บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 14 หนึ่งศพสองชีวิต
เจ็บปวดถึงขั้นขีดสุด คณินจับหัวแล้วพิงบนผนัง
ตอนที่รู้ถึงความรักและความเกลียดชังของชมพูแพรบนกระดาษพวกนี้ เขาเพิ่งรู้ว่าสิบเอ็ดปีนี้ ไม่เพียงแต่ชมพูแพรที่เล่นละครอยู่ฝ่ายเดียว เขาก็ได้เข้าร่วมด้วย แล้วยังได้แสดงบทบาทสำคัญ
เวลาของเธอจากเด็กผู้หญิงจนกลายเป็นสาวนั้นได้ให้เขาหมดแล้ว จากสายตาที่ใสซื่อไร้เดียงสาที่จับจ้องมาที่เขานั้นเคล้าด้วยแสงดาวที่สวยงามที่สุด ถึงตอนหลังก็ค่อยๆห่างเหินไปก็ได้เผยความขี้ขลาดออกมา และหลังจากนั้น ความเย็นชาของเขาค่อยๆทิ่มแทงความชอบและความรักของเขา เธอก็เหมือนเขาที่ยิ่งอยู่ยิ่งเฉยเมยแล้ว
เขาเป็นคนส่งเธอไปถึงจุดที่สิ้นสุดความรักกับมือ
ตอนนี้กลับถือความรักที่เธอเคยมอบให้ เจ็บปวดจนเข้าไปถึงตับและม้าม
คณินออกจากสวนฟ้าพฤกษ์ แล้วขึ้นรถเหยียบคันเร่งไปหอแท่นชมศรี
ไปหาหมอกเหนือ คณินเข้าประตูก็พูดโดยตรง “ฉันจะสืบหาเบาะแสของชมพูแพรอย่างละเอียดอีกครั้ง”
หมอกเหนือเปิดประตู แล้วมองคณินด้วยคิ้วขมวด พร้อมพูดด้วยความสงสัย “ครั้งก่อนไม่ใช่ว่าสืบค้นแล้วหรือไง ไม่มีประวัติบันทึกใดๆเลย”
คณินเอาแก้วเทน้ำให้กับตัวเอง แล้วเทเข้ามาอย่างรุนแรงไปหนึ่งแก้ว “ไม่ ครั้งนี้ฉันจะสืบหามิสเตอร์ พวกเขาหายไปพร้อมกัน น่าจะเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวไป”
“อะไรนะ?” หมอกเหนือเดินไปข้างกายของคณินทันที “ชมพูแพรและมิสเตอร์แอบหนีไปด้วยกันเหรอ?”
ความคิดที่ไม่เต็มใจเปิดเผยที่สุดของคณินถูกหมอกเหนือพูดแทงใจไปแล้ว รีบลดสายตาลงมามอง บอกเตือนโดยตรง
หมอกเหนือผายมืออย่างสนุกสนาม “ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ ชมพูแพรรักนายจนทุกคนก็รู้หมด เขาจะโดนหลอกให้ไปเพียงเพราะคำพูดหวานไพเราะของมิสเตอร์สองสามคำได้อย่างไร”
ในใจของหมอกเหนือรู้ ปีนี้คณินดูเหมือนเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วกำลังจะปะทุเมื่อใดก็ได้ ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจากไปของชมพูแพรเป็นอย่างมาก
ไม่งั้นจะเปลี่ยนเป็นคนละคนได้ยังไง บรรดาเพื่อนรวมตัวกัน เขาก็ไม่มาร่วม เป้าหมายก็แค่เงิน หาเงินอย่างเดียว นี่มันหุ่นยนต์ชัดๆ
คณินพูดไป “ได้เรื่องยังไงบอกฉัน เบาะแสร่องรอยใดๆ ห้ามปล่อยไปเด็ดขาด”
“ได้ แกวางใจเถอะ ระบบของพวกเราเช็คได้ตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องสืบหาจนเจอแน่นอน”
ทุกครั้งที่ออกจากหอแท่นชมศรีคณินก็รู้สึกกระวนกระวายมาก ทั้งยังยิ่งอยู่ยิ่งกระวนกระวาย
ทุกคนเขาจะอ่านจดหมายที่ชมพูแพรเขียนให้แม่เธอ
ในสมองของเขามักจะมีชมพูแพรที่คุกเข่าอยู่ในซากปรักหักพัง กำลังร้องไห้ไปด้วยและตะโกนชื่อของเขาไปด้วย ขณะเดียวกันก็ขนพวกซากปรักหักพังไปด้วย……
เรื่องที่ไม่แน่ใจมาตลอด ตอนนี้พอแน่ใจแล้ว ก็ไม่สามารถคลายความตึงเครียดในใจได้แล้ว
ตอนนี้คณินแค่ต้องหาชมพูแพรที่เหมือนเส้นเอ็นเส้นหนึ่งให้เจอ เพราะว่าผ่านไปสิบเอ็ดปี ชมพูแพรค่อยๆแนบเข้ามาในร่างกายของเขา กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขาแล้ว เธอยึดติดกับหัวใจของเขา จับเขาไว้อย่างมั่นคงโดยไม่มีการเบี่ยงเบนใดๆ
ช่วงนี้เขาเพิ่งจะสังเกตเห็น เขากลัวเจ็บ ดังนั้นชมพูแพรกลับมาแล้ว แผลของหัวใจของเขาก็จะได้รับการฟื้นฟู เธอแค่ยังอยู่ที่นั่น ต้องไม่มีทางเจ็บอีกแน่นอน เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ต้องตามหาเธอจนเจอให้ได้!
หนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ คณินได้รับสายจากหมอกเหนือ เสียงของสายของเขาฟังแล้วร้อนใจมาก “คณิน! แกมาหอแท่นชมศรีเร็ว! เร็วเข้า!”
คณินจะกล้าชักช้าได้ยังไง เขารู้ว่าหมอกเหนือต้องพูดเรื่องที่เกี่ยวกับชมพูแพร
จึงรีบจับรถไปที่หอแท่นชมศรีทันที
เพิ่งจะเข้าประตู หมอกเหนือก็ปิดประตู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แกดื่มน้ำก่อน! อย่าเพิ่งใจร้อน”
หมอกเหนือยิ่งเป็นแบบนี้ คณินก็ยิ่งร้อนรนอย่างทนไม่ได้ “หมอกเหนือ! พูดดีๆ!”
ริมฝีปากของหมอกเหนือสั่นเทาเล็กน้อย มองคณินแล้วกำลังจะพูดอะไรออกมา จากนั้นก็ผลักเขาไปที่โซฟาฝั่งโน่น
คณินทนไม่ได้กับบรรยากาศแบบนี้ ยกมือตบมือของหมอกเหนืออย่างรุนแรง “หมอกเหนือ! แกแม่งยังพูดจาอ้อมค้อมอีก ฉันจะโยนแกลงจากด้านบน!”
หมอกเหนือร้องคำว่า “เฮ้อ!” “คณิน แกต้องเจอเรื่องเสียใจแล้วแหละ”
“หมายความว่าอะไร” คณินกำหมัดแน่น เส้นเอ็นหลังมือปูดออกมา
หมอกเหนือเอาเอกสารออกมาหนึ่งปึก แล้วนั่งบนโซฟาพลางพลิกทีละแผ่น “ชมพูแพรกับมิสเตอร์ปลอมแปลงข้อมูลส่วนตัวออกจากเมืองจาซาไปนิวซีแลนด์ แล้วยังใช้ชื่อใหม่จดทะเบียนสมรส แกก็รู้ มิสเตอร์มีปัญญาช่วยชมพูแพรเปลี่ยนสถานะอยู่แล้ว”
“วันนี้ เพราะว่าเธอแท้งจนออกเลือดมากจนตายไป ตามพินัยกรรมของเธอ อวัยวะทั้งหมดจะบริจาค……. นี่เป็นรูปและข้อมูลที่ฉันเพิ่งได้รับ เธอเสียชีวิตตอนเที่ยงเจ็ดนาที หนึ่งศพสองชีวิต”
หนึ่งศพสองชีวิต ห้าพยางค์นี้ทำให้คณินรู้สึกขนลุกโดยที่ไม่หนาว ขนบนร่างของเขาลุกขึ้น ภาพที่ชมพูแพรแท้งและเสียเลือดอย่างมากปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง
ภายในใจไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกกลัว ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกเจ็บปวด แค่ว่าเขาแค่พยายามแกล้งทำเป็นเข้มแข็งแล้วอดกลั้นไว้อย่างแรง ทำให้เขาดูเหมือนไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น
คณินแย่งเอกสารในมือของหมอกเหนือ มีรูปแต่งงานของชมพูแพรและมิสเตอร์ ภาพที่เธออุ้มท้องโตๆนอนอยู่บนเตียง แล้วยังมีภาพที่ทารกตัวม่วงราวกับไม่มีลมหายใจอีกด้วย
ผลชันสูตรศพฉบับภาษาอังกฤษ “เธอจากไปได้หนึ่งปีอีกหนึ่งเดือนแล้ว เด็กต้องเป็นของมิสเตอร์! จะเป็นของแกได้ยังไง!”
คณินหลับตาลง เขาพยายามอดกลั้นไฟโมโหตรงกลางอกไว้ “ฉันไม่สนว่าลูกมารหัวขนอะไรของเธอทั้งนั้น!หมอกเหนือ! แกรีบไปจัดการเรื่องที่นิวซีแลนด์! กล้ามันกล้าแตะต้องอวัยวะของชมพูแพรก็ลองดู! ถ้ายังรอดชีวิตที่จับตัวมาให้ฉัน แต่ถ้าตายไปก็เอาศพมาให้ฉัน!”
หมอกเหนือนึกเงียบไปสักพัก แล้วพูดอย่างลังเล “คณิน นั่นคือพินัยกรรมของชมพูแพร พวกแกหย่ากันแล้ว แกต้องเคารพเธอ ผู้ตายเป็นใหญ่ ควรที่จะให้เธอไปสู่สุคติ แกอย่าไปยุ่งกับเธออีกเลย”
คณินรอหมอกเหนือ! รู้ว่าจู่ๆตัวเองก็เดินไปทางขอบหน้าผา เดินหน้าอีกก้าวก็จะเอาชีวิตของเขาไป แต่ชมพูแพรเหมือนนอนอยู่ตรงใต้หน้าผา เขาไม่สนมากมายขนาดนั้น ต้องกระโดดลงไปฉุดเธอกลับมาให้ได้!
เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ได้ แววตาคู่นั้นที่มองหมอกเหนืออยู่นั้นแดงระเรื่อยเหมือนเปลวไฟ แม้กระทั่งเสียงยังตะโกนสูง! ใครหย่ากับเธอแล้ว! คนไม่ได้ไปทำเรื่องหย่าด้วยตัวเอง นั่นเรียกว่าผิดกฎหมาย! ฉันไม่ยอมรับ!
ใครคือผู้ตาย! มึงอย่ามาพูดจาเหลวไหล! ใจฉันยังไม่สงบ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาสงบ! เธอบอกว่าเธอรักฉันมาสิบเอ็กปี เธอกลับไปแต่งงานกับคนอื่น นั่นเรียกว่ารักฉันสิบเอ็ดปีหรือไง? ความรักเหี้ยอะไรที่บอกว่าไม่รักก็ไม่รักแล้ว! ได้รับการยินยอมจากฉันแล้วเหรอ?
เธอกล้าทิ้งฉันแบบนี้แล้วยังอยากขึ้นสวรรค์! ฉันต้องถลกหนังเธอออกมาให้หมด! ฉันจะให้เธอลงนรก แล้วอย่าไปผุดไปเกิดตลอดชาติ!”
คณินถูกทำให้เครียดจนพูดอะไรออกมามากมาย ทว่าเขาระบายออกมาเพียงลมหายใจเฮือกเดียว พลังภายในร่างกายเหมือนจะยังไม่กลับมา เขาหายใจแรงมาก มือที่ควักมือถือสั่นเทา มือถือเกือบตกลงบนพื้น หลังจากกดโทรออก ก็สั่งการด้วยสีหน้าเลือดเย็น “จัดเส้นทางเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว! นิวซีแลนด์! รีบ! รีบเข้า!”