"เข่อหลานกับลั่วหลิงยังเล็กขนาดนี้ เธอไว้วางใจได้หรอว่าจะปล่อยลูกของตัวเองให้คนอื่นดูแล" เหยียนฉีถาม
"อืม เพราะงั้นฉันจึงบอกให้เธอหาคนที่ไว้ใจให้สักคนไงหล่ะ" ซินเหยาพูดขึ้นต่อว่า : "เธอก็รู้ว่าผู้หญิงตัวน้อยๆที่เสียสามีไปอย่างฉันต้องใช้ชีวิตลำบากมากเพียงไหน ถ้าเกิดว่าฉันไม่ทุ่มเทตั้งใจทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูลูกน้อยสองคนของฉันล่ะ"
"รู้แล้วหน่า ไปไกลๆได้ล่ะ" เหยียนฉีเมื่อได้ฟังซินเหยาพูดเสร็จก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที และรู้สึกลำไยมากที่ได้ยินเช่นนั้น
"นังแม่มด……"
ทันใดนั้น มีมือที่นุ่มอ่อนเหมือนกับไม่มีกระดูกปานนั้นได้พาดไปที่ไหล่ของเหยียนฉี เหยียนฉีเพียงแค่มองไปด้วยสายตาอันเย็นชา
"พี่เหยียนฉีคะ เมื่อกี้เห็นพี่ดื่มเหล้าไปหลายแก้วแล้ว นี่เป็นเครื่องดื่มส่างเมาที่หนูเตรียมมาให้พี่ค่ะ ดื่มแล้วจะรู้สึกดีขึ้น" เสียงนุ่มนวลจากที่ที่หนึ่งดังขึ้น
เมื่อเหยียนฉีเธอหันหัวไปก็เห็นจว๋อเหยียนยืนอยู่ข้างหลังแล้ว สีหน้าของเหยียนฉีที่ดูไม่ได้เมื่อกี้ก็อบอุ่นขึ้นมาทันตาเห็น
"เธอมาได้ไงเนี่ย?" เหยียนฉียื่นมือรับเครื่องดื่มนั้นไปและดื่มมันไปหนึ่งกึกเพื่อลงไปล้างความสับสนที่แทรกอยู่ในทรวงอกของตัวเอง
"หนูรู้สึกเป็นห่วงพี่ค่ะ" จว๋อเหยียนมองดูเหยียนฉีด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไร วางใจเถอะ เธอเป็นนักแสดงในสังกัดพี่ เรื่องดื่มพวกนี้พี่จัดการเอง เธอรับผิดขชอบแค่ร้องเพลงแสดงละครให้ดีๆก็พอแล้ว" เหยียนฉีพูดกับจว๋อเหยียนด้วยความจริงจัง
จว๋อเหยียนตอนนี้เพียงแค่ยิ้มออกมาแสดงให้เห็นถึงแก้มป๋องอันน่ารักของเธอ และพูดว่า : "ขอบคุณพี่มากนะคะ"
คำว่าพี่คำนี้ที่เธอเรียกออกมานั้นมันมาจากความจริงใจจริงๆของเธอ วงการบันเทิงก็เปรียบเสมือนแจกันสีแดงสด ถ้าเกิดไม่มีคนที่คอยปกป้องล่ะก็ อย่าวังว่าจะหลงเหลือรอดความใสสะอาด โชคดีนะที่ครั้งนี้คนที่เธอเจอคือเหยียนฉี เรื่องที่เกิดเมื่อก่อนก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
"อื่ม เธอเข้าไปก่อนเถอะ" จากนั้นเหยียนฉีจึงหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาและโทรหาผู้ช่วยของเธอ : เจี่ยงๆ เธอช่วยหาป้าแม่บ้านคนหนึ่งที่ไว้ใจได้ให้ฉันได้หรือป่าว ดีที่สุดคือเคยมีประสบการณ์ดูแลเด็กมาก่อน ต้องสามารถดูแลลูกชายและลูกสาวบุญธรรมฉันได้ ต้องไม่ทำให้พวกเขาได้รับอันตรายใดๆเป็นอันขาด
จว๋อเหยียนเมื่อได้ยินที่เหยียนฉีพูด ลูกชายและลูกสาวบุญธรรม?
แววตาของจว๋อเหยียนประกายขึ้น เมื่อรอให้เหยียนฉีวางหูจึงได้ยิ้มขึ้นอ่อนๆพร้อมพูดขึ้นว่า : "พี่เหยียนฉีคะ ถ้าพี่มีเด็กๆให้ต้องดูแลหนูสามารถดูแลให้ได้นะคะ"
"ไม่ต้องหล่ะ" เหยียนฉีส่ายหน้าปฏิเสธ
"พี่เหยียนฉีวางใจได้เลย หนูจะดูแลเด็กๆพวกนั้นอย่างดีเลย เพราะตอนนี้ละครที่ต้องเล่นก็ถ่ายหมดแล้ว ครึ่งเดือนต่อมาก็ไม่มีแพลนอะไร ถ้าเกิดหาคนที่สนิทไม่เจอ ก็ให้หนูไปดูแลแทนดีกว่าค่ะ" จว๋อเหยียนพยายามควบคุมสติของตนเอง พยายามให้ตัวเองดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ต้องไม่ให้คนอื่นเห็นว่าเธอรีบร้อนมากเพียงใด
เหยียนฉีรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ความจริงเธอก็ค่อนข้างไว้ใจจว๋อเหยียน
จว๋อเหยียนกับเธอพึ่งเซ็นต์สัญญาร่วมงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ถึงแม้เธออายุจะไม่มาก แต่ก็เป็นคนที่ค่อนข้างควบคุมอารมณ์ให้คงที่ได้ ดูมีวุฒิภาวะมากกว่าคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่เคยจะดีใจหรือเสียใจเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นจนเกินไป มันเป็นจุดเด่นในตัวเธอเลยแหละ
"ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงหนูเคยเป็นครูดูแลเด็กมาก่อนค่ะ หนูชอบเด็กมากเลยนะคะ พี่เหยียนฉีคะได้โปรดให้โอกาสในการย้อนความทรงจำของหนูอีกสักครั้งนะคะ" จว๋อเหยียนยังยืนยันอีกว่า "หนูรับประกันค่ะว่าหนูจะดูแลเด็กๆอย่างดีให้ขาวใสอุดมสมบูรณ์ ถ้าเกิดขนพวกเขาหายไปแม้แต่เส้นเดียวสามารถมาคิดบัญชีกับหนูได้เลยค่ะ"
"ก็ได้ งั้นก็รบกวนเธอหน่อยนะ" เหยียนฉีหัวเราะขึ้นพร้อมตอบรับ
"หนูยังไม่รู้เลยค่ะว่าเด็กสองคนนี้ชื่ออะไรกัน?" จว๋อเหยียนพยายามเก็บซ่อนความตื่นเต้นของตนเองไว้ในจิตใจ
"อ๋อ พวกเขาเป็นแฝดชายหญิงหน่ะ พี่ชายชื่อลั่วหลิง เป็นเด็กที่ฉลาดและสุขุมมาก; ส่วนน้องสาวชื่อเข่อหลาน เป็นเด็กที่ค่อนข้างสวยและน่ารัก ปากยังหวานอีกต่างหาก เด็กสองคนนี้เวลาไปที่ไหนใครเห็นเป็นต้องรัก และค่อนข้างที่จะเชื่อฟัง" เมื่อเหยียนฉีคิดถึงลั่วหลิงและเข่อหลานแล้ว รอยยิ้มที่มุมปากก็ดูมีความสุขขึ้นไปหลายเท่า
สำหรับลั่วหลิงและเข่อหลาน เหยียนฉีปลื้มเด็กสองคนนี้เอามาก
"เอาหล่ะ วันนี้เป็นละครบทใหม่ของเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องคุ้นชินอะไรมากมาย แต่ว่าอย่าลืมว่าตัวเองยังเป็นนักแสดงหลัก ลาตำแหน่งของตัวเองไปนานๆมันจะไม่ดี" เหยียนฉีพูด
ตอนนี้จว๋อเหยียนตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมดแล้ว แต่ว่าตอนที่เหยียนฉีหันหลังเดินกลับไปที่ห้องของตนเองไม่ทันสังเกตว่าจว๋อเหยียนมีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม
ตอนที่ซินเหยาเห็นจว๋อเหยียนแว๊บแรกก็รู้สึกดีใจเอามาก
นี่มันเป็นระดับดาราเลยนะ ดาราตัวเป็นๆเลยนะ
ตัวจริงนอกจอของจว๋อเหยียนมันดูละมุนมากกว่าในจอเสียอีก ใบหน้าที่ดูหน้ารักเหมือนตุ๊กตา รอยยิ้มที่หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า อีกอย่างยังค่อนข้างจะร่าเริงและเฟรนลี่ พูดง่ายๆก็คือสาวข้างบ้านสักแห่งที่สวยกว่าผู้หญิงธรรมดาเอามากๆ
ความรู้สึกภาพแรกที่จว๋อเหยียนให้ต่อซินเหยามันดีมากจริงๆ
จว๋อเหยียนไม่มีนิสัยที่ดูเย่อหยิ่งเย็นชาเหมือนดาราดังพวกนั้นเลย แต่กลับดูเป็นคนอ่อนน้อมมีมารยามเอามากแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ซินเหยารู้สึกลำไยด้วย
"คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของพี่เหยียนฉีสินะคะ ฉันได้ยินพี่เหยียนฉีพูดถึงคุณบ่อยๆ เมื่อเห็นคุณครั้งแรกฉันก็รู้สึกคุ้นเคยกับคุณอย่างบอกไม่ถูก ฉันสามารถเรียกคุณว่าพี่ซินเหยาได้หรือป่าวคะ?" จว๋อเหยียนยิ้มออกมาอย่างเปิดกว้าง และยังยิ้มแบบหวานฉ่ำดูสนิทสนมอีกด้วย
"ได้สิ" ซินเหยาไม่ได้รู้สึกไม่ชอบจว๋อเหยียนเลย
อีกอย่างยังชอบตัวละครที่จว๋อเหยียนเล่นอีกต่างหาก จึงทำให้เธอก็รู้สึกสนิทสนมกับจว๋อเหยียนบ้าง
"พี่ซินเหยาคะ พี่สามารถเรียกฉันว่าเหยียนๆได้นะคะ" จว๋อเหยียนพูดออกมาอย่างจริงใจ : "พี่เหยียนฉีก็สวยอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าเพื่อนของพี่เขาก็สวยเหมือนกัน ปกติหนูไม่กล้าที่จะยืนข้างๆพี่เหยียนฉีเลยค่ะ เพราะคนที่ไม่รู้จักหนูจะคิดไปหมดเลยว่าพี่เหยียนฉีเป็นดารา และหนูเป็นผู้จัดการเขา ตอนนี้หนูอยู่หน้าของพี่ซินเหยาแล้ว หนูคงจะต้องเป็นผู้จัดการจริงๆแล้วล่ะค่ะ รู้สึกว่าไม่มีพื้นที่ให้หนูยืนอีกแล้ว"
ซินเหยาโดนจว๋อเหยียนพูดแกล้งจนหัวเราะออกมาอยู่พักใหญ่
เมื่อเข่อหลานเห็นจว๋อเหยียนแล้วก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน พร้อมดึงชายกระโปรงของจว๋อเหยียนแล้วพูดว่า : "พี่สาวนางฟ้าคะ ทำไมพี่ถึงมาอยู่บ้านหนูได้ล่ะคะ"
บทนางฟ้าคือตัวละครที่จว๋อเหยียนเล่นไปครั้งก่อน ถึงแม้บทจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ดูโดดเด่นเอามาก
บทนางฟ้าที่เธอแสดงนั้นมันทำให้เข่อหลานลืมไม่ลงเลยจริงๆ
"ที่พี่สาวนางฟ้ามาหาก็เพราะจะมาดูว่าเข่อหลานอยู่บ้านเชื่อฟังหรือป่าว" จว๋อเหยียนก้มตัวลงและมองไปที่เข่อหลานในระดับสายตาเดียวกัน สายตาคู่นั้นมันเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ และอมยิ้มพร้อมมองไปที่เข่อหลาน
เข่อหลานรู้สึกตกใจมาก มองไปที่จว๋อเหยียนด้วยดวงตาที่เบิกใหญ่ขึ้นและถามว่า "พี่สาวนางฟ้ารู้ได้ไงคะว่าหนูชื่อเข่อหลาน?"
"เพราะพี่เป็นนางฟ้านะสิ" จว๋อเหยียนพูดขึ้นและกระพริบตาข้างหนึ่งให้เข่อหลาน
เข่อหลานเมื่อเห็นก็ได้ยิ้มหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
จว๋อเหยียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่ลั่วหลิงที่สายตาเต็มไปด้วยสีดำและความลึกลับ เหมือนมีสิ่งอันใดซ่อนอยู่ภายใต้สายตาคู่นี้
รอยยิ้มของเธอค่อยๆที่จะเลือนหายไป ตอนนี้เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว มันรู้สึกไม่กล้าที่จะสบตามองไปที่ลั่วหลิงอีก เพราะสายตานั้นมันทำให้เธอรู้สึกกลัวและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
"สวัสดีครับพี่สาวนางฟ้า ผมคือพี่ชายของเข่อหลาน ผมชื่อลั่วหลิง" ลั่วหลิงพูดกับจว๋อเหยียนด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเย็นชาตามสไตล์ของเขา
เสียงอันเย็นชาของลั่วหลิงทำให้เธอนิ่งเหม่อไปพักใหญ่ สุดท้ายก็ทำให้เธอกลับมามีสติอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION