บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 39 หัวใจสลาย
พอคณินได้ยินชมพูแพรเอ่ยว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว หัวใจของเขาพลันบีบแน่น เขารีบวิ่งพรวดขึ้นไปบนตึก ระหว่างวิ่งขึ้นไปลมหายใจของเขาหนักหน่วง ในดวงตาของเขามีประกายไฟที่แผดเผาความคิดด้านดีที่จะทำเพื่อชมพูแพรกับลูกไปจนหมดสิ้น
เป็นจริงอย่างที่มิสเตอร์ว่าเอาไว้ ยาหยีคือชีวิตของชมพูแพร หากยาหยีไม่อยู่แล้ว ชมพูแพรก็ยากจะมีชีวิตต่อเช่นกัน……
คณินปล่อยชมพูแพรเอาไว้แล้วห่มผ้าให้เธอก่อนจะเดินออกจากห้องไป ร่างกายของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยรังสีอำมหิตที่ใครเห็นต่างต้องขนหัวลุก บอดี้การ์ดออกเดินตามหลังเขาไป คณินจึงกล่าวเสียงกร้าวว่า “ถ้าหาคุณหนูไม่เจอ ใครที่ตาบอดจำคนผิดอย่าหวังจะรอด!”
ชมพูนุชอุ้มยาหยีหนีไปที่โกดังเก่าโทรม แห่งหนึ่งย่านชานเมือง ตลอดทางยาหยีเอามือสัมผัสใบหน้าของชมพูนุช แล้วจู่ๆ ก็เอาแก้มมาหอมก่อนจะหัวเราะคิกคัก
ชมพูนุชรู้ดีว่าเสียงของตัวเองไม่เหมือนเสียงชมพูแพร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เด็กหวาดกลัว เธอจึงไม่ปริปากมาตลอดทาง
แต่เมื่อยาหยีหอมแก้มเธอ เธอจึงชะงักไปพร้อมขมวดคิ้ว จากนั้นเอามือตบหน้ายุ้ยๆ ของยาหยีอย่างแรง
“เด็กสกปรก! แก้มฉันใช่ที่ที่เด็กสกปรกอย่างแกจะหอมได้หรอ”
ยาหยีนิ่งไปวินาทีหนึ่ง ปฏิกิริยาหลังจากที่โดนแม่ตีคือร้องไห้โฮออกมา “แม่ แม่!”
ชมพูนุชโยนยาหยีเข้าไปในกองผ้าเก่าๆ “ใครเป็นแม่แก ห้ามเรียกฉันแบบนี้ ถ้ายังเรียกอีกฉันจะตัดลิ้นแกทิ้ง จะได้ไม่ต้องพูดมาก!”
ยาหยีตกลงไปอยู่บนกองผ้า ยังดีที่กองผ้านิ่ม เธอจึงไม่เป็นอะไรมาก
เธอเข้าใจว่าการที่แม่ปีนหน้าต่างและไม่ยอมพูดเป็นเพราะต้องการเล่นซ่อนแอบกับเธอ และเข้าใจว่าที่กลิ่นหอมที่ตัวไม่เหมือนเดิม เป็นเพราะวันนี้แม่ต่างจากเดิมไปหน่อย แต่เมื่อได้ยินเสียงของแม่เปลี่ยนไป เธอผวาจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ยาหยีอายุสองขวบแล้วแต่ยังเดินไม่ได้ ตอนนี้กำลังร้องไห้แทบจะขาดใจพลางตะเกียกตะกายคลานลงมาจากกองผ้าเพื่อจะเข้าไปอ้อนแม่ของตน บางทีแม่อาจจะไม่ได้ตั้งใจตีเธอก็ได้ บางทีแม่เธออาจจะแค่บังเอิญทำเธอหลุดมือลงบนพื้น
ระหว่างที่กำลังคลานเข้ามาหาชมพูนุช เด็กน้อยกลับกลิ้งลงมาจากกองผ้าแล้วตกลงบนพื้นปูนหัวกระแทกพื้นดัง “ปั้ง”
ปกติเวลาหกล้มจะมีแม่คอยช่วยอุ้มขึ้นมา ตอนนี้หกล้มหัวกระแทกพื้นจนเจ็บขนาดนี้ แม่ยังไม่ยอมเข้ามาช่วยเธอแถมยังดุด่าเธอเอง
ยาหยีตะเกียกตะกายลุกขึ้นแต่ก็ทำได้แค่นั่งอยู่บนพื้นแล้วเฝ้ามองชมพูนุช เธอยื่นมือออกไปเพื่อขอกอดพลางตะโกนเรียก “แม่” อยู่ตลอดเวลา น้ำเสียงนานเข้าก็ยิ่งร้องแทบจะขาดใจ “แม่จ๋า กอดหน่อย กอดยาหยีหน่อย”
ชมพูนุชพิจารณาลักษณะของยาหยี เด็กตัวสูงขนาดนี้ อายุน่าจะประมาณสามขวบได้ “โตขนาดนี้แล้วแกยังเดินไม่ได้อีกหรอ เป็นง่อยหรือไง นังเด็กสกปรก! แม่แกคงทำบาปเอาไว้เยอะแน่ๆ แกถึงออกมาเป็นง่อยแบบนี้!”
ชมพูนุชรู้สึกว่าเด็กคนนี้หน้าเหมือนชมพูแพรมาก จะต้องไม่ใช่ลูกของคณินแน่ๆ แต่พอเป็นอย่างนี้เพราะหน้าเหมือนชมพูแพรแบบนี้ ทุกครั้งที่คณินอุ้มเธอจะรู้สึกสนิทสนมเป็นพิเศษ
หรือว่าทุกคนจะต้องมีหน้าตาเหมือนชมพูแพรทั้งหมด?
ชมพูนุชหยิบมีดออกมาแล้วจ่อเข้าที่หน้าของยาหยี “นังเด็กสกปรก ฉันจะกรีดหน้าแก แค่นี้หน้าแกก็จะไม่เหมือนหน้าแม่แกแล้วใช่ไหมล่ะ”
ยาหยีคลอดก่อนกำหนด พัฒนาการช้ากว่าปกติ และป่วยง่าย เธอเติบโตขึ้นมาภายใต้ความรักความเอาใจใส่ของชมพูแพร ดังนั้นสิ่งของใดที่อันตราย ชมพูแพรจะคอยพร่ำบอกเธออย่างอดทนว่าให้หนีไปห่างๆ
อย่างเช่นปลั๊กไฟ น้ำที่มีควัน หรือว่าของที่คมเหมือนใบมีด
ยาหยีผวาจนหันหน้าหนี เธอไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือแม่ แม่ไม่มีทางต่อว่าเธอ ไม่มีทางโยนเธอทิ้งและไม่มีทางเอามีดมาใกล้ๆ เธอ