บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 33 อย่าล้ำเส้น
มิสเตอร์ฟังจากคำพูดของเขาก็รู้ว่า ชมพูแพรยังไม่ได้บอกเขาว่ายาหยีคือลูกสาวแท้ๆ ของ คณิน การที่เธอไม่บอกแสดงว่าเธอจะต้องมีเหตุผลของเธอ
แต่จะตำหนิที่คณินมองไม่ออกไม่ได้ เพราะการพัฒนาการช้าของยาหยีเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นไม่ใช่เรื่องปกติ อายุเกือบสองขวบแล้วยังทำได้แค่ยืนจับกำแพง และยังเดินไม่ได้
เมื่อเห็นคณินเดินออกจากห้องของเขาแล้ว มิสเตอร์จึงลุกขึ้นแล้วหยิบเก้าอี้เตี้ยทุ่มลงบนโต๊ะหนังสือ ของที่ตั้งอยู่ข้างบนถูกกวาดเรียบลงมาบนพื้น
เขาแหงนหน้าแผดเสียงตะโกนก้องไปทั่วทั้งวิลล่า ด้วยความโกรธแค้นและเจ็บปวด
เขาไม่อยากวางมือ แต่เขาก็ไม่อยากจะนึกว่าหากชมพูแพรรู้เรื่องทั้งหมดที่เขาทำจะเกลียดแค้นเขาขนาดไหน และกลัวที่สุดว่านี่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับชมพูแพรอีกเป็นครั้งที่สอง
ถ้าคณินรักชมพูแพรจริง เขาอาจจะปิดบังเอาไว้ตลอดชีวิตจริงๆ
ในขณะที่คณินกับบอดี้การ์ดเดินไปเกือบถึงปากประตู มิสเตอร์ก็วิ่งตามออกมาแล้วตะโกนเรียก “คณิน!”
คณินหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมา แววตาของเขามีความเย็นชาและเกลียดชังซ่อนอยู่ในส่วนลึก “มีอะไร”
“อย่าพาพวกเธอออกไปจากเมืองไอยา”
“พวกเธอต้องกลับไปอยู่ที่เมืองจาซากับฉันอยู่แล้ว”
“ฉันหวังว่านายจะไม่พาพวกเธอออกไปจากเมืองไอยา” มิสเตอร์เดินตามมาด้วยดวงตาแดงก่ำ
คณินยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน รอให้มิสเตอร์เดินเข้ามาใกล้ถึงจะหันหน้ากลับไป “ฉันบอกแกแล้ว ว่าอย่าล้ำเส้น”
มิสเตอร์ตะโกนเรียกคณินไว้อีกครั้ง “ยาหยีคือชีวิตของแพร ยาหยีออกจากเมืองไอยาไม่ได้ ถ้าออกจากเมืองนี้เธอจะเป็นภูมิแพ้ ถ้าเรื่องนี้ไม่จริงพวกเราจะกลับจากต่างประเทศที่มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยกว่ามาที่นี่ทำไม”
แน่นอนว่าคณินไม่เชื่อคำพูดของมิสเตอร์ ผู้ชายคนนี้วางแผนการไว้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวชมพูแพร “พอเข้าใจได้ว่าแกอยากให้ลูกสาวของตัวเองอยู่เมืองเดียวกับแก แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก”
มิสเตอร์กลัวว่าคณินจะไม่ยอมฟัง เพราะเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด เวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างแล้ว “ถ้าแกต้องเห็นภาพที่แพรรู้สึกผิดและเสียใจเพราะทั่วทั้งตัวของยาหยีมีแต่ตุ่มน้ำ นายจะยังยืนยันทำแบบนั้นอยู่ไหม ฉันเกลียดแกก็จริง แต่ก็เป็นเพราะไม่ต้องการให้เธอไปจากชีวิตของฉัน แต่ไม่ได้อยากต้องเห็นเธอเจ็บปวดอีกครั้ง”
คณินกำลังตัดสินคำพูดของมิสเตอร์ว่าจริงหรือไม่ แต่อย่างไรเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง
เมื่อกลับถึงโรงแรม คณินสัมผัสเท้าอวบอิ่มของยาหยีบนเสื่อรองคลาน แล้วแกล้งหยั่งเชิงถาม “ยาหยี พ่อพาหนูไปเที่ยวที่เมืองจาซาบ้างดีไหมจ๊ะ”
ในตอนแรกยาหยีไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ แต่เวลาเป็นตัวช่วยที่ดี เด็กยังเล็กจึงค่อยๆ ปรับตัวได้
ยาหยีกะพริบดวงตากลมโต “แล้วแม่ล่ะ”
“แม่จะไปกับพวกเราด้วยจ้ะ”
คณินไม่ได้ปรึกษากับชมพูแพรมาก่อน ชมพูแพรที่กำลังล้างขวดนมอยู่ในครัวจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเอ่ยอย่างลนลานว่า “ไม่ได้! ยาหยีจะไปอยู่ที่เมืองจาซาไม่ได้ เธออยู่ได้แต่ที่เมืองไอยาเท่านั้น ถ้าออกไปจากเมืองไอยาเธออาจไม่รอด”
คณินมองชมพูแพรจึงเห็นว่าเธอวิ่งออกมาทั้งๆ ที่ยังถือขวดนมกับแปรงอยู่ น้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาของเธอ เรื่องของยาหยีทำให้เธอร้องไห้ได้
คณินพยายามยิ้มออกมา “ผมแค่ล้อเล่นกับยาหยีเอง คุณอย่าเอาไปคิดจริงจังเลยนะ อีกไม่กี่วันจะมีโครงการบ้านมานำเสนอแล้ว ถ้าจะอยู่ที่นี่นาน ผมจะซื้อบ้านที่เมืองไอยาสักหลังไว้ให้คุณกับยาหยีอยู่ เพราะอากาศในโรงแรมคงไม่ดีสำหรับเด็กเหมือนกัน”
เมื่อคณินเห็นชมพูแพรถอนหายใจ ความตึงเครียดในใจของเขาก็ผ่อนคลายลงตามไปด้วย เขารู้สึกโล่งใจที่ชมพูแพรไม่เอาเรื่องที่เขาพยายามพาเธอย้ายออกจากเมืองมาเป็นเรื่องทะเลาะกับเขา