ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 83
หมู่บ้านใบไม้ร่วง
ช่วงเช้ามืดที่แสงดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น มีเสียงดังอึกทึกวุ่นวายดังขึ้นกว่าทุกวัน มันสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก แต่ไม่มีใครพูดอะไร
เพราะคนที่ทำเสียงดังรบกวน ได้จ่ายเงินให้แก่พวกเขา เอาไว้ก่อนแล้ว ชาวบ้านได้แต่ทนฟังเสียงรบกวน จำใจตื่นเช้าทำกิจวัตประจำวันเร็วกว่าปกติ
“ตรงจุดนั้นจัดให้มันดีๆหน่อย งานนี้มันสำคัญนะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันจะจัดการพวกแกให้หมดแน่”ตรงกลางหมู่บ้านมีชายหนุ่มในชุดหลากสีล่ำแฟชั่น ยืนตะโกนสั่งงานเสียงดังผ่านเครื่องขยายเสียงในมือ ด้านหน้าของเขามีกลุ่มคนหลายร้อยคน กำลังวิ่งวุ่นวายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
นอกหมู่บ้าน
จิวโมไป๋ที่กำลังลงจากนั่งรถรับจ้าง ก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะเสียงที่เขาได้ยิน มันดังมาจากใจกลางหมู่บ้าน ที่อยู่ห่างจากทางเข้าหมู่บ้านไปอีกไกล
เขาอดคิดไม่ได้ว่า มีคนสร้างเสียงรบกวนดังขนาดนี้ ทำไมไม่มีใครทำอะไรอีก ตำรวจ เจ้าหน้าที่เป็นใบ้กันหมดแล้วเหรอ
เมื่อลงจากรถ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะภาพของหมู่บ้านใบไม่ร่วงเบื้องหน้าของเขา มันเปลี่ยนไปจนเขาจำไม่ได้ หน้าอาคารบ้านเรือนทุกหลัง ถูกประดับด้วยดอกไม้ใบไม้จนหนาแน่น กลายเป็นกำแพงดอกไม้หลากสีตัดกับสีเขียวดูร่มรื่นสวยงาม
นอกจากนั้นยังมีซุ้มดอกไม้หลากสีสัน จากถนนอีกฝั่งไปที่ถนนอีกฝั่ง และมีซุ้มดอกไม้ตั้งติดต่อๆกันในทุกระยะ 50 เมตร ยาวไปถึงด้านในหมู่บ้าน
ตรงกลางซุ้มดอกไม้มีพื้นที่โล่ง เหมือนจะมีป้ายข้อความอะไรบางอย่างมาติดในอนาคต
จิวโมไป๋กวาดสายตามองดูดีๆ มีพวกรูปปั่นหินสีขาวสะอาด รูปปั่นหัวใจ รูปปั่นตุ๊กตากามเทพแผงศร และรูปปั่นสัตว์ตัวเล็กๆน่ารัก กระจายตามจุดต่างๆทั่วหมู่บ้าน
สมกับที่เป็นคุณชายเสเพลแห่งเมืองหลวง เงินเท่าไหร่ที่ใช้ไปทั้งหมด?
จิวโมไป๋ถึงกับพูดไม่ออก ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเข้าใจ ว่าทำไมเมื่อตอนที่อีกฝ่ายเล่นพนันหิน ถึงเล่นแบบโยนเงินทิ้ง
คนรวยไม่สนเรื่องเงินจริงๆ
จิวโมไป๋เดินเข้าไปในหมู่บ้าน ที่ตอนนี้ไม่มีรถปกติวิ่งผ่านเลยซักคันเดียว เขาเห็นแต่ช่างตกแต่งในชุดเดียวกันขับรถบรรทุกคันเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสิ่งของตกแต่งนาๆชนิด ขับไปทั่วหมู่บ้าน
ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว นักผจญภัย ผู้บ่มเพาะที่อยู่ในภายในอาคาร ต่างก็มองความวุ่นวานอยู่ห่างๆและพูดคุยกันไม่หยุดอย่างสนุกปาก มีบางคนกดบันทึกภาพเอาไว้ด้วย
เดินไปจนถึงกลางหมู่บ้าน เขาก็เห็นชายในชุดหลากสียืนอยู่บนเวที ที่ตกแต่งอย่างงดงามหรูหรา เขากำลังพูดสั่งงานเสียงดังไม่หยุดจนเหงื่อไหลอาบหน้า แต่ดวงตาเต็มไปด้วยพลัง
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นอดไม่ได้ที่จะเห็นใจ ใครจะคิดว่าหลังเหตุการณ์นี้ จะเปลี่ยนชายเสเพลที่บ้าในรักข้างเดียว กลายเป็น คนที่คนทั้งโลกต่างหวาดกลัว
เหมือนชายในชุดหลากสีจะสัมผัสได้ เขาหันมาเห็นจิวโมไป๋ ที่เดินมาพอดี
“เฮ้! น้องชาย”เนี่ยฟูหานร้องเรียกก่อนจะลงจากเวที เขาฝากเครื่องขยายเสียง ให้บอดีการ์ดวัยกลางคนสั่งงานแทน
“ฉันไม่คิดเลยว่านายจะมาเช้าขนาดนี้”เนี่ยฟูหานพูดทักทายอย่างสนิทสนม เขารู้สึกถูกชะตากับคนตรงหน้าตั้งแต่ที่ ช่วยเตือนเขาในครั้งที่เขาเล่นพนันหิน ทำให้เขาพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง ทั้งๆที่พึ่งเจอกันเป็นครั้งที่ 2 เท่านั้น
“ฉันมีธุระที่นี่พอดีเลยมาเร็ว แต่อีกสักพักคงต้องออกไปทำธุระแล้ว”จิวโมไป๋ยิ้ม เขาไม่ปฏิเสธท่าทางเป็นมิตรของอีกฝ่าย
“อ่อ”เนี่ยฟูหานพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถาม“ตอนเย็นว่างไหม ฉันจะจัดงานเลี้ยงกลางแจ้งที่นี่หลังจากฉันขอแต่งงาน”
จิวโมไป๋เงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกลังเล เมื่อเห็นดวงตาที่เปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุขของอีกฝ่าย เขาอยากจะพูดเตือน แต่ไม่นานก็ต้องเก็บเงียบไม่พูดออกมา เขารู้ดีว่าพูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ โดยเฉพาะคนที่พึ่งรู้จักกัน
เขาได้แต่คิดเงียบๆในใจว่า เขาจะต้องหาทางช่วยให้อีกฝ่ายพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปให้ได้
“ถ้าธุระเสร็จเร็ว ฉันจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงแน่”จิวโมไป๋ไม่พูดปฏิเสธโดยตรง
เนี่ยฟูหานพยักหน้าพอใจ ก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยกันอีกพักใหญ่ สุดท้ายเนี่ยฟูหานก็แยกตัวไปจัดการเตรียมงานให้เสร็จ
จิวโมไป๋ก็เดินแยกตัวไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่รอบนอกของหมู่บ้าน แม้จะอยู่ไกลจากใจกลางหมู่บ้าน ที่นี่ก็มีการตกแต่งไม่ต่างกัน จนเขาอดคิดไม่ได้ว่า เนี่ยฟูหานใช้เงินเหมือนทิ้งจริงๆทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ
เขาเช่าห้องพัก 2 วัน เป็นห้องชั้น 3 ของโรงแรมอยู่ตรงมุมอับ เมื่อเข้าไปในโรงแรมเขาก็ตรวจสอบห้องอย่างถี่ถ้วน เมื่อไม่พบสิ่งแปลกปลอม เขาก็กดหมายเลขติดต่อโรงแรมเพื่อสั่งอาหาร
เพียงไม่นานก็มีเสี่ยงกดกริ่งเบาๆหน้าประตู จิวโมไป๋ลุกไปเปิดประตู พนักงานโรงแรมสาวส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะเข็นรถเข็นเข้ามาในห้อง และนำอาหารว่างไว้บนโต๊ะทานอาหารอย่างเรียบร้อย
“ผมจะนอนพัก ห้ามให้ใครรบกวน ถ้ามีอะไรผมจะติดต่อไปเอง”จิวโมไป๋บอกพนักงาน
พนักงานโรงแรมสาวพยักหน้ารับ
เมื่อพนักงานโรงแรมออกไป จิวโมไป๋ก็ปิดล็อกประตูห้อง ก่อนจะกินอาหารที่สั่งมาจนหมด และวางทิ้งไว้บนโต๊ะทานอาหาร
ก่อนที่เขาจะเปิด TV และเร่งเสียงให้ดังระดับหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าห้องนอน ที่เตียงนอนถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี เขาไม่เสียเวลาอีก เขาทำการจัดการที่นอนให้เหมือนกับว่ามีคนเคยนอนมาก่อน จะไปจัดการห้องน้ำต่อ…
เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ตรวจสอบอีกครั้ง ว่าไม่มีปัญหาอะไร เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาล ปากใส่ผ้าปิดปากบดบังครึ่งหน้า เมื่อคลุมฮูดปิดหัวก็สามารถปกปิดตัวตนได้
ตรวจสอบนอกหน้าต่างจากชั้น 3 ลงไปด้านล่างด้วยจิตสัมผัสอย่างถี่ถ้วนเห็นว่าไม่มีคนเดินผ่าน เขาก็ส่งจิตสัมผัสตรวจสอบกล้องวงจรปิดเมื่อตรวจสอบมุมภาพแล้ว เขาก็ใช้พลังจิตวิญญาณส่งคลื่นรบกวน ทำให้ภาพค้าง 5 วินาที ก่อนที่เขาจะกระโดดลงจากชั้น 3 อย่างรวดเร็ว พร้อมกับใช้พลังจิตวิญญาณปิดหน้าต่างห้อง
ทันทีที่กล้องวงจรติดกลับมาบันทึกภาพก็ไม่มีความผิดปกติปรากฏในภาพ
…
เหมืองแร่ประกายแสงตั้งอยู่ภายในป่าสวรรค์โบราณ อยู่ห่างจากหมู่บ้านใบไม้ร่วงประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่ไกลมากนัก แต่เพราะพื้นที่ป่าสวรรค์โบราณตรงส่วนนี้ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนทำให้การเดินทางยากลำบากกว่าปกติ รถยนต์ ไม่สามารถเข้ามาได้ ต้องเดินด้วยเท้า หรืออุปกรณ์การบินเท่านั้น
จิวโมไป๋ที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดไปหลายชุด ชุดในปัจจุบันเป็นชุดคลุมสีเทาเข้ม เขาทำเป็นสำรวจไปตามจุดต่างๆ เพื่อหาแร่ หรือสมุนไพรล้ำค่า เหมือนคนทั่วไป บางครั้งพบเจอนักผจญภัยเขาก็พูดทักทายอย่างปกติ
ทำให้ระหว่างทางไม่เกิดปัญหาอะไร จนมาถึงเหมืองแร่ประกายแสง เขาเห็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ 10 หลัง ที่ถูกสร้างใกล้ๆทางเข้าเหมืองแร่ จากนั้นก็มีรั้วไม้ทำง่ายๆ ล้อมรอบไม่ให้คนภายนอกเข้า
นอกรั้วไม้เขาเห็นเต็นท์ที่พัก นับร้อยตั้งเรียงรายตามแนวรั้วไม้ มีนักผจญภัย จำนวนมากกำลังนั่งพูดคุยกันหน้าที่พักของตัวเอง อาจเพราะยังเช้า ทำให้ยังไม่มีใครออกไปที่ป่าสวรรค์โบราณ
จิวโมไป๋เดินเข้าไปตรงซุ้มไม้ที่สร้างอย่างง่ายๆ ภายในมีโต๊ะเก้าอี้อยู่ไม่กี่ตัว ให้คนได้เข้ามาทานอาหาร
ทันทีที่เขานั่งลงก็มีพนักงานชายกล้ามใหญ่ ยกอาหารมาวางไว้ที่ด้านหน้าของจิวโมไป๋ โดยที่เขาไม่ต้องสั่งอาหาร
“มื้ออาหารวันนี้มีแค่พัดเผ็ดแพะภูเขา ราคา 100 เครดิต”
จิวโมไป๋ไม่ได้พูดอะไร เขากดบนกำไลข้อมือไม่กี่ครั้ง ก็ส่งเงินไปให้อีกฝ่าย เมื่อได้รับพนักงานชายกล้ามใหญ่ก็เดินกลับไปที่หลังร้าน
เขาเคยชินกับการตั้งค่ายแบบนี้ตั้งแต่อดีต เมื่อรัฐบาลค้นพบอะไรบางอย่างหรือสถานที่ต้องสำรวจ พวกเขาจะตั้งแค้มป์สำรวจในบริเวณนั้น และมักจะมีพวกนักผจญภัย ตามไปด้วย
พวกนักผจญภัยจะตั้งเต็นท์ของพวกเขา ไว้นอกจุดสถานที่ตั้งแค้มป์สำรวจของรัฐบาล เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ที่นี่ เป็นที่พัก เพื่อที่จะสำรวจที่อื่นได้ง่ายขึ้น
อย่างเหมืองแร่ประกายแสง ที่อยู่ภายในป่าสวรรค์โบราณ ถ้านักผจญภัยต้องกลับเมืองใบไม้ร่วงทุกครั้งที่ออกล่า มันเสียเวลามากเกินไป
ถ้าพวกเขายึดเอาที่ตั้งของเหมืองแร่ประกายแสง เป็นที่พักพวกเขาสามารถสำรวจในป่าสวรรค์ได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้นหลายเท่า
คนของรัฐบาลก็ไม่ได้ขับไล่นักผจญภัยพวกนี้ออกไป เพราะพวกเขาไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามภายใน จะขับไล่ออกไปมันก็ดูจะใช้อำนาจเกินไป ทำให้ทุกๆครั้งที่รัฐบาลตั้งแค้มป์สำรวจ จะมีนักผจญภัยตามมาด้วย จนกลายเป็นเรื่องปกติ
นอกจากนั้นยังมีพ่อค้าหัวใจ ที่รับซื้อของราคาถูกจากนักผจญภัยที่ไม่อยากเสียเวลากลับ เอาของออกไปขายข้างนอกในราคาแพงขึ้น และร้านอาหารแห่งนี้ ที่เข้ามาเปิดร้านโดยที่ราคาอาหารแพงกว่าภายนอกเป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัว
วัตถุดิบในการทำอาหารก็มาจากป่าสวรรค์โบราณ ทำให้กำไรที่พวกเขาได้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
จิวโมไป๋ทำเป็นนั่งกินอาหารอย่างช้าๆ เพราะไม่มีคน ทำให้เขาสามารถนั่งแช่อยู่ได้โดยไม่ถูกไล่ออกจากร้าน
จิตสัมผัสของเขาค่อยๆ แผ่กระจายออกไปอย่างช้าๆเพื่อตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ
เขาสำรวจเต็นท์ที่ล่ะแห่ง บางเต็นท์มีภาพบาดตา เขาก็ต้องจำใจตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
ตรวจสอบอยู่นานก็ไม่พบอะไรผิดปกติ จนเขาคิดว่าพวกนักฆ่าคงไม่แฝงตัวเข้ามา แต่ค่อยอยู่ข้างนอก จนเขาตรวจสอบไป 80 กว่าแห่ง เขาก็พบบางอย่าง…
ภายในเต็นท์เล็กๆไม่สะดุดตา มีคนพักอยู่ภายในแค่ 1 คนเท่านั้น แต่ที่น่าแปลกคือผิวหนังของอีกฝ่ายถูกปิดบังด้วยหนังเทียม
“… ยืนยัน ภายในเหมืองแร่ประกายแสง มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติระดับสูงอยู่จริง ตอนนี้ งู กำลังตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อยืนยันเป้าหมาย…”
คิ้วของจิวโมไป๋พลันขมวดแน่น เพราะภาษาที่ได้ยินเป็นภาษาของคนทวีปตะวันตก…
—
ขอโทษผู้อ่านทุกคน(อีกครั้ง) ที่หายไปนานอีกแล้ว
เพราะมีเหตุให้ต้องยุ่งอยู่กับงานประจำ… ทำให้ไม่มีเวลาเขียนนิยายเลย (ที่จริงมีแต่เหนื่อยมากT^T)
จากนี้ไม่สัญญาว่าจะเขียนโดยไม่หายไปอีก(งานต่างๆเข้าที่แล้ว คงไม่มีเหตุผลให้หายไปอีก)
ผมจะพยายามเขียนให้ได้มากที่สุด โดยที่พล๊อตนิยายไม่หลุด
ขอบคุณที่ยังติดตามอยู่เสมอครับ ^^