บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 13 จุดเจ็บปวดที่หลั่งเลือดสด
ลมหายใจแห่งการเวลากลืนเข้าไปในเลือดแล้ว นิสัยของคณินนับวันก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อย หลายครั้ง เขาสังเกตเห็นตัวเองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ร้อนที่อาจพลิกแผ่นดินเมืองจาซาให้กลับหัวกลับหาง
ชื่อของชมพูแพรวนเวียนอยู่ในสมองของเขาอยู่ทุกวันทุกคืน ไม่ว่าเขาจะนอนอย่างสงบแค่ไหนก็ไม่ช่วยอะไรเลย
สถานที่ที่ชมพูแพรเคยอยู่ เขาไม่มีทางไปแน่นอน
แต่ก่อนทุกอาทิตย์เข้าจะกลับตระกูลชลปักษาก็ต้องมีชมพูแพร พวกเขาพักอยู่บนห้องสวีทชั้นสาม ที่ๆมีกลิ่นของชมพูแพร เขาไม่สามารถอยู่ได้ ทำให้นั่งไม่นิ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นแต่เงาของเธอ
คณินเร่งคันเร่งไป”สวนฟ้าพฤกษ์”ทันที
สวนฟ้าพฤกษ์คือที่ที่ใส่เถ้ากระดูกของแม่ชมไว้
คนใช้ที่เฝ้าสวนฟ้าพฤกษ์ยังคงเป็นมิตรเหมือนเดิม เขาเหมือนไม่รู้เรื่องที่ชมพูแพรจากไป พูดตามจริงคุณหนูุยุ่งเกินไป วันข้างหน้าต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ แล้วยังถามว่าเมื่อไหร่พวกเขาถึงจะมีแพลนมีลูก
คณินไม่อยากพูดถึง “ลูก” คำๆนี้กลายเป็นข้อห้ามในใจของเขาไปแล้ว
เพียงพูดเกรงอกเกรงใจกันสองสามคำก็ขึ้นไปในห้องกราบไหว้ชั้นบน
คณินเห็นบนแท่นจุดธูปมีกล่องจดหมายวางอยู่ เป็นจดหมายที่ชมพูแพรเขียนให้เป็นแม่ของเธอ
……
ถึงแม่
วันนี้ทีมบาสเกตบอลโรงเรียนของพวกเขาแข่งขันอีกแล้ว แล้วยังได้แชมป์มาด้วย หนูรู้ว่ามีเขาอยู่ก็ต้องชนะอยู่แล้ว เขาสุดยอดมาก ชอบเขามาก เขาคือเทพบุตรของหนูเลย
เขาคือความฝันของหนู แม่ต้องปกปักคุ้มครองให้ฝันของตนเองเป็นจริงนะคะ!
…….
แม่คะ
เดือนที่แล้วมณฑลCเกิดแผ่นดินไหว เมื่อหนูขูดเขาออกจากซากปรักหักพังด้วยมือเปล่า หัวใจของหนูแตกสลายไปแล้ว หนูกลัวว่าเขาจะตาย แต่พอหนูตื่นขึ้นมา กลายเป็นชมพูนุชที่เป็นคนช่วยเขา หรือว่าหลังจากที่หนูถูกกระดานชนวนกระแทกจนสลบไป ชมพูนุชอาจเป็นคนช่วยเขาจริงก็ได้
หนูไม่ได้สนใจ เขาไม่รักหนู คนที่ช่วยเขาจะเป็นหนูหรือไม่ ก็ไม่ได้มีอะไร
ยังไงหลังจากที่เขาคบกับชมพูนุชแล้ว หนูก็ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอีก รู้สึกตนเองต่ำต้อย เฮ้อ รู้สึกขมขื่นจริงๆ…….
…….
ถึงแม่
แม่เคยบอกว่าหนูกับเขาเหมาะสมกันมาก ชมพูแพรครองคู่กับคณิน แม่บอกว่า เมธีประสิทธิ์กรุ๊ป ถึงจะเหมาะสมกับหนู
เขาเหมาะสมกับหนูจริงๆ นี่ก็เหลือเฟือมากแล้ว
แต่หนูกับไม่เหมาะสมกับเขาเลย แต่งงานกับเขา หนูทิ้งอำนาจผู้สืบทอดชดเชยให้กับชมพูนุช หนูไม่มีสินเดิมเจ้าสาว อยู่ในบ้านสามีก็ถูกดูหมิ่นเหยียบหยาม จนเงยหน้าไม่ขึ้น
แต่หนูรักเขา ทางที่ตัวเองเลือก ก้มหน้าก็จะรักเขาต่อไป
…….
ถึงแม่
เมื่อวานหนูป่วย เป็นไข้ถึง 42 องศา พอโทรหาเขา เขาบอกว่าเขายุ่งมาก ให้หนูจัดการแก้ปัญหาเอง
ตอนที่ในสายมีเสียงดนตรีส่งมา หนูก็ร้องไห้เลย
หนูเย่อหยิ่งทระนงตัวต่อหน้าทุกคน กลับแค่ถ่อมตัวต่อหน้าเขาคนเดียว หนูไม่กล้าบอกว่าหนูป่วย
ป่วยจนทรมานมาก กลัวว่าเขาจะหาว่าหนูเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แล้วดูถูกหนู…….
ความรู้สึกแบบนั้นที่ไร้ซึ่งการช่วยเหลือ มันช่างโดดเดี่ยวเดียวดาย……
……..
ถึงแม่
เมื่อวานเขาดื่มเหล้ากลับมาแล้วอ้วก หนูไม่อยากสนใจเขา เดือนที่แล้วใครสั่งให้เขาไม่สนใจหนู
แต่หลังจากนั้น หนูก็ยังไปทำความสะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนน้ำผึ้ง แล้วใช้ผ้าอุ่นเช็ดตัวเขาให้สะอาด หนูกลัวว่าเขาจะป่วย หนูรู้สึกรักใคร่เอ็นดูเขา
ใครสั่งให้หนูใจร้ายไม่ลงคอล่ะ ตัวเองชอบเขาอย่างหัวปักหัวปำ จริงๆเขาไม่เคยเห็นหนูในสายตา หนูหาเรื่องใส่ตัว หนูสมควร หนูสมควร…….
……..
ถึงแม่
คิดถึงแม่มาก
แม่ไม่อยู่ หนูก็ไม่มีอ้อมกอดที่สามารถกอดเลย รู้สึกเหงามาก ความเหงาที่แบบว่าไม่มีที่พึ่งพิง
อาจจะมีวันหนึ่ง หนูตายบนถนน ยังไม่มีใครมาเก็บศพหนู และยิ่งไม่มีใครเสียใจเพื่อหนู…….
แม่คะ แม่ไม่อยู่ หนูโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือเกิน……
คณินอ่านจดหมายทั้งหมด จู่ๆร่างกายก็เหมือนกลายเป็นกระดาษ แค่สามารถโงนเงนไปด้วยเพียงลมหายใจเดียว ลมหายใจและนิ้วมือสั่นคลอน ระหว่างที่กำลังว้าวุ่น เขาอยากจะใส่จดหมายเข้าไปในซอง แต่กลับร่วงสู่พื้นไปทีละแผ่น เขาเก็บขึ้นมา แต่กลับเก็บไม่ได้
ถ้ารู้ว่าอ่านจบแล้วจะปวดใจจนยืนไม่นิ่งแบบนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เขาต้องไม่มีทางอ่านแน่นอน
อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บกดไว้หนึ่งปีนี้ สุดท้ายก็ทางออกเจอสักที เขาคิดถึงเธอเกินไป
สิบกว่าปี เขาชินกับเสียงจู้จี้ของเธอ ชินกับการพัวพันของเธอ ชินกับการบีบบังคับของเธอ และยิ่งชินกับความรักที่เธอมอบให้
ตอนนี้กลับ ไม่มีแล้ว……..
ที่แท้ปวดใจเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ขนเส้นบางทุกๆเส้นกลายเป็นเข็มเหล็ก แล้วกำลังทิ่มเข้าไปตามรูขุนขนทั้งร่างกาย
ชื่อของชมพูแพรก็เหมือนถูกคนใช้ปากกาเขียนไว้ตรงกลางอกของเขา เขาขี้เกียจไปสนใจ
สีนั้นยิ่งอยู่ยิ่งลึก กลับกลายเป็นรอยสักโดยไม่รู้ตัว แล้วกำลังแนบติดกับหน้าอกโดยไม่เจ็บและไม่ขนเลย เขาชินมานานแล้ว ทว่าตอนนี้กลับถูกคนใช้มีดควักออกมาทั้งหนังและเนื้อ
ตอนที่เขาก้มหน้าหาร่องรอย ก็หาไม่เจออีกเลย แค่เห็นเลือดสดหลั่ง เจ็บปวดจนไม่กล้าดูเอง…….