บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 20 จะลำบากแค่ไหนกัน
คณินหยุดลง หันข้างมองผู้อำนวยการที่อยู่บนพื้นจากที่สูง “เหอะ? แกไม่ใช่ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไง? แต่ชีวิตภรรยาของฉันไม่มีแล้วจริงๆ แกใช้ชีวิตภรรยาของฉันไปแลกตำแหน่งและชื่อเสียงในสังคมของแก? แกสมควรเหรอ? สิ่งที่แกติดค้างเธอ ฉันจะเอาคืนทุกอย่างให้หมด!”
วันถัดไป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนเพราะว่ามีความสัมพันธ์ของมั่วซุมระหว่างชายหนุ่ม ข่าวการสมรู้ร่วมคิดกับบริษัทยาและอุปกรณ์การแพทย์เพื่อขอรับเงินคืนจำนวนมากนั้นล้นหลาม เกือบจะก่อให้เกิดความปั่นป่วนในที่สาธารณะในอุตสาหกรรมทั้งหมด
ผู้อำนวยการกลายเป็นหนูบนถนน ไม่กล้าออกไปไหน ภรรยาของเขาฟ้องหย่า และสองวันนี้ผมของเขาก็หงอกขึ้นเลย
หุ้นของหทัยภักดีกรุ๊ปเมื่อวานยังดีๆอยู่เลย จู่ๆก็ร่วงลงอย่างรุนแรง ในช่วงแรกหุ้นที่ถูกดึงดูดด้วยเงินจำนวนมากถูกขายมากมาย เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ต่อให้ตลาดหุ้นขึ้นรายใหญ่ก็ไม่สามารถทำให้โชคชะตาหุ้นร่วงทุกวันของหทัยภักดีกรุ๊ปได้
นักลงทุนรายย่อยไม่มีความมั่นใจ จึงเทขายกันไปตามลม ราคาหุ้นของหทัยภักดีกรุ๊ปล้มแล้วลุกขึ้นไม่ได้ แต่ก็ถูกดึงดูดจากกองทุนไพรเวทอิควิตี้มากมายเนื่องจากราคาต่ำ ก็เห็นราคาหุ้นของหทัยภักดีกรุ๊ป ขึ้นอย่างช้าๆ นักลงทุนรายย่อยก็ติดตามแนวโน้มและซื้อกลับอีกครั้ง หลังจากขึ้นมาสองวันก็หยุดลง ไพรเวทอิควิตี้เทขายอีกครั้ง จึงทำให้ร่วงติดต่อกันเป็นหนึ่งสัปดาห์
ความตื่นตระหนกของนักลงทุนรายย่อยไม่สามารถทนต่อการทรมาน การเทขายแบบตื่นตระหนก และนักลงทุนรายย่อยไม่กล้าติดตามอีกแล้ว ไม่ว่าธนาคารของรัฐหรือธนาคารพาณิชย์ หลังจากเจรจากันเสร็จ ก็ไม่อนุมัติเงินกู้ของหทัยภักดีกรุ๊ป ภาสกรทำได้เพียงทุ่มความมั่งคั่งของเขาจนหมด และในที่สุด แม้แต่อสังหาริมทรัพย์ก็นำไปจำนองไว้กับธนาคาร
ไม่ใช่ว่าภาสกรไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคณิน แต่โทรศัพท์มือถือของคณินจะคอยมีเลขานุการรับสาย โดยบอกว่าเขากำลังจะไปประชุมที่ต่างประเทศ เพื่อเก็บความลับทางธุรกิจ ไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้
ภาสกรคิดว่าเมื่อคณินกลับมาจากต่างประเทศ เขาจะปล่อยให้เมธีประสิทธิ์กรุ๊ปช่วยแก้ปัญหานี้ เห็นได้ชัดว่ามีเล่นงานเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร
บัญชีไพรเวทอิควิตี้มากมายทั่วประเทศร่วมมือกันเพื่อชอร์ตราคาหุ้นของหทัยภักดีกรุ๊ป ทำให้หทัยภักดีกรุ๊ป ไม่มีโอกาสได้สวนกลับอีก
ไม่มีข่าวคราวจากคณิน ภาสกรจึงคิดว่าจะจำนอง “สวนฟ้าพฤกษ์” แต่ขั้นตอนการจำนองอสังหาเพิ่งจะยื่นไป ก็ถูกคณินสกัดกั้น
หลังจาก ภาสกรรู้ เขาก็พาชมพูนุชไปหาคณิน ภายในใจกำลังคิดว่าในที่สุดดวงดาวช่วยเหลือก็มาแล้ว
แต่เมื่อเขาพบคณิน ในห้องโถงบูชา “สวนฟ้าพฤกษ์” เขาเห็นว่าคณินกำลังเช็ดกรอบรูปของชมพูแพรอยู่ ถัดจากนั้นเป็นภาพแม่ของชมพูแพร
ภาสกรกลืนน้ำลาย…..
คณินวางผ้าขาวในมือลง แล้วพูดอย่างเรียบเฉย “บ้านสวนฟ้าพฤกษ์นี้ พวกแกห้ามแตะต้อง”
ภาสกรรีบพูดประเด็นโดยตรง “คณิน นายบอกว่าแตะต้องไม่ได้ก็ไม่ได้ใช่ไหม นายกลับมาสักที! นายรู้ว่าน้ารอนายจนลำบากมาก!”
“จะลำบากแค่ไหนกัน? ราคาขึ้นๆลงๆในตลาดเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง?” คณินพูดจบก็หันไปมองภาสกรด้วยรอยยิ้มจางๆ แค่รอยยิ้มนั้นน่าแปลกเกินไป
ทีแรกอากาศเดือนเก้าก็ร้อนมากแล้ว กลับทำให้ภาสกรรู้สึกค่อนข้างเย็น
“คณิน!” ชมพูนุชเดินหน้า แล้วคล้องแขนคณินไว้ พร้อมพูดอย่างออดอ้อน “หนึ่งปีกว่าแล้ว คุณมักจะหายตัวไปตลอด ครั้งนี้ดีนะที่คุณกลับมา ช่วยพวกเราเถอะ พ่อฉันเครียดจนผมขาวขึ้นเต็มแล้ว”
“ได้ แต่ยังไงผมก็ต้องสิ่งค้ำประกันที่มีสัญลักษณ์เฉพาะหน่อย ไม่งั้นประธานก็ต้องไม่อนุมัติ” คณินตอบกลับด้วยอย่างสาแก่ใจ แล้วเอามือของเธอออก เดินออกไปด้านนอก
ภายในใจของภาสกรเหมือนตีกลอน คณินจะเอาคณะกรรมการบริษัทมาพูดทำไม? แค่พอคิดๆแล้ว ก็คงมีเหตุผลนี้ เงินมากขนาดนั้น ไม่เข้าทางคณะกรรมการบริษัท คงจะไม่อนุมัติอยู่แล้ว “ได้นี่ได้ แต่ตอนนี้สินทรัพย์ทั้งหมดจำนองที่ธนาคารหมดแล้ว”
“ทางฝั่งชมพูนุชไม่ใช่ว่ามีหุ้นส่วนของแม่ยายหรือไง? นี่ก็นับได้อยู่แล้ว” คณินถึงชั้นล่าง นั่งลงบนโซฟา ก็ไม่ให้คนไปเทน้ำ