บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 43 ฆ่าแม่ของเธอ
เขาใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตัวเด็กน้อยออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นคณินจึงหาเสื้อผ้าให้เด็กน้อยสวมใส่ เขาให้แพทย์ใช้ยากล่อมประสาทกับชมพูแพรต่อไป ตอนนี้จะให้ชมพูแพรตื่นขึ้นมาไม่ได้เด็ดขาด
หมอเดินออกมาจากห้องของชมพูแพร เมื่อมาถึงห้องของเด็กน้อย ก็จัดแจงทำแผลให้กับยาหยี ยาหยีซุกใบหน้าอยู่ในอ้อมกอดของคณิน แล้วใช้การพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “พ่อคะ ยาหยีคิดถึงแม่ อาการป่วยของแม่เป็นอย่างไรบ้างคะ ?”
“อาการป่วยของแม่เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว รอให้ผิวของยาหยีขาวนวลเนียนเสียก่อน อาการของแม่ก็จะหายดีเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นยาหยีก็จะเอาแป้งมาทาบนตัว ทำอย่างนั้นตัวก็จะขาวนวลเนียนแล้ว……”
หมอเห็นบาดแผลของเด็กน้อยก็รู้สึกสงสาร “คุณคณิน รอยฟกช้ำและบาดแผลบนตัวคุณหนู เกรงว่าจะไม่สามารถหายได้ทันภายในหนึ่งอาทิตย์ เพราะรอยบาดแผลมีขนาดใหญ่มาก ผู้ร้ายคนนี้ควรถูกนำตัวขึ้นศาลจริง ๆ ! ช่างใจร้ายนัก !”
คณินไม่ได้ตอบกลับ เขาพูดเพียงว่า “แล้วคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้าง รอให้ยาหยีหายดีก่อนแล้วค่อยให้เธอ……”
คณินไม่ทันจะพูดจบ เขารู้ดีว่ายาหยีเป็นเด็กฉลาด จึงไม่สามารถพูดอะไรโจ่งแจ้งต่อหน้าเด็กน้อยได้มากนัก หมอเองก็เข้าใจในทันที “ได้ครับ ได้ครับ แต่ยากล่อมประสาทหากใช้ในปริมาณมากก็เป็นผลเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการทางประสาทของคุณผู้หญิง……”
ทั้งสองรู้ดีแก่ใจโดยไม่ต้องพูด ยากล่อมประสาทหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป ก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายของชมพูแพรอย่างแน่นอน
หมอพูดขึ้นอีกว่า “ผมจะพยายามทำให้บาดแผลของคุณหนูหายเป็นปกติโดยเร็วที่สุดครับ”
คณินพยักหน้ารับคำ หลังจากหมอกลับไปแล้ว เขาก็พายาหยีไปเล่นที่สวนดอกไม้ เพื่อต้องการให้ยาหยีหลุดพ้นจากความหวาดกลัว หากเด็กน้อยมีความสุขสักหน่อยก็อาจลืมเรื่องพวกนี้ไปได้
เธออยู่ในอาการปกติในตอนกลางวัน แต่ทันทีที่ถึงเวลานอนในตอนกลางคืน ยาหยีกลับจับเสื้อของคณินเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ตอนที่ชมพูแพรอยู่ คณินไม่เคยมีโอกาสได้นอนกับยาหยี สองวันมานี้ เขารู้สึกว่าเด็กน้อยยิ่งสนิทสนมกับเขามากขึ้น เธอรู้จักที่จะเป็นห่วงเป็นใยเขา และมอบความรักที่เธอพอจะมอบให้เขาได้ ความอบอุ่นที่เอ่อล้นออกมาจากตัวของเด็กน้อย ทำให้เขารู้สึกประทับใจ
อันที่จริงแล้ว การไม่มีลูกของตัวเองก็มาเป็นไร เพราะเขาเตรียมใจที่จะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมตั้งแต่แรกแล้ว
ยิ่งตอนนี้เด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของ ชมพูแพร มีอะไรที่เขาจะต้องไม่พอใจอีก ?
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาไม่เพียงแต่จะเห็นยาหยีเป็นเหมือนลูกสาวของเขาเท่านั้น แต่เขาจะถือว่าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเขาจริง ๆ !
เรือยอชต์สีขาวมุ่งหน้าไปยังทะเลหลวงอย่างรวดเร็ว !
ทะเลหลวงเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาควบคุมได้ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับมัดมือทั้งสองข้าง แล้วโยนลงจากเรือ !
“ตู้ม !” คลื่นน้ำสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องของชมพูนุชดังขึ้น “คณิน ! คุณให้อภัยฉันเถอะนะ ! ได้โปรดให้อภัยฉันด้วย ! ฉันแค่อยากให้คุณฆ่าชมพูแพรแทนฉัน ฉันไม่ได้อยากฆ่าเด็กนั่นเลย”
คณินสวมแว่นดำและเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาว ลมทะเลพัดแรง ทำให้เสื้อของเขาดูราวกับก้อนเมฆที่ลอยอยู่เหนือทะเล
เขาจุดบุหรี่แล้วคาบเอาไว้ในปาก แล้วใช้ฟันกัดลงบนก้นบุหรี่อย่างแรง เขาเอนตัวลงไปบนราวกั้น แล้วพ่นควันออกมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน ควันบุหรี่ล่องลอยไปตามสายลม
เขาไม่คิดจะหันมองหญิงสาวที่อยู่ในทะเล “คุณไม่ได้ฆ่าเด็กก็จริง แต่คุณแค่ทรมานเธอ ! เด็กน้อยวัยเพียงสองขวบกว่า ตอนที่คุณทำร้ายเธอไม่รู้สึกมือสั่นบ้างเลยหรืออย่างไร ?”
“คณิน ! ที่ฉันทำไปเพราะรักคุณ !”
คณินหันหลังกลับไปแล้วก้มหน้าลงมองหญิงสาวที่อยู่ในทะเล “ในใจของคุณมีแต่ความอิจฉาริษยา จะรู้จักรักคนอื่นได้อย่างไร ? ไม่อย่างนั้นตอนคุณอายุ 16 ปี จะกล้าผลักแม่ของแพรให้ตกจากตึกได้อย่างไร ?”
มีเพียงศีรษะและมือที่ถูกมัดไว้ของชมพูนุชเท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา น้ำทะเลที่เค็มจัด และแสงแดดร้อนระอุ ทำให้เธอกำลังจะหมดแรง เมื่อได้ยินเรื่องเก่าถูกขุดคุ้ยขึ้นมา แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “คุณ คุณรู้ได้อย่างไร ? คุณพูดจาเหลวไหล ฉันเปล่านะ เธอคิดไม่ตกจึงกระโดดตึกลงมาเองต่างหาก !”