จว๋อเหยียนไม่ได้คิดร้ายอะไรกับพวกเด็กๆเลย ทำไมเธอถึงต้องกลัวเด็กอายุ6ขวบนั่นด้วยหล่ะ ถึงแม้ว่าถ้าเด็กคนนี้จะมีความสามารถที่ปังปุริเย่มากกว่าพ่อของเขาเองตอนเขาโตขึ้น แต่ตอนนี้เขาก็ยังเล็กอยู่ ยังไม่ได้เป็นราชสีห์ร้ายกาจขนาดนั้น จะกลัวไปทำไม?
"สวัสดีค่ะลั่วหลิง หนูเป็นเด็กที่มหัศจรรย์อย่างที่เขาว่ามาจริงๆด้วยสินะคะ" รอยยิ้มบนใบหน้าของจว๋อเหยียนได้กลบเกลื่อนความเป็นธรรมชาติของเธอไป แต่ว่ามันก็ให้ความรู้สึกที่สนิทสนมกันขึ้นมาอีกนิด
ลั่วหลิงมองไปที่จว๋อเหยียนและพูดว่า : "ขอบคุณที่ชมครับ"
อาหารค่ำวันนี้เป็นฝีมือของจว๋อเหยียน เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ปลายจวักไม่น้อยไปกว่าใครเลย อาหารที่ทำออกมามันเลิศรสจริงๆ อีกอย่างเธอยังไม่ใส่วัตถุดิบที่พวกเด็กๆไม่ชอบ เพราะงั้นเข่อหลานตอนนี้แสดงสีหน้าความรู้สึกออกมาว่าชอบพี่สาวนางฟ้าคนนี้จริงๆ อีกอย่างเข่อหลานยังพูดออกมาตรงๆอีกว่าพี่สาวนางฟ้าทำอาหารได้อร่อยมากกว่าหม่ามี๊ของเธออีก
เพราะงั้นเรื่องของอาหารตอนที่ซินเหยาไม่อยู่ เข่อหลานก็ไม่ได้รู้สึกได้รับผลกระทบอะไรมากมาย
มิหนำซ้ำยังรู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่มีพี่สาวนางฟ้ามาดูแลเธอ
เป็นเด็กที่ห่วงแต่กินจริงๆ
คืนก่อนที่ซินเหยาจะไป เข่อหลานกับจว๋อเหยียนพูดคุยกันสนุกสนานจนนอนหลับไป
ในส่วนของลั่วหลิงนั้นก็ช่วยซินเหยาจัดกระเป๋าเดินทางต่างๆ นำของที่จำเป็นแยกประเภทจัดไว้ในกระเป๋าอย่างเป็นระเบียบ พอถึงตอนที่จะใช้ก็จะได้สะดวกตอนหยิบจับ
ของทุกอย่างจัดใส่ไว้ในกระเป๋าอย่างพอดิบพอดี และน้ำหนักของกระเป๋าที่จะเอาไปโหลดก็ไม่ได้เกินที่สายการบินกำหนดด้วย
ซินเหยาเพียงแค่นั่งเฉยๆและมาร์กหน้าอย่างฉ่ำๆ ปล่อยให้ลูกชายของเธอจัดการเรื่องกระเป๋าไป
ซินเหยาเธอคิดว่าชาติที่แล้วเธอต้องช่วยจักรวาลจากหายนะเอาไว้แน่ ชาตินี้เธอถึงได้มีลูกชายที่เก่งทำเป็นทุกอย่างอย่างลั่วหลิง และลูกสาวที่น่ารักปากหวานอย่างเข่อหลาน
"หม่ามี๊ครับ ของทุกอย่างผมจัดให้หม่ามี๊หมดแล้ว ของทุกอย่างที่หม่ามี๊ต้องการสามารถหาได้จากในกระเป๋านี้นะครับ" ลั่วหลิงพูดพร้อมปิดกระเป๋าเดินทางลง
ของทุกอย่างในกระเป๋าเดินทางใบนี้เป็นลั่วหลิงที่เป็นคนจัดให้เธอเอง รวมถึงเสื้อผ้าที่จะใส่แมตช์กันเขาก็จัดการได้อย่างเรียบร้อยสวยงาม วางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ ตอนจะใส่ก็แค่นำออกมาก็ใส่ได้เลย
"โอเครแล้วครับ พรุ่งนี้หม่ามี๊ต้องตื่นแต่เช้า พักผ่อนเถอะครับ" ลั่วหลิงพูด
ซินเหยาแกะที่มาร์กหน้าออกหนึ่งครึ่งและกอดไปที่ลั่วหลิง
ไอ้เด็กคนนี้ทำไมรักหม่ามี๊แบบนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกตอนนี้ตัวเองจะดราม่ายังไงยังงั้น และพูดกับลั่วหลิงว่า : "ลูกรัก หนูเป็นลูกที่ดีมากๆ หนูกับน้องเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของหม่ามี๊ มันแพงเสียยิ่งกว่าชีวิตของหม่ามี๊เสียอีก ความสุขทั้งชีวิตของหม่ามี๊ก็คือการได้เป็นหม่ามี๊ของพวกหนู หม่ามี๊รักหนูมากๆนะ"
ร่างกายของลั่วหลิงตอนนี้รู้สึกเกร็งๆขึ้น แต่ว่าไม่นานก็อ่อนเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม
ลั่วหลิงรู้สึกเก้ๆกังๆในการยกมือขึ้นและกอดไปที่เอวของซินเหยา และพูดว่า : "ผมก็รักหม่ามี๊และน้องครับ"
หลังจากที่ได้ความรักจากลูกชายเธอ ใจของซินเหยาตอนนี้ก็บานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่กำลังส่งกลิ่นหอมอยู่ภายในใจ
ลั่วหลิงค่อยๆควักนาฬิกาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของตัวเองออกมา นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้เป็นแบรดน์อะไร แต่มันทำออกมาค่อนข้างจะสวยประณีตละเอียดมาก และพูดว่า : "นี่คือของขวัญที่ผมซื้อให้เป็นพิเศษ ผมกับน้องต่างก็มีกันคนละเรือนครับ"
ที่แท้ก็เป็นนาฬิกาครอบครัวนี่เอง แม่ลูกลูกต่างมีคนละเรือน มันคูลมากจริงๆ
ซินเหยายื่นมือออกมา จากนั้นลั่วหลิงก็สวมนาฬิกาเรือนนั้นให้เธอ
นาฬิกาสีเงินนี้สวยมาก มันทำให้สีผิวขาวใสของซินเหยาดูโดดเด่นเปร่งประกายขึ้นเอามาก อีกอย่างสีเงินเป็นสีที่คลาสสิค ไม่มีทางจะตกยุคแน่นอน นาฬิกาเรือนนี้มันเหมาะกับซินเหยาทุกอย่าง ยังเข้ากับสไตล์เสื้อผ้าของเธอ ลั่วหลิงต้องเอาใจใส่ในการหาซื้อในครั้งนี้มากแน่ๆ
วันต่อมาตอนที่ฟ้ายังไม่ทันจะสว่าง ซินเหยาก็ออกไปแล้ว
ก่อนที่เธอจะไป ได้ต้มโจ๊กและทำเครปจีนให้เข่อหลานลั่วหลิงและจว๋อเหยียนอีกด้วย
หลายปีที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่เคยจากลูกน้อยของเธอไปไหนไกลๆแบบนี้เลย รอบนี้จำเป็นต้องจากมันทำให้ซินเหยารู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอกลัวมากถ้าเธอเห็นหน้าลูกน้อยของเธอเสียก่อนจะทำให้เธอทำใจไม่ได้ที่จะไป เพราะงั้นจึงต้องชิงออกบ้านเสียก่อนที่ลูกน้อยของเธอจะตื่นมา
ซินเหยาถอนหายใจไปเฮือกใหญ่ ปิดประตูบ้านและเดินจากไป
เธอไม่รู้ว่าตอนที่ประตูบ้านกำลังปิดลง ประตูห้องของลั่วหลิงและเข่อหลานต่างก็เปิดไว้แล้ว
สายตาของเข่อหลานที่เต็มไปด้วยน้ำที่กลิ้งไปกลิ้งมา ลั่วหลิงไม่พูดอะไร แต่ภายในตาเต็มไปด้วยความไม่อยากให้หม่ามี๊ไป
"พี่คะ หนูไม่อยากให้หม่ามี๊ไปค่ะ หนูคิดถึงหม่ามี๊" เข่อหลานจับไว้ปลายเสื้อด้านหลังของลั่วหลิงและพูดขึ้นอย่างเบาๆ
"หม่ามี๊ไปทำงาน ไม่นานก็กลับมาแล้ว" ลั่วหลิงลูบไปบนหัวของเข่อหลาน จากนั้นจับมือเข่อหลานและวิ่งไปที่ระเบียง จากนั้นนำเก้าอี้มาตั้งไว้และปืนขึ้นไปดู สายตาที่ดูละห้อยมองไปที่ข้างล่าง และลั่วหลิงพูดว่า : "พวกเราสามารถที่จะส่งหม่ามี๊ตรงนี้ได้"
ความจริงตรงนี้คือชั้นที่19 มองลงไปข้างล่างก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดี
แต่ว่ายืนอยู่ตรงนี้ก็ทำให้พวกเขาสบายใจแล้ว
คนที่ไม่สามารถกลั้นอารมณ์ไว้ได้คงจะเป็นซินเหยามากกว่า
แค่ไม่อยากให้ซินเหยารู้สึกเศร้าไป ลั่วหลิงและเข่อหลานต่างก็ไม่ได้แสดงความรู้สึดอาลัยอาวรออกมา เพียงแต่เก็บซ่อนอยู่ภายในจิตใจ
ซินเหยาเรียกรถมาคันหนึ่ง และมุ่งหน้าไปสนามบิน
ซินเหยาเห็นจิงเฉินที่ใส่ชุดสูทสีดำอย่างหล่อบาดใจ หล่อแบบวัวตายควายล้ม แต่ว่าวันนี้ซินเหยารู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก
เธอคิดกับตัวเองว่าเธอน่าจะไม่ปกติ
ไม่งั้นทำไมถึงเห็นผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ถึงไม่กระโดนเข้าใส่หล่ะ?
"ทำไม? เห็นหน้าผมแล้วอารมณ์ไม่ดี?" จิงเฉินเห็นซินเหยาอารมณ์ไม่จอยนัก จึงเหล่ตามองไปถาม
ป๊ะป๋า ตาของคุณมีไว้แค่เพื่อดูหล่อดูน่าดึงดูดคนแค่นั้นหรอ?
เห็นอยู่จะๆว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยจะดีก็ยังจะถาม จะทำงานด้วยกันอย่างมีความสุขได้ไหมทีนี้?
"ไม่ใช่หนิคะ เพียงแค่คิดว่าจะได้ออกไปทำงานนอกสถานที่กับเทพบุตรที่สุดแสนจะหล่ออย่างท่านประธาน เมื่อคืนจึงทำเอาฉันนอนไม่หลับไปทั้งคืน เพราะงั้นสีหน้าคร่าตาวันนั้นถึงได้ดูไม่ค่อยสดชื่นดีนัก" ซินเหยายิ้มมุมปากเห็นลักยิ้มอันมีเสน่ห์ประจำตัวเธอออกมา
"ไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้องยิ้ม มันดูน่าเกลียด" พูดเสร็จก็ลากกระเป๋าซินเหยาไปและเดินนำไปข้างหน้า
ฮัลโลล……ป๊ะป๋า ถอนคำพูดเมื่อกี้เดี๋ยวนี้นะ ถ้าถอน อีกหน่อยยังนับว่าเป็นเพื่อนกันได้
ซินเหยาได้เชื่อแล้วว่าจิงเฉินล้มละลายจริงๆ แต่ว่าตอนที่ขึ้นไปถึงบนเครื่องบินก็เชื่ออย่างสนิทใจขึ้นไปอีกว่าเขาล้มละลายจริงๆ
ปกติในซีรี่ย์นักธุรกิจพันล้านเวลาออกไปทำงานข้างนอกต่างก็มีเครื่องบินส่วนตัว ถึงแม้จะไม่มี ก็คงจะต้องนั่งชั้นFirsr class แต่คิดไม่ถึงเลยว่าท่านประธานและเลขาชั่วคราวของเขาต้องนั่งชั้นBusiness class ไป
นิสัยอย่างท่านประธานเยี่ยคนนี้มันต่างจากคนอื่นเสียจริงๆ
เธอกับเขาคงเป็นท่านประธานและเลขาที่ยาจกมากที่สุดในโลก
ข้อดีของซินเหยานั้นคือสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ตลอด ที่จริงชั้นBusiness classสำรับเธอแล้วนั้นก็พอใจแล้ว
ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ท่านประธานของเธอนั้นล้มละลายแล้ว ไม่ให้เธอไปนั่งเบียดบนรถเมล์มันก็ดีแค่ไหนแล้ว
เมื่อจิงเฉินขึ้นไปถึงบนเครื่อง ก็นำกระดาษหนังสือพิมพ์ปิดไปที่หน้าของตัวเองทั้งแผ่น มันรู้สึกเซ็กซี่มาก มันทำให้คนคิดมิดีมิร้ายจริงๆ เหมือนกับว่าเขากำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่
MANGA DISCUSSION