ตอนที่ 17: แองกริคราวน์หลั่งเลือด
ท่ามกลางความมืดมืดยามราตรี มีเพียงไฟสลัวส่องติดแลจะดับได้ทุกเมื่อจากข้างทางซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกทิ้งร้าง เป็นบริเวณที่แตกต่างกับอาคารกีฬาเก่า บริเวณนี้เป็นเขตชุมชนเก่า ทว่ากลับมีเงาของกลุ่มคนจำนวนนึงวิ่งผ่านแลภูตผีดูน่าพิศวง
โดยเฉพาะกลุ่มเงาสามคนที่วิ่งผ่านบ้านร้างหลังเล็กก่อนจะหลบอยู่หลังกำแพงในตัวบ้านนั้น
ชายผู้ซึ่งเป็นผู้นำ สวมหน้ากากเสือโคร่งนามว่า หู่ พร้อมกับเด็กชายและเด็กสาวที่สวมหน้ากากแสดงเพศตัวเองราวกับเป็นเด็กน้อย
“ คลาดสายตาไปแล้ว ” หู่พูดพลางกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บใจหลังจากมองไปรอบๆดีแล้ว
กระนั้นวี่แววหรือหลักฐานหลงเหลือจากที่วิ่งตามมาก็กลับสิ้นสุดลงที่ตรงนี้
แองกริคราวน์ที่เป็นเป้าหมาย กับหญิงสาวสวมหน้ากากโกลเด้นรีทรีฟเวอร์และกระต่ายต่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ ไม่เห็นต้องฝืนเลยนี่พี่ใหญ่ ” เด็กหนุ่มพูดแบบนั้นพร้อมกับขยับเข้าไปหาหู่ ผู้ซึ่งถูกเขาเรียกว่าพี่ใหญ่ เช่นเดียวกับเด็กสาว
ด้วยส่วนสูงที่ห่างกันหลายสิบเซนติเมตร ทั้งสองคงเหมือนกับกำลังคุยกับพี่ชายของตัวเองอยู่ด้วยความเป็นห่วง
ไม่สิ… หากพูดถึงความสัมพันธ์จริงๆในฉากหน้า ก็คงเรียกแบบนั้นได้เช่นกัน
เช่นไรก็ตาม… คำพูดของเด็กหนุ่มและท่าทางของเด็กสาวที่จับชายเสื้อของหู่ด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้ทำให้เขาลดละความพยายาม เขาไม่ตอบกลับใดๆทั้งสิ้นนอกจากยืนขึ้นและพยายามตามรอยต่อ
ในขณะเดียวกัน…
“ ดูท่าจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆเลยนะ ”
“ ค่ะ… ดูเหมือนครั้งที่แล้วจะทำเขาเสียหน้ามากทีเดียว ”
“ ดูท่าจะอย่างงั้นนะ ”
ชินพูดออกมาราวกับเหนื่อยหน่าย ในขณะที่โอลิเวียพยักหน้ารับ โดยมีเกวนตอบรับเห็นด้วยเบาๆ
อนึ่ง ทั้งสามคนตอนนี้อยู่บนหลังคาของบ้านที่ห่างออกไปราว 3 หลังเท่านั้น กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่สามารถตามร่องรอยของทั้งสามคนได้ สาเหตุนั้นมาจากที่โอลิเวียได้ทำการใช้พลัง ‘คำสาป’ สร้างภาพลวงตาขึ้นก่อนหน้านี้เพื่อลบร่อยรอยหลักฐาน รวมถึงลบการมองเห็นจากพวกหู่ไปจากพวกตัวเองตอนนี้ด้วย
เดิมทีแล้ว พลังคำสาปนั้นเป็นเอกสิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจหรือผู้ที่มีสายเลือดเท่านั้น
เฉกเช่นเดียวกับไนท์ที่แม้จะไม่ต้องเป็นผู้มีสายเลือดแวมไพร์แท้แต่ก็สามารถครอบครองมันได้ แน่นอนว่าหากมีสายเลือดของเผ่าปีศาจซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ก็สามารถใช้คำสาปได้แบบเดียวกัน
แต่ว่า… ถึงแบบนั้นก็แปลกอยู่ดี เกวนคิดแบบนั้นพลางมองแผ่นหลังของหญิงสาวเผ่าเอลฟ์ตรงหน้า
ความสามารถในการฟังเสียงก่อนหน้าที่ศัตรูทั้งหมดจะปรากฏตัวนั้นคือ ‘เซนส์’ ซึ่งเป็นพลังของเผ่ามนุษย์สัตว์อย่างแน่นอน
คิดในกรณีปกติโอลิเวียอาจมีพ่อแม่คนใดคนนึงเป็นลูกครึ่งพอมีลูกจึงทำให้มีสายเลือดของสามเผ่าพันธุ์ กรณีแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มี กระนั้นพลังของแต่ละเผ่าที่ได้รับมานั้นโอกาสปรากฏจะน้อยมากหากเป็นเลือดผสม กรณีที่ปรากฏออกมาทั้งหมดอย่างโอลิเวียยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้างั้นแล้วทำไมโอลิเวียถึงได้มีพลังของทั้งสามเผ่าได้? แถมพลังเองก็ใช่ว่าจะเป็นระดับต่ำ ไม่สิ… หากจะเกวนประเมิน แม้แต่เธอยังรู้เลยว่าพลังของโอลิเวียนั้นเทียบเท่ากับสายเลือดแท้เลยด้วยซ้ำ
นั่นคือสิ่งที่เกวนสงสัยแต่ก็ได้แต่เก็บเงียบเอาไว้เพราะอีกฝ่ายคงไม่มีทางบอก หากเธอรู้อีกว่าโอลิเวียนั้นยังมีทั้ง ‘ไนท์’ และ ‘ปาฏิหาริย์’ ซึ่งเป็นพลังของเผ่านางฟ้าอีก เธอคงปวดหัวมากกว่านี้แน่นอน
“ เอายังไงต่อดีคะมาสเตอร์? ” โอลิเวียเอ่ยถามชินที่มองลงไปยังหู่อยู่เงียบๆ ทำให้เกวนเองก็ได้สติจากห้วงความคิดเช่นกัน
“ เตรียมการแยกทั้งสามคนออกจากกันด้วยภาพลวงตาไว้ ”
ชินพูดแบบนั้นพร้อมกับมองดูรอบๆเพื่อตรวจสอบพื้นที่ก่อนบุกโจมตี แน่นอนว่าคงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกำลังเสริมหรือกับดัก แต่การไม่ประมาทก็ไม่เสียหายอะไร
“ บันนี่ เธอสู้ได้ไหม ” ชินถามแบบนั้นโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมอง แต่เกวนก็เข้าใจได้เพราะชินกำลังสังเกตการณ์อยู่
“ แน่นอน ”
เสียงตอบกลับอันสงบนิ่งเยือกเย็นมาจากเกวน… น้ำเสียงและท่าทางผิดกับเพื่อนสนิทสาวใจดีที่นั่งโต๊ะด้านข้างราวกับเป็นคนละคน
เธอเองก็คงผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันล่ะสินะ… ชินคิดแบบนั้นก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ แล้วตัวเองก็กระโดดลงไป
“ !!? ”
…ลงไปยังจุดที่พวกหู่และเด็กชายเด็กสาวยืนรวมกลุ่มกันอยู่โดยไร้ซึ่งความสะทกสะท้านใดๆ
พวกหู่ทั้งสามคนจึงเปลี่ยนท่าทีจากระวังภัยเป็นพร้อมรบในทันที แต่กระนั้นสายตาที่ชินมองมายังพวกตนนั้นรุนแรงเกินกว่าจะหันหน้าไปเผชิญหน้าด้วยจิตสังหารได้
พวกเขาโดยเฉพาะเด็กชายและเด็กสาวได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อราวกับว่าหากแข็งขืนหัวก็จะหลุดจากบ่า รู้สึกขนลุกหนาวเฉียบเย็นเมื่อมองไปยังหน้ากากที่กำลังแสดงความโกรธกริ้วสมกับนามที่ถูกเรียกขาน แองกริคราวน์
“ ดูเหมือนธุระของนายจะไม่ใช่การยึดครองเขตนี้สินะ ” ชินพูดแบบนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เครื่องเปลี่ยนเสียงหลังหน้ากากยิ่งเปลี่ยนให้มันดูน่าขนลุกไปใหญ่
กระนั้น หู่ที่แม้จะรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยก็ยังตอบกลับมาอย่างห้าวหาญ
“ ใช่… ธุระของฉันก็คือนายนั่นแหล่ะ ”
คำพูดและการวางตัวราวผู้ดีหายไป ตรงหน้าของชินคือชายหนุ่มแบบเดียวกับเขาทุกกระเบียดนิ้ว
ก่อนจะตั้งการ์ดราวกับปรารถนาจะสู้มันเสียตอนนี้ ดูเหมือนท้ายที่สุดชินก็ไม่สามารถหนีการต่อสู้จากเขาไปได้แม้จะไม่พึงปรารถนาก็ตาม
ไม่เหมือนกับทหารที่ชินสังหารไปในสำนักงานเก่าก่อนหน้านี้… เหล่าทหารลงสู่สนามรบโดยเตรียมใจที่จะพ่ายแพ้ไว้แล้ว พวกเขาพร้อมที่จะปลิดชีพศัตรูรวมถึงเตรียมใจที่จะถูกสังหาร พวกเขาคือนักรบที่คู่ควรแก่การต่อสู้และสังหารในความคิดของชิน
ทว่าไม่เหมือนกับคนพวกนี้… ชินไม่รู้ว่าบุคคลตรงหน้านี้คู่ควรกับการตายหรือไม่
พูดให้ง่ายเข้า… ชินไม่รู้ว่าชายตรงหน้านี้เตรียมใจมาแค่ไหน คู่ควรกับการตายในสนามรบไหม?
เพราะสำหรับชินที่ถูกสอนมาว่า “ผู้ที่ตายในสนามรบต้องเป็นนักรบเท่านั้น” จึงต้องสังหารเฉพาะคนที่ตัวเองยอมรับว่าเป็นนักรบ หรือหากศัตรูมีสถานะอื่นที่ไม่ใช่นักรบชินก็จะไม่สังหาร มันอาจคล้ายกับความเห็นใจอันไร้ประโยชน์ในสนามรบ ทว่านั่นก็คือความงดงามในสนามรบซึ่งเป็นพื้นฐานทัศนคติที่ถูกสืบทอดมาของชินเช่นกัน นั่นเป็นดั่งความภาคภูมิที่ถูกสอนสั่งมาให้เป็นชินดังในตอนนี้
นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่โอลิเวียช่วยยั้งมือไว้ในศึกแรกของทั้งสองคนไม่ให้ชินสังหารหู่ เพราะในมุมมองของโอลิเวีย เธอคงไม่อาจทำให้ศักดิ์ศรีของชินต้องมามัวหมองเพราะตัวเองไม่ได้เด็ดขาด
…รวมถึงครั้งนี้เองก็ด้วย
“ แม้จะต้องตายก็ตาม… งั้นเหรอ? ”
“ อึก! ”
ชินจงใจพูดให้น้ำเสียงดูน่าขนลุกมากยิ่งขึ้นไปอีก บรรยากาศนักฆ่าที่ถูกปล่อยออกมายิ่งทำให้พวกหู่ตระหนักว่าฝีมือและประสบการณ์อยู่คนละชั้น และชินก็หวังให้พวกเขารู้สึกแบบนั้นและยอมแพ้ไปซะ
ทว่า… นั่นดูเหมือนจะไร้ผลกับหู่ที่ตั้งการ์ดทั้งที่ปลายมือสัมผัสได้ถึงความสั่นกลัว
เจ้าหมอนี่… ดูเหมือนจะมีเหตุผลที่ต้องสู้จนถึงขนาดต้องแลกด้วยชีวิตเลยสินะ
จะว่าไป… ไม่ใช่แค่หมอนี่ แต่ทุกคนที่เข้าร่วมศึกนี้เองก็คงจะมีเหตุผลเหมือนกันนั่นแหล่ะ
ชินคิดแบบนั้นด้วยความเห็นใจ เพราะเช่นไรชินคงไม่อาจประเมินอีกฝ่ายที่เคยพ่ายแพ้ตนมาครานึงสูงกว่าตัวเองได้
“ งั้นก็เข้ามา… ฉันจะรีดเร้นความกลัวของนายออกมาให้มากกว่าครั้งที่แล้วเอง ” ชินพูดพลางหักนิ้วมือเดียวราวกับบดขยี้อากาศดัง กร๊อบ!
สติของทั้งสามคนถูกจุดราวระเบิดเพลิงตอบสนองท่าทางพร้อมรบของชิน ทว่าพริบตาเดียวกับที่ชินหักนิ้วเสียงดัง ภาพที่พวกหู่มองเห็นก็เบลอ หักเหและบิดเบี้ยวไปมาส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ
และพริบตาต่อมาที่รู้สึกตัวรอบตัวหู่ที่เคยมีทั้งเด็กหญิงและเด็กชายต่างก็หายไปหมด สาเหตุนั้นมาจากโอลิเวียที่ได้สัญญาณ(การหักนิ้ว)จากชินเมื่อครู่ ทำการใช้ภาพลวงตากับทั้งสามคนทำให้มองไม่เห็นตัวอีกฝ่าย โดยจะมองเห็นและสัมผัสได้เฉพาะศัตรูเท่านั้น
เด็กสาวถูกรับหน้าที่โดยเกวน ส่วนตัวเด็กชายนั้นถูกรับหน้าที่โดยโอลิเวีย รวมกับหู่ที่ชินจะเป็นคนจัดการเองแล้ว จะกลายเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งดังที่ชินวางแผนไว้
“ ทำกันได้นะครับ ” หู่ได้แต่กัดฟันกรอด เมื่อได้รู้ว่าเป็นเบี้ยล่างของชินมาตั้งแต่แรก
กระนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมลดละที่จะโค่นชินแต่อย่างใด อะไรที่ผลักดันเขาขนาดนี้ชินเองก็อยากรู้ แต่กระนั้นก็ต้องโฟกัสที่ศัตรูของตัวเองก่อน
❖❖❖❖❖
ในขณะเดียวกับที่ฟากของชินกำลังจะเปิดศึก เกวนก็กำลังเผชิญหน้ากับเด็กหญิงที่มีร่างกายเพียงครึ่งเดียวของตัวเอง กระนั้นเกวนก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเอาเปรียบหรือสงสารแต่อย่างใด
“ เอาล่ะนะ ” และต่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้ แต่อีกฝ่ายเองก็เตรียมใจมามากไม่แพ้กัน เด็กหญิงตั้งท่าราวกับนักกังฟูพร้อมจู่โจมทุกเมื่อ
เกวนเห็นแบบนั้นก็ตั้งการ์ดกลับไปด้วยการยกมือสองข้างขึ้นในระดับศีรษะ อันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า ‘มวยไทย’ เพราะประเมินแล้วว่า กับอีกฝ่ายที่ใช้ศิลปะการต่อสู้มือเปล่าที่ตัวเองยังไม่รู้จักวิธีรับมือดี ไม่ควรใช้อาวุธซึ่งอีกฝ่ายอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้ หมัดต่อหมัดจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
ทั้งสองขยับเท้าทีละเล็กทีละน้อยเพื่อหาช่องว่างของอีกฝ่าย เวลาของทั้งสองและทั้งโลกราวกับหยุดนิ่ง และพริบตาที่หยดน้ำไหลจากปลายใบ้ไม้ลงสู่พื้นดิน คือจังหวะที่ทั้งคู่ถีบพื้นเข้าหากัน
เกวนออกหมัดพุ่งเข้าใส่ปลายคางของเด็กสาวเต็มแรงอย่างไม่ลังเล ทว่าฝ่ามือของเด็กสาวก็กลับปัดป้องออกไปและสวนกลับมาด้วยฝ่ามือใส่สีข้างของเกวนจนเธอถึงกับเซเล็กน้อยและต้องถีบพื้นหลบไปด้านข้าง
“ มีแค่นี้เหรอคะ ” เด็กหญิงพูดปานยั่วยุ บวกกับตัวหน้ากากที่ยิ้มอย่างยียวนแล้วก็คงมีเหตุผลเพื่อทำให้ศัตรูหัวปั่นดังที่กล่าว
แต่เกวนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าก็คิดแค่ว่า จะไปโมโหกับเด็กตัวแค่นี้ไปทำไมกันราวกับพี่สาวผู้ใจดี
ทว่าพริบตาต่อไป การสูดลมเข้าปอดและปล่อยออกมาเต็มกำลังของเธอราวกับยักษานั่นทำให้ความคิดของเด็กหญิงเปลี่ยนไป
เกวนถีบพื้นด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม พร้อมกับจู่โจมเด็กหญิงอย่างต่อเนื่องด้วยหมัดรัว เร็วขึ้นและเร็วขึ้น จนเด็กสาวทำได้แต่ปัดป้องออกไปไม่สามารถโต้กลับได้เลยซักนิด
คนๆนี้มันอะไรกัน!? ทั้งที่น่าจะเป็นมนุษย์เหมือนกันแท้ๆไม่ใช่เหรอ!? เด็กหญิงคิดใน๘ระที่กัดฟันกรอดหาช่องว่างถีบตัวเว้นระยะออกมา กระนั้นเกวนก็ไม่ปล่อยให้เธอหนี เกวนถีบพื้นร่นระยะอย่างต่อเนื่องพร้อมกับจู่โจมต่อทันทีไม่ให้เด็กหญิงพักหายใจ
การโจมตีของเกวนเริ่มส่งผลต่อมวยอ่อน… หมัดของเกวนที่โจมตีโดนถากๆลดพละกำลังของเด็กหญิงได้มากกว่าที่ทั้งคู่คาดการณ์ จนการหลบหลีกของเด็กหญิงแข็งทื่อลงเรื่อยๆ พละของเธอกำลังจะหมดลงในอีกไม่ช้า เกวนจึงเริ่มเข้าสู่พิธีปิดฉาก
“ อะไรกัน!? ”
เด็กหญิงเสียจังหวะเล็กน้อยจากหมัดหลอกล่อของเกวน พริบตานั้นก็ออกหมัดตรงใส่ลิ้นปี่ของเด็กหญิงจนถึงกับกระอัก ของเหลวอะไรต่อมิอะไรไหลผ่านใต้หน้ากากของเด็กหญิงอย่างไร้ความปราณี ก่อนจะปิดฉากด้วยลูกเตะอัดใส่ท้องน้อยของเด็กหญิงเต็มแรงจนกระทั่งร่างของเด็กหญิงกระแทกกับกำแพงบ้านจนแน่นิ่งไป ดูเหมือนเด็กหญิงจะหมดสติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เกวนที่ได้รับชัยชนะปรับลมหายใจหลังออกแรงอย่างหนักหน่วง หากว่ากันตามตรงแล้วเด็กคนนี้ก็เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าผู้ใหญ่หลายคนที่เธอเคยสู้เสียอีก แต่กระนั้นดูเหมือนระดับของเกวนจะสูงกว่าสองหรือสามขั้น แถมยังโชคดีที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นมนุษย์อีก
ขอโทษด้วยนะ… เกวนคิดแบบนั้นในขณะที่มองเด็กหญิงซึ่งนั่งสลบหลังพึงกำแพงอย่างรู้สึกผิด
หลังผ่านความรู้สึกแย่ๆมาได้ เธอก็หันมาสนใจพรรคพวกของตัวเอง
“ แองกริคราวน์กับโกลเด้นด็อกจะเป็นยังไงบ้างนะ ”
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ ”
มีเสียงตอบกลับมาจากการพูดคนเดียวจากทางด้านหลังทำเอาไหล่ของเกวนถึงกับกระตุกอย่างแรง ดูเหมือนโอลิเวียที่ลากเด็กชายไปจัดการในระยะที่ห่างจากจุดนี้ก่อนสู้เองก็ชนะได้แล้วเหมือนกัน
เกวนที่หันหลังขวับกลับไปดูจึงค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ในขณะที่ทางโอลิเวียพินิจพิเคราะห์สภาพแวดล้อม โดยเฉพาะศัตรูอย่างเด็กสาวที่กำลังนอนสลบหลังพิงกำแพงอยู่
“ ไม่ได้ฆ่าทิ้งหรอกเหรอคะ? ”
“ เอ๊ะ!? ”
เกวนมีปฏิกิริยากับคำพูดของโอลิเวียในทันที กระนั้นก็ไม่ได้ตอบคำถามเพราะมันก็เห็นๆกันอยู่ จุดประสงค์ของคำถามจึงเป็นอย่างอื่นมากกว่า สายตาของเกวนจึงจดจ้องใบหน้าสวมหน้ากากของโอลิเวียอย่างไม่ลดละราวจะเฟ้นคำตอบแบบเดียวกัน
ทว่าน่าเสียดายที่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบในทันที เพื่อทำลายบรรยากาศเชิงข่มขู่เค้นคำตอบของโอลิเวีย เกวนก็มีแต่ต้องตอบคำถามนั้นก่อน
“ จุดประสงค์ของศึกคือการยึดครองเขตค่ะ ไม่ใช่การเข่นฆ่า เพราะงั้นโดยหลักการแล้วก็ไม่เห็นต้องฆ่าอีกฝ่ายเลยนี่คะ ”
“ ใจอ่อนจริงนะคะ ถึงที่พูดมาจะไม่มีอะไรผิดก็เถอะ ”
โอลิเวียตอบกลับเกวนในทันทีราวกับบอกปัดและไม่สนใจ ในขณะที่เดินผ่านไหล่ของเกวนไปยังจุดที่เด็กหญิงที่ถูกโค่นโดยเกวน มือขวาของโอลิเวียค่อยๆเอื้อมเข้าหาลำคอเล็กๆของเด็กหญิงมากขึ้นและมากขึ้นประหนึ่งปีศาจ ในขณะที่เกวนจ้องภาพนั้นด้วยสีหน้าตึงเครียดและรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของโอลิเวียเอามากๆ แม้เธอจะไม่ได้ผิดอะไรที่จะเอาชีวิตศัตรูก็ตาม แต่ว่า…
“ หยุดก่อนค่ะ! ”
เกวนตะโกนขัดขึ้นมาทำให้โอลิเวียหยุดมือ ก่อนที่ตัวโอลิเวียจะค่อยๆยืนขึ้นประจันหน้ากับตนราวข่มขู่ว่า “แล้วเธอจะทำอะไรดิฉันได้ล่ะคะ?”
แต่เกวนกลับพูดต่อออกมาในทันทีอย่างไร้ความยำเกรง
“ ก็จริงอยู่หรอกค่ะที่ใจอ่อน แต่ถ้าทำเรื่องบางอย่างที่ไม่ควรทำลงไปเดี๋ยวก็ได้สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปหรอก! ”
“ เป็นคำพูดที่น่าสนใจดีนะคะ ถ้างั้นกรอบของมันอยู่ที่ตรงไหนกันล่ะคะ ” โอลิเวียพูดคาดคั้นปานจะไล่ให้อีกฝ่ายจนมุมด้วยเหตุผล กระนั้นเกวนก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ เรื่องนั้นฉันไม่ทราบค่ะ แต่ว่า… ถ้าถึงกับต้องฆ่าเด็กตัวแค่นี้ล่ะก็ ยังไงมันก็ไม่มีทางถูกต้องแน่ๆล่ะค่ะ ”
เกวนตอบกลับชัดถ้อยชัดคำ เจตนานั้นส่งไปถึงโอลิเวีย ว่าต่อให้ศัตรูเป็นเด็กที่จะฆ่าตัวเอง กระนั้นก็จะจัดการอีกฝ่ายโดยไม่ฆ่าอยู่ดี เป็นทัศนคติของเด็กสาวที่อ่อนโยนและเที่ยงธรรมเสียจริงในความคิดของโอลิเวีย
โอลิเวียเปลี่ยนมาเดินเข้าหาเกวนแทน ขาของเธอก้าวอย่างช้าๆทว่าก็สร้างความกังวลให้เกวนได้เหมือนกัน สำหรับเกวนที่มองโอลิเวียอย่างหวาดๆก็ได้แต่คิดว่า บางทีโอลิเวียอาจจะต้องการฆ่าเด็กคนนั้นทิ้งหลังจากสั่งสอนเรา เพราะแค่คำพูดของตัวเองจะไปมีผลกับคนที่ตั้งใจจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วได้ยังไง
แต่จะให้สู้กับพวกเดียวกันเกวนก็ทำไม่ได้ ซ้ำคนๆนั้นยังเป็นคนสำคัญของชินอีก เธอจึงได้แต่ยืนเฉยๆให้โอลิเวียเข้ามาใกล้ราวสมยอม
แปะ!
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในพริบตาที่โอลิเวียเข้าใกล้เธอ กลับเป็นมือของโอลิเวียที่วางลงบนไหล่ของเกวนเสียได้
“ ล้อเล่นค่ะ ”
“ เอ๋? ”
โอลิเวียเปลี่ยนท่าทางจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้เกวนแทบจะล้มทั้งยืน กระนั้นความแปลกใจก็ยังลอดออกมาเป็นเสียงผ่านหน้ากาก
โดยปล่อยให้เกวนตกใจไปอยู่อย่างงั้น โอลิเวียก็ผละมือออก ก่อนจะเป็นฝ่ายเริ่มพูดบ้าง
“ ขอโทษที่ว่ากล่าวไปแบบนั้นนะคะ ความจริงดิฉันเองก็แค่ทำให้อีกฝ่ายหมดสติเหมือนกันเพราะเป็นคำสั่งของมาสเตอร์ แน่นอนว่าดิฉันเองก็ไม่อยากทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นโดยไม่จำเป็นเช่นกัน… และในฐานะข้ารับใช้ ดิฉันจำเป็นต้องรู้นิสัยใจคอของเพื่อนสนิทของมาสเตอร์ค่ะ ”
โอลิเวียพูดแบบนั้นออกมา เกวนก็แทบจะร้อง อ๋อ! ออกมาเพราะเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ จากการเอาใจใส่ชินของเธอตลอดที่ร่วมทาง คิดแบบนั้นแล้วเกวนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แต่ทางโอลิเวีย…
…ต้องตรวจสอบให้ละเอียด
โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่สิ… โดยเฉพาะคุณนี่แหล่ะค่ะ
โอลิเวียคิดแบบนั้นแต่จงใจไม่พูดออกมา ในขณะที่มองท่าทางของเกวน
“ ในกรณีนี้ก็ถือว่าคุณสอบผ่านล่ะนะคะ… เพราะงั้นช่วยเป็นเพื่อนของมาสเตอร์ต่อไปด้วยนะคะ ”
“ อะ ค่ะ! เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ”
เกวนตอบกลับด้วยรอยยิ้มใต้หน้ากาก พลางคิดอยู่ในใจว่า “คิดไปเองรึเปล่านะ ว่าคุณโอลิเวียจงใจเน้นคำว่าเพื่อนจัง?”
เกวนพยายามลืมเรื่องนั้นในขณะที่เดินตามโอลิเวียกลับไปยังจุดแรกที่ชินกับหู่น่าจะกำลังปะทะกันอยู่
❖❖❖❖❖
ในขณะเดียวกัน ทางด้านของชินกับหู่เองก็กำลังตั้งท่าเตรียมจะเริ่มศึก แต่แม้จะกล่าวไปแบบนั้น ทว่าทางชินกลับไม่ได้แสดงออกภายนอกแต่อย่างใด
หากมองดูจากมุมมองบุคคลที่สาม ชินที่ยืนอยู่เฉยๆไม่แม้แต่จะตั้งการ์ดนั้นดูเหมือนว่าจะยอมแพ้ไปแล้ว ไม่ก็คงโง่หรือไร้ประสบการณ์เอามากๆ ทว่ามีแต่นักรบยอดฝีมือด้วยกันเท่านั้นที่มองออก เพราะแรงกดดันที่ชินแผ่ออกมารอบตัวนั้น บ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่า แม้จะไม่ตั้งท่าก็สามารถโจมตีได้ทุกเมื่อ ในทางกลับกันก็บ่งบอกอีกด้วยว่า หากเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะถูกสวดกลับเอาได้ง่ายๆเช่นกัน
หู่ไม่รีรอที่จะชักดาบยาวสองคมออกมาจากฝักซึ่งสะพายไว้ที่เอวมาตลอด ก่อนจับกระชับด้วยมือทั้งสองแน่นไม่ให้หลุดมือ ตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตีชินโดยการหันคมดาบเข้าใส่
หากเทียบกับครั้งที่แล้วถือว่าเยือกเย็นกว่าเดิม แถมเทียบกับก่อนหน้าที่จะโจมตีเราก่อนหน้านี้เองก็ด้วย
ดูเหมือนชายคนนี้จะไม่ได้เย่อหยิ่งไปเสียหมด เพราะความเยือกเย็นที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็นับได้ว่ายอดเยี่ยม
แต่ถึงเป็นแบบนั้นก็…
“ เปล่าประโยชน์ ”
ชินพูดแบบนั้นออกมาโดยไร้ความเกรงกลัวเช่นเคย กระนั้นก็ไม่พลาดที่จะสังเกตรอบตัวเหมือนเคย เขาพูดแบบนั้นไปเพื่อหวังให้ศัตรูสูญเสียความเยือกเย็นเท่านั้น
แต่ว่า…
“ ประมาทแบบนี้นี่ไม่ดีเลยนะครับ ”
เสียงอันแฝงไว้ด้วยความเย่อหยิ่งออกมาจากปากของหู่ พริบตานั้นชินก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่พุ่งมาจากด้านข้างทั้งสองทาง เขาถีบพื้นหลบไปด้านหลังอย่างฉิวเฉียด และพริบตาที่ยั้งเท้าเหยียบพื้นรอยขาดตรงแขนเสื้อก็ปรากฏ ดูเหมือนนี่จะเป็นไนท์ของหู่ ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่ใช้ปลิดชีพโอลิเวียหนก่อน
พลังของมันนั้นดูท่าจะร้ายกาจเพราะสามารถตัดผ่านบาเรียของชุดเข้ามาได้อย่างที่ชินคาด แถมครั้งนี้ ความเฉียบคมและรุนแรงของมันก็ดูท่าจะเพิ่มขึ้นด้วย
“ เอาล่ะนะครับ!!! ”
หู่ถีบพื้นขึ้นพร้อมเงื้อดาบขึ้นสูงเหนือศีรษะเข้าหาชิน จังหวะนั้นชินก็หยิบปืนพกออกมาและเล็งกลางลำตัวของศัตรู ทว่าพริบตาก่อนลั่นกระสุน ปืนก็ถูกแบ่งเป็นสามส่วนราวเต้าหู้ถูกหั่น
“ ย้ากกก!!! ”
ดาบของหู่ฟาดลงใส่ชิน ทว่าชินเองก็ยกมือขวาขึ้นคว้าจับมันไว้ได้ก่อนจะถึงตัว ก่อนจะออกหมัดซ้ายใส่สีข้างขวาของหู่ในทันที ร่างของหู่ถอยกรูดกลับไปยังจุดเริ่ม แต่เขาไม่ได้โฟกัสที่อาการบาดเจ็บ เพราะรู้ว่าหากคลาดสายตาไปจากชินแม้เสี้ยวกะพริบตาจะเป็นยังไง
เรียนรู้จากข้อผิดพลาดครั้งที่แล้วได้ดีทีเดียว… ชินเอ่ยชมหู่อยู่ในใจ ก่อนจะถีบพื้นเข้าหาเป็นฝ่ายบุกบ้าง
ชินพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมกับกำหมดขวาแน่นและอัดตรงใส่กลางลำตัวของอีกฝ่ายสุดแรงเกิด ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะลดดาบลงมาใช้กันไว้ได้ทัน แม้ดาบจะเกิดรอยร้าวเล็กๆก็ตามที
“ อึก! ”
ชินไม่สนใจท่าทางทรมานของอีกฝ่าย ดันหมัดออกแรงเพิ่มอีกจนกระทั่งร่างของหู่กระเด็นอัดผนังบ้าน จนถึงขนาดทะลุเข้าไปในตัวบ้านเลยทีเดียว
เกิดควันคลุ้งขนาดใหญ่พอควร แต่ไม่ได้บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของหน้ากากที่มีระบบช่วยเหลือ ชินเดินเข้าไปทั้งอย่างงั้นราวกับรอจังหวะอยู่แล้ว
“ บอกว่าอย่าประมาทยังไงล่ะครับ! ” เสียงนั่นดังมาจากอีกฟากของควันคลุ้งราวกับรอจังหวะที่ชินจะเข้ามาอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ อย่างน้อยหู่ก็คิดแบบนั้น
การโจมตีที่ไม่สามารถมองเห็นได้ของหู่พุ่งเข้าใส่ชินหวังบั่นเศียร ความรวดเร็วนั่นใช่ว่าจะยากแก่การหลบ แต่ชินก็กลับรับมันเอาไว้ หนนี้ความรุนแรงของมันเพิ่มขึ้น จะด้วยตัวแปรอะไรก็ตาม แต่มันสร้างบาดแผลแรกให้กับชินได้สำเร็จ
รอยแผลราวกับถูกมีดบาด เฉือนต้นแขนซ้ายด้านหน้าของชินที่ใช้ยกกำบังจนเลือดหยดลงตรงพื้น
ตามมาด้วยการโจมตีระลอกสองมาจากทางซ้ายและขวาของชิน แต่รอบนี้ชินไม่มีเหตุผลที่จะต้องโดน เขาถีบพื้นหลบไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะที่ฝุ่นควันถูกพัดออกไปรอบด้านพอดี เผยให้เห็นหู่ที่ยืนยืดอกอยู่ในตัวบ้านค่อยๆเดินออกมาตามชินที่อยู่ด้านนอก
“ ดูเหมือนฝ่ายที่ได้แผลก่อนจะเป็นคุณนะครับเนี่ย นี่ถ้ามีคนรู้ว่าผมสร้างแผลให้คุณได้ ผมคงดังน่าดู ”
เสียงหัวเราะในลำคอลอดออกมาจากหู่ พร้อมคำพูดราวกับมั่นใจในชัยชนะของตน จากผลลัพธ์นี้เขาถึงกับคิดไปว่าสถานการณ์ได้กลับตาลปัตรจากหนก่อนไปแล้ว
ทว่าคำพูดต่อไปของชินก็กลับต้องทำให้เหตุการณ์กลับตาลปัตรอีกครั้ง
“ เมื่อกี้ ถ้าโจมตีฉันใส่ด้านหลังก็อาจจะสร้างแผลฉันได้มากกว่านี้ ทำไมถึงไม่ทำกันนะ ”
“ อึก! ”
หู่หวั่นไหวในทันทีกับข้อสังเกตของชิน เขากลับมาตั้งท่าเตรียมพร้อมอีกครั้งเหมือนก่อนหน้านี้
“ ไม่สิ… คงทำไม่ได้สินะ เพราะการโจมตีของนายทำได้แค่สร้าง การตัด ในจุดที่ตัวเองมองเห็นเท่านั้น ”
ได้ยินคำพูดต่อไปของชินยิ่งทำให้ตัวแข็งทื่อ ชินอาศัยจังหวะนั้นเหยียบพื้นพุ่งเข้าหาสุดแรง ทว่าร่างที่หายไปกลับไปปรากฏอยู่ที่ทางฝั่งขวาของหู่เสียได้ นั่นเป็นการย่างก้าวที่ชินฝึกมาแรมปีอันเรียกว่า ลวงล่อไร้ทิศ
ชินง้างเท้าก่อนเตะอัดสีข้างที่เปิดช่องว่างเต็มที่ใส่หู่ พริบตานั้นร่างของเขาก็กระเด็นทะลุผนังบ้านในห้องหลายต่อหลายครั้งจนทะลุมาจนถึงหน้าบ้านและทำได้แค่นอนหงายท้องกระอักเลือด
สถานการณ์คล้ายคลึงกับหนก่อนจนน่าตลก แน่นอนว่าเป็นเชิงประชดประชันต่อหู่ที่คิดแบบนั้นแต่ขำไม่ออก
“ อึก… ทะ ทำไม… ” หู่เอ่ยถามออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับใช้แรงเฮือกสุดท้าย ไม่สิ… จากที่ชินดูก็คงเป็นแรงเฮือกสุดท้ายจริงๆ
ส่วนคำตอบของคำถามนั้นก็คือ มันเริ่มมาจากการที่ชินเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทั้งที่ทัศนวิสัยยังไม่สู้ดีเพื่อหลอกล่อให้อีกฝ่ายโจมตีออกมา เพื่อตรวจสอบพลังของอีกฝ่ายว่าคืออะไรและมีอานุภาพมากขนาดไหน
ในอย่างแรก ชินรู้ว่าไนท์ของอีกฝ่ายคือการตัดไม่ใช่การสร้างสายลมขึ้นมาโจมตีก็คือ ตอนที่หู่โจมตีใส่ชินท่ามกลางฝุ่นควัน เพราะควันนั้นถูกอากาศแหวกออกจากจุดที่โจมตี ไม่ใช่จุดที่หู่อยู่ นั่นแสดงว่าการโจมตีเกิดขึ้นบริเวณที่หู่กำหนด คล้ายการสร้างกรรไกรล่องหนขึ้นมาตัดตรงพิกัดนั้น ไม่ใช่พุ่งมาจากจุดที่หู่อยู่อย่างที่เข้าใจ เพราะหากไม่สังเกตดีๆก็คงไม่รู้ว่าการโจมตีนั้นพุ่งเข้ามาหาด้วยระยะที่ใกล้จุดตัดมากกว่าที่คิด
อย่างที่สองที่ชินอยากพิสูจน์ก็คือ การตัดนั้นสามารถทำได้ 100% หรือไม่ และคำตอบก็ออกมาแล้วว่าอานุภาพของมันก็รุนแรงเอาเรื่อง แต่ก็เหมือนกับการใช้กรรไกรตัดเหล็ก พลังของมันยังไม่เพียงพอที่จะบั่นแขนของชินให้ขาดออกจากกัน
นั่นคือข้อมูลและสรุปทั้งหมดที่ชินได้ แต่แน่นอนว่าชินไม่มีเหตุผลที่ต้องตอบคำถามของหู่
เพราะอยู่ทางหน้าบ้านของบ้านร้างพอดี ชินเลยจะเดินผ่านหู่ออกไปทางประตูหน้าสู่ถนนราวหมดความสนใจ นั่นทำเอาหู่ที่สติเลือนรางไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
“ จะ จะไปไหน… ผมยัง สู้ต่อได้ ”
ราวกับมีพลังงานสำรอง… หู่ใช้มืออันสั่นเครือจับข้อเท้าของชินเอาไว้อย่างไม่ยอมแพ้ การกระทำนั้นน่าชื่นชมแต่ก็น่ารำคาญในขณะเดียวกันสำหรับชิน
รวมถึง… สร้างความสงสัยให้กับชินถึงเหตุผลที่ชายคนนี้เสี่ยงเข้าสู้กับตนทั้งที่น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าจะแพ้
“ ไม่ได้… ผมมีคนสำคัญ ที่ต้อง… ปกป้อง… ”
เสียงของหู่สั่นเครือมากขึ้นจนกระทั่งคำสุดท้ายหลุดออกมาจากปาก มือของเขาอ่อนแรงลงจนเหมือนเถาวัลย์เกาะกุมข้อเท้าชิน แต่ชินก็กลับเดินออกมาเบาๆ ไม่ได้สลัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใยประหนึ่งเคารพศัตรู
และเพราะคำพูดที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึกนั้น ทำเอาชินเองก็อดชื่นชมจิตวิญญาณของหู่ไม่ได้เช่นกัน
บังเอิญจังนะ เพราะฉันเองก็มีเหมือนกัน
ชินคิดแบบนั้นก่อนจะค่อยเดินออกไปตรงทางเข้า ดูเหมือนตรงจุดนั้นจะมีคนรออยู่แล้วด้วย นั่นก็คือโกลเด้นด็อกและบันนี่ ทั้งสองคนเอาชนะอีกฝ่ายมาได้โดยไร้บาดแผลทำเอาชินโล่งอกไปมากทีเดียว
“ มาสเตอร์ แผลนั่น! ” โอลิเวียใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเหมือนเคยในการตรวจสอบสภาพร่างกายของชิน และพริบตาที่เห็นบาดแผลของชินก็รีบพุ่งเข้ามาหา
“ ละ โล่งอกไปที… ” พร้อมกับเกวนที่ได้ยินโอลิเวียพูดแบบนั้น เธอก็เข้ามาดูอาการชินพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าแผลของชินไม่ได้ลึกขนาดนั้น
เป็นห่วงกันเกินไปหน่อยแล้วมั้ง… ชินคิดแบบนั้น
จะว่าไป เมื่อกี้เลือดเราหยดลงพื้นด้วยสินะ
ต้องรีบทำลายหลักฐานนั้นทิ้งด้วย————
วูม!!!
ในระหว่างที่ชินคิดแบบนั้น ก็กลับเกิดเรื่องประหลาดที่สุดเท่าที่เคยเห็นขึ้น
เพราะด้านหน้าของชินที่ห่างไกลไปหลายโพ้นทะเล ได้มีเสาแสงสีน้ำเงินพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดินสู่ท้องฟ้า แสงนั่นน่าเกรงขามประหนึ่งการตัดสินจากค้อนยุติธรรมจากพระผู้เป็นเจ้า
เพราะงั้นจึงเดาได้ไม่ยากเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะต้องมีสาเหตุมาจากการที่โลกได้ตัดสินอะไรบางอย่างแน่นอน
ทิศนั้นมัน… ออสเตรเลียงั้นเหรอ?
“ บันนี่… เกิดอะไรขึ้น ” ชินถามเกวนที่น่าจะรู้คำตอบออกมาด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กๆเพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ เช่นเดียวกับโอลิเวีย
“ นั่นคือเสาแสงที่จะมองเห็นได้เฉพาะผู้ที่มีตราอัศวินและราชา… มันเกิดขึ้นในตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองของแต่ละเขต ”
คำตอบของเกวนชัดเจนและเข้าใจง่าย ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กๆ แฝงด้วยความกังวล
เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันคือเครื่องยืนยันถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปของศัตรู
อัลเฟรดติดต่อมาหาชินในทันทีราวรู้ใจ
“ คุณแองกริคราวน์ครับ ”
“ ออสเตรเลียถูกรัสเซียยึดไปแล้วสินะ ”
“ …ถูกต้องแล้วครับ ”
ราวกับช่วยกันตอกย้ำความจริง เพราะอัลเฟรดเองก็มีน้ำเสียงกังวลเช่นกัน
ไหนบอกว่ารัสเซียเพิ่งส่งคนมาบุกคืนนี้ไม่ใช่เหรอ?
จากที่เราลองสู้ดูในตอนนี้ ก็เห็นกันชัดๆอยู่ว่าการยึดครองดินแดนนั้นไม่ใช่ง่ายๆ
แต่ทางรัสเซียกลับทำแบบนั้นได้ในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ มีความลับอะไรอยู่กันแน่นะ
นั่นคือความคิดของชิน ด้วยข้อมูลที่มีอยู่น้อยนิดก็ยิ่งทำให้กังวล เพราะจากที่อัลเฟรดวางแผน หากรัสเซียได้พื้นที่ออสเตรเลียก็จะสามารถทำการบุกยึดอินโดนีเซียซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับพวกตนได้ง่ายขึ้น
หรือกล่าวให้ง่ายเข้า… การที่รัสเซียได้รับชัยชนะตอนนี้ คือการที่รัสเซียจะเป็นคู่ต่อสู้รายใหม่ของพวกอัลเฟรดนั่นเอง
“ คุณแองกริคราวน์ ยังไงถ้าชนะประเทศจีนได้แล้วก็รีบกลับมารวมตัว———— ”
ตู้ม!!!
ราวกับไม่ยอมให้พักให้ผ่อน… วัตถุ?บางอย่างก็กลับหล่นลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็วที่ชินยังไม่ทันสังเกตจนควันคละคลุ้งไปทั่ว พร้อมพื้นถนนยังแตกระแหงไปทั่วในจุดที่ห่างออกไปจากพวกชินราว 100 เมตร
และทันทีที่ควันลอยหายไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกชินก็คือมนุษย์ผู้สวมหน้ากากหัวกะโหลกครึ่งใบหน้า โดยมีกระเปาะเข็มฉีดยาฝังอยู่ทั่วกะโหลกดูน่าหวาดผวา รวมกับรังสีการฆ่าฟันที่คนๆนี้แผ่ออกมาก็ยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนที่ได้เห็น
รวมถึงเกวนที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าราวกับจะล้มคะมำได้ทุกเมื่อ
“ กะ โกหกน่า… หมอนี่มัน อัศวินอันดับสามของพวกรัสเซีย ทำไม… ”
คำตอบอันน่าหวาดหวั่นออกมาจากปากของเกวน ทำให้ทั้งชินและโอลิเวียตั้งการ์ดต่างกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เพราะจากที่อัลเฟรดเล่ามา รัสเซียเรียกได้ว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด ซ้ำอีกฝ่ายยังแข็งแกร่งเป็นอันดับสามไม่รวมตัวราชาอีก
“ แองกริ… คราวน์… ”
เสียงอันแหบแห้งออกมาจากปากของชายผู้สวมหน้ากากกะโหลก เป็นพริบตาเดียวกับที่เขายกมือขวาขึ้นช้าๆราวกับจะคว้าพวกชินมาไว้ในกำมือ… พวกชินถอยกันไปคนละสามก้าวด้วยสัญชาติญาณ โดยหารู้ไม่ว่ามันทำให้พวกตนรอดชีวิตหวุดหวิด
แม้กระนั้น… แขนซ้ายของชินซึ่งรับได้แม้แต่การโจมตีสุดร้ายกาจที่บั่นคอของโอลิเวียก็กลับขาดสะบั้นหล่นลงพื้นทั้งที่ตั้งการ์ดไว้ก่อนหน้า ทำเอาทั้งสามคนตัวแข็งทื่อ เพราะดูเหมือนหากหลบช้ากว่านี้ที่ขาดน่าจะเป็นหัวของชินแทน
ความเจ็บปวดไม่มากเท่ากับความประหลาดที่กรีดแทงหัวใจของชิน
ทำไมอีกฝ่ายถึงใช้ไนท์ได้ทรงพลังขนาดนี้กัน? คำตอบนั้นง่ายแสนง่าย…
เจ้าหมอนี่… เป็นแวมไพร์สายเลือดแท้เหมือนกับเรา!
❖❖❖❖❖
Facebook Page : https://www.facebook.com/HatthAnant
Chapters
Comments
- ตอนที่ 47 มิถุนายน 19, 2022
- ตอนที่ 46: การประลองแบบตัวต่อตัว พฤษภาคม 7, 2022
- ตอนที่ 45: เพื่อนร่วมฝึกงาน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 44: วิธีสร้างข้อผูกมัด มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 43: ข้อเสนอที่น่าลำบากใจ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 42: สิ่งที่ควรทำมาตั้งนานแล้ว (เริ่มบทที่ 2) มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 41: ตัวจริงเบื้องหลังเรื่องราว (จบบทที่ 1) มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 40: ผลตัดสินศึกสุดอลหม่าน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 39: ศึกตัดสินอันอลหม่าน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 38: การต่อสู้ของลูกผู้หญิง มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 37: อดีตของจิน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 36: แองกริคราวน์ผู้ถูกไล่ล่า มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 35: สถานการณ์ที่เริ่มผิดปกติ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 34: เริ่มต้นทัศนศึกษา มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 33: การโหวตเลือก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 32: ความเข้าใจผิด มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 31: เบาะแสแรก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 30: ปณิธานของชงหยวน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 29: ไฟสุมขอนยังคงร้อนอยู่ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 28: คาบเรียนพิเศษ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 27: การต่อสู้ระหว่างราชา มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 26: กำลังเสริมของทั้งสองฟาก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 25: ยุทธการสายฟ้าแลบ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 24: คณะกรรมการจัดงาน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 23: ความลังเล มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 22: คู่หมั้นอันตราย มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 21: นักเรียนใหม่ (เริ่มบทที่ 1) มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 20 : ก่อนรุ่งสางของคืนวันที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล (จบ Prologue) มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 19: Overlord มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 18: ผีดูดเลือดผู้คลุ้มคลั่งจากโลหิต มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 17: แองกริคราวน์หลั่งเลือด มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 16: วลาดจอมเสียบ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 15: ข่าวร้ายกลายเป็นจริง มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 14: ผู้(ถูก)พิพากษา มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 13: เป้าหมายแรก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 12: ความเป็นจริงที่ค่อยๆที่ถูกแง้มให้เห็น ตอนจบ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 11: ความเป็นจริงที่ค่อยๆที่ถูกแง้มให้เห็น ตอนกลาง มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 10: ความเป็นจริงที่ค่อยๆที่ถูกแง้มให้เห็น ตอนแรก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 9: เค้าลางก่อนพายุ มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 8: ตกกระไดพลอยโจน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 7: เขตที่ 84 มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 6: ฝันกลางวัน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 5: ยามเช้าดังเช่นทุกวัน มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 4: ระเบิดกัมปนาท มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 3: เส้นแบ่งของโลก มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 2: ชีวิตประจำวันที่ควรจะเป็น มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 1: ยามเช้าแสนธรรมดาดังเช่นทุกวัน มีนาคม 13, 2022
MANGA DISCUSSION