ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1
มิติร้อยพงไพร
ในหุบเขาสมุนไพร มีสำนักที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งคือ ‘สำนักเปลี่ยนสวรรค์’ เป็นสำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องโอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้คนโดยไม่แบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะจาก‘โลก’ที่ได้เข้ามาในมิติร้อยพงไพร หรือชาวบ้านดั้งเดิมภายในมิติ พวกเขาจะปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเสมอภาคไม่แบ่งแยก
ทุกๆวันจะมีผู้คนที่ไม่ได้เป็นคนในสำนักเปลี่ยนสวรรค์ เข้ามาขอคำชี้แนะในการบ่มเพาะ บางครั้งจะมีการแจกจ่ายโอสถคุณภาพดี ที่ช่วยในการบ่มเพาะและรักษาโรคต่างๆ พูดได้ว่าสำนักเปลี่ยนสวรรค์ เป็นสำนักที่ดีงาม จนผู้คนในมิติร้อยพงไพรต่างใหความเคารพนับถือ
แต่ในวันนี้ภายในหุบเขาสมุนไพร สำนักเปลี่ยนสวรรค์ ที่เคยสง่างามเต็มไปด้วยผู้คนคึกคัก กลายเป็นซากปรักหักพัง ควันไฟสีดำเผาไหม้จนท้องฟ้าแดงฉาน กลิ่นเหม็นไหม้และกลิ่นสนิมเลือดลอยตลบอบอวนน่าคลื่นไส้ บนพื้นดินเต็มไปด้วยร่างของมนุษย์นอนทอดยาวนับหมื่นร่าง เลือดสีแดงคล้ำจำนวนมหาศาลไหลนองลงสู่ผืนดิน ทำให้หุบเขาสมุนไพร กลายเป็นดินแดนโลหิตที่น่าสยดสยอง
ยอดเขาไร้นามแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ห่างจากหุบเขาสมุนไพรมากนัก
บริเวณใต้เขามีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน กำลังตั้งขบวนเป็นวงกลม ล้อมรอบใต้ตีนเขาไร้นามอย่างหนาแน่น บนยอดเขามีร่างของชายวัยกลางคนสองคน กำลังอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ร่างของคนทั้งสองต่างมีบาดแผลน้อยใหญ่ทั่วร่างกาย แทบไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วขาดๆเต็มไปด้วยเลือดผืนหนึ่ง
“ผู้อาวุโสจิวโมไป๋ ท่านมอบโอสถทิพย์ทะลวงนภาให้พวกเราเถอะ การบ่มเพาะของท่านในตอนนี้ ต่อให้ท่านใช้โอสถทิพย์ ท่านก็ไม่สามารถเข้าถึงระดับลมปราณนภาได้หรอก”ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีทองหรูหรา ท่าทางสง่างาม เขาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ดูเป็นผู้มีคุณธรรม
“หึ! จ้าวอี๋เทียน แกไม่ต้องยกคำพูดสวยหรูขึ้นมาพูดอีกแล้ว แค่โอสถทิพย์ทะลวงนภาเพียงเม็ดเดียว พวกแกจะกล้า สั่งการพันธมิตรเก้าคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของพวกแก มาทำลายสำนักเปลี่ยนสวรรค์ของพวกข้าได้ยังไง บอกมาว่าพวกแกมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำลายสำนักของพวกข้า!!!”หนึ่งในสองร่างที่ถูกรุมล้อม ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงอันทรงพลัง จนแผ่นดินสั่นสะเทือน
เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันน่าเกรงขาม แต่โชคร้ายที่ตอนนี้ข้อมือซ้ายถูกตัดออก หน้าอกมีรอยดาบฟันจนลึกเกือบถึงหัวใจ ส่วนต่างๆของร่างกายมีบาดแผลน้อยใหญ่น่าหวาดหวั่นนับไม่ถ้วน ใบหน้าอันองอาจกล้าหาญ ตอนนี้ขาวซีดราวแผ่นกระดาษ
“บัดซบ! เฉินหู แกกล้าลบหลู่ ท่านประมุขสมาพันธ์ แกอยากจะตายมากสินะ!”เสียงร้องด่าทอดังขึ้นจากด้านหลัง ชายวัยกลางคนในชุดสีขาวสะอาด ทะยานข้ามผ่านผู้คนมาหยุดเบื้องหน้า ของชายวัยกลางคนร่างกายกำยำ
“อูเหวิน แก! เจ้าคนทรยศ!!! ข้าไม่คิดว่าวันนี้ แกจะยังกล้าเสนอหน้าออกมาอีก ถ้าไม่ใช่เพราะแกพี่ใหญ่ก็คงไม่ต้องตาย”เฉินหูคำรามลั้นทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย
ใบหน้าของอูเหวินแปรเปลี่ยนไปวูบหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็รีบเก็บซ่อนสีหน้าอย่างรวดเร็ว
“พี่รอง ท่านอย่าพูดใส่ร้ายข้าแบบนั้น ข้าไม่ได้ทรยศพวกท่าน ข้าแค่เลือกที่จะออกจากสำนักที่ชั่วร้ายของพวกท่าน มาเข้าสำนักกระบี่คุณธรรม 1 ใน สำนักหลัก ของสมาพันธ์เก้าคุณธรรมเท่านั้นเอง ส่วนการตายของพี่ใหญ่ จะโทษก็ต้องโทษพวกท่านเอง ที่ไม่รักชีวิต กระทำสิ่งชั่วร้าย ข้าได้แต่ต้อง‘ฝืนใจ’ปราบปรามพวกท่านที่‘เคยเป็น’พี่น้อง ให้หยุดการกระทำที่ชั่วช้าเท่านั้นเอง”
“แก…”เฉินหูกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น ในอกเต็มไปด้วยเลือดคลั้งแค้นที่ใกล้จะระเบิด
“ใช้แล้ว พวกเราฝ่ายธรรมะ ต้องกำจัดมารร้ายเช่นพวกเจ้า มันเป็นหน้าที่ของพวกเรา โอสถทิพย์ทะลวงนภาเป็นเพียงเหตุผล ที่ช่วยให้สำหนักของพวกเจ้าไม่ถูกเรียกว่าสำนักมาร เพราะพวกเราเห็นแก่หน้าผู้อาวุโสจิวโมไป๋ ที่เคยช่วยเหลือพวกเราเมื่อครั้งในอดีต
แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนเรียกร้อง หาเหตุผลที่แท้จริง ที่สำนักของพวกเจ้าต้องถูกทำลายขึ้นมา พวกข้าจะรายงานความผิดทั้งหมดของพวกเจ้าเอง”ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีน้ำเงินลายคลื่นทะเล เดินออกมาอย่างเชื่องช้า
“คารวะท่านเจ้าสำนักทะเลคุณธรรม”อูเหวินรีบก้มหัวเคารพอย่างนอบน้อม เจ้าสำนักทะเลคุณธรรมพยักหน้าแผ่วเบา แล้วหันไปคำนับ จ้าวอี๋เทียน พลางโบกมืออย่างแผ่วเบา หน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
“สำนักเปลี่ยนสวรรค์ เบื้องหน้ากระทำตัวเป็นผู้มีคุณธรรม แจกจ่ายโอสถทิพย์ รักษาผู้คน ช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่เบื้องหลังใช้สมุนไพรคุณภาพต่ำผสมโอสถ ทำให้โอสถเป็นพิษมากว่าประโยชน์ ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก… ลักลอบค้าขายสิ่งต้องห้ามร้ายแรง เข้าไปในโลก… ทำให้เกิดอันตรายแก่คนธรรมดามากมาย…”
อ่านไปเกือบร้อยข้อกล่าวหา ผู้คนที่ไม่ได้เป็นคนในสมาพันธ์เก้าคุณธรรม แต่ตามมาดูการกวาดล้างสำนักเปลี่ยนสวรรค์ สำนักที่พวกเขาต่างให้เคารพนับถือ เพื่อหาทางช่วยเหลือ แม้ด้วยกำลังของพวกเขาจะไม่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้จากภัยพิบัติได้ แต่พวกเขาก็สามารถกระจายข่าว เพื่อโจมตีสมาพันธ์เก้าคุณธรรมในภายหลังได้
แต่เมื่อได้ยินความผิดทั้งหมด ใบหน้าของพวกเขาต่างแปรเปลี่ยน จับกลุ่มพูดคุยอื้ออึงดังระงมไปทั่วบริเวณ ยิ่งข้อกล่าวหาข้อหลังๆ มีเรื่องคดีดักชิงปล้นฆ่า มีลักลอบค้าทาศ และเรื่องน่าหวาดกลัวหลายข้อที่ผู้คนเคยได้ยิน พวกเขาไม่คิดเลยว่าสำนักที่พวกเขาเคารพนับถือจะลักลอบกระทำชั่วช้าแบบนี้ได้
จากชื่มชมกลายเป็นรังเกลียดในพริบตา เฉินหูฟังข้อกล่าวหาด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
“พวกแก พวกแก… เจ้าพวกสารเลวบัดซบ!”เฉินหูโกรธแค้นจนกระอักเลือดสีแดงออกมากองใหญ่
ความผิดทั้งหมดที่พวกมันกล่าวมา เป็นพวกมันที่เรียกตัวว่าสำนักคุณธรรม ทำเองแท้ๆ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะหน้าด้าน โยนความผิดที่ตัวเองก่อขึ้น ใส่ความคนอื่นโต้งๆแบบนี้ พวกมันกะจะโยนความผิดและฝั่งพวกเขาลงหลุมไปพร้อมกันชัดๆ