ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 291
จิวโมไป๋ไม่รอให้ผู้มีสายเลือดเงาทมิฬได้หายไป เขาหยิบแผ่นยันต์วายุออกมาและโยนออกไปทันที พายุลูกเล็กปรากฎขึ้นทำให้อาคารร้างทั้งหลังสั่นเทือนอย่างรุนแรง ดินและฝุ่นที่แกะอยู่ถูกพัดกระจายไปโดยรอบ
ผู้มีสายเลือดเงาทมิฬยิ้มเยาะ เขาเคยเห็นวิธีแปลกๆนี้มาแล้ว ทำให้เขาระวังตัวอยู่เสนอ เขาพุ่งอ้อมหลบไปอีกด้าน ไม่รอให้พายุสงบ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพริบตาก็ปรากฏตัวด้านหลังของจิวโมไป๋และใช้กระบี่แทงตรงเข้าไปที่หัวใจ
แต่ในตอนนั้นเองเท้าของผู้มีสายเลือดเงาทมิฬพลันมีวงแหวนสีทองปรากฎขึ้น ในชั่วพริบตาเส้นสีทองก็พุ่งรัดทั่วร่าง
ร่างของผู้มีสายเลือดเงาทมิฬพลันปรากฎตัวขึ้นจากอากาศ
จิวโมไป๋หันกลับมา ก่อนจะชกหมัดที่หัวใจของผู้มีสายเลือดเงาทมิฬจนแตก ร่างสั่นสะท้านก่อนดวงตาจะมืดลง
จิวโมไป๋ปลดข่ายอาคมกับดัก แล้วก้มลงตรวจสอบสายเลือดเงาทมิฬ คิ้วของเขาขมวดแน่น
เขารู้ได้ทันทีว่า สายเลือดเงาทมิฬไม่ได้เกิดจากการปลุกโดยธรรมชาติ แต่เป็นการหลอมรวมสายเลือดด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง
ทำให้สายเลือดเงาทมิฬอ่อนแอ ไม่สามารถใช้พลังของสายเลือดได้เต็มที่
การเคลื่อนไหวในเงาของผู้ปลุกสายเลือดเงาทมิฬธรรมชาติ มันแทบจะไร้ความผันผวน เคลื่อนไหวไร้ร่องรอย แตกต่างจากผู้มีสายเลือดเงาทมิฬที่ถูกฆ่า ทุกครั้งที่ลงมือจะมีความผันผวนแผ่วเบา ทำให้สัมผัสมรณะของเขาสัมผัสได้
จิวโมไป๋ตรวจสอบอีกครู่หนึ่งเขาก็สายหัวด้วยความเสียดาย สายเลือดถูกหลอมด้วยวิธีผิดธรรมชาติ ไม่สามารถสกัดได้
จิวโมไป๋หยิบยันต์เพลิงออกมาและเผ่าศพผู้ใช้สายเลือดเงาทมิฬกลายเป็นเถ้าถ่าน
ก่อนที่เขาจะเดินไปอุ้มร่างของลู่หว่าน และไปยังสถานที่ภารกิจของเขา
…
ฐานลับแห่งนึงในเมืองเทียนจิง
ปัง! โครม! ร่างของผู้คุ้มกันกระเด็น ไปกระแทกกับพนังด้านหลังอย่างรุนแรง ก่อนจะหมดสติ
ในห้องโถงขนาดใหญ่ ผู้คุ้มกันหลายสิบคน กำลังต่อสู้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงกลางวงล้อมอย่างดุเดือด บนพื้นมีร่างของผู้คุ้มกันที่หมดสติหนือเสียชีวิตหลายสิบคน เลือดที่ไหลออกจากร่าง ทำให้พื้นกลายเป็นแอ่งเลือด
เฉินหูในตอนนี้ร่างของเขาสูงถึง 2 เมตร กล้ามเนื้อสีแดงเข้มเส้นเอ็นทั้วร่างที่บูดออกเหมือนท่อน้ำ กล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ราวกับนักกล้ามที่ฝึกฝนหลายสิบปี
ตอนนี้ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลนับร้อย
“โฮกกกก”เฉินหูโจมตีอย่างบ้าครั้งไม่สนใจบาดแผลหรือความเจ็บปวดแม้แต่น้อย เขาพุ่งเข้าโจมตีผู้คุ้มกันที่เข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
สัตว์อวตารหมีน้ำตาลเข้ามา เฉินกระโดดขึ้นคว้าคอของมัน มากัดที่คอและฉีกกระชากอย่างน่ากลัว
“เจ้าโง่! อย่าต่อสู้ตรงๆถ่วงเวลาเอาไว้!”หัวหน้าผู้คุ้มกันร้องสั่งลูกน้อง
“ปิดทางไว้! อย่าปล่อยให้สัตว์นี้ออกไปได้!”
“หัวหน้ากำลังเสริมจะมาถึงเมื่อไหร่!”ผู้คุ้มกันด้านข้างถามขึ้น เขามองเฉินหูด้วยความกลัว ใบหน้าของเขาซีดเผือก ร่างกายอ่อนแอราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ ไม่แปลกที่เขาจะกลัว เพาะสัตว์อวตารของเขาเป็นกลุ่มแรกที่ถูกเฉินหูฆ่า
“คนที่บุกห้องเก็บข้อมูลที่ 2 กำลังหลบหนี ความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่นั้น กว่าจะมีใครมาช่วยพวกเราคงต้องใช้เวลาหลายนาที”หัวหน้าผู้คุ้มกันตอบ
“บัดซบ! เจ้านี้มันเป็นสัตว์ประหลาด!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากการต่อสู้ ทำให้ผู้คุ้มกันบางคนหดหัวด้วยความกลัว
ตูม! เฉินหูใช้ไหล่กระแทกอวตารกระทิง กระเด็นไปกระแทกกำแพงอย่างรุนแรง
ในอดีตเขาไม่สามารถเอาชนะสัตว์อวตารได้ จึงถูกจับมาที่นี่ ในตอนนี้เขาสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็น แต่เขาแสร้างทำเป็นอ่อนแอกว่าความจริง เพราะเขาค้นพบบางอย่าง
เมื่อต่อสู้ เลือดในร่างของเขาและเลือดพยัคฆ์ทอง 9 หัวยิ่งหลอมรวมกันนุ่มนวลขึ้น และมันยังส่งผลให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น
ทำให้เขาต่อสู้ไม่หยุด เขารู้ว่าถ้าหยุดไม่ถูกผู้คุ้มกันฆ่าตาย เขาก็ถูกสายเลือดในร่างฆ่าอยู่ดี
เขาจึงต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง
“ถ้าหัวหน้าเสี่ยว ไม่ถูกเรียกตัวไปหาตัวผู้บุกรุก เจ้าสารเลวนี้คงถูกจัดการตั้งแต่แรก”ผู้คุ้มกันที่ผลัดกันเข้าไปต่อสู้กับเฉินหูพูดขึ้น เขากลัวว่าสัตว์อวตารของตัวเองจะถูกฆ่า
“ผลัดกันเข้าไปอย่าให้ตัวเองหมดแรง รอกำลังเสริมมาช่วย”หัวหน้าผู้คุ้มกันสั่งอีกครั้ง
เฉินหูได้ยินดังนั้นก็ลอบยิ้มในได้ คนพวกนี้ไม่รู้ว่ายิ่งเขาต่อสู้ความแข็งแกร่งของเขายิ่งเพิ่ม การพลัดกันเข้ามาสู่กับเขา มันช่วยให้เขาสามารถรักษาสภาพและพัฒนาง่ายขึ้น
เขาจึงแกล้งทำเป็นถูกโจมตีเป็นบางครั้ง
ทำให้ผู้คุ้มกันรู้สึกว่าเฉินหูกำลังจะหมดแรงจริงๆ
ในระหว่างต่อสู้เฉินหูก็คอยสอดส่องทางออกไปด้วย
เวลาผ่านไปอีก 2 นาที เฉินหูสูงขึ้นอีก 5 ซ.ม. ก็เริ่มมีคนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
“เจ้าหนูนี้กำลังใช้พวกเราเป็นคู่มือต่อสู้! รีบโจมตีเข้าไปพร้อมกัน!”เมื่อมีคนพูดเตือนสติพวกเขาก็สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเฉินหูได้่
ใบหน้าของพวกเขาพลันบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
เฉินหูเห็นดังนั้นเขาก็ตัดสินใจทันที ร่างกายของเขาพลันกระเบิดกลิ่นอายบ้าคลั่งพลังกดดันอันมหาศาลแผ่กระจายออกจากร่าง กฎแห่งธาตุทองหลอมร่วมที่หมัด
โดยที่ไม่มีใครได้ตั้งตัวเฉินหูพุ่งเหมือนพญาเสือสีทอง เขาชกหมัดออกไป หมัดสีทองกลายเป็นพยัคฆ์สีทองขนาดใหญ่บดขยี้ผู้ที่ขวางทางเขาทั้งหมด ก่อนที่หมัดจะชนที่ผนังเหล็กที่ปิดกันทางออกอย่างรุนแรง
ตูม!
ผนังเหล็กแตกออกเป็นรู แม้จะเป็นรูเล็กๆ แต่ก็เพียงพอให้เขาออกไปได้
“แย่แล้ว! รีบขวางเอาไว้ อย่าปลอดให้ร่างทดลองนี้หนีไปได้!”หัวหน้าผู้คุ้มกันตะโกนสั่ง”ร่างทดลองนี้ทำลายบันทึกข้อมูลวิจัยทั้งหมด และยังฆ่าหัวหน้าวิจัยจิง ร่างของมันจึงเป็นงานวิจัยที่สำคัญที่สุด”
เฉินหูที่ได้ยินก็โกรธ ที่มีคนพูดถึงเขาเหมือนสิ่งของ แต่เขาก็ต้องข่มมันไว้ เขาฆ่าสังหารคนที่ขวางและพุ่งไปที่รูบนกำแพงและมุดเข้าไป แต่ในขนะที่กำลังจะผ่าน
ปัง! ร่างของเขาก็ถูกกระแทกออกมา เลือดสีแดงสดทะลักออกจากปากเหมือนน้ำก๊อกที่ถูกเปิด เขามองไปที่รู เห็นชายวัยกลางคนร่างเล็กกระโดดผ่านรูเข้ามา ในมือของเขามีพลองสีเงินยาว
“หัวหน้าเสี่ยวกลับมาแล้ว!”
เสียงร้องยินดีดังขึ้น
หัวหน้าเสี่ยวพยักหน้ามองไปรอบๆด้วยแววตาเฉยเมย ถ้าเป็นคนที่รู้จักจะรู้ว่าตอนนี้หัวหน้าเสี่ยวกำลังโกรธจัด
หัวหน้าผู้คุ้มกันรีบเข้าไปรายงาน
หัวหน้าเสี่ยวพยักหน้ามองมายังร่างของเฉินหูด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับมองสิ่งของล้ำค่า
เฉินหูลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ พลังในร่างของเขาเพิ่มอีกครั้ง การโจมตีเมื่อครู่มันช่วยเพิ่มการหลอมรวมสายเลือดให้กับเขาอย่างมาก
เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น แววตาที่มองหัวหน้าเสี่ยวจึงดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
ไม่รอช้าเขารีดเร้นพลังทั้งหมดแลัวพุ่งเข้าโจมตีหัวหน้าเสี่ยว หมัดทองคำกระเบิดพลังโจมตีอันร้ายกาจออกไป
หัวหน้าเสี่ยวมองหมัดที่ชกมาอย่างเรียบเฉย เขาควงพลองเงินปะทะกับหมัดของเฉินหู
ปัง!คลื่นพลังกระจายออกโดยรอบอย่างรุนแรง ก่อนที่ร่างของเฉินหูจะกระเด็นออกไปหลายก้าว หัวหน้าเสี่ยวยังคงยืนอยู่ที่เดิม จากรูปร่างแล้วไม่มีใครคิดเลยว่าหัวหน้าเสี่ยวจะมีร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้
แม้ร่างกายของเฉินหูจะแข็งแกร่งขึ้น เขาก็ไม่สามารถต่อกรกับผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกได้อยู่ดี
หัวหน้าเสี่ยวแตกต่างจากผู้คุ้มกันที่ใช้ยาพันธุกรรมอย่างสิ้นเชิง
เฉินหูมองไปรอบๆเพื่อหาทางหลบหนี แม้ว่าเขาต้องการที่จะต่อสู้เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่โง่ต่อสู้เกินกำลังตัวเอง
หัวหน้าเสี่ยวพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยพลองเงินอย่างรุนแรง ไม่ปล่อยให้เฉินหูได้พัก
เฉินหูได้แต่ใช้พลังทั้งหมดเข้าต่อสู้
ปัง! ร่างกายของเฉินหูถูกกระหน่ำตี แต่เขาก็ยังฝืนยืนรับการโจมตีทั้งหมด และโจมตีตอบโต้ไม่ละความพยายาม
เฉินหูถูกโจมตีจนสติเริ่มพร่ามัว ความเร็วในการหลบลดลง การโจมตีส่วนใหญ่จึงกระทบถูกร่างของเขา
ในตอนนั่นเองเสียงดังเปรี๊ยะๆ เหมือนเสียงสายฟ้ากำลังซ๊อตดังขึ้น เขารวบรวมสติกลับมา เขาก็เห็นร่างของชายในชุดคลุมสีขาว ใบหน้าถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากทอง บนร่างของเขามีสายฟ้าสีม่วง แดง และเขียวเข้ม แลบไปมาทั่วร่างกาย
พลังกดดันจากร่างของเขาสะกดข่มทุดคนในห้องให้สั่นด้วยความกลัว
แม้แต่หัวหน้าเสี่ยวยังต้องลอบประเมินชายในชุดคลุมสีขาว
—