บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 24 กอดเธอไว้ในอก
หนึ่งปีผ่านไป วันนี้ชมพูนุชใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขาสั้นและรองเท้าผ้าใบที่ชมพูแพรชอบ เธอวิ่งตามออกมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างเด็กวัยรุ่น “พี่คณิน รอฉันด้วย!”
คณินยืนอยู่ในสวนดอกไม้ด้านนอกข้างประตูเหล็ก เมื่อเห็นชมพูนุชวิ่งออกมา ดวงตาของเขาก็ชื้นขึ้นแล้วกวักมือเรียกชมพูนุช ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “เร็วหน่อย ถ้าช้ากว่านี้ฉันจะให้เธอกลับไปอีก”
ชมพูนุชรู้ดีว่าตอนนี้คณินไม่ได้กำลังพูดกับเธอ แต่กำลังพูดอยู่กับชมพูแพรสมัยสาวๆ เธอรู้สึกทุกข์ทนกับความรู้สึกเช่นนี้มามากแล้ว ตอนนี้จึงเรียนรู้ที่จะชินชา เธอวิ่งเข้าไปหาคณินแล้วกระโดดไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาและแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างไร้เดียงสา “วิ่งเร็วขนาดนี้ คงไม่ต้องย้อนกลับไปอีกแล้วมั้งคะ”
คณินจ้องชมพูนุชอยู่สองสามวินาทีและเหม่อลอย
แบบนี้เลย เมื่อก่อนแพรวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างสดใสมีชีวิตชีวาแบบนี้ รอยยิ้มของเธอสุกใสเปล่งประกายแต่เป็นเพราะเขาที่เอามือไปบดบังแสงอาทิตย์ของเธอ จนทำให้นิสัยของเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
คณินคว้าตัวชมพูนุชเข้ามากอดเอาไว้ในอกทันที ใบหน้าของเขาซุกอยู่ที่ท้ายทอยของชมพูนุช “แพร ผมรู้ว่าคุณทิ้งผมไม่ลง คุณจะต้องกลับมาหาผม”น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ
ชมพูนุชกัดฟันแน่น พยายามข่มกลั้นที่คณินมองตนเป็นชมพูแพร เธอไม่กล้าแข็งขืนและไม่อยากผลักผู้ชายคนนี้ออกไปจากอ้อมกอด ยังดีที่ชมพูแพรตายไปแล้ว ถ้าหล่อนยังมีชีวิตอยู่ ตนคงไม่มีโอกาสได้เป็นแม้แต่ตัวแทนของหล่อนด้วยซ้ำ
เธอได้แต่หวังว่าจะได้เป็นตัวแทนแบบนี้ตลอดไป
ทว่าชะตาชีวิตของคนเรามักหมุนเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด ความยากลำบากที่เคลื่อนบดขยี้คล้ายว่าจะควบคุมเอาไว้ได้แล้ว ทว่าขณะที่เวลาเคลื่อนผ่านกลับออกไปเหนือการควบคุมอีกครั้ง
เดือนพฤศจิกายนที่เมืองจาซา มีหิมะตกหนัก
แต่ที่เมืองไอยาทางใต้ ใส่เสื้อผ้าเพียงตัวเดียวก็เพียงพอ จึงพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก
คณินยืนนิ่งอยู่ที่เมืองต่างถิ่นแห่งนี้ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ผู้หญิงไว้ผมสั้นเท่าติ่งหูคนหนึ่ง มือของเธอกำลังอุ้มเด็กน้อยหน้าตาสะสวยน่ามองอยู่คนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นท่าทางฉลาดเฉลียวแต่มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ เป็นความอ่อนโยนที่มาจากข้างใน ความอ่อนโยนทั้งหมดของเธอกำลังมอบให้เด็กหญิงที่อยู่ในอ้อมอก
เด็กน้อยคนนั้นชี้ไปที่ต้นไม้ ชี้ไปบนท้องฟ้า ชี้ไปยังรถที่เคลื่อนผ่านไปมาและชี้ไปยังทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความอยากรู้อยากเห็น ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็บรรยายถึงต้นไม้ ท้องฟ้า รถตามนิ้วมือของเด็กหญิง และอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เด็กน้อยอยากรู้อยากเห็น
ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเธอ
แต่น่าเสียดายที่เธอหน้าตาเหมือนขนาดนี้แล้ว แต่ที่คิ้วของเธอกลับไม่มีขี้แมลงวัน
และที่น่าเสียดายไปยิ่งกว่านั้น นิสัยของเธอไม่เหมือนแพรเลยสักนิด
รอยยิ้มของแพรตอนวัยรุ่นอบอุ่นสดใส แต่ภายหลังเนื่องจากพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกดูถูกตัวเองเอาไว้ นิสัยจึงค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความเย็นชาและแข็งกระด้าง ไม่มีความอ่อนโยนต่อสิ่งที่พบเจอบนโลกใบนี้
น่าเสียดายนักที่บนโลกนี้มีคนหน้าเหมือนเธอมากมาย
แต่พวกเธอกลับไม่ใช่แพร
เป็นอย่างที่หมอกเหนือว่าเอาไว้ ต่อให้ชมพูนุชหน้าเหมือนมากเท่าไหร่ ต่อให้ทำศัลยกรรมและฝึกฝนมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเป็นเหมือนแพรของเขาได้
อารมณ์ที่เคลื่อนวนอยู่ในจิตใจของเขาไหลทะลักออกมามีแต่ความทุกข์ระทม ชีวิตนี้เขาไม่มีทางหาผู้หญิงที่เหมือนแพรได้อีกแล้ว
เมื่อเห็นภาพชีวิตที่สุขสงบเช่นนั้นตรงหน้า แววตาของคณินก็มีแต่ความเจ็บปวด เด็กคนนั้นยังต้องการคนอุ้ม แสดงว่าอายุยังไม่มากนัก
เขาไม่มีความรู้เรื่องการเดาอายุเด็ก รู้เพียงว่าเด็กบางคนตัวสูง เด็กบางคนตัวเตี้ย แต่การให้เดาอายุของเด็กเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเดาถูก บางทีอาจจะหนึ่งขวบหรืออาจจะสองขวบ
ขณะที่คณินเตรียมหันหลังกลับ พลันเห็นผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผู้หญิงคนนั้น เขาถือไอศกรีมโคนสีชมพูเอาไว้ในมือ แล้วยื่นให้เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอกของผู้หญิงคนนั้น จากนั้นจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ อย่างสนิทสนมเพื่อขอให้เด็กหญิงคนนั้นหอมแก้ม