ประธานร้ายคลั่งรัก - ตอนที่ 3 วางยา
เมษาสินีเข้ามาถึงบริษัทในตอนเช้าวันนี้เธอแต่งตัวเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วแต่ก็ดูสบายตาด้วยหน้าที่ดูสะสวยและผมที่รวบง่ายๆ พอเดินเข้ามาในบริษัทก็ได้รับคำชื่นชมจากคนในบริษัทตั้งแต่เดินเข้ามาในบริษัทจนถึงชั้นที่เธอทำงาน เนื่องจากบริษัทของเธอไม่ได้ใหญ่มากคนในบริษัทจึงรู้จักกันแทบทุกคน และเพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งก็มาบอกว่ากับเธอว่าหัวหน้าเรียกเธอเข้าไปพบในช่วงสายๆ
ก๊อกๆ
“เข้ามาเลยจ้ะ” หัวหน้าของเมษาสินีมีชื่อว่าคุณเพื่อน คุณเพื่อนมีอายุอยู่ในช่วงวัย40ต้นๆแต่ก็ยังคงสวยและสาวกว่าคนวัยเดียวกันอยู่มาก มีนิสัยน่ารักและใจดีจึงเป็นที่รักของลูกน้องทุกคน
“คุณเพื่อนเรียกเมษา มีเรื่องอะไรรึป่าวคะ? ” เมษาสินีสงสัยนิดหน่อย หากจะชื่นชมเธอก็ไม่น่าจะต้องลำบากเรียกเธอมาพบอย่าเป็นทางการเช่นนี้เลยก็ได้
“ที่พี่เรียกเมษามาคืองานครั้งที่แล้วเมษาทำได้ดีมากจ้ะ และ…มีคนๆนึงเขาอยากเซ็นสัญญากับบริษัทเรา แต่เขามีข้อแม้ว่าคนทำงานกับเขาจะต้องเป็นเมษาเท่านั้น แต่พี่ยังไม่ได้ตอบตกลงเขาหรอก พี่อยากให้เมษาได้เป็นคนตัดสินใจเอง” เรื่องนี้ทำให้เมษาสินีได้แต่ครุ่นคิดว่าเหตุใดจึงต้องเป็นเธอเท่านั้น ถึงสถาปนิกในบริษัทจะมีไม่มากแต่ก็มีการแข่งขันการทำผลงานกันอยู่พอสมควร เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยดีหากได้งานนี้มาโดยไม่ใช่ฝีมือของเธอเอง
“เมษาขอถามได้ไหมคะว่าทำไมถึงต้องเป็นเมษาเท่านั้นคะคุณเพื่อน? ”
“เขาอาจจะเห็นว่าเมษามีความสามารถก็ได้นะ… เอาเถอะ พี่นัดเขาไว้ละ ลองไปเจอดูก่อนถ้าเขาทำอะไรไม่ดีกับเมษาก็มาบอกพี่ ถ้าเมษาไม่โอเคกับงานนี้พี่ก็ไม่บังคับเราหรอก” คุณเพื่อนมีท่าทีลำบากใจนิดหน่อย
“ค่ะ เมษาจะลองไปเจอดู เมษาขอตัวนะคะคุณเพื่อน” เมษาสินียิ้มให้กับหัวหน้าของเธอนิดหน่อยเพื่อให้คลายความลำบากใจ
เมษาสินีออกจากบริษัทเพื่อไปพบว่าที่ลูกค้าที่จะมาเซ็นสัญญาด้วย ระหว่างหญิงสาวได้แต่คิดว่าใครกัน? เขาเอาเธอมาตั้งเป็นเงื่อนไขเพราะเห็นว่าเธอเก่งเหมือนที่คุณเพื่อนว่าจริงหรือ? ร้อยพันคำถามผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
สถานที่นัดพบคือร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมษาสินีคิดว่าเป็นร้านอาหารทั่วๆไป แต่พอถึงที่นัดพบถึงได้รู้ว่าร้านนี้มันหรูหรามากดูดีกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย ร้านนี้เป็นร้านอาหารชื่อดังอยู่ติดริมแม่น้ำ เธอมาถึงก่อนเวลานัดจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะที่จองไว้ตามที่หัวหน้าของเธอบอกพลางมองเห็นวิวที่สวยงามของแม่น้ำผ่านกระจกของร้านรอ
ครืด~
ไม่นานนักเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเมษาสินีก็ถูกเลื่อนออก ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาใหม่
“พี่สิระ!?” เธอเผลออุทานชื่อของชายหนุ่มด้วยความตกใจ
“สวัสดีครับน้องเมษา” สิรวิชญ์จ้องหญิงสาวตาเป็นมัน ไม่ง่ายนักที่จะเข้าใกล้เมษาสินีและครั้งนี้เขาจะไม่ทำพลาดเหมือนครั้งก่อนเเน่
“พี่สิระคือคนที่จะมาเซ็นสัญญากับบริษัทของเมษาใช่รึป่าวคะ? ”เมื่อสิระนั่งลงเธอก็เอ่ยถามทันที หากใช่เธอก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานและลืมเรื่องในอดีตที่เขาเคยทำไว้ ต้องตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้คุณเพื่อนผิดหวังในตัวเธอ
“ใช่ครับ น้องเมษาสั่งอะไรไว้รึยังครับ? ถ้ายังพี่สั่งนะ พี่`หิว`มาก วันนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ฮ่าๆ” สิรวิชญ์พูดจาเป็นกันเองเพื่อให้เมษาสินีลดความระแวดระวังตนลง ถึงจะเคยคบกันช่วงนึงแต่จากเรื่องที่เขาก่อไว้คงทำให้เธอมีกำแพงกับเขาหนาเเน่นอน
“เอ่อ…ได้ค่ะ คือพี่สิระคะทำไมถึงเลือกให้เมษาเป็นคนดูแลงานของบริษัทพี่สิระคะ?” เธอยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลือกเธอ ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้ว่าเขาคือคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด
“เพราะพี่รู้ไงว่าน้องเมษาเป็นคนเก่ง แล้วพี่ก็อยากร่วมงานกับคนที่คุ้นเคยกันมากกว่าจะได้คุยกันรู้เรื่อง เพราะบริษัทเก่าที่พี่ร่วมงานด้วยเขาไม่ค่อยเข้าใจคอนเซ็ปต์ของพี่เท่าไรน่ะ” สิรวิชญ์บอกเหตุผลที่อยากร่วมงานกับเธอ และแน่นอนเขาไม่ได้บอก`เหตุผลพิเศษ`อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เลือกเธอออกไป
หลังจากทั้ง2คนพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องงานกันพอประมาณแล้วจึงสั่งอาหารมากินกัน
“อาหารมาพอดีเลยค่ะ” เมษาสินีอยากหลุดไปจากตรงนี้ซะที เธอพูดคุยเรื่องงานและเลี่ยงที่จะพูดเรื่องส่วนตัวกับเขาเพราะยังอึดอัดที่จะอยู่ใกล้ๆเขา ไม่อยากอยู่ต่อหน้าคนที่เคยทำร้ายเธอนานๆ แต่ก็ต้องข่มใจและอดทนเพราะยังต้องร่วมงานกันอีก
“เมษาดื่มไวน์ได้ใช่ไหมครับ”
“คะ?” เธอสับสนไปชั่วขณะ
“ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ” สิรวิชญ์ยื่นแก้วไวน์ให้เมษาสินี
หญิงสาวรับมาอย่างจำใจเพราะอยากรีบกลับบ้านไปให้เร็วที่สุด เธอดื่มไปทีละนิดๆจนหมดแก้ว ผ่านไปสักพักเมษาสินีก็รู้สึกเวียนหัวจึงขอตัวกลับบ้านก่อน สิรวิชญ์อาสาจะไปส่งเธอที่รถ แต่ยังไม่ทันจะถึงรถเธอก็เหมือนจะหลับลงตรงนั้น คงเป็นเพราะเธอห่างหายจากการดื่มแอลกอฮอลเป็นเวลานาน เธอไม่ได้อ่อนต่อโลกถึงขั้นดื่มแอลกอฮอลไม่เป็นเลย แต่ก็ไม่ได้ดื่มเก่งถึงขั้นคอแข็ง ตอนนี้เธอคิดว่าเธอคงเมาสติเลยเริ่มเลือนลางลง ก่อนที่เธอจะหมดสติเธอได้ยินเสียงตุ๊บ! อยู่ข้างหลังและเธอก็ล้มลงไปเเต่ก่อนที่จะถึงพื้นก็มีมือแกร่งของใครบางคนมารับเธอไว้ได้ทัน