บุปผาลิขิตแค้น - ตอนที่ 127 หมอชั่ว
คุณหนูและสาวรับใช้ที่จ่ายเงินแทรกแถวเดินเข้ามาด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็ไม่ได้มีความเขินอายแต่อย่างใด ล้วนทำเพื่อตระกูลทั้งสิ้น หากจะกล่าวโทษก็คงทำได้เพียงโทษคุณหนูท่านอื่นที่ไม่ฉลาดเท่านาง
“คุณหนู คนมาแล้วเจ้าค่ะ” อาเถียนตะโกนบอกคนที่อยู่ใต้ทางเดิน
เฉินตันจูนอนอยู่บนเก้าอี้โยก กระโปรงยาวจรดพื้น แขนเสื้อกว้างพลิ้วไหว แขนเสื้อลื่นไหลลงเผยให้เห็นแขนขาวสะอาด ในมือของนางถือตำราเล่มหนึ่งปิดบังใบหน้า เมื่อได้ยินเสียงจึงเอนศีรษะมองมา
นายบ่าวทั้งสองจึงได้พบกับดวงตาสดใสคู่หนึ่ง
ถึงแม้จะเป็นหญิงชนชั้นสูงในเมืองอู๋เหมือนกัน แต่เฉินตันจูไปมาหาสู่กับทุกคนน้อยครั้งมาก สาเหตุหนึ่งเพราะอายุน้อยกว่าพวกนางสองปี อีกทั้งตระกูลเฉินไม่มีนายหญิง พี่สาวแต่งงานออกจากตระกูลไป ดังนั้นการไปมาหาสู่ระหว่างกันจึงแทบจะตัดขาด เฉินตันจูเข้าวังน้อยมาก พี่น้องทั้งสองของตระกูลเฉินล้วนถูกซ่อนไว้ในตระกูล ออกจากจวนน้อยครั้ง…
“พวกเจ้ามาหาหมอ?” เฉินตันจูถาม
คุณหนูคนนั้นผงะ ก่อนจะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณหนูตันจู ข้ามาจากตระกูลเกาในตรอกตงหลิน นามของข้าคือเชี่ยน หลายปีก่อนในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้ากับเจ้าห่างกัน…”
ระหว่างที่คุณหนูพูดอยู่นั้น สาวรับใช้ก็หยิบจดหมายเชิญเตรียมยื่นออกไป
“ข้าไม่ได้ถามว่าเจ้ามาจากตระกูลใด ชื่ออันใดแซ่อันใด” เฉินตันจูพูดขัดนาง ชนชั้นสูงเมืองอู๋มีมากมาย งานเลี้ยงพระราชวังเมื่อหลายปีก่อนที่คุณหนูท่านนี้กล่าวถึง สำหรับเฉินตันจูแล้วยังต้องบวกอีกสิบปี อีกทั้งงานเลี้ยงพระราชวังของท่านอ๋องอู๋ นางเองก็ไม่อยากจะระลึกถึง “เจ้าไม่สบายที่ใด”
คุณหนูเกาเก้อเขินอย่างมากเมื่อถูกขัด สาวรับใช้ที่ถือจดหมายเชิญก็ไม่รู้ว่าควรยื่นไปหรือเก็บกลับมา
เอาเถิด ก่อนมาคนในตระกูลเคยกำชับเอาไว้แล้ว พวกนางมาเพื่อคบหาประจบคุณหนูตันจู
คุณหนูตันจูยโสโอหังแต่เดิมทีอยู่แล้ว
“ข้ามักจะนอนไม่หลับ” คุณหนูเกาพูดเสียงอ่อน พลันยื่นมือกุมหน้าอกเอาไว้ “ทั้งอึดอัดทั้งร้อน…”
เป็นเพราะระยะนี้อากาศร้อน…เฉินตันจูพินิจดูคุณหนูท่านนี้อีกที ยกมือชี้ไปทางด้านข้าง “คุณหนูเกา ตรงนี้มียาเม็ดซานจาสำหรับรับประทานหนึ่งขวด ยาหงเหยียนสำหรับเช็ดตัวหนึ่งขวด น้ำชิงซินสำหรับอาบอีกหนึ่งขวด ท่านต้องการสิ่งใด”
คุณหนูเกาผงะ “นี่คือยาหรือ”
“ใช่ ยานี้ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับของท่านโดยเฉพาะ” เฉินตันจูพูด
ไม่ถาม ไม่จับชีพจรก็จ่ายยาเลยหรือ เป็นการรักษาจริงหรือ คุณหนูเกาลังเล แต่ก็เผยยิ้มออกมาในทันที เดิมทีนางก็ไม่ได้เดินทางมาเพื่อรักษา ดังนั้น ไม่ต้องสนใจ
“ดีเสียจริง” นางพูดอย่างดีใจ “ข้าเอาหมด”
“เอาหมดหรือ” เฉินตันจูเหลือบมองนาง “หมดนี่ราคาไม่ถูก”
สายตานี้คิดว่านางไม่มีเงินหรือ ทันใดนั้นคุณหนูเการู้สึกเหมือนถูกหักหน้า นางยืดหลังตรง “เพียงแค่สามารถรักษาโรคให้หายได้ ยามูลค่าเท่าทองพันตำลึงก็ต้องใช้”
เฉินตันจูพยักหน้า “พูดถูก” นางจิ้มลงไปยังริมโต๊ะอีกครั้ง “ทองหนึ่งตำลึงวางตรงนี้ ยาหยิบไปได้”
ทองหนึ่งตำลึง! ดวงตาของคุณหนูเกาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ถามออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “ราคาแพงเพียงนี้?”
เฉินตันจูถือตำราเผยเพียงดวงตาคู่หนึ่งเหมือนเคย “มาให้ข้ารักษาแพงเช่นนี้เสมอมา คุณหนูไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือ”
คุณหนูเกาย่อมเคยได้ยิน อาทิ ขวางทางรักษาโรค รักษาโรคต้องใช้สมบัติทั้งตระกูลเป็นต้น นางจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างเก้อเขิน
“ดูสิ คุณหนูเองก็รู้ว่าไม่แพงใช่หรือไม่” เฉินตันจูยิ้มตาหยี
คุณหนูเกาเค้นยิ้มออกมา ไม่อาจบอกว่ารู้แต่ก็ไม่อาจบอกว่าไม่รู้ โชคดีที่อาเถียนเดินเข้ามาผ่อนคลายสถานการณ์ “ท่านเอาหรือไม่ หากไม่เอาสามารถไปหาที่อื่นได้ ด้านหลังยังมีคนรออยู่”
เอา ย่อมต้องเอา ในเมื่อมาแล้วย่อมไม่อาจกลับไปมือเปล่าได้! คุณหนูเกากัดฟันเขียนใบติดหนี้เอาไว้…เขียนใบติดหนี้เอาไว้ทำให้มีเหตุผลมาอีกครั้งหนึ่งได้!
ทันทีที่ก้าวขาออกจากประตูไป สายตาที่รอคอยอยู่ด้านนอกประตูจับจ้องมาทันที นายบ่าวสองคนเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“พี่เกา ท่านไม่สบายที่ใด ข้าก็ว่าเหตุใดส่งจดหมายเชิญพี่ พี่ก็ไม่มาหาข้า” คุณหนูคนหนึ่งพลางโบกพัดพลางถาม “คุณหนูตันจูว่าอย่างไร”
คุณหนูเกาส่งเสียงให้นางเงียบ “เจ้าอย่าได้ส่งจดหมายไปทั่ว ฝ่าบาทตรัสแล้วว่าไม่ให้เที่ยวเล่น”
คุณหนูผู้นั้นถูกขัดจนสะอึกไป คุณหนูเกาอาศัยจังหวะเดินจากไปด้วยท่าทางอรชร ช่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดี นางมาเพื่อประจบเฉินตันจู ไม่ใช่ประจบผู้อื่น มาตีสนิทกับนาง นางไม่มีทางทนเอาไว้
เมื่อเดินอยู่บนทางภูเขา สาวรับใช้กล้าที่จะเปิดปากพูดในที่สุด นางคลำขวดยาทั้งสามที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อ “คุณหนู ยานี้แพงเกินไปหรือไม่เจ้าคะ นางปล้นทรัพย์เสียกระมัง ไม่ได้ดูอาการแม้แต่น้อย”
คุณหนูเกาชำเลืองมองนาง “ข้าก็ไม่ได้ป่วยจริง”
คุณหนูพูดก็ถูก มันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น สาวรับใช้เผยยิ้มออกมา แต่อย่างไรก็ยังแพงอยู่ดี
“จดหมายได้ส่งออกไปหรือไม่” คุณหนูเกาถาม
สาวรับใช้พยักหน้า นึกย้อนไปถึงตอนเดินจากมาตนเองวางจดหมายไว้บนโต๊ะอย่างตระหนก อย่างไรก็ถือว่าส่งออกไปแล้ว
“เอาเถิด ส่งจดหมายใช้ทองหนึ่งตำลึงก็ไม่แพงนัก” คุณหนูเกาพูด “ตอนนั้นท่านพ่อต้องการเข้าประตูจวนของจางเหม่ยเหริน ทองที่มอบออกไปไม่ใช่หนึ่งหรือสองตำลึง”
แต่เป็นลังทั้งสิ้น
ดังนั้นคบหาหญิงสาวง่ายดายกว่ามาก
“กลับไปอย่าลืมส่งทองมา” คุณหนูเกากำชับ “หากใบหนี้ข้ามคืน ตระกูลเกาของเราจะเป็นการเสียมารยาท”
สาวรับใช้ตอบรับ นายบ่าวทั้งสองทำภารกิจที่คนในตระกูลมอบหมายมาให้สำเร็จ พวกนางเดินจากไปบนทางภูเขาด้วยความสบายใจ
ภายในอารามดอกท้อ เฉินตันจูใช้มือที่ถือตำราชี้ไปบนโต๊ะอีกครั้ง “ยานี้สำหรับรักษาโรคของคุณหนูโดยเฉพาะ ยาเม็ดซานจาสำหรับรับประทานหนึ่งขวด ยาหงเหยียนสำหรับเช็ดตัวหนึ่งขวด น้ำชิงซินสำหรับอาบอีกหนึ่งขวด ท่านต้องการยาใด ต้องการทั้งหมดหรือ ทองหนึ่งตำลึง เงินวางตรงนี้ ยาหยิบไปได้ อาเถียน คนต่อไป”
ส่งออกไปหนึ่งคน รับเข้ามาอีกหนึ่งคน หลังจากเป็นเช่นนี้สามรอบ เฉินตันจูจึงวางตำราลง “ข้าเหนื่อยแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อน”
อาเถียนยกจานขึ้นมานับ ก่อนจะพยักหน้า “วันนี้ได้มาไม่น้อยแล้ว ปิดประตูได้แล้วเจ้าค่ะ”
หลังจากนั้นนางจึงเรียกขานเยี่ยนเอ๋อให้เชิญคนออกไป เยี่ยนเอ๋อทำได้เพียงไปบอกอย่างระอา จากนั้นจึงได้ยินเพียงเสียงบ่นของเหล่าหญิงสาวด้านนอกประตู ตามมาด้วยเสียงฝีเท้า สุดท้ายภายในและภายนอกอารามจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
“คุณหนู” เยี่ยนเอ๋อถามอย่างฉงนเมื่อเดินกลับมา “คุณหนูไม่ได้ต้องการให้คนมารักษาหรือเจ้าคะ เหตุใดเวลานี้มีคนมามากมาย คุณหนูกลับปิดประตูไม่พบ”
คำถามนี้อาเถียนรู้ จึงชิงพูดขึ้น “เพราะว่าพวกนางไม่มีโรคแม้แต่น้อย”
ถึงแม้คุณหนูจะไม่ได้จับชีพจร แต่นางสังเกตดูอาการแล้ว ไม่ต้องให้คุณหนูดู นางก็ดูออกว่าคุณหนูเหล่านี้ไม่ได้ป่วยแม้แต่น้อย
“พวกนางมาเพื่อประจบคุณหนู”
เยี่ยนเอ๋อตอบรับ แต่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ “คุณหนู ในเมื่อพวกนางมาเพื่อประจบ เหตุใดคุณหนูจึงปฎิบัติต่อพวกนางอย่างไม่เกรงใจเพียงนี้เล่าเจ้าคะ”
ไม่ใช่ว่าควรจะท่าทางเป็นมิตร กอบกู้ชื่อเสียงที่ดีกลับมาหรือ ชื่อเสียงของคุณหนูเสื่อมเสียเพียงนี้ อีกทั้งยังเรียกเงินทอง คนเหล่านี้ยิ่งต้องคิดว่าคุณหนูเป็นคนชั่วร้าย
เรื่องนี้อาเถียนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนที่คุณหนูของหลี่จวิ้นโส่วเดินทางมา ทั้งที่คุณหนูบอกว่าเป็นความหวังดีของหลี่จวิ้นโส่ว แต่ในเมื่อเป็นความหวังดี เหตุใดคุณหนูจึงไม่ปฏิบัติตามน้ำไป
จู๋หลินที่นั่งอยู่บนหลังคาก็เงี่ยหูขึ้น
“เพราะว่าความหวังดีเหล่านี้ล้วนมาจากชื่อเสียงเสื่อมเสียของข้า” เฉินตันจูโบกตำราไปมาต่อหน้า “หากข้าเป็นคนดี พวกนางจะสนใจข้าได้อย่างไร”
ในเมื่อชื่อเสียงเสื่อมเสียนี้ไม่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว อีกทั้งยังดึงดูดคนมาเพื่อประจบ เช่นนั้นนางก็เป็นคนชั่วต่อไป
เฉินตันจูรับจานจากในมือของอาเถียนมา นิ้วของนางสะกิดทองก้อนหนึ่งเบาๆ ไม่ต้องสนใจชื่อเสียงอะไร อย่างไรนางก็สามารถรักษาโรคและหาเงินได้
จู๋หลินที่นั่งอยู่บนหลังคาเผยสีหน้าหนักใจ คุณหนูตันจูเริ่มหลงใหลในการเป็นคนชั่วแล้ว ต่อจากนี้ไปจะทำอย่างไร จดหมายของท่านแม่ทัพเหตุใดจึงช้าเพียงนี้