ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา - ตอนที่ 93-94
นิยาย ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา
ตอนที่ 93 +94
ตอนที่ 93 ฆ่านางเร็ว
รูปลักษณ์ของใบหน้าที่มีแต่ความหวาดกลัวและบิดเบี้ยวนั้นทิ้งความทรงจําที่ลึกซึ่งยากจะลืมเลือนไว้ในความทรงจําของเล่ยซู
ป้อกกกก!
เจ้าของร้านอัญมณีที่ยกศอกขึ้นมา กระดูกของเขาก็เริ่มปริแตกจากความร้อนของเปลวไฟ กระดูกที่ถูกเผาไหม้ของเขาร่วงลงสู่พื้นพร้อมกับการหายตัวไปจากโลกนี้ชั่วนิรันดร์
ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ และท้ายที่สุดมีเพียงซากศพของเขาเท่านั้นที่กองอยู่ตรงหน้าม้าของเล่ยซูเช่นเดียวกับชายวัยกลางคน
กลิ่นอายแห่งความตายยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ
ในสวนหลังบ้านมีเพียง “กลิ่นเนื้อ” ที่เหม็นไหม้คละคลุ้งติดจมูกทุกผู้ทุกคน
โจวฉีผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง หลังจากได้เห็นกระบวนการทั้งหมดนี้ก็แข็งขึ้นด้วยความกลัวเขามองไปยังจี้เฟิงเยี่ยน ในตอนแรกนางดูเหมือนเด็กสาวที่ผอม และอ่อนแอ แต่ในตอนนี้นางเหมือนปีศาจที่คอยติดตามเอาชีวิตผู้คน
เขาถอยออกไปทันที และแทบอยากจะวิ่งหนีด้วยทั้งหมดของพละกําลังที่มี ยังไงเขาก็หนีออกจากสถานที่แห่งนี้
เล่ยซ์มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงนงง ใบหน้าของเขาซีดเซียวเหมือนกระดาษวาดรูป
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกอย่างที่จี้เฟิงเยี่ยนกาลังทําอยู่เป็นเรื่องจริง
จี้เฟิงเยี่ยน..เป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ในตระกูลจไม่ใช่หรือ!? จะเป็นไปได้อย่างไร…
ความรู้สึกไม่สบายอย่างรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเล่ยซู ในช่วงเวลานี้ เขาแอบเหลือบมองไปยังด้านหลังและตระหนักว่า….ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือองครักษ์ของเมืองจีที่เขาพามาด้วย พวกเขาทุกคนก็ดูหวาดกลัว
เขาไม่สามารถปล่อยให้จี้เพิ่งเยี่ยนจูงจมูกเขาได้อีกแล้ว!
“ จี้เฟิงเยี่ยน เจ้าฆ่าคนต่อหน้าข้าและประชาชนเมืองจีได้อย่างไร!?” เล่ยซูยกมือขึ้นและชี้ไปยังจี้เฟิงเยี่ยนด้วยมือที่สั่นเทา
เขาต้องทําอะไรบางอย่าง…ไม่งั้น…
จี้เพิ่งเยี่ยนเงยคางขึ้นและมองไปยังเล่ยซูที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่าเจ้าไม่ได้บอกเองเหรอว่าข้าพยายามฆ่าคน แต่ล้มเหลวนี่? ดังนั้นข้าจะทําให้ค่าพูดของเจ้าเป็นจริงในวันนี้เสียเลย แล้วข้าจะฆ่าคนล่ะ? ข้าไม่เพียง แต่ฆ่าใครบางคนเท่านั้น แต่ข้ายังทําต่อหน้าของเจ้าด้วย เลยซูเจ้ามีปัญญาทําอะไรข้าได้บ้าง”
“เจ้าอวดดีเกินไปแล้ว! เจ้า…เจ้าไม่เคารพกฎหมายเลย!” เล่ยซูรู้สึกตื่นตระหนกกับน้ําเสียงที่หยิ่งผยองของจี้เฟิงเยี่ยน
“อ้อ พอดีเลย เรื่องกฎหมายสินะ” จี้เฟิงเยี่ยนหัวเราะและเลิกคิ้ว “พูดตามตรงนะ ข้าน่ะเป็นคนรักษาาค่าพูดและรักษากฎหมายดีเด่นเลยล่ะ ดังนั้นวันนี้ จะไม่มีใครที่หาเรื่องข้าแล้วรอดชีวิตไปได้..นี่คือกฎหมายของวันนี้”
จี้เฟิงเยี่ยนที่อ่อนแอได้แสดงท่าทางที่มั่นคงต่อหน้าทุกคน ความเด็ดเดี่ยวนั้นท่าให้ทุกคนตะลึง
หลิงเหอและผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ มองไปที่แผ่นหลังหลังอันเรียวยาวของจี้เฟิงเยี่ยนราวกับว่าพวกเขาได้เห็นเทพเจ้าแห่งความตายยืนอยู่ต่อหน้านักฆ่าทั้งหมด และส่งพวกเขาไปสู่ความตายด้วยดาบของนาง…หนึ่งดาบ หนึ่งชีวิต
“ จี้เฟิงเยี่ยน เจ้ากล้าดียังไง!” เล่ยซูกัดฟันแน่นด้วยความโมโหโกรธา ในขณะเดียวกันเขาก็จ้องไปที่จี้เฟิงเยี่ยนเขาไม่เชื่อว่าจี้เฟิงเยี่ยนจะบ้าดีเดือดขนาดนี้
“กล้า!?” จี้เฟิงเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “เจ้าจะเห็นเองว่าข้ากล้าหรือเปล่า”
หลังจากที่นางพูดอย่างนั้น จี้เฟิงเยี่ยนก็ถอนมือออกจากไหล่ของหยางเจี้ยน แล้วเปลี่ยนมากอดอกแทน นางขยับริมฝีปากแดงๆ เพื่อพูดค่าที่ทําให้ทุกคนแทบเลือดขึ้นหน้า
“หยางเจี้ยน”
“ขอรับ”
“อย่าปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดเด็ดขาด”
“ขอรับ!”
ในขณะที่หยางเจี้ยนรับค่าสั่ง เขาก็หายไปจากตําแหน่งเดิมทันที ความกลัวคืบคลานขึ้นมามายังเล่ยซู เมื่อความคิดเรื่องความตายล้อมรอบตัวเขา เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปและเขาก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว “ปล่อยลูกศร!ยิงสิ! ฆ่าพวกเขา! โจวฉี! รีบฆ่านาง!”
ด้วยเสียงกรีดร้องของเล่ยซู ทหารที่กําลังตกตะลึงทุกคนก็พากันออกจากความงนงงได้ ความกลัวตายทําให้พวกเขาลืมความขี้ขลาด เพื่อความอยู่รอดพวกเขาทั้งหมดตอบสนองอย่างรวดเร็วและดึงคันธนูของพวกเขาทันที
ตอนที่ 94 โจวฉี ปะทะ จี้เพิ่งเยี่ยน
โจวฉีผู้หาเรื่องและกล่าวหาจี้เฟิงเยี่ยนในช่วงแรก…
น่าเสียดาย…..มันสายเกินไป
หยางเจี้ยนเป็นเหมือนวิญญาณที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น สิ่งที่สามารถมองเห็นได้คือเงาจาง ๆ ที่กระพริบอยู่กลางอากาศ
หัวลูกศรทั้งหมดหักในนาทีที่ปล่อยออกมาและไม่มีใครเข้าใกล้เฟิงเยี่ยนได้
เลือดสดที่กระเซ็นในยามนี้ หลายคนได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชเล่ยซูเฝ้าดูด้วยตาของเขาเอง ในขณะที่ทหารเหล่านั้น…ใช่ทหารที่เขานํามาทั้งหมดถูกสังหารโดยเงาคนผู้นั้น การสังหารในพริบตาทําให้พวกเขาไม่มีโอกาสต่อสู้กลับ
กลิ่นเลือดที่รุนแรงกระทบจมูกของเล่ยซูราวกับว่าเคียวเทพเจ้าแห่งความตายกลับแทงทะลุล่าคอทําให้เขาหายใจไม่ออก
“โจวฉี! โจวฉีเร็วเข้า!”
ในขณะนั้นเลยซสามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่โจว
ความสามารถของโจว อาจกล่าวได้ว่าดีที่สุดในเมืองจี และมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถจัดการทุกอย่างได้
โจวฉีเหงื่อแตกทั่วแผ่นหลัง เขาจาใจพุ่งเข้าหาจี้เฟิงเยี่ยนซึ่งยืนนิ่งอยู่ในตําแหน่งเดิมของนาง
“คุณหนูวววว!” หลิงเหอตะโกนด้วยความตกใจ เขาถือดาบและพุ่งเข้าใส่โจวฉีเพื่อสกัดกั้น….
แต่…เขาช้าไป
ดาบของโจวฉียกขึ้นสูงแล้วและเล็งไปที่หัวของจี้เฟิงเยี่ยน
แต่..จี้เฟิงเยี่ยนยังคงยืนอยู่ที่ตําแหน่งเดิมของนางโดยไม่ขยับ ดวงตาของ โจวฉีเป็นประกายเจิดจําความสุขที่กําลังจะมาถึงค่อยๆเผยออกมาที่มุมริมฝีปากของเขา
แต่.
ซวกกก!
ดาบของโจวฉี ไม่ได้โดนหัวของจี้เฟิงเยี่ยนเลย แต่มันก็อยู่ห่างจากศีรษะของนางประมาณครึ่งฝ่ามือ และนางก็ค่อยๆใช้นิ้วเรียวยาวสองนิ้ว..จับอย่างแม่นยํา
โจวจีจ้องไปยังจี้เพิ่งเยี่ยนที่หยุดการโจมตีเต็มรูปแบบของเขาได้อย่างง่ายดายด้วยนิ้วสองนิ้ว ไม่ว่าเขาจะใช้พละกําลังมากแค่ไหนดาบของเขาก็ยังคงอยู่ที่เดิม นางหยุดเขาได้โดยที่ไม่ต้องขยับเลยสักนิ้ว
จี้เฟิงเยี่ยนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและดวงตาที่ยิ้มแย้มของนางก็พบกับดวงตาที่น่ากลัวของโจวฉี
“มนุษย์จะต่อสู้กับผู้บ่าเพ็ญเพียรได้อย่างไร” ริมฝีปากของจี้เฟิงเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้มขณะที่นางพูดประโยคที่ทําให้เลือดของโจวฉีแทบแข็งตัว
จี้เฟิงเยี่ยนสะบัดนิ้วของนางที่จับดาบออก
ทันใดนั้นพลังงานไร้รูปก็แผ่ออกมาจากดาบทําให้มันสันอย่างน่ากลัว การ เคลื่อนไหวนั้นถูกถ่ายโอนไปยังโจวฉีผู้ถือดาบอย่างรวดเร็ว
โจวฉีปล่อยมือที่จับดาบออกด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง
ในขณะที่เขาปล่อยมือออก ดาบที่สั่นอย่างต่อเนื่องก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับเสียงดังลั่นดั่งฟ้าฟาดดาบที่โจวฉีมีความภาคภูมิใจกลายเป็นชิ้นโลหะจานวนนับไม่ถ้วนและกระจัดกระจายลงพื้นเบื้องหน้าของจี้เฟิงเยี่ยนต่อหน้าต่อตาของเขาเอง
“ขยะที่ไร้ประโยชน์อย่างเจ้า ไม่เหมาะที่จะสู้กับพี่ชายหลิง” จี้เฟิงเยี่ยนเอียงศีรษะ และดวงตาของนางก็แคบลง
แม้ว่านางจะไม่สามารถเอาชนะสายฟ้าครั้งสุดท้ายได้ แต่จิตวิญญาณในชีวิตก่อนหน้าของนางได้ขึ้นสู่ระดับครึ่งอมตะแล้ว แม้ว่าแกนในของนางจะถูกบดขยี้ แต่การจัดการกับมนุษย์เหล่านี้ก็ไม่ได้ทําให้เสียพลังงานมากเกินไป
ชีวิตและความตาย
การให้และการรับสิ่งเหล่านี้อยู่ในการควบคุมของนางอย่างง่ายดาย
หลังจากที่เพิ่งเยี่ยนพูดจบประโยค นางก็โบกมือขวาและลมหนาวก็ถูกพัดมาจากแขนเสื้อที่กว้างของนางสายลมได้รวบรวมชิ้นส่วนโลหะของดาบขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วและมุ่งไปที่โจวฉีผู้โง่เขลา
ราวกับว่าลมหนาวพัดมาปะทะเขาโจวไม่รู้สึกถึงความแตกต่างใด ๆ ในร่างกายของเขา แต่มีกลิ่นเลือดเข้าจมูกจํานวนมาก
เขามองลงไปโดยสัญชาตญาณและเห็นว่าร่างกายของเขาเองเต็มไปด้วยเลือด!
มีรูเกิดขึ้นทั่วร่างกายของเขา มันเป็นรูที่เกิดจากชิ้นส่วนโลหะเหล่านั้นและเลือดสดก็หยดลงมาที่เกราะของเขาและทําให้พื้นด้านล่างของเขาเป็นสีแดงเข้ม