บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 44 ฉันกลัวแล้ว ฉันกลัวแล้ว
คณินโยนก้นบุหรี่ลงบนพื้น แล้วเหยียบจนละเอียด “หึ ตอนนั้นคงคิดว่าคนที่พูดไม่ได้และไม่รู้จักหนังสือ คงไม่เป็นภัยต่อพวกคุณอย่างนั้นใช่ไหม ? แต่น่าเสียดายที่สาวใช้จากชนบทซึ่งถูกวราตรีแม่ของคุณวางยาจนเป็นใบ้คนนั้น รู้หนังสือและอ่านออกเขียนได้ จึงได้เขียนหลักฐานว่าคุณผลักแม่ของแพรตกจากตึกอย่างไร และวราตรีวางยาเธอจนเป็นใบ้อย่างไรออกมา……”
ชมพูนุชร้องไห้อ้อนวอน “คณิน ! เรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว ! ได้โปรดให้อภัยฉันเถอะนะ ! เห็นแก่ความรักที่ฉันมีต่อคุณมาตลอดหลายปี !”
เมื่อชมพูนุชรู้ว่าเรื่องที่ตนเองฆ่าคนถูกเปิดเผย สมองของเธอก็เริ่มสับสนว้าวุ่น เธอไม่รู้ว่าควรรับมือเช่นไรดี นอกจากการอ้อนวอนขอร้องแล้ว ก็คงไม่มีวิธีอื่นจริง ๆ
คณินสั่งให้คนดึงชมพูนุชกลับขึ้นมาบนเรือ ชมพูนุชคิดว่าเขาจะปล่อยเธอ แต่ทว่าคณินกลับจ้องมองเธอ “ยาหยียังเด็ก เพิ่มจะอายุสองขวบกว่า คุณใช้มีดฟันเธอหนึ่งครั้ง คุณอายุมากกว่าเธอยี่สิบเท่า เพราะฉะนั้นหากผมฟันคุณยี่สิบครั้ง ก็คงไม่ถือว่าขาดทุน”
ขณะที่พูดเขาก็เชิดหน้าขึ้น บอดี้การ์ดนำใบมีดออกมา แล้วฟันลงไปบนตัวเธอยี่สิบครั้ง ภายใต้เสียงร้องระงมด้วยความเจ็บปวดของเธอ
ชมพูนุชเข้าไปขดตัวอยู่ที่มุมด้วยความหวาดกลัว “คณิน ฉันกลัว คุณอย่าฆ่าฉันเลยนะ อย่าฆ่าฉันเลย !”
คณินหัวเราะร่าออกมา “ผมไม่มีทางฆ่าคุณหรอก แต่ฆาตกรที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนอย่างคุณ ยังจะกลัวอะไรอีก ? ยาหยีเพิ่งจะอายุสองขวบกว่า ตอนที่คุณทุบตีเธอ คิดว่าเธอไม่กลัวอย่างนั้นหรือ ? เธอไม่ได้ขอร้องคุณว่าอย่าทำร้ายเธอหรือ ? แล้วคุณรับฟังบ้างไหม ?”
“คณิน ! คณิน! ฉันผิดไปแล้ว ! ฉันผิดไปแล้ว ! คุณให้อภัยฉันเถอะนะ !” ร่างกายของชมพูนุชเต็มไปด้วยเลือด เธอคุกเข่าลงกับพื้นและโขกหัวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา
“เมื่อทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ อย่าร้องขอให้ใครยกโทษให้ เพราะผมไม่ใช่พ่อของคุณ และไม่ใช่บรรพบุรุษของคุณที่มีหน้าที่ต้องคอยยกโทษให้คุณ บนตัวของยาหยีไม่มีส่วนดีหลงเหลืออยู่เลย แม้กระทั่งฝ่ามือและฝ่าเท้าคุณก็ไม่เว้น เธอตัวสั่นทุกครั้งเวลานอนหลับในตอนกลางคืน คุณฟกช้ำไปทั้งตัวแล้วทำไม ? ยี่สิบเท่าควรคิดอย่างไรดี ? ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะใช้อายุของคุณมาคำนวณโทษในครั้งนี้อย่างไร ดังนั้น……”
คณินโบกมือ จากนั้นบอดี้การ์ดจึงจับชมพูนุชโยนลงไปในทะเลอีกครั้ง จากนั้นปลาถังใหญ่ก็ถูกเทตามลงไป ผมของชมพูนุชบดบังอยู่เต็มใบหน้า และรู้สึกอับอายจนถึงที่สุด เธอจ้องเขม็งไปยังชายที่ยืนอยู่บนเรือ “ คณิน คุณปล่อยชีวิตสัตว์อย่างนั้นหรือ ? คุณคงไม่คิดจะปล่อยฉันไว้ที่นี่ด้วยหรอกใช่ไหม ? คณิน ขอร้องล่ะ คุณพาฉันกลับไปด้วยเถอะนะ !”
“ปิรันย่า” คณินแสยะยิ้มออกมา คุณไม่ขาดทุนหรอก ! คุณคิดว่าผมจะส่งตัวคุณให้ตำรวจอย่างนั้นหรือ ให้คุณถูกจำคุกสองสามปี ชดใช้เงินอีกนิดหน่อยก็ถูกปล่อยตัวออกมาอย่างนั้นหรือ ? ผมไม่ต้องการเงิน ผมต้องการแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน !”
เมื่อชมพูนุชได้ยินคำว่าปิรันย่าสามพยางค์ ก็กรีดร้องออกมาด้วยความกลัวทันที เธออยากปีนกลับขึ้นไปด้านบน แต่กลับขึ้นไปไม่ได้ ทำได้แค่เพียงตะโกนเสียงดังเพื่อ “ร้องขอชีวิต” !
เมื่อปลาปิรันย่าได้กลิ่นเลือด ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา !
เดิมที บาดแผลของชมพูนุชเมื่อแช่อยู่ในน้ำทะเล ก็เจ็บปวดมากพออยู่แล้ว เมื่อฟันของปลาปิรันย่ากัดเข้าไปในผิวหนังและเนื้อของเธอ ทำให้ความหวาดกลัวทวีความรุนแรงมากขึ้น เธอกลัวว่าตนเองจะถูกกัดกินจนเหลือแต่กระดูก !
เมื่อเธอจมลงไปในน้ำ มีปลาสองตัวพุ่งเข้ามากัดที่ใบหน้าของเธออย่างแรง เธออ้าปากตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้น้ำทะเลไหลทะลักเขาไปในปากของเธอ
ความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกาย และความทุกข์ทรมานจากความหวาดกลัว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น !
ชมพูนุชถูกดึงขึ้นจากทะเล ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและชิ้นเนื้อ มีปลาปิรันย่าหลายตัวที่ยังคงกัดเธอไม่ยอมปล่อย ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“กลัวไหม ?” คณินถาม
“กลัว ! กลัว คณิน ! ฉันกลัวแล้ว !”
“อืม กลัวก็ถูกแล้ว ผมต้องการให้คุณกลัว คุณกลัวแล้ว หวาดผวาแล้ว ผมถึงจะบรรลุเป้าหมายการแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ผมต้องการให้คุณฝันร้ายเหมือนยาหยี ต้องการให้คุณกลัวจนตัวสั่นอยู่ในความฝันตลอดทั้งคืน กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ใช่ไหม”
ขณะที่ชมพูนุชกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ก็ถูกจับโยนลงไปในทะเลอีกครั้ง ครั้งนี้ชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ถูกปลาที่กำลังแหวกว่ายอย่างตื่นเต้นกัดกิน ในที่สุด เธอก็ถูกดึงกลับขึ้นมาบนเรือด้วยลมหายใจที่รวยริน
บนทะเลหลวงมีเกาะลับอยู่แห่งหนึ่ง บนเกาะมีชนเผ่าพื้นเมืองที่ไม่รู้ภาษาอาศัยอยู่ คณินสั่งให้คนโยนชมพูนุชขึ้นไปบนเกาะ ให้เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง !