บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 6 ควรปล่อยวางแล้ว
“เพี๊ยะ!” ภาสกรตบหน้าชมพูแพร!
ชมพูแพรทรงตัวไม่อยู่ เซล้มไปที่กำแพง ในหูของเธอได้ยินเสียงอื้ออึง ได้ยินแค่เสียงด่าทอดังสนั่นของภาสกร: “น้องสาวแกจะตายอยู่แล้ว แกยังมาสร้างปัญหา!หัวใจของแกทำด้วยอะไร!ถ้าไม่ได้มาเยี่ยมคนป่วย ก็ไสหัวไปซะ!”
วราตรีเองก็พุ่งตัวมา ทั้งผลักและตีชมพูแพร “เธอเกลียดลูกนุชตั้งแต่เล็ก ตอนนี้ยังอยากให้ลูกนุชตายอีก!ใช่ไหม? ทำไมเธอถึงใจร้ายแบบนี้!เสียดายนที่ฉันรักเธอเหมือนลูกในไส้!”
ภาสกรยื่นมือออกมาคว้ามือชมพูแพรแล้วลากเธอออกไป “ไสหัวออกไป!ฉันไม่เคยมีลูกสาวอย่างแกมาก่อน!”
ชมพูแพรสะบัดมือภาสกรออกอย่างแรง วราตรีเองก็รีบมาอุ้มเธอแล้วลากเธอออกไป
ชมพูแพรหันไปมองคณินที่รีบสาวเท้าเดินมา “คณิน!ฉันเคยบอกว่า!ฉันไม่เคยวางแผนทำร้ายคุณมาก่อน!คนที่วางแผนทำร้ายคุณ!คือผู้หญิงที่คุณรักมากที่สุด!”
คณินเห็นเลือดที่ไหลซิบอยู่ตรงมุมปากของชมพูแพร ดึงตัวเธอออกมาจากมือของภาสกร เขาจับเธอ แรงยิ่งกว่าภาสกร!
เลือดที่อยู่มุมปากของเธอสะท้อนเข้าไปในดวงตาของเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยสีแดง!”เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไร!”
ชมพูแพรเจ็บจนหดคอ ภาสกรพูดด้วยความร้อนใจ: “คณิน!อย่าไปฟังเธอพูดเหลวไหล!เธอเกลียดน้องสาวตั้งแต่เด็ก!”
มืออีกข้างที่ว่างอยู่ของคณินจับไหล่วราตรีที่ยังคงดึงไปมา จ้องมองไปที่ชมพูแพร รอบตัวของเขาแผ่ออร่าสังหาร!น่ากลัวผิดปกติ!”คุณพูดอีกรอบสิ!”
ชมพูแพรหายใจหืดหอบ “ตอนนั้น พ่อของฉันกับชมพูนุชวางแผนทำร้ายคุณ เพราะแม่ของฉันรู้ว่าฉันชอบคุณตั้งแต่เด็ก เนื้อความในพินัยกรรมคือ ขอแค่ฉันแต่งงานกับคุณสองปี เธอจะยกหุ้นทั้งหมดของเธอให้ชมพูนุช แม่คิดว่าไม่ว่าอย่างไรระยะเวลาสองปีนี้เราต้องมีลูกแน่นอน ถึงเวลานั้นชีวิตคู่ของเรามั่นคงแล้ว ดังนั้น พ่อของฉันเพื่อที่จะยกทุกอย่างให้ชมพูนุช จึงวางแผนทำร้ายคุณก่อนวันหมั้นของพวกคุณสองวัน ให้นักข่าวจับได้ เพื่อเกียรติยศและชื่อเสียงของตระกูลชลปักษา บีบให้คุณแต่งงานกับฉัน……”
ภาสกรร้องตะโกนอย่างไม่มีแรง “เธอพูดเหลวไหล!”
“ฉันไม่ได้พูดเหลวไหล คุณไปสืบการเปลี่ยนแปลงของผู้ถือสิทธิ์ในหุ้นก็ได้” ชมพูแพรเงยหน้าขึ้นมองคณินที่สูงกว่าเธอ เธอขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าเจ็บปวด ดวงตาเปล่งประกายนั้นมีของเหลวกำลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน “คณิน คุณคิดมาตลอดว่าคุณน่าสงสาร ฉันเป็นคนทำให้คุณไม่ได้ครอบครองผู้หญิงที่คุณรัก แต่คุณรู้ไหมคะ? ฉันต่างหากที่เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด!พ่อทำเพื่อลูกสาวอีกคน ใช้กลอุบายกับหุ้นของแม่ฉัน วางแผนทำร้ายฉัน ถึงฉันจะชอบคุณ แต่ฉันก็เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆที่แม่เลี้ยงมาอย่างดีด้วยความทะนุถนอม ฉันเองก็เป็นคนที่หยิ่งผยองมาก ฉันอยากจะแต่งงานกับคนที่รักฉัน ฉันก็อยากจะมีความสุข ฉันก็อยากจะถูกรัก คุณเอาความเกลียดชังทั้งหมดของคุณ มารวมไว้ที่ฉัน สองปีแล้ว ฉันต้องอดทนกับความเกลียดแค้นที่คุณให้กับฉันโดยที่ฉันไม่ได้ผิดอะไร!”
คณินหายใจไม่เป็นจังหวะ เขามองชมพูแพรที่ลื่นไถลลงมาจากกำแพงสีขาวที่พิงเอาไว้ ใบหน้าของเธอมีเหงื่อผุดขึ้นมา เขาดึงตัวเธอขึ้นมากลับดึงไม่ขึ้น เธอลื่นไถลลงมาไปต่อ สีหน้าซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ
“คุณเป็นอะไร?” เขาไม่เคยเป็นห่วงเธอมาก่อน ไม่เคยถามว่าเธอเป็นอะไร
ชมพูแพรสูดลมหายใจเข้าลึกๆหลายครั้ง เสียงของเธอแผ่วเบาเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณท้อง “ท้อง……เจ็บ……เหมือนมีมีดขยี้ไปมา……เจ็บ”
สายตาของคณินทอดมองลงต่ำ มองมือของชมพูแพรที่กุมท้องเอาไว้ ระหว่างขาของเธอมีเลือดสีแดงสดไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของเธอก็เจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
หัวของชายหนุ่มชาไปหมด เขาปล่อยข้อมือของเธอ ช้อนตัวเธอขึ้นมา “ชมพูแพร!คุณปิดบังอะไรเอาไว้!”
“ตอนกลางคืนฉันอยากจะบอกคุณว่า ฉัน……ท้องแล้ว” ชมพูแพรคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้ มองคางของเขา เป็นครั้งแรกที่เขาสีหน้าเป็นกังวลและวิ่งวุ่นเพื่อเธอ ตอนที่เธอเสียใจ หัวใจของเธอก็เจ็บปวดไปด้วย
“ฉันคิดว่า ในที่สุดพวกเราก็มีครอบครัวแล้ว ถึงแม้คุณจะไม่รักฉัน ก็ไม่เป็นไร คุณอาจจะรักลูก ถึงแม้ตอนแรกจะไม่รัก แต่ลูกอาจจะเหมือนคุณ คุณมองไปมองมาแล้วอาจจะรัก”
เธอเจ็บจนรีบหายใจ
“หยุดพูดได้แล้ว!”คณินอุ้มชมพูแพรแล้ววิ่งวุ่นไปมาเหมือนแมลงวันไม่มีหัว เขาร้องตะโกนเสียงดัง “หมอ!หมอ!”
เลือดไหลออกมาจากสะโพกของชมพูแพรเป็นสาย ทางด้านที่เย็นเฉียบเปื้อนไปด้วยสีที่สวยงาม
คณินหันหน้ากลับไปขณะที่กำลังตื่นตกใจ เขาเห็นเลือดสายนั้นด้วยความไม่ตั้งใจ ผวาอย่างมาก!
กล้ามเนื้อในร่างกายของเขาเกร็งไปหมด หัวใจของเขาก็บีบรัด!
ทำไมเขาถึงกลัวแบบนี้?
ตอนที่ชมพูนุชฆ่าตัวตายเขายังไม่กลัวแบบนี้ แต่ตอนที่เห็นเลือดของชมพูแพรไหลออกมาเต็มพื้น เขากลับกลัวจนส่งเสียงไม่ออก
ชมพูแพรอิดโรยอย่างมาก “เสียลูกไปแล้ว คงเป็นบาปกรรมที่ฉันควรพบเจอ สวรรค์ลงโทษที่ฉันครอบครองคุณโดยไม่สนใจความสุขของคุณ ดังนั้นจึงมอบลูกให้กับฉัน แล้วเอากลับไปด้วยความโหดร้าย……ถ้าฉันทำตัวดีๆหน่อย ยอมหย่า บางที……บางทีลูกก็จะค่อยๆเติบโตในท้องของฉัน……ฉัน……ฉันควรที่จะปล่อยวางแล้วจริงๆ……”