อได้ไงว่าจิงเฉินจะล้มละลายจริงๆ
แม่เจ้าโว้ย เธอเชื่อจิงเฉินจริงๆนะ แล้วเมื่อกี้ปลอบใจเขาไปทำไม
"ผมล้มละลายจริงๆ" จิงเฉินมองไปที่ซินเหยาอย่างเงียบๆและพูดขึ้นว่า : "รถที่มารับวันนี้เป็นรถของบริษัท เป็นทรัพย์สินของส่วนรวม การทำงานของผู้บริหารของเยี่ยหวงดูภายนอกนั้นอาจจะดูแล้วรวยนักหนา แต่ความเป็นจริงแล้วก็รับเงินเดือนเหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างรถหรูและวิลล่าพวกนี้ต่างก็เป็นเงินของบริษัทที่ควักออกมาให้ ความจริงเงินเดือนทั้งปีของผม อาจจะยังสู้ของหลี่เวยไม่ได้เลย"
เงินที่ล
ลบริษัทให้มาน้อยแค่นี้จริงๆ แต่เงินที่เขาหามาจากข้างนอกเองก็น่าจะไม่น้อยกว่าพันล้าน อิอิ
"หึ……คุณคิดว่าฉันโง่หรอ เชื่อคุณก็บ้าล่ะ" ซินเหยาพูด
แต่ภายในใจเธอกลับคิดว่า : ดูแล้วป๊ะป๋าก็น่าสงสาร หรือว่าเธอจะเข้าใจป๊ะป๋าผิดไปจริงๆ
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าป๊ะป๋าไม่ได้เป็นท่านประธานที่เหมือนกับในละครน้ำเน่าพวกนั้นที่สามารถจะเซ็นต์เช็คราคา5ล้านมาฟาดหัวได้? อีกอย่างเวลาออกจากบ้านยังไม่ชอบพกเงินอีกต่างหาก ไม่ใช่ว่าเขาขี้เหนียวหรอกมั้ง เขาอาจจะไม่มีเงินจริงๆก็ได้
เธอเหมือนจะรู้เรื่องที่มันสุดแสนจะไม่น่าเชื่อเข้า!
……
รอบนี้ที่จิงเฉินมาเมืองHมีเป้าหมายเพื่อที่จะสร้างศูนย์กลางเมืองพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
หลายปีที่ผ่านมาการเติบโตของเมืองHก็ไม่ได้เร็วมาก เศรษฐกิจก็ค่อนข้างจะรั้งท้ายเมืองอื่นๆ แต่ว่าเมืองที่ไม่มีภาคอุตสาหกรรมมากแบบนี้แหละถึงจะสามารถหลงเหลือความเป็นธรรมชาติให้ผู้คนที่มาหลงใหลได้ เมื่อมาถึงเมืองH ก็รู้สึกทันทีว่าอากาศที่นี่มันสดชื่นกว่าที่อื่นจริงๆ อีกอย่างท้องฟ้าก็สดใสปลอดโปร่งเอามาก
ไม่ได้ถูกเจือปนด้วยสารพิษต่างๆจากภาคอุตสาหกรรม ธรรมชาติที่นี่อากาศที่นี้ล้วนแล้วแต่บริสุทธิ์ทั้งสิ้น อีกอย่างยังรู้สึกอบอุ่นไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันทำให้ซินเหยารู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
ซินเหยาเมื่อมาถึงเมืองH ก็ตกหลุมรักเมืองที่ไม่ได้เป็นเมืองที่เจริญมากขนาดนั้นโดยทันที
ถึงแม้ความหรูหราโอ่อ่าจะเทียบไม่ได้กับเมืองใหญ่ๆ แต่มันให้ความสงบที่เมืองใหญ่ๆเหล่านั้นให้ไม่ได้ มันสามารถทำให้คนที่มาพักผ่อนที่นี่ละทิ้งความหนักอึ้งภายในจิตใจลงได้อย่างทันที
หลิวซื่อหรงถึงแม้จะมีตำแหน่งแค่เป็นคนที่รับผิดชอบบริษัท แต่งานของเขาก็ไม่น้อยทีเดียว
หลายวันที่ผ่านมาคนที่ไปสำรวจเมืองนี้กับซินเหยาและจิงเฉินก็เป็นคนที่มีคุณภาพโดยผ่านการคัดมาจากซื่อหรงทั้งสิ้น
ตลอดหลายวันตอนเช้าที่วนอยู่ในเมือง คนที่ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างเธอก็ทำให้ขาอันบางเรียวได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงแม้เมืองนี้จะมีธรรมชาติที่สุดแสนจะดี แต่คงไม่สามารถช่วยขาที่เจ็บของเธอตอนนี้ให้หายปวดได้
บางครั้ง ตอนเที่ยวมันเหนื่อยกว่าตอนทำงานเสียอีก
สุดท้ายก็ได้กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมแล้ว แต่ตอนนี้ความอยากอาหารกลับไม่มีแล้ว อีกอย่างกับข้าวในโรงแรมนี้สู้ฝีมือลูกชายลั่วหลิงลูกรักของเธอไม่ได้เลย เธอจึงรีบกินไปไม่กี่คำเพื่อให้อิ่มท้องเท่านั้น แล้วะจึงกลับห้องไปอาบน้ำและพักผ่อนเช้าๆ
เธอนอนไปได้สักพักก็สดุ้งตื่นขึ้น
เธอขยี้ตาไปมา ได้ยินเสียงเท้าเดินกำลังมุ่งมาทางที่เธออยู่
ตอนนี้ตัวเธอสั่นไปหมด ไม่รู้เป็นเพราะกลัว หรือว่าเป็นเพราะหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดแล้วลมเย็นโชยโบกเข้ามาในยามราตรีแล้วทำให้หนาว
แต่ว่า……ทำไม……
แม่เจ้า……เสียงเดินนี้มันเบาและยังมีจังหวะ……
ตึก……ตึก……ตึก…….ตึก……
เหมือนไม่ได้ฝันไปอยู่……
เสียงเดินมันเหมือนย้ำอยู่ในใจเธอ ดึกๆดื่นๆแบบนี้ เห็นชัดว่าเธออยู่คนเดียวแต่ทำไมกลับมีเสียงเดินเข้ามา นี่มันต้องเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ทำให้คนขนหัวลุกจริง
ถึงแม้ทุกครั้งซินเหยาจะเป็นเจ้าโง่ที่ใจกล้าตลอด แต่ครั้งนี้มันทำให้เธอกลัวจริงๆ
(เดี๋ยวนะ–ฉันสามารถบอกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักโดยนำเสนอแบบสยองขวัญ มาสักตอนเลยจ้า)
คนหรือผี?
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผีเธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี
บางครั้งคนยังน่ากลัวกว่าผีเสียอีก
ซินเหยาตอนนี้กลัวจนตัวเกร็งไปหมด เธอนอนอยู่บนเตียงโดยตัวออกเหงื่อเปียกโชก แค่หายใจเธอยังรู้สึกต้องค่อยๆระวัง
ตอนนี้สมองของซินเหยาประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าถ้าเป็นผีอย่างน้อยก็ดีกว่าเป็นคน ตอนที่เธออยู่ที่เมืองHนี้ก็ตามตูดจิงเฉินต้อยๆ ไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครสักหน่อย อีกอย่างเธอไม่เคยได้ยินว่าความปลอดภัยของเมืองนี้ไม่ดีนินา
เธอระวังอย่างมาก แต่เสียงเดินนั้นก็ยิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ……
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีสิ่งบางอย่างใกล้ชิดเธอมาก อีกอย่างเหมือนจะยังยื่นมือออกมา
มือจริงๆด้วย……
ทั้งตัวของซินเหยาตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อที่เปียกโชก หนึ่ง……สอง…….สาม……โอกาสมีแค่ครั้งเดียว……
เตรียมตัว……