ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 189 พาตัวเองไปตายแล้วเอาชีวิตรอด
ตอนที่ 189 พาตัวเองไปตายแล้วเอาชีวิตรอด
การแทงครั้งนี้ไร้ซึ่งความลังเล แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดและทุ่มหมดตัว
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ทำเอานางกำนัลที่เฝ้าอยู่นอกศาลาตะลึงงัน
“ทรงรับปากว่าจะให้หม่อมฉันได้ปรนนิบัติรัชทายาทนี่เพคะ!” เฉาฮวาตะคอกเสียงดัง หันหลังวิ่งออกไป เมื่อผ่านสระน้ำก็โยนปิ่นปักผมสีทองลงไป
ปิ่นปักผมสีทองจมลงไปในน้ำ ทำให้เกิดระลอกคลื่น
สระน้ำสีเขียวกลืนกินปิ่นปักผมสีทองลงไปอย่างรวดเร็วและกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง
ครานี้ นางกำนัลราวกับเพิ่งตื่นจากภวังค์ กรีดร้องขึ้นมา
“ทหาร มีคนลอบสังหารพระชายา…”
“พระชายา ทรงไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่เพคะ”
พระชายากุมแก้มเอาไว้ สีหน้าบิดเบี้ยว เลือดสดไหลออกมาจากระหว่างนิ้วของนาง
มองแวบแรกไม่ต่างจากผีร้าย
ศาลาตกอยู่ในความวุ่นวายพักใหญ่
ต่างจากข่าวอวี้เสวี่ยนซื่อถูกลงโทษเนื่องจากทานยาห้ามครรภ์ เรื่องใหญ่อย่างพระชายารัชทายาทถูกนางกำนัลทำร้ายในสวนดอกไม้ในวังบูรพาย่อมมิอาจปิดบังได้ ในไม่ช้าเรื่องก็ไปถึงองค์ฮ่องเต้
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบวังหลังคือเซียวกุ้ยเฟย
เซียวกุ้ยเฟยพาคนเร่งเดินทางมาวังบูรพา
“พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง” เซียวกุ้ยเฟยเข้ามา ถามเว่ยเชียงที่ยืนอยู่ด้านนอกสุด
เว่ยเชียงสีหน้าเคร่งขรึม “แก้มซ้ายถูกแทงบาดเจ็บ เมื่อครู่นี้หมอหลวงทายาให้แล้ว เนื่องจากพระชายาวิตกกังวลเกินไปจึงให้นางทานยาสงบใจ ตอนนี้หลับไปแล้ว”
“เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้” เซียวกุ้ยเฟยครุ่นคิด นางกำนัลคนหนึ่งกล้าทำร้ายชายารัชทายาท รู้สึกน่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง
เว่ยเชียงสีหน้าย่ำแย่กว่าเดิม
เหตุใดจึงเกิดเรื่องแบบนี้ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน!
ก่อนที่เซียวกุ้ยเฟยจะมา เขาถามนางกำนัลที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว แต่นางกำนัลเหล่านี้กลับอ้อมๆ แอ้มๆ พูดเพียงว่าผู้ที่ทำร้ายพระชายาคือชุ่ยหง สาวใช้ข้างกายของเสวี่ยนซื่อ
“รัชทายาท หานางกำนัลที่ทำร้ายพระชายาเจอหรือยัง”
“ยังหาอยู่”
“ได้ยินมาว่านางกำนัลคนนี้เป็นสาวใช้ข้างกายเสวี่ยนซื่อท่านหนึ่งของรัชทายาท?”
เว่ยเชียงสายตาเยือกเย็น พยักหน้าเบาๆ
ขันทีคนหนึ่งเร่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว รายงานว่า “ฝ่าบาท ชุ่ยหงไม่อยู่กับเสวี่ยนซื่อพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เว่ยเชียงก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทว่าสีหน้ายังคงเคร่งขรึม “หาต่อไป ต้องหานางกำนัลชั่วนั่นให้เจอ!”
“หม่อมฉันจะเข้าไปดูพระชายา”
เว่ยเชียงเข้าไปในห้องพร้อมเซียวกุ้ยเฟย
พระชายานอนนิ่งอยู่บนเตียง บาดแผลบนแก้มซ้ายถูกผ้าพันแผลปิดไว้แล้ว เหลือเพียงใบหน้าที่สมบูรณ์อีกครึ่งหนึ่ง
เว่ยเชียงมองนางในสภาพเช่นนี้ก็คิดถึงสตรีคลุ้มคลั่งที่เขาเห็นเมื่อคราวทราบข่าวแล้วเร่งเดินทางมา
ไม่มีจิตใจและความมั่นคงอย่างพระชายารัชทายาทเลยแม้แต่น้อย
บางทีอาจเป็นเพราะใบหน้าเสียโฉม?
ยาสงบใจถ้วยนั้น เขาเป็นคนสั่งให้หมอหลวงกรอกลงไปให้พระชายาเอง
เซียวกุ้ยเฟยมองพระชายาที่สลบไสลแล้วส่ายศีรษะเบาๆ
แผลอยู่บนใบหน้าและยังเป็นตำแหน่งตรงแก้มที่ชัดเจนเช่นนั้น พระชายาคงเสียโฉมแล้วจริงๆ
พระชายาที่เสียโฉมคนหนึ่ง แม้จะไม่มีความผิดอะไร แต่ก็คงอยู่ตำแหน่งนี้ได้อีกไม่นาน
วังบูรพาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว
“ฮ่องเต้ทรงสั่งให้หม่อมฉันช่วยรัชทายาทสืบสวนเรื่องนี้ ในเมื่อนางกำนัลคนนั้นคือสาวรับใช้ของเสวี่ยนซื่อ เช่นนั้นก็เชิญอวี้เสวี่ยนซื่อมาด้วยเถิด”
เว่ยเชียงพยักหน้า สั่งคนไปเชิญเฉาฮวา
เมื่อคิดถึงสตรีที่อยู่เคียงข้างเขามาหลายสิบปี เว่ยเชียงก็รู้สึกซับซ้อน
เขาไม่อยากเห็นนางเป็นอะไร แต่ก็ยังไม่อยากเจอนางในตอนนี้
เมื่อเห็นนางก็จะทำให้เขาคิดถึงยาห้ามครรภ์ที่นางกินลงไปเหล่านั้น ทำลายการหลอกลวงตนเองที่เขาแบกรับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ลั่วเอ๋อร์เกลียดเขา
นางจะไม่เกลียดเขาได้อย่างไร เขาทำลายครอบครัวของนาง…
เว่ยเชียงเจ็บปวดใจขึ้นมา
เขาคิดว่าแม้จะมีวันหนึ่งที่จะได้พบกับลั่วเอ๋อร์อีกครั้ง นางก็คงไม่อภัยให้เขา
หลายปีมานี้ การอาศัยอยู่ในวังบูรพาที่ทุกคนอิจฉานั้น อันที่จริงแล้วไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิดไว้
เขารู้สึกเสียใจ
ปีนั้น เขาไม่ควรพ่ายแพ้ให้กับสิ่งล่อใจและเลือกเส้นทางนั้น
เขาทำลายคนรักของตน และทำลายความสามารถในการรักคนๆ หนึ่งของตนเช่นกัน
จากนั้นเป็นต้นมา ตัวตนของเขาคือรัชทายาทเท่านั้นและต้องรักษาตำแหน่งนี้ไว้ให้ดี
ไม่เช่นนั้นทั้งหมดนี้จะกลายเป็นเรื่องตลกฉากหนึ่ง
ในสวนแคบและเล็ก เปลือกเมล็ดแตงโมยังไม่ถูกเก็บกวาด
คนกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งมาหาตัวชุ่ยหงเพิ่งจากไป ชิงเอ๋อร์ตกใจจนมือไม้อ่อน หน้าซีดเผือด
มือข้างหนึ่งตีนางเบาๆ
“เสวี่ยนซื่อ…”
เฉาฮวายิ้ม “เด็กโง่ เจ้ากลัวอะไรเล่า”
“ข้า ข้า…” แม้จะไม่มีบุคคลที่สามอยู่ แต่ชิงเอ๋อร์ก็ไม่กล้าพูดคำว่าชุ่ยหงสองคำนี้
เฉาฮวากลับไม่สนใจแม้แต่น้อย
นางอดทนต่อความอัปยศอดสูมาสิบสองปีก็เพื่อกำไลที่ท่านหญิงให้ไว้
วันนี้สูญเสียกำไลไปก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ลง
ไม่ชิงกำไลกลับมาก็ต้องตายเท่านั้น
“หาชุ่ยหงเจอได้ไวเป็นเรื่องดีนี่ ไม่ต้องกลัว” เฉาฮวานั่งลงบนก้อนหินที่ชุ่ยหงเคยนั่ง ขยี้เปลือกเมล็ดแตงโมด้วยปลายเท้าเบาๆ
ชิงเอ๋อร์มองเปลือกเมล็ดแตงโมเหล่านั้นแล้วรู้สึกตระหนก “นายหญิง ให้บ่าวทำความสะอาดเถอะเจ้าค่ะ”
เฉาฮวาพยักหน้า
ครานี้เอง มีเสียงดังขึ้นจากข้างนอก
ชิงเอ๋อร์ถือไม้กวาดอย่างหวาดระแวง
“ไปเปิดประตูเถอะ”
ชิงเอ๋อร์เดินไปเปิดประตู
ขันทีคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก พูดหน้านิ่งว่า “องค์รัชทายาททรงบัญชาให้อวี้เสวี่ยนซื่อไปพบ”
ชิงเอ๋อร์หันไปมองนางด้วยสีหน้าซีดเผือด
เฉาฮวาลุกขึ้นเดินไป สีหน้าเรียบเฉย “ไปเถอะ”
ทุกคนเงียบไปตลอดทาง
“องค์รัชทายาท กุ้ยเฟย อวี้เสวี่ยนซื่อมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยเชียงมองไป เห็นร่างผอมเพรียวที่คุ้นเคยเดินเข้ามา
“ถวายพระพรฝ่าบาท กุ้ยเฟยเพคะ”
“ลุกขึ้นเถิด” เว่ยเชียงพูดเสียงราบเรียบ
เฉาฮวายืดกายตรง ก้มศีรษะอย่างนอบน้อม
เซียวกุ้ยเฟยมองเฉาฮวาครู่หนึ่งแล้วเอ่ยปากถามว่า “วันนี้ชุ่ยหงนางกำนัลรับใช้ของเจ้าทำร้ายพระชายาของรัชทายาท อวี้เสวี่ยนซื่อรู้สาเหตุหรือไม่”
“หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ” เฉาฮวาหลุบตาลง น้ำเสียงราบเรียบ “เมื่อคืนชุ่ยหงเปิดโปงเรื่องหม่อมฉันกินยาห้ามครรภ์ต่อหน้ารัชทายาท คิดว่าคงไม่ได้เห็นหม่อมฉันเป็นนายหญิงที่แท้จริง แล้วหม่อมฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดนางจึงทำร้ายพระชายา”
เว่ยเชียงหน้าเปลี่ยนสี “ใครให้เจ้าพูดมาก!”
เฉาฮวาเม้มปาก คุกเข่าลงเงียบๆ
เซียวกุ้ยเฟยมองเว่ยเชียงอย่างประหลาดใจ “รัชทายาท นี่มันเรื่องอะไรอีกหรือ”
เว่ยเชียงหน้าขรึมพูดว่า “สาวใช้สารเลวนั่นหักหลังเจ้านายแสวงหาความรุ่งโรจน์ สมควรเฆี่ยนตีให้ตาย ข้าคิดว่าวันนี้พระชายาจะจัดการ คิดไม่ถึงว่ากลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเสียก่อน”
เซียวกุ้ยเฟยฟังเว่ยเชียงเล่าก็รู้ว่ารัชทายาทกำลังปกป้องอวี้เสวี่ยนซื่อท่านนี้
นางรู้งาน ไม่ได้ซักไซ้ต่อไป
ครานี้เองจู่ๆ ชิงเอ๋อร์ก็คุกเข่าลงข้างกายเฉาฮวา โขกศีรษะลงบนพื้นพูดว่า “รัชทายาท หม่อมฉันรู้ว่าเหตุใดชุ่ยหงจึงทำเช่นนี้เพคะ!”
เมื่อเสียงของนางดังขึ้น ดวงตาหลายคู่ก็มองมาที่ชิงเอ๋อร์
“พูด!” เว่ยเชียงพูดเสียงเยือกเย็น
ศีรษะชิงเอ๋อร์ยังคงแนบติดกับพื้น พูดเสียงสั่นว่า “วันนี้ชุ่ยหงพูดกับเสวี่ยนซื่อว่า… ว่าพระชายารับปากนางว่าต่อไปจะให้นางปรนนิบัติองค์รัชทายาท…”
เว่ยเชียงมองไปที่หมัวหมัวผู้ดูแลหน้าดำหน้าแดง
กุ้ยหมัวหมัวคุกเข่าลงทันที “ฝ่าบาท สาวใช้สารเลวนี่พูดจาเหลวไหล ใส่ร้ายพระชายาเพคะ!”
ชิงเอ๋อร์แอบกำหมัดแน่น รวบรวมความกล้าโต้ตอบกลับไปว่า “หม่อมฉันมิได้พูดจาเหลวไหลนะเพคะ ชุ่ยหงพูดกับเสวี่ยนซื่อเช่นนี้จริงๆ ตอนนั้นหม่อมฉันอยู่ข้างๆ หากชุ่ยหงไม่เกี่ยวข้องกับพระชายาแล้วเหตุใดจึงทำร้ายพระชายาเล่าเพคะ”
กุ้ยหมัวหมัวชะงักกับคำถาม
เว่ยเชียงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็น “ทหาร คุมตัวคนรับใช้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทำร้ายพระชายามาสอบปากคำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ใดคิดจะปกปิด เฆี่ยนตีผู้นั้นให้ตาย!”
ไม่นานนางกำนัลคนหนึ่งก็พูดความจริงว่า “ตอนที่ชุ่ยหงทำร้ายพระชายา นางพูด… พูดว่าพระชายารับปากจะให้นางปรนนิบัติรัชทายาทเพคะ”