ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 245 พบเห็น
ตอนที่ 245 พบเห็น
เสี่ยวชีกำลังรู้สึกผิดจึงเสนอตัวทำแผลให้ลั่วเฉินอย่างกระตือรือร้น “เถ้าแก่ ข้ามีประสบการณ์จริงๆ! เมื่อก่อนพี่ใหญ่ข้ามักพาข้าลงเขาไปแอบขโมยแตงบ่อยๆ มีครั้งหนึ่งพี่ใหญ่ถูกคนเฝ้าแตงเอาเคียวฟันเข้าที่ก้นจนเลือดออกเต็มไปหมด ก็เป็นข้านี่แหละที่ทำแผลให้พี่ใหญ่”
พอเอ่ยถึงตรงนี้เสี่ยวชียังใช้ข้อศอกถองชายมีหนวดทีหนึ่ง “ใช่หรือไม่ พี่ใหญ่”
ชายมีหนวดหน้าตาเขียวคล้ำ กัดฟันพยักหน้า
หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาคงตีเจ้าเด็กนี่จนตายไปแล้ว!
ลั่วเซิงยังคงไม่วางใจ “สถานการณ์ไม่เหมือนกัน กิ่งไม้ยังปักอยู่ในเนื้อ…”
เสี่ยวชีรีบบอกว่า “ยังมีอีกครั้งหนึ่ง พี่ใหญ่ข้าพาข้าไปขโมยไก่…”
“หุบปากได้แล้ว!” ชายมีหนวดตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วจึงหันไปส่งยิ้มแหยๆ ให้ลั่วเซิง “เถ้าแก่ เสี่ยวชีมีประสบการณ์จริงๆ”
หากให้เสี่ยวชีพูดต่อไป เขาคงไม่มีหน้าไปพบเจอใครแล้ว
พอเห็นชายมีหนวดเอ่ยเช่นนี้ ลั่วเซิงจึงหันไปมองลั่วเฉิน
การทำแผลภายนอกไม่ได้มีความยากอะไรจริงๆ หัวใจสำคัญอยู่ที่ยาที่ใช้ และเมื่อเป็นยาของหมอเทวดาหลี่จึงยิ่งไม่น่ามีอะไรให้กังวล
ลั่วเฉินเม้มปากแน่น ไม่ได้ว่าอะไร
ลั่วเซิงที่เข้าใจนิสัยประหลาดของเด็กหนุ่มแล้วจึงเข้าใจความหมายของเขา นี่เท่ากับตอบตกลงแล้ว
“เช่นนั้นพวกเราออกไปแล้วนะ”
ลั่วเฉินยังคงไม่ว่าอะไร
รู้สึกว่าหากเขาพูดอะไรจะยิ่งดูว่าเขายินดีให้เสี่ยวชีทำแผลให้เขาอย่างไรอย่างนั้น
อันที่จริงเขารำคาญเจ้าทึ่มที่แค่ปีนไปเด็ดลูกพลับยังตกลงมาได้จะแย่อยู่แล้ว
“เสี่ยวชี เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว” ลั่วเซิงหันไปส่งยิ้มให้เสี่ยวชี
เสี่ยวชีคลี่ยิ้ม “เถ้าแก่อย่าได้เกรงใจไป เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”
ลั่วเฉินได้ยินก็หน้าตาดำคล้ำก่อนแค่นเสียงเย็นเอ่ย “พูดพอรึยัง”
เสี่ยวชีรีบปิดปากพยักหน้า
คนอื่นๆ ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเด็กหนุ่มสองคนอยู่ในห้อง
“คุณชายลั่ว เช่นนั้นข้าดึงกางเกงท่านลงมาก่อนนะ” สำหรับเสี่ยวชีที่เกิดมาเป็นโจรป่า เรื่องนี้ไม่ถือเป็นสาระสำคัญอะไร น้ำเสียงจึงไม่มีเก้อเขินสักนิด
ลั่วเฉินพลันหน้าร้อนฉ่า เอ่ยอย่างหัวเสียว่า “เจ้าอย่าพูดมากเพียงนี้จะได้หรือไม่”
ทำแผลไปเงียบๆ ไม่ได้หรือ
“เช่นนั้นข้าไม่พูดแล้ว” เสี่ยวชีถอดกางเกงลั่วเฉินด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนที่สายตาจะหยุดมองไปที่จุดหนึ่ง
เพราะไม่เห็นอีกฝ่ายจะทำอะไรเสียที ลั่วเฉินเลยถามอย่างทนไม่ไหว “เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ”
กิ่งไม้ยังทิ่มคาเนื้อเขาอยู่เลยนะ เขาเจ็บอยู่เนี่ย!
“คุณชายลั่ว ข้าพูดได้หรือยัง”
เดิมทีท่าทีที่เสี่ยวชีมีต่อลั่วเฉินไม่ได้เกรงกลัวเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะกันเพราะลูกพลับเดือนหกลูกนั้น แต่เวลานี้ลั่วเฉินบาดเจ็บเพราะช่วยตน ด้วยความรู้สึกผิดทุกอย่างย่อมต่างออกไป
“อยากให้ข้าไล่เจ้าออกไปหรือ”
เสี่ยวชีลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความงุนงงว่า “เช่นนั้นข้าพูดได้แล้วหรือยังพูดไม่ได้หรือ”
ลั่วเฉินนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะตอบออกมาว่า “แล้วแต่เจ้า!”
เสี่ยวชีถอนหายใจยาว ตอบคำถามเมื่อครู่ของลั่วเฉิน “คุณชายลั่ว ข้าเห็นว่าที่ก้นท่านมีรอยแผลเป็นอยู่รอยหนึ่ง”
ช่างน่าประหลาด ตำแหน่งใกล้เคียงกับรอยแผลเป็นที่ก้นของเขาเลย
ลั่วเฉินไม่พอใจ “หากยังมองไปเรื่อยอีกก็ไสหัวออกไปซะ”
“ข้าไม่ได้ตั้งใจอยากจะมอง… เช่นนั้นท่านทนหน่อย ข้าจะดึงกิ่งไม้แล้วนะ”
เขาแค่รู้สึกว่าบังเอิญเกินไปเลยตกใจนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้อยากจะมองเสียหน่อย
อีกอย่างเป็นบุรุษด้วยกันทั้งนั้น มีอะไรน่ามองกัน
เสี่ยวชีดึงกิ่งไม้ออกอย่างคล่องแคล่ว
ลั่วเฉินครางเสียงขรึม เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นเต็มหลัง แต่กลับไม่ส่งเสียงร้อง
เสี่ยวชีนับถือเขายิ่งนัก “คุณชายลั่ว ท่านใจเด็ดมาก…”
“หุบปาก!” ลั่วเฉินตะคอกเสียงเบาทีหนึ่ง ในใจมีแต่ความเสียใจเป็นหมื่นครั้ง
หากรู้แต่แรกว่าเจ้าเด็กดำนี่พูดมากเพียงนี้ สู้ให้ลั่วเซิงมาทำให้ยังดีเสียกว่า
ไม่สิ ลั่วเซิงก็ยังไม่ได้ น่าจะให้ญาติผู้พี่มาทำให้…
เด็กหนุ่มนอนคว่ำอยู่บนตั่ง ข่มความเจ็บเถียงกับตนเองในหัว
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเย็นวาบ ความเจ็บพลันมลายหายไปมาก
เสี่ยวชีระบายยิ้ม “ทำแผลเสร็จแล้ว คุณชายลั่ว ท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่”
“ออกไป” ลั่วเฉินไม่อยากเสียเวลาพูดกับเจ้าเด็กดำนี่อีก
“เช่นนั้นท่านก็พักผ่อนดีๆ นะ” เสี่ยวชีหมุนตัวเดินไปสองก้าวแล้วจู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงหยิบผลลูกพลับสีแดงสดจากอกเสื้อมาวางไว้ที่หัวเตียง
ลั่วเฉินมองลูกพลับแล้วเหลือบมองเด็กหนุ่มหน้าดำนั่นอีกครั้ง
เสี่ยวชีหัวเราะแหะๆ “ตอนตกลงมาข้ากอดลูกพลับเอาไว้ เลยไม่ช้ำ”
ลั่วเฉิน “…”
เดิมทีไม่ได้โกรธถึงเพียงนั้น มาตอนนี้กลับหัวเสียหนักกว่าเดิม!
ลูกพลับไม่ช้ำ แต่ก้นเขาช้ำไปหมดแล้ว
“ท่านอย่าลืมชิมนะ ลูกพลับที่อยู่สูงที่สุดต้องหวานมากแน่” เสี่ยวชีกำชับเสร็จถึงได้เดินออกไป
ลั่วเฉินมองลูกพลับลูกนั้นด้วยสายตาดุดัน
หวานกว่านี้เขาก็ไม่กินหรอก เมื่อกี้ตอนเสี่ยวชีทำแผลให้เขายังไม่ได้ล้างมือด้วย!
เมื่อคิดเช่นนี้เลยยิ่งหัวเสียหนักที่ต้องเจ็บตัวเพราะช่วยคนเช่นนี้
ลั่วเฉินนอนหงุดหงิดอยู่ในห้อง เสี่ยวชีเดินออกไปด้วยความสบายใจ
“เถ้าแก่ ข้าทำแผลเสร็จแล้ว”
ลั่วเซิงอมยิ้มพลางพยักหน้า “ลำบากเจ้าแล้ว อาซิ่ว เจ้าพาเสี่ยวชีไปกินข้าวเถิด”
เสี่ยวชีอยู่ในวัยกำลังโต จะปล่อยให้หิวไม่ได้
“เสี่ยวชี ไปกันเถิด” ซิ่วเย่ว์ตบแขนเสี่ยวชี
พอได้ยินว่ามีของให้กิน เสี่ยวชีก็ตามซิ่วเย่ว์ไปทันที
ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะกินบะหมี่พะโล้รองท้องไปแล้ว แต่หลังจากตกใจติดต่อกันหลายครั้งเลยย่อยหายไปหมด
ลั่วเซิงเคาะประตู “ลั่วเฉิน ข้าเข้าไปแล้วนะ”
รออยู่พักหนึ่งด้านในถึงมีเสียงดังมาว่า “อืม”
ลั่วเซิงผลักประตูเข้าไป เห็นเด็กหนุ่มนอนคว่ำหน้าซีดอยู่บนตั่ง บนตัวมีผ้าไหมผืนบางห่มอยู่ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
“เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”
เด็กหนุ่มหน้าบึ้ง “ไม่ถามได้หรือไม่”
เป็นแผลที่ก้น นอกจากเจ็บกับขายหน้าแล้วยังจะรู้สึกอะไรได้อีก
ลั่วเซิงยกมุมปาก “เช่นนั้นเจ้าหิวหรือไม่”
“ไม่หิว”
ลั่วเซิงวางเสื้อผ้าสะอาดชุดหนึ่งไว้ให้ “ให้ญาติผู้พี่เจ้าเข้ามาเปลี่ยนชุดให้ก็แล้วกัน เปลี่ยนเสร็จแล้วก็กลับจวนแม่ทัพใหญ่เถิด”
ลั่วเฉินหน้าตาดำคล้ำ
พอเขาบอกว่าไม่หิวนางก็ไม่สนใจแล้วหรือ
นี่ใช่พี่สาวแท้ๆ ของเขาหรือไม่นี่
“ให้ญาติผู้พี่เข้ามาเถิด” เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีอย่างแง่งอน
จากนั้นลั่วเซิงก็ออกไปจริงๆ
ลั่วเฉิน “…”
ซิ่วเย่ว์พาเสี่ยวชีไปที่ครัวด้านหลัง เสี่ยวชีทนไม่ไหวบอกเรื่องที่ตนเห็นออกมา “ท่านอา เมื่อครู่ตอนข้าทำแผลให้คุณชายลั่ว ข้าเจอเรื่องบังเอิญเรื่องหนึ่งเข้า”
“เรื่องอะไรหรือ” อาซิ่วตักบะหมี่น้ำใสเพิ่มไข่ดาวส่งให้เสี่ยวชี
“ที่ก้นคุณชายลั่วมีรอยแผลเป็นอยู่รอยหนึ่ง ตำแหน่งกับขนาดใกล้เคียงกับข้ามากทีเดียว…”
ซิ่วเย่ว์พลันมืออ่อน บะหมี่ทั้งถ้วยเกือบคว่ำ
เสี่ยวชีรีบรับชามไว้ “ท่านอา ท่านเป็นอะไรไปหรือ”
ซิ่วเย่ว์ตั้งสติ ส่งยิ้มให้เสี่ยวชี “อาไม่เป็นอะไร เสี่ยวชี เจ้ารีบกินตอนร้อนๆ เถิด อาจะไปถามพวกคุณหนูว่าจะกินหรือไม่”
เสี่ยวชีพยักหน้า ถือชามไว้แล้วคีบบะหมี่เข้าปาก
ซิ่วเย่ว์ตามหาลั่วเซิงอย่างรีบร้อน
เวลานี้ลั่วเซิงให้เว่ยหานกลับไปแล้วจึงเหลือนางยืนเหม่อพิงเสาอยู่ใต้ชายคาคนเดียว
“คุณหนู ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านเจ้าค่ะ” ซิ่วเย่ว์สีหน้าหนักใจ พยายามกดเสียงให้ต่ำ
ลั่วเซิงสีหน้าเรียบเฉย ยกเท้าเดินเข้าห้องทางตะวันออกไป
“เรื่องอะไรหรือ”
ซิ่วเย่ว์ดูมีท่าทีลังเลยิ่งนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลั่วเซิงกลับไม่มีท่าทีปิดบังใดๆ นางเอ่ยเสียงต่ำว่า “เมื่อครู่เสี่ยวชีบอกว่าเขาเห็นรอยแผลเป็นที่ก้นของคุณชายลั่ว ตำแหน่งกับขนาดใกล้เคียงกับแผลเป็นของเขา…”