ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 238 กลัดกลุ้ม
ตอนที่ 238 กลัดกลุ้ม
หมูป่าอันตรายมาก หากถูกหมูป่าขวิดเข้า ลองคิดถึงอันตรายนั้นแล้ว…ไม่เอาไม่คิด รีบไปเยี่ยมองค์รัชทายาทสักหน่อยดีกว่า
รัชทายาทถูกส่งกลับกระโจมทองไปทำแผล ยังไม่ได้กลับตำหนักราชนิเวศน์
แค่กๆ หากส่งกลับตำหนักราชนิเวศน์แล้วก็คงไม่สะดวกจะไปเยี่ยมมิใช่หรือ
ไม่เท่าไรคนที่ไปรอเยี่ยมรัชทายาทก็ต่อแถวกันยาวอยู่ด้านนอกกระโจม ระหว่างที่แม่ทัพใหญ่ลั่วพาลั่วเซิงไปนั้น เขาสติแทบแตก
เดิมทียังคิดว่าพออวี้เสวี่ยนซื่อตายแล้ว ทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ไม่เคยคิดเลยว่าเซิงเอ๋อร์จะลงมือกับรัชทายาท
“เซิงเอ๋อร์ ไว้พบรัชทายาทแล้ว เจ้าต้องตั้งใจขอโทษพระองค์นะ จำได้หรือไม่”
ลั่วเซิงดูไม่อินังขังขอบกับน้ำเสียงร้อนใจของผู้เป็นบิดาเลยสักนิด “เหตุใดลูกต้องขอโทษด้วยเล่า”
แม่ทำใหญ่ลั่วกวาดมองซ้ายขวาแล้วกระซิบบอกว่า “พ่อได้ยินว่าเจ้ายิงธนูถูกขาของหมูป่า มันเลยคลุ้มคลั่ง ถึงได้เข้ามาจะทำร้ายรัชทายาท…”
ลั่วเซิงกะพริบตา หน้าตาใสซื่อ “แต่หมูป่าตัวนั้นถูกดาบของผู้ใดไม่รู้ฟันตายไปแล้วนี่ หมูป่าตัวที่ขวิดรัชทายาทกับตัวที่ข้ายิงไม่ได้มาด้วยกันเสียหน่อย”
“ไม่ได้มาด้วยกัน?” ดวงตาแม่ทัพใหญ่ลั่วพลันกระจ่างใส ดูโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อคิดดูอีกทีก็ยังไม่สบายใจ
แม่ทัพใหญ่ลั่วสีหน้าดูจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง “เซิงเอ๋อร์ เจ้าแน่ใจว่าเรื่องไม่ได้เกิดเพราะธนูดอกนั้นของเจ้า?”
ลั่วเซิงพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “หมูป่าตัวที่ขวิดรัชทายาทเป็นจ่าฝูงในฝูงหมูป่า เป็นฝูงที่วิ่งมาจากอีกฝั่งหนึ่งของป่า ในเขตล่าสัตว์ ลูกเจอหมูป่าตัวหนึ่งแล้วคิดจะล่ามันมีอะไรไม่ถูกต้องหรือเจ้าคะ ใครจะไปรู้ว่ายังจะมีหมูป่าอีกฝูงหนึ่งรอรัชทายาทอยู่กัน”
แม่ทัพใหญ่ลั่วได้ฟังที่บุตรสาวบอกก็เห็นว่าไม่มีอะไรผิด เป็นรัชทายาทเองที่โชคไม่ดี
ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกับธนูดอกนั้นของเซิงเอ๋อร์ก็สามารถสบายใจได้แล้ว
“ไม่ว่าอย่างไร รัชทายาทได้รับบาดเจ็บก็ควรจะไปเยี่ยมสักหน่อย”
ลั่วเซิงก้มหน้าปิดบังสายตา “ท่านพ่อกล่าวได้ถูกต้อง”
เมื่อเดินไปถึงกระโจมทอง แม่ทัพใหญ่ลั่วตกใจที่เห็นว่าด้านนอกมีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่
“รองเจ้ากรมหวัง นี่พวกท่านกำลัง…” แม่ทัพใหญ่ลั่วลองถามคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านนอก
รองเจ้ากรมหวังหน้าตาเคร่งเครียด “ได้ยินว่าองค์รัชทายาทได้รับบาดเจ็บ ข้าน้อยจึงมาเยี่ยม แม่ทัพใหญ่ก็มาเยี่ยมรัชทายาทเหมือนกันหรือ…”
ระหว่างที่เขาพูด สายตาอดเหลือบมองไปทางลั่วเซิงไม่ได้
ได้ยินว่าคุณหนูลั่วเป็นคนชักนำให้หมูป่าวิ่งเข้ามา
จุ๊ๆ นี่หากเป็นหลานสาวของเขาคงตีตายไปนานแล้ว
พอนึกถึงหลานสาวแสนน่ารักของตนต่อหน้าแม่ทัพใหญ่ลั่วที่สูงส่งด้วยตำแหน่งและอำนาจเช่นนี้ รองเจ้ากรมหวังก็เกิดความรู้สึกภูมิใจขึ้นมาหลายส่วน
แม่ทัพใหญ่ลั่วไม่พอใจขึ้นมาทันที
อะไรกัน คิดว่าเขาตาบอดหรืออย่างไร
มาเยี่ยมรัชทายาทก็เยี่ยมรัชทายาทไปสิ แอบมองบุตรสาวเขาทำไมกัน
ตาเฒ่าพวกนี้ อย่าคิดว่าใช้การมาเยี่ยมรัชทายาทเป็นข้ออ้างแล้วเขาจะไม่รู้ว่าตั้งใจมาดูเรื่องประหลาดกันเชียว
ถึงอย่างไรการถูกหมูป่าขวิดก็ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนผู้นั้นยังเป็นถึงรัชทายาท
ภายในกระโจมทอง เว่ยเชียงที่นอนอยู่บนตั่งเตี้ยได้ยินโต้วเหรินรายงานว่าด้านนอกกระโจมมีคนมารอเยี่ยมเขาอยู่เป็นจำนวนมาก สีหน้าก็ดูไม่สู้จะพอใจ
คนสารเลวพวกนี้ ตั้งใจมาดูเรื่องสนุกกันชัดๆ!
“รัชทายาท แม่ทัพใหญ่ลั่วพาคุณหนูลั่วมาพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยเชียงที่กำลังจะบันดาลโทสะ พอได้ยินเช่นนั้นก็ข่มความโกรธเอาไว้ทันที ตีหน้าขรึมเอ่ยว่า “เชิญเข้ามาเถิด”
ไม่นานชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ก็ก้าวยาวๆ เข้ามา
เด็กสาวรูปร่างอรชรเดินตามติดมาทางด้านหลัง ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
เว่ยเชียงพอเห็นท่าทางไม่บอกถึงอารมณ์เช่นนั้น ความหงุดหงิดที่อยู่ในใจก็พลันมลายหาย
ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่เหมือนลั่วเอ๋อร์เอาเสียเลย แต่ก็มักมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างที่ชวนให้รู้สึกไปเองอย่างห้ามไม่อยู่
“ได้ยินว่ารัชทายาทได้รับบาดเจ็บ กระหม่อมจึงมาเยี่ยม”
“แม่ทัพใหญ่เกรงใจแล้ว” เว่ยเชียงนั่งเอนอยู่ น้ำเสียงราบเรียบ
น่องของเขาถูกหมูป่ากัดเข้าให้ทีหนึ่ง จะบอกว่าหนักหนาก็คงไม่ใช่ ที่สำคัญคือขายหน้า
ต่อให้บาดเจ็บเพราะตกม้าก็ยังน่าฟังกว่าถูกหมูป่าเล่นงานนี่นะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ เวลามีคนมาเยี่ยมจะยังอารมณ์ดีได้อยู่ก็คงแปลก
ก็แค่ให้เกียรติแม่ทัพใหญ่ลั่ว กอปรกับ…เว่ยเชียงลอบเหลือบมองลั่วเซิงทีหนึ่ง
กอปรกับ เขาอยากพบคุณหนูลั่วสักหน่อย
“ได้ยินว่าเวลานั้นบุตรสาวของกระหม่อมอยู่แถวนั้นด้วยพอดี นางไม่ได้ช่วยเหลือรัชทายาทอย่างทันท่วงทีนับเป็นความผิดของบุตรสาวกระหม่อม…” แม่ทัพใหญ่ลั่วยังคงเอ่ยตามมารยาทต่อไป
เว่ยเชียงมองลั่วเซิงอย่างลึกล้ำครั้งหนึ่ง “ไม่เกี่ยวกับบุตรสาวท่านหรอก หมูป่าฝูงนั้นวิ่งเข้ามากะทันหัน”
“กระหม่อมยังคิดว่าบุตรสาวของกระหม่อมไม่รู้ประสาไปก่อเรื่องเข้า กำลังจะสั่งลงโทษนางทีเดียว” ใบหน้าของแม่ทัพใหญ่ลั่วเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“แม่ทัพใหญ่ไม่ต้องกล่าวโทษคุณหนูลั่วหรอก ข้าเองที่โชคไม่ดี” พอกล่าวออกไป เว่ยเชียงรู้สึกขัดใจยิ่งนัก
รัชทายาทที่โชคร้ายถึงขั้นถูกหมูป่าขวิด หากข่าวแพร่ออกไปเช่นนี้จะไม่ถูกคนหัวเราะจนฟันโยกหรือ
ห้ามแพร่งพราย?
หึหึ เขาถูกแบกกลับมา ทำแผลยังไม่ทันเสร็จเลย คนก็มาเยี่ยมกันไม่หยุดหย่อนแล้ว ยังจะหวังให้คนเหล่านี้ปิดปากให้สนิทกันได้อีกหรือ
เขากล้าพูดเลยว่าขบวนล่าสัตว์ยังไม่ทันกลับถึงเมืองหลวง ข่าวนี้คงแพร่ไปถึงเมืองหลวงก่อนแล้ว
“รัชทายาทใจกว้าง ไม่ถือสาหาความกับบุตรสาวกระหม่อม กระหม่อมละอายใจยิ่งนัก”
“แม่ทัพใหญ่ไม่จำเป็นต้องคิดเช่นนั้นจริงๆ” เว่ยเชียงใกล้จะพูดต่อไม่ออกแล้ว
แม่ทัพใหญ่ลั่วก็ไม่คิดจะอยู่ต่อนาน ประสานมือเอ่ยว่า “เช่นนั้นรัชทายาทโปรดรักษาตัวให้ดี กระหม่อมขอตัวก่อน”
รัชทายาทเห็นแม่ทัพใหญ่ลั่วจะพาบุตรสาวกลับจึงเอ่ยว่า “โต้วเหริน ออกไปส่งแม่ทัพใหญ่แทนข้าที”
“รัชทายาทเกรงใจแล้ว”
โต้วเหรินยื่นมือไป “แม่ทัพใหญ่เชิญเถิด”
แม่ทัพใหญ่ลั่วประสานมืออีกครั้งแล้วจึงค่อยพาลั่วเซิงออกจากกระโจมไป
สายตาลึกล้ำของเว่ยเชียงมองตามร่างเพรียวบางนั้นจนเจ้าของร่างเดินลับไปถึงได้ดึงสายตากลับมา
ในแววตาฉายประกายหมายมาด
แต่กระนั้นนี่ก็ไม่เหมือนกับเฉาฮวา คุณหนูลั่วเป็นบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ลั่ว จะเร่งรัดเกินไปนักไม่ได้
สายตาของเว่ยเชียงหยุดมองน่องของตนที่พันแผลเรียบร้อยแล้ว ในใจบังเกิดความกลัดกลุ้ม
ฐานะรัชทายาทถึงอย่างไรก็ไม่อาจทำตามใจปรารถนาได้ บางครั้งถึงขั้นไร้ซึ่งอิสระยิ่งกว่าท่านอ๋องทั่วไปเสียอีก
คิดอยากทำดั่งใจปรารถนา น่ากลัวว่าคงต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงสักหน่อย
“รัชทายาท ไคหยางอ๋องมาพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยเชียงหลุดจากภวังค์ รีบบอกว่า “รีบเชิญเข้ามา”
ไม่นานบุรุษในชุดสีแดงเข้มก็เดินเข้ามา
เว่ยเชียงมองสีของชุดนั้นแล้วก็คิดถึงน่องยามเลือดอาบของตนจึงรู้สึกขัดใจ
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่เขาก็ยังเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนว่า “วันนี้ขอบคุณเสด็จอามากที่ช่วยเหลือ”
“สมควรแล้ว” เว่ยหานมองสำรวจเว่ยเชียง เอ่ยถามอย่างจริงจังว่า “รัชทายาทรู้สึกอย่างไรบ้าง”
“ขอบคุณเสด็จอามากที่เป็นห่วง ข้าไม่เป็นอะไรมากแล้ว”
“อืม เช่นนั้นก็ดี”
เว่ยเชียงนิ่งไป
ไม่รู้เหตุใดเขาถึงคล้ายได้ยินน้ำเสียงเจือแววผิดหวัง
เมื่อได้มองสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของไคหยางอ๋องอีกครั้งก็พลันรู้สึกว่าตนคิดมากไปเอง
“รัชทายาทไม่เป็นอะไรข้าก็สบายใจแล้ว รัชทายาทพักผ่อนเถิด”
เว่ยหานเดินออกไป คงเพราะอีกไม่นานจะได้เวลาอาหารจึงเดินตรงไปยังกระโจมพักของลั่วเซิงเสียเลย
วันนี้บางทีคุณหนูลั่วอาจจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง
ในกระโจมทองที่อยู่ห่างไปไม่ไกล จักรพรรดิหย่งอันขมวดพระขนงฟังที่โจวซานรายงานจบก็เอ่ยเสียงขรึมว่า “ไปเยี่ยมรัชทายาทแทนเราที”
ถูกหมูป่าขวิด?
นี่ใช่เรื่องที่คนเป็นผู้สืบบัลลังก์ควรพบเจอหรือ
ในภายภาคหน้าต่อให้ในประวัติศาสตร์ทางการไม่มีบันทึกไว้ แต่ประวัติศาสตร์ชาวบ้านคงมีบันทึกไว้แน่
จักรพรรดิหย่งอันไร้บุตรชายจึงรับบุตรชายของผิงหนานอ๋องนามเชียงมาเป็นบุตร ช่วงล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ในรัชศกหย่งอันปีที่สิบเจ็ด รัชทายาทนามเชียงถูกหมูป่าขวิด…
แค่คิดก็กลัดกลุ้มใจแล้ว