บทที่ 447 จากนี้จะต้องเลียพี่ใหญ่เยอะๆ!
เมื่อสรรพคุณของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าถูกหลอมรวม ฉีจ้านก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง!
กลิ่นอายพลังเขามากมายยากจะคาดเดา พลังเลือดลมทั่วร่างหมุนม้วน กายเนื้อเหมือนเตาหลอม สั่งสมพลังขึ้นและพุ่งออกไป แผ่พลังบริสุทธิ์แก่กล้า!
เปลวเพลิงร้อนแรงพุ่งมาจากดวงตา น่าเกรงขามยิ่ง เหมือนจะทะลวงภาพมายาโลกนี้
ขนทองทั้งตัวสว่างขึ้นเรื่อยๆ เหมือนดวงตะวัน กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย วนเวียนสวรรค์เก้าชั้น!
ตอนนี้พลังบำเพ็ญของฉีจ้านกำลังจะก้าวข้ามธรณีประตูสุดท้าย ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ!
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังเหมือนสวรรค์พิโรธ!
เมฆเคราะห์ภัยขนาดใหญ่มารวมบนฟ้า แผ่อำนาจคุกคามน่าสะพรึง!
“เป็นเคราะห์อริยะ! เจ้าหนูนี่จะเป็นผู้อริยะแล้ว!”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เพ่งสายตามอง ก่อนโบกมือใหญ่ให้ผนึกด้านบนจวนอริยะสัประยุทธ์หายไปทั้งหมด
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของฉีจ้าน เมฆเคราะห์ภัยมากมายเคลื่อนเข้ามา แสงสีดำวูบวาบ สายฟ้าแลบสั่นสะเทือน!
สายฟ้าไหลเวียนในเมฆเคราะห์ภัย เหมือนกับมังกรเวียนว่ายปรากฏมายังโลก
สายฟ้าพุ่งออกมา อสรพิษอัสนีวนเวียน กลิ่นอายพลังน่าสะพรึงถึงที่สุด!
“เคราะห์สวรรค์แปดเก้า! ดูท่าเผ่าข้ากำลังจะปรากฏการคงอยู่ที่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว!”
นัยน์ตาจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เปล่งประกายสว่างจ้าขึ้น
การฝ่าเคราะห์อริยะก็ความสำคัญเช่นกัน!
การจะเป็นผู้อริยะจะต้องฝ่าเคราะห์อริยะ!
คนที่ฝ่าเคราะห์อริยะยิ่งมีพรสวรรค์แกร่งมากเท่าไร เคราะห์สวรรค์ก็ยิ่งน่ากลัวมากเท่านั้น!
แต่การฝ่าเคราะห์สวรรค์ที่แกร่งกว่าจะมีประโยชน์กับผู้บำเพ็ญอย่างมาก!
หากฝ่าเคราะห์อัสนีได้จะเพิ่มศักยภาพขึ้นอย่างมาก กายเนื้อถูกเคราะห์อัสนีชะล้าง เกิดการผลัดเปลี่ยน!
เคราะห์สวรรค์แปดเก้า คือเคราะห์ที่แกร่งที่สุดในเคราะห์อริยะ!
ขอแค่ฉีจ้านฝ่าเคราะห์สวรรค์แปดเก้าไปได้ กำลังรบจะเหนือกว่าผู้อริยะใหม่ไปไกลแน่นอน!
ผู้อริยะใหม่ในที่นี้หมายถึงการคงอยู่ที่มีพรสวรรค์แข็งแกร่งและสู้ข้ามขั้นได้เหมือนกับเขา!
ยกตัวอย่างเช่นสุดยอดโอรสสวรรค์บางคนใช้พลังบำเพ็ญผู้สูงศักดิ์สวรรค์ข้ามไปสังหารผู้อริยะได้!
แต่หากตอนเป็นผู้อริยะฝ่าเพียงเคราะห์อริยะธรรมดาจะต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉีจ้านแน่นอน!
การฝ่าเคราะห์อริยะไม่ใช่แค่การทดสอบ แต่ยังเพิ่มพูนศักยภาพขึ้นได้อย่างมาก!
…….
กำลังรบของฉีจ้านในตอนนี้ก็สังหารอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้แล้ว!
หากทะลวงระดับอริยะ ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็มีกำลังสู้ได้!
เมฆเคราะห์ภัยมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ ประกายสายฟ้าสว่างจ้าพุ่งมาจากเมฆดำ
กลิ่นอายพลังน่ากลัวมาเยือนเหมือนเคราะห์สวรรค์ หมายจะทำลายล้างฟ้าดิน!
เคราะห์สวรรค์แปดเก้ามีอานุภาพน่ากลัวอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นอริยะแท้ธรรมดาก็ยังยากจะต้านได้!
บึ้ม!
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นสวรรค์เก้าชั้น เมฆเคราะห์ภัยสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนจะยิงสายฟ้าน่ากลัวลงมา!
ประกายสายฟ้าพุ่งทะลวง ก่อเกิดประกายเทพสว่างพร่างพราว พุ่งตรงลงมา!
เคราะห์สวรรค์แปดเก้ามีสายฟ้าทั้งหมดเจ็ดสิบสองสาย ทุกสายฟ้ามีขนาดพันจั้ง
ประกายแสงสว่างจ้าถึงที่สุด กลายเป็นสัตว์ร้ายอัสนี เขี้ยวยาวตวัดกรงเล็บกัดฉีกเข้ามา!
ฉีจ้านหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาพุ่งเข้าใส่เมฆเคราะห์ภัย!
เขาชกหมัดเปล่าใส่ทะเลเมฆ หมายจะตัดสินสูงต่ำกับสายฟ้าเคราะห์ภัย!
หมัดชกออกไป สวรรค์เก้าชั้นกู่ร้องพร้อมกัน
ประกายหมัดฉีจ้านเป็นหนึ่ง มาพร้อมกับจิตต่อสู้ไร้ที่สิ้นสุด กลายเป็นหมัดเทพสีแดงฉานพุ่งออกไป!
ชั่วขณะที่เขาควงหมัดนั้น จิตต่อสู้เอ่อล้น สั่นสะเทือนเมฆสิบทิศ เหมือนกับราชันนักรบที่สุดแห่งยุคกำราบภูผานที!
ตึง!
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!
ประกายสายฟ้าแตกกระจายไปรอบๆ ไม่หยุด!
ฉีจ้านยืนอยู่กลางอากาศ รอบกายอาบสายฟ้า แสงเทพสว่างจ้าส่องสะท้อนฟ้าดิน!
พลังสายฟ้าจมเข้าไปในกายเขา กลายเป็นกายเนื้อเลือดลมแก่กล้า!
เขายิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ ในหมัดเหมือนมีเสียงวานรเทพคำราม ฉีกสายฟ้าเคราะห์ภัยได้ง่ายดาย!
ชั่วครู่เดียวก็มีสายฟ้าเก้าสายถูกฉีกขาดทั้งหมด!
……
เปรี้ยง!
แต่เคราะห์อริยะยังไม่จบเร็วขนาดนั้น!
นี่คือเคราะห์สวรรค์แปดเก้า มีสายฟ้าเคราะห์ภัยทั้งหมดเจ็ดสิบสองสาย!
เมฆเคราะห์ภัยมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ สายฟ้าน่าสะพรึงสว่างจ้าเหมือนแสงขั้วโลก!
บึ้มๆๆ!
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน!
สายฟ้าสิบแปดสายถาโถมลงมากลายเป็นมังกรอัสนี อ้าปากกว้างพุ่งลงมาจากสวรรค์เก้าชั้น!
“มาได้พอดีเลย!”
ฉีจ้านคำรามเสียงดัง ควงกระบองเทพตามใจนึกพุ่งใส่มังกรอัสนี!
โค่นล้างพันทัพ!
ฉีจ้านควงกระบองเทพในมืออย่างรุนแรง แผ่ประกายกระบองยักษ์ออกไป ขวางท้องนภา!
พริบตาเดียวห้วงอากาศพังทลายลง แสงเทพไม่มีสิ้นสุดพุ่งเข้าใส่ตัวมังกรอัสนี!
บึ้ม!
ประกายสายฟ้าสว่างจ้า!
มังกรอัสนียักษ์ถูกกระบองตีแตกเป็นผุยผง!
ฉีจ้านมีรูปทรงองอาจห้าวหาญ จิตต่อสู้ทั่วร่างดุดันเหมือนกับเทพเจ้า หมายจะพลิกฟ้าดินนี้!
กระบองตามใจนึกมีพลังอำนาจมหาศาล ประกายกระบองดั่งสายลม ทุกครั้งที่ฟาดลงจะทำลายมังกรอัสนีตัวหนึ่งได้แน่นอน!
เพียงชั่วครู่เดียว เคราะห์อัสนีสิบแปดสายถูกทำลายลงทั้งหมด
บึ้มกึกๆๆๆๆ!
เคราะห์อัสนีแปดเก้าถาโถมลงมาอีกครั้ง จำแลงเป็นสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน พุ่งลงมากันอย่างบ้าคลั่ง!
และยังมีสายฟ้าเคราะห์ภัยอีกสามสิบหกสายพุ่งออกมา พละกำลังน่ากลัวกว่าก่อนหน้านี้!
สัตว์ร้ายอัสนีคำรามด้วยความโหดเหี้ยม เสียงคำรามทั้งหมดบดขยี้ท้องนภาแหลกเป็นผุยผง!
รูปร่างสายฟ้าพวกนี้ดูอัศจรรย์ ล้วนเป็นสัตว์ร้ายโบราณ พากันปรากฏมาทั้งหมด ทำให้ฟ้าดินมืดลง ดวงตะวันจันทราหายไป!
นัยน์ตาฉีจ้านมีความจริงจัง เผชิญหน้ากับสายฟ้าเคราะห์ภัยมากขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างหนัก!
แต่เขาก็ไม่เกรงกลัว กลับมีจิตต่อสู้น่าเกรงขาม!
ฉีจ้านแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า เสียงดังสนั่นฟ้าดิน “โลหิตยุทธ์ผลาญฟ้า!”
ทันใดนั้นมีแสงสีแดงพุ่งออกไป เหมือนกับเปลวไฟสีแดงฉานลุกโชตช่วง!
เขากำลังกระตุ้นบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิสัประยุทธ์ ใช้จิตต่อสู้ไร้พ่ายเพิ่มพลังให้ตนเอง!
แสงสีแดงสว่างจ้าถึงที่สุด แฝงไว้ด้วยจิตต่อสู้ไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นไหลเข้าไปในกายทั้งหมด ทันใดนั้นกลิ่นอายพลังของเขาพุ่งพรวดขึ้นอีกครั้ง!
“ฆ่า!”
เขาพุ่งขึ้นฟ้า แสงทองรอบกายกลายเป็นแสงโลหิตสีแดงฉาน จิตต่อสู้ล้นฟ้าเหมือนคลื่นยักษ์จู่โจมเข้ามา หมายจะพลิกฟ้าดินแห่งนี้!
เขาเหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย ใช้กายปะทะเคราะห์อัสนี
ทุกการโจมตีจะทำลายสายฟ้าหนึ่งสาย!
แต่เคราะห์อัสนีแปดเก้าจะดูถูกกันไม่ได้ สายฟ้าสามสิบหกสายพุ่งมาพร้อมกัน แต่ให้เป็นเจ้าอริยะก็ยังต้องรับมืออย่างเต็มที่!
ดังนั้นฉีจ้านจึงถูกสายฟ้าจู่โจม ก่อเกิดแสงเทพสั่นสะท้าน!
หากไม่ใช่เพราะมีเกราะเทพสัประยุทธ์คุ้มกัน บางทีเขาอาจจะบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว!
แต่ดีที่ฉีจ้านต้านเอาไว้ได้ทั้งหมด!
จนเมื่อเขาทำลายเคราะห์อัสนีสุดท้าย ประกายสายฟ้าทั้งหมดเข้าไปในกายแล้ว พลังบำเพ็ญพลันพุ่งพรวดขึ้น!
ผู้อริยะหนึ่งด่านเคราะห์!
ผู้อริยะสองด่านเคราะห์!
ผู้อริยะสามด่านเคราะห์!
การฝ่าเคราะห์สวรรค์แปดเก้าทำให้พลังบำเพ็ญฉีจ้านถึงผู้อริยะสามด่านเคราะห์!
สุดท้ายเมฆเคราะห์ภัยบนฟ้าหายไป ทำให้ฟ้าดินกลับมาสดใสดังเดิม!
ฉีจ้านลอยลงมาตรงหน้าสองคน
“ขอบคุณพี่ใหญ่มาก! ดีที่มีโอสถสูงสุดของพี่ใหญ่ ข้าถึงได้ประสบความสำเร็จอย่างวันนี้!”
เขาป้องมือให้เสิ่นเทียน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคารพและดีใจ
หากไม่ได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า เขาคงไม่ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะเร็วขนาดนี้!
จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝ่าเคราะห์อัสนีทีเดียวสามขั้น เป็นผู้อริยะสามด่านเคราะห์!
นี่เป็นสิ่งที่ขนาดฝันยังไม่กล้า!
ทว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดเดียวกลับทำได้!
ฉีจ้านใจสั่นสะท้าน!
แม้ข้าจะจมอยู่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์มาหลายปี ถือเป็นการสั่งสมพลังรอปะทุ!
แต่ประสิทธิภาพของโอสถเสริมสวรรค์ก็เป็นที่ประจักษ์แจ้ง สมกับเป็นโอสถสูงสุดระดับจักรพรรดิ
……
“ไม่ต้องเกรงใจ!”
เสิ่นเทียนพยักหน้า พึงพอใจมาก
ฉีจ้านศักยภาพพุ่งพรวดขึ้น นี่เป็นเรื่องดีกับเขาเช่นกัน ถึงอย่างไรก็เป็นน้องกุยช่ายของเขา แน่นอนว่ายิ่งอุดมสมบูรณ์เท่าไรก็ยิ่งดี!
เสิ่นเทียนสนใจสรรพคุณของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามากกว่า!
โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่หลอมขึ้นในครั้งนี้มีประสิทธิภาพแกร่งกว่าเดิม!
ก่อนหน้านี้ทำให้ผู้อริยะฝ่าเคราะห์สวรรค์สองขั้น แต่ตอนนี้ทำให้ฉีจ้านฝ่าเคราะห์อัสนีไปสามขั้น!
ดูท่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าครั้งนี้คงมีมูลค่าเพิ่มเป็นเท่าตัวแล้ว!
……
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ด้านข้างเห็นฉีจ้านทะลวงพลังสำเร็จแล้ว นัยน์ตาเป็นประกายแปลกใจขึ้นเรื่อยๆ!
เขาพบว่าฉีจ้านไม่ใช่แค่เพิ่มพลังบำเพ็ญ แม้แต่ต้นกำเนิด พรสวรรค์และคุณสมบัติยังยกระดับขึ้นสูงสุด!
นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ!
ใช้โอสถเม็ดเดียวก็ได้ผลลัพธ์เช่นนี้เชียว
น่าตกใจยิ่งนัก!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์จ้องมองโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่เหลือ ก่อนจะกลั้นความกระหายไว้ไม่ได้
โอสถนี้ทำให้เขาเกิดความสนใจมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันหอมมาก!
นี่คือกลิ่นที่ลิงชอบมากที่สุด!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์กลอกตา “เจ้าหนู เจ้าประสบความสำเร็จอย่างตอนนี้ได้ จะขาดความดีของข้าไปไม่ได้!”
หากไม่ใช่เพราะช่วงนี้จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ฝึกฝนให้ฉีจ้านตลอด เขาก็อาจจะฝ่าเคราะห์สวรรค์แปดเก้าไม่ได้!
ฉีจ้านได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้า “ช่วงที่ผ่านมานี้ได้ท่านบรรพบุรุษช่วยไว้จริงๆ!”
เป็นเช่นนั้นจริงๆ หากฉีจ้านไม่ตระหนักโลหิตยุทธ์ผลาญฟ้า เขาก็อาจจะฝ่าเคราะห์สวรรค์แปดเก้าไม่ได้!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์พยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเอ่ยถึงข้อสงสัย “โอสถนี่มหัศจรรย์ขนาดนั้นจริงรึ โอสถเม็ดเดียวมีประสิทธิภาพขนาดนี้ได้เชียวหรือ ข้าไม่อยากจะเชื่อเท่าไรเลย!”
ความจริงจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์รู้อยู่แก่ใจ แต่เขาอยากจะหลอกเอามาจากเสิ่นเทียนสักเม็ด!
ฉีจ้านได้ยินดังนั้นก็เอ่ยขึ้น “ท่านบรรพบุรุษ โอสถนี่มหัศจรรย์จริงๆ! หากไม่มีโอสถสูงสุดนี้ ข้าคงไม่อาจฝ่าเคราะห์อัสนีได้ครั้งเดียวสามขั้น!”
ฉีจ้านไม่รู้ความคิดของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ เห็นเขาแคลงใจจึงรีบอธิบาย
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ทำเสียงหึ “ข้าไม่เชื่อ เว้นแต่จะเอามาให้ข้าลองดู!”
ฉีจ้านกับเสิ่นเทียนพูดไม่ออก
สองคนมองตากัน ในที่สุดก็เข้าใจความคิดของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์
ที่แท้ก็จะหลอกเอาโอสถไปเปล่าๆ!
ฉีจ้านทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ได้พูดอะไร
ช่วยไม่ได้ นี่มันน่าขายหน้าไปแล้ว!
ท่านบรรพบุรุษ ดีเลวอย่างไรท่านก็เป็นมหาจักรพรรดิ กลับคิดจะหลอกรุ่นเยาว์เอาโอสถไปเปล่าๆ หรือ
ทำแบบนี้ดีจริงๆ หรือ
เสิ่นเทียนเลิกคิ้วขึ้น พูดเย้าหยอก “ผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิ ท่านมีกายเป็นดวงจิตไม่ใช่รึ ใช้โอสถจะมีประโยชน์อะไรกัน”
เมื่อรู้ว่าตนถูกอ่านขาดแล้ว ใบหน้าเย็นชาและสูงส่งของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็มีความเก้อเขินขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งอย่างพบเห็นได้ยาก
“แค่กๆ แม้ข้าจะมีกายดวงจิต! แต่ก็สัมผัสได้ถึงสรรพคุณยา!”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์คงบอกพวกเขาตรงๆ ไม่ได้หรอกว่า ‘โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี่หอมมาก ข้าอยากกิน’
เช่นนั้นใบหน้าแก่ชราของเขาจะไปเหลืออะไร
ฉีจ้านอดใจเอามือกุมหน้าผากไม่ได้ แอบพูดแขวะในใจ
ท่านบรรพบุรุษท่านคิดจะหลอกแล้วก็เปลี่ยนข้ออ้างหน่อยเถอะ!
ท่านคิดว่าเราเป็นเด็กสามขวบ ไม่รู้อะไรเลยหรือ
มีหรือที่กายแห่งดวงจิตกินโอสถแล้วจะเกิดผลลัพธ์ได้
…..
เสิ่นเทียนส่ายหน้า ก่อนเอ่ยราบเรียบ “ผู้อาวุโสอยากลองก็ใช่ว่าจะไม่ได้! กล้วยหอมอมตะหนึ่งลูกแลกกับโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าหนึ่งเม็ด! ผู้อาวุโสน่าจะยังมีเก็บไว้อยู่กระมัง”
เสิ่นเทียนมอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าให้ฉีจ้าน เพราะเขาเป็นกุยช่ายที่เก็บเกี่ยวได้!
แต่ตาเฒ่านี่ไม่ใช่กุยช่ายของข้า
จะมาขอเปล่าๆ หรือ ฝันไปเถอะ!
…….
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์หน้าชา “เจ้าหนูนี่ วัตถุดิบหลอมโอสถเป็นของข้าทั้งหมด เจ้ายังจะมาเอากล้วยหอมกับข้าอีกรึ”
เสิ่นเทียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิ ของพวกนี้ข้าแลกมาด้วยท้อเซียนอมตะ! หรือท่านจะไม่เอาท้อแล้ว จะคืนให้ผู้เยาว์รึ”
“ก็ได้ เจ้าชนะ!”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์แค่นเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้!
เขากระดากอายจะแย่งของจากรุ่นเยาว์จริงๆ
“เช่นนั้น ให้ข้ามาสามเม็ด!”
ด้วยความจนปัญญา จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ได้แต่ควักสมบัติก้นหีบสุดท้ายออกมา นำกล้วยหอมอมตะออกมาอีกสามลูก
เสิ่นเทียนยิ้มแป้น ก่อนมอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าให้จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์สามเม็ด!
การค้าครั้งนี้เรียกว่ากำไรอย่างงาม!
เพราะอย่างไรเขาก็หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามาสามสิบหกเม็ด ใช้ไปแค่กล้วยหอมอมตะสามลูกกับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เล็กน้อย!
ตอนนี้ใช้โอสถเสริมสวรรค์สามเม็ดก็แลกสมุนไพรจักรพรรดิคืนมาได้สามลูก!
การค้าขายครั้งนี้กำไรเลือดสาดเลย!
ส่วนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ เสิ่นเทียนไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ในแหวนมิติมีอีกเยอะ ใช้อย่างไรก็ไม่หมด!
หลังจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์รับโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไปแล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึก ใบหน้ามีความเคลิบเคลิ้มขึ้นมาทันที
กลิ่นหอมนี่ทำให้ลิงหลงใหลจริงๆ!
ต่อให้เป็นกายแห่งดวงจิต จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็ยังอดใจไม่ไหวอยากจะลอง!
อึก!
โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดหนึ่งลงท้อง มีแสงสว่างจ้าส่องมาจากในกายจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์
นอกจากปรากฏการณ์มหัศจรรย์แล้วไม่มีผลลัพธ์อื่นๆ!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มีดวงตาเหม่อลอย เหมือนตกอยู่ห้วงรสชาติของโอสถเสริมสวรรค์!
“ไม่เลวๆ หอมมากจริงๆ ของสิ่งนี้หอมกว่ากินกล้วยสดๆ อีก!”
ครู่ต่อมาเขาก็ตั้งสติกลับมาได้ ทำปากแจ๊บๆ ยังอยากลิ้มรสต่อ
แต่เขาไม่ได้กินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่เหลือ!
โอสถสูงสุดนี้มีสรรพคุณสุดยอด ไม่มีประโยชน์กับเขามาก!
หากกินเพื่อเติมเต็มความอยากอาหารก็คงจะล้างผลาญครอบครัวเกินไปจริงๆ!
……
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ส่งโอสถเสริมสวรรค์ที่เหลืออีกสองเม็ดให้ฉีจ้าน “เจ้าหนู เอาโอสถพวกนี้กลับไป บางทีอาจจะทำให้ในเผ่าวานรมีวานรอริยะสัประยุทธ์เพิ่มมาอีกสองตัวได้!”
โอสถนี้ยกระดับคุณสมบัติสายเลือดได้ เพิ่มพรสวรรค์สูงถึงขีดจำกัด!
เผ่าวานรอัคคีเนตรทองมีผู้แข็งแกร่งสุดยอดที่มีสายเลือดแข็งแกร่งมาก ขาดอีกก้าวเดียวก็จะปลุกตื่นเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์!
หากพวกเขาได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า จะต้องยกระดับสายเลือดขึ้น บางทีอาจจะปลุกตื่นถึงขีดสุด!
ต้องรู้ว่านี่คือสายเลือดไร้พ่ายที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แข็งแกร่งเป็นที่สุด!
ฉีจ้านทำหน้าตื่นเต้น “ขอรับ ท่านบรรพบุรุษ!”
เขาได้สัมผัสสรรพคุณอัศจรรย์ของโอสถเสริมสวรรค์กับตัวเอง รู้เลยว่าจะทำให้สายเลือดของบรรพบุรุษในเผ่าผลัดเปลี่ยนไป!
ถึงตอนนั้นจะเป็นยุครุ่งเรืองของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง!
หนึ่งเผ่ามีวานรอริยะสามตัว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ภายในใจเกิดความซึ้งใจต่อจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์อย่างมาก สมกับเป็นบรรพบุรุษของเผ่าข้า คิดแทนเผ่าข้าจริงๆ!
แน่นอนว่าต้องขอบคุณพี่ใหญ่ที่สุด!
หากพี่ใหญ่ไม่หลอมโอสถสูงสุดนี้ออกมา เผ่าข้าจะยิ่งใหญ่ขึ้นได้อย่างไร!
พี่ใหญ่ พึ่งพาได้มากกว่าท่านบรรพบุรุษจริงๆ!
……
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ไม่รู้ความคิดในใจฉีจ้าน
หากเขารู้ บางทีอาจจะตบฉีจ้านทีเดียวตาย!
เจ้าลิงกังนี่ ข้าลำบากควักสมบัติหมดตัวเพื่อแลกโอสถเสริมสวรรค์ ปรากฏว่ายังมีคุณความดีไม่เท่าพี่ใหญ่เจ้ารึ เผ่าวานรอัคคีเนตรทองเรามีลิงอย่างเจ้า เป็นเคราะห์ร้ายของวงศ์ตระกูล!
……
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์แหงนหน้ามองฟ้า เอาสองมือไพล่หลัง “ข้ามอบมรดกให้พวกเจ้าไปหมดแล้ว พวกเจ้าก็ควรจะไปได้แล้ว!”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์คิดจะส่งแขก!
เขาถูกชิงเอาสมบัติไปหมดตัว แม้แต่กล้วยหอมอมตะส่วนสุดท้ายยังเอาไปแลกโอสถเสริมสวรรค์!
พูดได้ว่าในแขนเสื้อมหาจักรพรรดิของเขาว่างเปล่า เอาอะไรออกมาไม่ได้อีก!
มิหนำซ้ำ เจ้าหนูสองคนนี้ยังไม่ต้องให้เขาชี้แนะอีก!
คนหนึ่งมีพรสวรรค์บ้าคลั่งอยู่แล้ว แค่สามวันก็ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิสัประยุทธ์ถึงขั้นสมบูรณ์ ทำให้เขาตื่นตะลึง!
มีพรสวรรค์สะท้านโลกา แม้แต่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ในตอนแรกยังทำไม่ได้!
อีกคนเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์!
สายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์แสวงหาการต่อสู้พิสูจน์มรรคมาตลอด ไม่ต้องชี้แนะอะไรมาก!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์นำพาให้ฉีจ้านหาเป้าหมายพบแล้ว!
หากเขาชี้แนะมากเกินไปจะกลายเป็นพันธนาการ จำกัดการเติบโต!
สู้ให้เขาคลำหาเองดีกว่า!
ห้าดินแดนแปดทิศนี้ล้วนเป็นสนามรบที่ฉีจ้านจะท่องไปในภายภาคหน้า สายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์เดินไปเช่นนี้ถึงจะแสดงพลังของสายเลือดนี้ได้ถึงขีดสุด!
“ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิ/ท่านบรรพบุรุษมาก!”
เสิ่นเทียนกับฉีจ้านได้ยินดังนั้นก็ป้องมือขอบคุณ
การเดินทางครั้งนี้กินเวลาไปเกือบสองเดือน ต้องไปแล้วจริงๆ
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เป็นมหาจักรพรรดิเมื่อแสนแปดหมื่นปีก่อน ถ่ายทอดมรดกให้พวกเขา ย่อมควรค่าให้พวกเขาขอบคุณ
“ไปเถอะ!”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์โบกมือ สื่อให้สองคนไปได้
แต่เมื่อเขามองแผ่นหลังเสิ่นเทียน นัยน์ตากลับมีความซับซ้อน
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ริมฝีปากสั่นนิดๆ ส่งกระแสจิตไปหาฉีจ้าน “เจ้าหนู จากนี้อยู่ใกล้พี่ใหญ่เจ้าให้มากๆ จะเลียเขาก็ได้ไม่เป็นไร”
ฉีจ้านงุนงง
เขาหยุดชะงัก มุมปากกระตุกเล็กน้อย
“ท่านบรรพบุรุษ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าดูถูกที่ข้าคารวะเสิ่นเทียนเป็นพี่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่รึ เหตุใดผ่านไปไม่เท่าไรถึงได้เปลี่ยนคำแล้วล่ะ”
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนพูดเขินอาย “ฟังข้าเถอะ ภายภาคหน้าหากเผ่าวานรอัคคีเนตรทองเจอกับหายนะสูญพันธุ์ เขาอาจจะช่วยทั้งเผ่าเราไว้ได้!”
…..
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มีดวงตาลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ เขาคิดว่าเสิ่นเทียนลึกลับมากจริงๆ!
ลึกลับจนเขายังอ่านไม่ขาด!
ข้ามเรื่องพรสวรรค์กับกำลังรบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติการณ์ไปก่อน!
แค่หลอมโอสถสูงสุดนี้ได้ก็มากพอจะสะท้านโลกแล้ว!
การผูกมิตรกับโอรสสวรรค์เช่นนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน!
ฉีจ้านได้ยินดังนั้นถึงกับใจสั่นไหว!
ไม่นึกเลยว่าท่านบรรพบุรุษจะประเมินพี่ใหญ่สูงขนาดนี้!
แต่ว่าต่อให้ท่านบรรพบุรุษไม่พูด ข้าก็ตั้งใจสาบานจะติดตามพี่ใหญ่ไปอยู่แล้ว!
พี่ใหญ่ดีกับข้ามากจริงๆ!
“ท่านบรรพบุรุษ ข้าเข้าใจแล้ว!”
ฉีจ้านตอบกลับ จากนั้นออกไปพร้อมกับเสิ่นเทียน
พริบตาเดียว สองคนก็ออกจากจวนอริยะสัประยุทธ์ บินออกไปโลกภายนอก!
เมื่อเห็นสองคนจากไป จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์พูดปลง “ยุคนี้ปรากฏเจ้าบ้าพวกนี้ สำหรับทั้งห้าดินแดนแล้ว ไม่รู้ว่าดีหรือร้ายกันแน่!”
ร่างเงาจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ค่อยๆ หายไป ส่วนจวนอริยะสัประยุทธ์ก็ซ่อนตัวในทะเลลึก!
…….
ตอนนี้เสิ่นเทียนกับฉีจ้านออกมาจากทะเลลึก ไปถึงบนฟ้าทะเลบูรพา!
ฉีจ้านเกาศีรษะ “พี่ใหญ่ ตอนนี้เราจะไปที่ใดกัน”
เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “กลับสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก่อนเถอะ!”
ถึงอย่างไรก็ได้โชคลิขิตมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างนอก
ข้างนอกไม่ได้ปลอดภัย มีลัทธิวิญญาณร้ายซ่อนในเงามืด พร้อมจะเคลื่อนไหวอยู่
สู้กลับสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยไปฟาร์มก่อนดีกว่า!
สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยไม่ใช่แค่มีทรัพยากรบำเพ็ญอู้ฟู้ แต่ยังมีพี่น้องกุยช่ายมากมาย
เสิ่นเทียนจะคว้าโอกาสได้ หาทางเกาะโชคลิขิตหลายครั้ง ทำให้วงรัศมีดวงชะตาบรรลุสีม่วง!
จุดนี้เป็นสิ่งสำคัญในสำคัญ!
สองคนตัดสินใจได้ก็มุ่งหน้าไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดอย่างไม่ลังเล
พวกเขาสองคนจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายกลับสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย!
…..
และตอนนี้เอง สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นนานแล้ว!
ไม่ว่าจะโอรสสวรรค์สำนักมนุษย์หรือสำนักอสูรล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องหนึ่ง!
“พวกเจ้าได้ข่าวกันหรือไม่ ผลการรบจากเมืองทะเลบูรพากลับมาแล้ว ศิษย์พี่ฉีจ้านสำนักข้าใช้มือเดียวทุบตีอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ลัทธิวิญญาณร้าย และยังสู้กับเจ้าอริยะเสียหั่วเจ็ดด่านเคราะห์ได้หลายร้อยกระบวนท่า ไม่ตกเป็นรอง! สมกับเป็นอันดับหนึ่งสำนักอสูร แข็งแกร่งจริงๆ!”
ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรต่างมีสีหน้าตื่นเต้น
โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์อีกด้านกลับตะโกนเสียงดัง “แค่นี้หรือ อันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ข้าก็อยู่ด้วย บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไร้พ่าย แยกเป็นเก้าร่างใหญ่ ทุกร่างแยกถืออาวุธเตรียมเซียน กระบวนท่าเดียวระเบิดเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ได้!”
……
เห็นได้ชัดมากว่าข่าวจากเมืองทะเลบูรพามาถึงแล้ว!
นี่เป็นเพียงข่าวที่เล่าลือกันมาเท่านั้น นับวันยิ่งเกินจริงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง ไม่สมเหตุผลนิดๆ!
……………..
MANGA DISCUSSION