บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 37 ผมทำร้ายเธอ
วันนี้คณินไปทำงาน ชมพูแพรจึงอยู่บ้านกับยาหยีและไม่ได้ออกไปไหนเลยตลอดทั้งช่วงเช้า ชมพูนุชจึงเดินวางมาดเข้ามาทางประตูใหญ่อย่างมั่นใจ
พนักงานรักษาความปลอดภัยชะงักไปครู่หนึ่ง ชมพูนุชยกมือขึ้นทำท่าพัดอย่างไม่สบอารมณ์ แม้ว่าน้อยครั้งที่จะเห็นเธอมีอารมณ์เช่นนี้ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยรู้ดีว่าคณินตามใจชมพูแพรทุกอย่างจึงไม่กล้าแสดงท่าทางไม่พอใจ และเนื่องจากอากาศเดือนกรกฎาคมของเมืองเมืองไอยาร้อนมาก เขาจึงรีบเปิดประตูให้ทันที “คุณนาย เมื่อกี้เพิ่งออกทางประตูหลังมาใช่ไหมครับ”
ชมพูนุชเพียงตอบว่า “อืม” แล้วเดินเข้าไป
เมื่อชมพูแพรตื่นนอนขึ้นมาจึงไปที่ห้องนอนเด็ก แต่พบว่ายาหยีไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ตอนแรกคิดว่าพี่เลี้ยงได้พาเด็กออกไปเดินเล่นในสวนหย่อม แต่เมื่อเธอเดินหาไปจนทั่วกลับไม่พบ
ชมพูแพรจึงโทรไปหาคณิน “ตอนเที่ยงคุณกลับมาที่บ้านรึเปล่า”
ชมพูแพรไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาคณินก่อนเลย พอได้รับโทรศัพท์จากชมพูแพรจึงดีใจรีบเดินออกจากห้องประชุมทันทีโดยไม่บอกกล่าว เขายิ้มแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเรียบง่าย “คุณอยากให้ผมกลับไปหรือ”
“คุณไม่ได้กลับมาหรอคะ”
เขาได้ยินความกังวลในน้ำเสียงของชมพูแพรชัดเจน จากตอนแรกที่คณินมีอารมณ์ผ่อนคลายกลับรู้สึกเครียดตามไปด้วย “ทำไมหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ตอนนี้ชมพูแพรไม่คิดว่าคณินจะทำอะไรไม่ดีกับยาหยีอีก การจมน้ำครั้งที่แล้วหลังจากความวุ่นวายผ่านไปเรื่องราวก็คลี่คลายลง คณินอธิบายว่าขาของยาหยีไม่มีแรง เขาจึงพาเธอออกไปฝึกว่ายน้ำ
ตอนนั้นเธอสัมผัสถึงความจริงใจในสายตาของเขา “แพร คุณต้องเชื่อผมนะ ตลอดชีวิตนี้ของผมไม่สามารถมีลูกของตัวเองได้แล้ว ผมสอนให้ยาหยีเรียกผมว่าพ่อ นั่นเป็นเพราะผมเห็นเธอเป็นลูกสาวของผมคนหนึ่ง ผมไม่ทำร้ายเธอแน่ เพราะชีวิตนี้ผมมีเธอเป็นลูกสาวได้เพียงคนเดียวแล้ว เธอหน้าตาเหมือนคุณขนาดนั้น ผมจะทำร้ายเธอลงได้ยังไง”
วันนี้ชมพูแพรหายาหยีไม่เจอ จึงคิดว่ามีเพียงคณินเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเธอได้
น้ำเสียงของเธอเจือความสั่นเครือ “ยาหยีหายตัวไป ฉันตามหาในห้องและในสวนแล้ว คนรับใช้ในบ้านก็พากันตามหาจนทั่วแล้ว พวกเขาบอกว่าฉันอุ้มยาหยีออกไป แต่ฉันนอนกลางวัน ส่วนยาหยีก็นอนอยู่ในห้องของตัวเอง ฉันจำไม่ได้เลยว่าฉันอุ้มยาหยีออกไปตอนไหน”
ชมพูแพรควบคุมอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมา ความข่มกลั้นทั้งหมดที่มีมาพังทลายลงเหลือเพียงความบอบบางและหวาดกลัว “ฉันไม่รู้ ฉันลืมไปหมดเลย คณินอาการป่วยของฉันคงกลับมาอีกแล้ว ฉันไม่ใช่แม่ที่ดี ฉันไม่อยากทำร้ายยาหยี พวกเขาบอกว่าฉันอุ้มเธอออกไปพร้อมบอดี้การ์ด แต่ฉันนึกไม่ออกเลยว่าฉันได้ทำอะไรแบบนั้นด้วย ฉันคงป่วยอีกแล้วแน่ๆ คุณช่วยฉันตามหาหน่อยนะ ต่อไปฉันจะไม่แตะต้องเธออีกแล้ว ฉันไม่กล้าแตะต้องเธออีกแล้ว ฉันจะอยู่ห่างๆ จากเธอ ฉันต้องเป็นคนทำร้ายเธอแต่จำไม่ได้แน่ ฉันจะทำร้ายเธอโดยไม่รู้ตัวอีกไหม ฉันจำอะไรไม่ได้เลย……”
ชมพูแพรร้องไห้แทบขาดใจและเริ่มพูดจาสับสนวกวน คณินขยับเนกไทของตัวเองแล้วถอนใจอย่างเคร่งเครียด “แพร อย่าเพิ่งร้อนใจ ผมอยู่ตรงนี้ทั้งคน ผมจะรีบกลับไป คุณอย่าเพิ่งคิดมากนะ”
ในขณะที่คณินก้าวเข้าไปในลิฟต์ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เป็นสายมาจากบอดี้การ์ด “บอสครับ เมื่อกี้นี้ คุณนายพาคุณหนูเข้าไปในห้องน้ำ ผมกับอรัลรออยู่ด้านนอกมาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่คุณนายยังไม่ออกมาเลย ให้พวกเราเข้าไปดูดีไหมครับ”
“คนคนนั้นไม่ใช่คุณนาย! คุณนายยังอยู่ที่มาลีสาวงศ์ ถ้าคุณหนูหายตัวไป ฉันไม่เอาพวกแกไว้แน่!” คณินวางสายไปอย่างเดือดดาลแล้วรีบแจ้งตำรวจทันที
หน้าอกและสมองของคณินราวกับมีไฟปะทุ เพราะเขารู้ดีว่ายาหยีสำคัญกับชมพูแพรขนาดไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้เรียกเขาว่าพ่อมาเป็นเวลานานแล้ว เขาจึงมองว่าเธอคือลูกสาวแท้ๆ ของเขา เมื่อเธอหายตัวไปแบบนี้ เขาเองก็ไม่ได้ร้อนใจน้อยไปกว่าชมพูแพร
เมืองไอยามีเนื้อที่ไม่มาก รถขับพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วจึงไปถึงมาลีสาวงศ์ด้วยเวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น คณินเปิดประตูรถและวิ่งเข้าไปหาชมพูแพรทันที