ฮัลโหลฮัลโหล…..คนที่เมื่อคืนไม่ได้นอนควรจะเป็นเธอหรือป่าว? ทำไมดูไปดูมาจิงเฉินเหนื่อยกว่าเธอเสียอีก
ผู้หญิงสองคนที่นั่งตรงข้ามคะ พวกคุณมองผู้ชายแปลกหน้าอย่างไม่ละสายตาแบบนี้มันจะไม่เป็นไรจริงหรอคะ? ช่วยรบกวนกรุณานำสายตาเก็บเข้าไปด้วยค่ะ ลูกกะตามันจะทะลักออกมากระเด็นใส่ตัวของป๊ะป๋าของเธอแล้วค่ะ ไม่รู้เลยหรอค่ะว่าอะไรคือคำว่ากิริยาสำรวมของผู้หญิง?
ดูๆๆๆ…..ยังจะดูอีกนะ ซื้อบัตรคอนหน้าสุดหรือไงถึงได้จ้องขนาดนี้?
อีกอย่างหน้าของป๊ะป๋านั้นโดนหนังสือพิมพ์บังไว้นะ แล้วผู้หญิงสองคนนี้รู้ได้อย่างไงว่าป๊ะป๋ามีใบหน้าที่หล่อเหลาเอามาก
"เขาต้องมี8แพคแน่ๆ"
คุณผู้หญิงคะ เข้าสวมใส่ไว้เสื้อผ้าอยู่นะคะ คุณมีตาทิพย์หรอคะถึงรู้ว่าเขามี8แพค?
สิ่งที่น่าโมโหก็คือ ผู้หญิงพวกนี้พูดถูกว่าป๊ะป๋ามี8แพคที่เรียงสวยงามจริงๆ
"ฉันรู้ กล้ามตรงหน้าอกเขาก็น่าจะแข็งแกร่งไม่เบา หุ่นเขาแซ่บพริกยกสวนไปเลยจ้า"
ฮัลโหลลล……เธอมีตาทิพย์อีกแล้วหรอถึงรู้ว่ากล้ามหน้าอกของแข็งแกร่งไม่เบา?
จิงเฉินเป็นคนที่ถ้าใส่เสื้อผ้าแล้วดูรู้สึกมีแต่โครงกระดุก แต่ถ้าถอดเสื้อมาแล้วแน่นเนื้อแน่นอก มันดีจีจีน้าาา
ถ้าเกิดว่าเธอไม่เคยเห็นป๊ะป๋าถอดหมดเปลือกครั้งก่อน เธอคงไม่มีวันรู้แน่ว่าหุ่นของป๊ะป๋ามันเพอร์เฟคมากเพียงใด มันแซ่บถึงขั้นสามารถเอาไปเปรียบกับนายแบบพวกนั้นได้เลย แต่รู้สึกว่าป๊ะป๋ายังจะแซ่บกว่านายแบบพวกนั้นเสียอีก
ถึงคุณผู้หญิงพวกนั้นที่กำลังใช้ตาทิตย์ในการมองทะลุเสื้อของป๊ะป๋าอยู่นะคะ พวกคุณรู้หรือป่าวว่าการกระทำของพวกคุณในตอนี้มันไร้คุณธรรมมากเพียงใด หมดคำจะพูดจริงๆ ถ้าเกิดว่าพวกเขายังจะไม่หยุดการกระทำนี้อีก เธอไมสนแน่ว่าเธอจะต้องทำให้คนอื่นเข้าใจผิดมากเพียงใดโดยการลุกขึ้นมาและพูดว่า : "คุณผู้หญิงคะ แบ่งฉันกินด้วยสิคะ กินคนเดียวมันจะอ้วนตายเอาได้นะคะ กินเป็นหมู่มีความสุขกว่าเก็บไว้กินคนเดียวนะคะ"
"ดูขาเขาสิยาวมาก โอปป้ามากเวอร์" พูดออกมาอย่างไม่อายปาก
แม่เจ้า ชั้นBusiness class แคบๆแบบนี้ป๊ะป๋ายังไม่ได้เหยียดขาสุดนะ แล้วเธอรู้ได้ไงว่าตั้งแต่คอลงมาของป๊ะป๋ามันคือขา?
นังตัวดีสองคนนี้ไม่เพียงแต่คิดซกมกภายในหัวสมอง แต่ยังหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่กับป๊ะป๋าอย่างบ้าคลั่งอีก
"คุณผู้หญิงคะ สลับที่กับฉันได้หรือป่าวคะ ฉันอยากถ่ายรูปคู่กับผู้ชายที่นั่งข้างคุณหน่อยอ่ะค่ะ" นังผู้หญิงคนนั้นขอซินเหยาอย่างไม่อายปาก ถึงแม้ว่าจะเป็นการขอ แต่นำ้เสียงของเธอมันไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด อีกอย่างยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไรด้วย
เธออยากถ่ายก็ถ่ายงั้นหรอ? ป๊ะป๋ายังไม่ได้อนุญาติเลยนะ
พวกหนุษย์โง่เง่าพวกนี้ อยากจะมาทัดเทียมอยู่ในระดับเดียวกับป๊ะป๋า น่าขันสิ้นดี
มีปัญญามาถ่าย แต่มีปัญญาไม่แต่งรูปตัวเองได้หรือป่าวล่ะ? หึหึ
"ไม่ได้ค่ะ" ซินเหยาพูดเลียนแบบน้ำเสียงที่เย็นชาไร้ความรู้สึกเหมือนจิงเฉิน เธอพูดปฏิเสธได้อย่างฉะฉาน
"ทำไมล่ะ? เธอมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินแทนเขา" ผู้หญิงไม่อายหน้าถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
ซินเหยายิ้มเบาๆและพูดขึ้นว่า : "คุณถามว่าทำไมหรอคะ?"
เธอไม่ได้แกล้งผู้หญิงพวกนั้นเล่นนะ เธอแค่คิดเหตุผลที่จะพูดไม่ออก
คำพูดของเธอเมื่อกี้ บวกกับยิ้มเบาๆ มันทำให้คนที่เห็นหมั่นไส้จริงๆ
"งั้นเธอเป็นแฟนเขาหรอ" หญิงไม่อายหน้าถามขึ้นอย่างหัวร้อนเล็กน้อย
ซินเหยานิ่งเงียบไป5วิ เหตุผลที่ผู้หญิงนั่นให้มามันก็ไม่ได้ผิดนะ เธอผงกหัวรับอย่างเย็นชาสูงสง่า : "เขาเป็น……เจ้านายฉัน"
หญิงคนนั้นเมื่อได้ยินก็รู้ว่าหญ้ารสเลิศนี้มีเจ้าของแล้ว รู้สึกหงอยไปหน่อย
"หึ……หน้าตาก็หล่อหน่อยๆแค่นั้น หุ่นก็ดีหน่อยๆแค่นั้น ไม่เห็นจะดีอะไรมากมาย" หญิงคนนั้นแสยะปากเล็กน้อยและพูดกับเพื่อนอีกคนของตน
แม่เจ้า คุณผู้หญิงคะ ตอนนี้มันเป็นโลกที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกนะคะ
เบ้าหน้าฟ้าประทาน หุ่นและเส้นเลือดที่แสนจะโหดเหี้ยม มันไม่เห็นจะดีอะไรจริงๆหรอคะ?
ผู้หญิงที่ชอบเซลฟี่แต่ต้องผ่านเป็นร้อยแอพอย่างเธอไม่มีสิทธิมาพูดนะคะ
จิงเฉินที่ใบหน้าอันหล่อเหลาถูกปิดไปด้วยหนังสือพิมพ์อยู่ เมื่อได้ยินซินเหยาตอบกลับผู้หญิงพวกน้ัน มุมปากก็โค้งกว้างขึ้น มันทำให้เขาหล่อแบบถึงขั้นต้องคุกเข่าร้องไห้ขอรับประทานจริงๆ
เพียงแต่ซินเหยามัวแต่ต่อกรวาทะกับผู้หญิงพวกนั้น ไม่ทันที่จะเห็นฉากอันหล่อเหลานี้ของเขา
บินอยู่บนท้องฟ้าราวชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
ตอนที่จิงเฉินนำหนังสือพิมพ์ที่อยู่บนใบหน้าของตัวเองลงมา ผู้หญิงคนที่อยากถ่ายรูปกับเขาก็กำลังจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว น้ำลายเหมือนไหลย้อยยาวแปดศอก เหลือเพียงแต่ไม่ได้พุ่งตัวเข้าใส่จิงเฉินเพียงแค่อย่างเดียว
ซินเหยามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างภาคภูมิ : หึ……ใจสลายเมื่อเห็นความหล่อของป๊ะป๋าที่ไม่เคยถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มาก่อนล่ะสิ พวกมนุษย์โง่เขลา
ตอนที่ออกมาจากสนามบิน รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบของที่นี่ต่างจากเมืองBเอามาก
ความเจริญหูเจริญตาแตกต่างไป แต่ก็มีบรรยากาศที่เนิบๆสบายๆที่ต่างจากเมืองB จังหวะในการใช้ชีวิตของคนที่นี่เนิบๆกว่าที่เดิมไปเยอะมาก ไม่เหมือนเมืองBที่รถวิ่งไปวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง คนเดินไปเดินมาอย่างเบียดเสียด ที่นี่ให้ความรู้สึกที่สบายจริงๆ
ตอนนี้ป๊ะป๋าได้ล้มละลายไปแล้ว เธอเตรียมตัวเตรียมใจแล้วแหละว่าจะต้องนั่งรถขนส่งสาธารณะ
แต่ว่าตอนที่เดินออกมาจากสนามบิน รถหรูที่จอดเรียงรายรอยู่หน้าสนามบินอย่างเป็นระเบียบส่องแสงกระทบมาที่ตาซินเหยาเหมือนตาเธอจะบอดให้ได้ยังไงยังงั้น
ซินเหยามองไปที่รถหรูคันนั้น และมองไปที่จิงเฉิน
ตอนนี้จิงเฉินจนเป็นยาจก เห็นภาพที่มีความรวยอยู่ตรงหน้าเหมือนชีวิตคราวก่อนของตัวเองจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนกันเชียว?
เทพบุตรคนหนึ่งที่เมื่อก่อนมีทุกอย่างแต่ตอนนี้เหมือนตกสวรรค์ เห็นภาพแบบนี้แสดงอยู่ตรงหน้าของตัวเองคงจะต้องเศร้าและได้รับผลกระทบทางใจแน่ๆ
ซินเหยาคิดตลอดว่านี่เป็นจุดด้อยของเธอ เมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของป๊ะป๋าก็โกรธเขาไม่ลงตลอด
จากนั้นซินเหยาก็พูดปลอบใจจิงเฉินแบบอบอุ่นว่า : "ท่านประเยี่ยคะ รถพวกนี้เป็นรถที่ตอแหลหมดแหละค่ะ ยุคนี้คนตอแหลก็ต้องโดนฟ้าผ่านะคะ รถหรูเยอะขนาดนี้ จะมารับผู้นำของประเทศหรืออะไรกัน มันโอเวอร์ตอแหลเกินไป ขยะแขยงมาก……อิ้ววว"
"ท่านประธานเยี่ยและเลขาถังสวัสดีครับ ผมชื่อหลิวซื่อหรง เป็นหัวหน้าฝ่ายจัดการสาขาบริษัทเยี่ยหวงที่อยู่เมืองHครับ ผมเป็นตัวแทนของบริษัทในการตอนรับและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านประธานเยี่ยให้เกียรติมาเป็นหัวหน้าในการนำบริษัทของเรา ทางเราได้จัดเตรียมห้องพักโรงเเรมให้ท่านประธานแล้ว ท่านประธานจะไปพักผ่อนก่อน หรือว่าจะไปบริษัทเลยครับ" ชายอายุราว40ปลายๆพูดขึ้นตอนที่ซินเหยากำลังปลอบใจจิงเฉินอยู่ ท่าทางที่ดูเคารพเดินมาและก้มหัวลงเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้น
ซินเหยา : ……
แม่เจ้าเอ้ย! ไอ้จิงฉิงไอ้ทุเรศสารเลว
เพราะงั้นเธอถึงได้เกลียดคนหล่อเอามาก เพราะโลกนี้เป็นโลกที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอก ด่าคนว่าทุเรศก็เป็นสิ่งที่หยามกันเอามากแล้ว สุดท้ายตอนที่เธออยากด่าจิงเฉินว่าไอ้ทุเรศ ถึงแม้อกจะแตกเป็นเสี่ยงๆเพียงใดก็พูดคำว่าไอ้ทุเรศคำนี้ออกมาไม่ได้
MANGA DISCUSSION