บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1552 การสังหารแปลกประหลาด
บทที่ 1552 การสังหารแปลกประหลาด
……….
บทที่ 1552 การสังหารแปลกประหลาด
การต่อสู้ปะทุขึ้น
พวกหญิงสาวชุดเหลืองมากันทั้งหมดเจ็ดคน ตอนนี้พวกเขาโจมตีเต็มกำลัง ใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้วพุ่งเข้าใส่เฉินซีพร้อมกัน
ยามมองจากที่ไกล เจ็ดทวยเทพรุดหน้าผ่านฟ้า อำนาจพุ่งสูงราวกับจะทลายฟ้าดินได้ เคราะห์ดีที่ที่นี่คือแดนโลกาวินาศ หากเป็นในสามภพ กฎแห่งเต๋าสวรรค์คงไม่อาจฝืนทนไหว
“เวร! รีบหลบเร็วเข้า!” เถี่ยคุนเปลี่ยนสีหน้าในพลัน ใช้วิชาพาชาวบ้านทั้งหลายเคลื่อนมิติหายไปพร้อมกัน
แทบในเวลาเดียวกันนั้นก็ได้ยินเสียงลั่นครืนดังออกจากระเบิดที่สะท้านไปทั่วฟ้าดิน
‘สงัดก่อนพายุโถม’ ของเฉินซีเข้าปะทะอย่างจัง ปราณกระบี่ดั่งดวงตะวันซัดการโจมตีทั้งหลายขาดสะบั้น เกิดเป็นแรงพลังดีดตัวออกรอบทิศ กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์หลั่งไหล กรีดผ่านห้วงอากาศเผยแรงพลังอันน่าตื่นตาออกมา
ทุกคนเป็นเทวารู้แจ้งโลกาที่เข้าใจกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ล้วนใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ และใช้วิชาชั้นสูงมากมาย เมื่อทำการต่อสู้ก็คล้ายกับดาราในจักรวาลเข้าปะทะ แรงปะทะที่ดีดออกมากพอจะบดขยี้ตะวันจันทรา ทำลายล้างทุกสิ่งบนโลกได้
เทวารู้แจ้งโลกานั้นจะมีจักรวาลภายในร่าง หมายความว่าร่างกายของพวกเขาก็คือจักรวาลหนึ่ง พลังที่ปลดปล่อยออกมาย่อมเป็นพลังขั้นสูง
“แกร่งจริง!”
แรงโจมตีของหญิงสาวชุดเหลือง อวี้เฉิน และคนอื่น ๆ กระจัดกระจายหายไป แม้จะไม่บาดเจ็บ แต่ทั้งเจ็ดคนก็โจมตีออกไปพร้อมกัน ทว่าเฉินซีคนเดียวกลับซัดการโจมตีคราวเดียวก็ทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากได้ สีหน้าของคนทั้งหมดจึงเปลี่ยนผันไป
เด็กนี่แกร่งเกินไปแล้ว!
ที่ระดับพลังบ่มเพาะเช่นนี้ เฉินซีกลับมีพลังสะท้านฟ้าได้ ทำให้พวกเขาพิศวงว่าเด็กคนนี้มาจากภพเบื้องล่างจริงหรือ
อย่างไรในสายตาพวกเขา นอกจากยอดฝีมือไม่กี่คนที่เกิดเมื่อครั้งบรรพกาล เหล่าเทพจากภพเบื้องล่างล้วนอ่อนแอทั้งสิ้น เหมือนมดปลวกที่คิดจะบี้ให้แบนเมื่อไหร่ก็ได้
ทว่าเฉินซีย่อมไม่ใช่ยอดฝีมือที่เกิดในช่วงนั้น ทั้งยังอยู่เพียงขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา อีกทั้งความเข้าใจในกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่แค่ขั้นพื้นฐาน แต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้ขั้นสูงได้เช่นนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องปกติ!
อย่างที่เขาว่า เรื่องผิดปกติทั้งหลายย่อมต้องมีเหตุผล ตอนนี้พลังต่อสู้ของเฉินซีไม่ใช่แค่ผิดปกติ แต่นับว่าสูงคล้ายยอดฝีมือหาตัวจับยากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้!
……
ระหว่างที่ใจคิดเช่นนั้นการต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อ ไม่มีใครกล้าประมาท ใส่กำลังรับมือกับเฉินซีอย่างเต็มที่ สู้กันทั้งบนฟ้าดิน เปลี่ยนพื้นที่กว่าล้านลี้ให้กลายเป็นสมรภูมิ เกิดภาพศิลาระเบิด ผืนพสุธาแยกออก และห้วงมิติฉีกกระชากให้เห็นทั่วไป
เห็นถึงกระทั่งแสงฟ้าลั่น พลังแห่งธาตุทั้งห้าที่ลอยหวนกลับ เสียงคำรามดุร้ายของเทพอสูร เห็นเลือดของเหล่าทวยเทพโปรยปราย ทั้งยังมีปรากฏการณ์น่าตื่นตาอื่น ๆ อยู่อีก ใครได้เห็นเป็นต้องใจสั่นสะท้าน
นี่คือการต่อสู้ของทวยเทพ!
อำนาจทวยเทพนั้นอยู่เหนือกว่าบางเขตแดนไปแล้ว อำนาจทะลุสูงขึ้นจนไม่อาจอธิบายได้!
นี่เป็นแค่การต่อสู้ของเทวารู้แจ้งโลกากลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากเป็นผู้อยู่เหนือกว่าอย่างเทวารู้แจ้งวิญญาณหรือบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล ก็อาจเกิดเหตุการณ์น่ากลัวขึ้นกว่านี้ได้
ฟ่าว!
เฉินซีถือยันต์ศัสตราไว้ในมือแล้วพุ่งเข้าใส่กลุ่มศัตรู
สีหน้าเขานิ่งสงบ สายตาเจือแววสังหาร ทุกย่างก้าวที่เคลื่อนกายปลดปล่อยยันต์อักขระออกมานับไม่ถ้วน ทว่ายันต์ศัสตราในมือยังคงปลดปล่อยผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ลึกลับออกมาจำนวนมาก มันบดขยี้ฟ้าดินและหยินหยางจนตกอยู่ในความวุ่นวาย
ยามมองจากที่ไกล เขาเหมือนเป็นจักรพรรดิกระบี่ผู้ควบคุมเหนือเต๋าแห่งกระบี่ในจักรวาล เผยอำนาจสูงส่งยิ่งกว่าใคร
การต่อสู้หนักหน่วงยิ่ง
ศัตรูมีทั้งหมดเจ็ดคน แต่เฉินซีกลับไม่รู้สึกกดดันนัก ถึงขั้นที่ผ่อนคลายกว่าการต่อสู้กับลุงเก้าตระกูลอี้ด้วยซ้ำ
เรื่องรับมือยากอย่างเดียวคือหญิงสาวชุดเหลืองนามอวี้เฉิน วิชาศักดิ์สิทธิ์ของนางร้ายกาจยิ่ง ทั้งพลังบ่มเพาะยังเกือบถึงขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณแล้ว ที่สำคัญคือ นางเป็นเทพที่เสาะหาทักษะขัดเกลากายาเทพอสูร!
นับแต่โบราณมา ทักษะขัดเกลากายาเทพอสูรนั้นเลื่องชื่อว่าสามารถเอาชนะผู้บ่มเพาะลมปราณในขอบเขตเดียวกันได้ เพราะถึงจะบาดเจ็บสาหัส หากยังมีจิตใจเด็ดเดี่ยวหลงเหลืออยู่ ก็สามารถฟื้นคืนชีพได้อีก จึงไม่สามารถใช้วิธีธรรมดาสังหารได้เลย
ตอนนี้ศัตรูมีหญิงสาวชุดเหลืองนามอวี้เฉินซึ่งเป็นผู้ขัดเกลากายาขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาอยู่ เฉินซีจึงไม่สามารถกำจัดศัตรูอย่างรวดเร็วได้
นั่นเป็นเพราะอวี้เฉินทำหน้าที่เหมือนป้อมปราการใหญ่ที่คอยปัดการโจมตีถึงตายของเฉินซีได้ในทุกจังหวะ และถึงนางจะถูกโจมตีจนบาดเจ็บ แต่ก็สามารถฟื้นฟูได้ในทันที
เฉินซีจึงได้แต่ขมวดคิ้วแน่น เขารู้ดีว่าหากยังไม่เปลี่ยนกลยุทธ์เขาคงเหนื่อยตายไปเสียก่อน
อีกทั้งพวกเขายังมีผลึกศักดิ์สิทธิ์เพื่อเติมพลัง ส่วนเขาไม่มีอะไรเลย เขาเองเพิ่งฟื้นพลังมาได้เพียงเจ็ดในสิบส่วนเท่านั้น คาดการณ์ไว้ว่าหากยังไม่สามารถจัดการศัตรูได้ในเร็ว ๆ นี้ มีแต่เฉินซีจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
……
ฟ่าว!
ผ่านไปชั่วครู่ ยันต์ศัสตราของเฉินซีก็หมุนคว้าง ส่งผลให้ปราณกระบี่รุดขึ้นฟ้า กรีดผ่านอุปสรรคหลากหลายชั้นได้ในคราวเดียว พุ่งตรงไปหมายโจมตีชายชุดดำ
แต่ในจังหวะนั้นเอง อวี้เฉินก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง หมัดใสดั่งผลึกหยกทำหน้าที่ดั่งค้อน ซัดลงมาใส่ปราณกระบี่นั้นอย่างแรง
ตู้ม!
ปราณกระบี่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ส่วนแขนขวานางก็ถูกปราณกระบี่ระเบิดออกเช่นกัน แต่ไม่ทันไรมันก็ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเก่า
น่ารำคาญใจนัก! เฉินซีเห็นแล้วก็ทำหน้าเครียด นัยน์ตาฉายแววจิตสังหาร
“มีข้าอยู่เจ้าไม่อาจเอาชนะได้แน่ หยุดขัดขืนเถอะ” หญิงสาวชุดเหลืองนามอวี้เฉินเอ่ยเสียงเรียบ เรือนผมเงางามพลิ้วไหวไปมาดุจน้ำตก นางมีใบหน้าที่งดงามมาก ทุกท่วงท่าเผยให้เห็นถึงความสูงส่งไม่สนใคร
ถึงตอนนี้ เฉินซีลงมือไม่สำเร็จหลายครั้งแล้ว ทำให้ความกลัวในใจหายไป เปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นและจิตสังหารแทน
คนอื่น ๆ เองก็หัวเราะเสียงเย็นออกมาเช่นกัน
หากจับตัวเฉินซีส่งให้นายน้อยสามตระกูลอี้นามอี้เทียนในครั้งนี้ได้ก็คงได้ผลตอบแทนไม่น้อย ดังนั้นเฉินซีจึงกลายเป็นเหยื่อตัวอ้วนที่ทุกคนอยากลิ้มลอง!
เฉินซีส่งเสียงเย็นชาในลำคอ ก่อนใช้กระบี่ซัดการโจมตีออกมาอีกครั้ง
“บัดซบ! ฝืนไปก็ไร้ประโยชน์ รีบยอมให้พวกข้าจับตัวเถอะ!” ชายชุดสีเงินคำรามลั่น ฉวยโอกาสแทงหอกทองเข้าใส่เฉินซี ปลายแหลมของมันปะทะเข้ากับกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ทำลายห้วงอากาศไปเป็นทาง
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง อวี้เฉินก็แวบร่างมาปรากฏอยู่ข้างกายชายผู้นั้นเหมือนเงาตามตัว คอยช่วยปัดการโจมตีให้หากสถานการณ์พลิกผัน
ฟึบ!
ทว่าในตอนนั้นเฉินซีพลันเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก ชายหนุ่มเอื้อมมือออกมาทำท่าคว้า พร้อมกับตาข่ายขนาดใหญ่แผ่กลิ่นอายความเยือกเย็น ดูคล้ายดาราภาพฝันพลันปรากฏขึ้น ก่อนจะพุ่งเข้าใส่อวี้เฉิน
“หือ?” อวี้เฉินหรี่ตาลงแล้วใช้พลังอิทธิฤทธิ์ขั้นสูงรับมือ หมัดนางแยกออกมาทรงคล้ายกรรไกร กรีดผ่านตาข่ายเคลื่อนตัวไปอย่างรุนแรง
แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อตาข่ายขนาดใหญ่กลับไม่ขยับเคลื่อน ไม่เพียงแต่กันมันไว้ไม่ได้ มันกลับเคลื่อนลงมาคลุมร่างนางไว้แทน!
ฉับพลันที่เฉินซีใช้ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ ชายหนุ่มก็ซัดกระบี่ลงมาทันทีที่เคลื่อนกายเข้าไปหาชายชุดสีเงิน
ปราณกระบี่ครั้งนี้แปลกประหลาดยิ่ง มันปรากฏขึ้นฉับพลัน ก่อนจะหายไปในพริบตา ทำให้ใจชายชุดสีเงินสะท้านวูบ เพราะไม่อาจเล็งโจมตีปราณกระบี่นั้นได้เลย
“เวรล่ะ!” ชายชุดสีเงินใจสั่นขนลุกทั่วร่าง วิญญาณแทบหลุดออกจากกาย เพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กล้ำกลายมาถึงหัวใจตน
“ช่วย… ด้วย….” เขาหวีดเสียงร้องหวาดกลัวออกมา แต่ก็พลันเกิดเสียงระเบิดลั่นเมื่อปราณกระบี่ซัดผ่านลำคอ บั่นศรีษะเขาออก หยุดเสียงกรีดร้องนั้นโดยฉับพลัน
ซู่!
เลือดทวยเทพพุ่งกระฉูด ศีรษะที่ถูกบั่นกระเด็นขึ้นฟ้า ร่างไร้หัวร่วงลงกระแทกพื้น
ขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาถูกสังหารไปทั้งอย่างนั้น!
“บ้าเอ๊ย!”
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“นั่นมันวิชากระบี่อะไรกัน?”
คนอื่น ๆ ล้วนแสดงความหวาดกลัวและความโกรธเกรี้ยวออกมา ทั้งยังประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วนัก ทำให้ไม่มีใครเข้าไปช่วยชายชุดสีเงินได้ทันกาล
ฟึบ!
เมื่อสังหารชายชุดสีเงินได้แล้ว เฉินซีก็ไม่รั้งรอ ฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าใส่คนอื่น ๆ เช่นกัน
ตอนนี้อวี้เฉินตอนนี้ยังถูกกักอยู่ในตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ พยายามดิ้นให้หลุดเป็นอิสระอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นนอกจากเฉินซีจะต้องควบคุมตาข่ายครอบคลุมสวรรค์แล้ว ก็ยังต้องลงมือซัดท่าสังหารศัตรูไปพร้อมกันด้วย ซึ่งเป็นการกระทำที่กินพลังเป็นอย่างยิ่ง
หากรากฐานเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่ลึกล้ำและแข็งแกร่งกว่าคนอื่นแล้วล่ะก็ แค่พลังเจ็ดในสิบส่วนของเขาในตอนนี้ก็คงไม่สามารถทำได้แน่
ฟ่าว! ฟ่าว! ฟ่าว! ฟ่าว!
เฉินซีฉวยโอกาสนี้ซัดปราณกระบี่ออกมาอีกนับพันในชั่วพริบตา แต่ละเส้นปราณกระบี่นั้นดูแปลกตาทว่าโหดเหี้ยม มันปรากฏกายก่อนหายไปในพลัน พริบตานั้นก็ไม่มีใครหามันเจออีก
สะบั้นไร้ลักษณ์!
กระบวนท่ากระบี่ที่สามซึ่งเฉินซีเรียนรู้มาหลังจากขึ้นสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่!
ในการต่อสู้กับลุงเก้าในวันนั้น เฉินซีก็ใช้กระบวนท่านี้ทำลายการป้องกันของลุงเก้า บีบให้ลุงเก้าต้องสู้กับตนซึ่งหน้าจนต้องใช้แท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์
แต่ตอนนี้เพื่อสังหารศัตรูให้ได้อย่างรวดเร็ว เฉินซีจึงหยิบมันออกมาใช้ เสี่ยงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ซัดสะบั้นไร้ลักษณ์ออกมาคราวเดียวกว่าพันครั้ง
พริบตานั้นก็ได้ยินเสียงกระบี่โหยหวนพุ่งออกมาสะท้านฟ้าดิน มันทั้งแหลมคม กรีดแก้วหู และสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ แต่กลับไม่มีใครมองเห็นปราณกระบี่นี้เลย
สายตาอาจเห็นร่องรอยกระแสปราณกระบี่อยู่บ้าง แต่มันก็หายไปในพริบตา กระทั่งใช้พลังชีวิตยังไม่อาจสัมผัสถึง!
คล้ายกับเห็นภูตผี ดูแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง!
“บัดซบ! นี่มันวิชากระบี่อะไรกันแน่?!” คนผู้หนึ่งไม่อาจทนแรงกดดันได้ ร้องเสียงแหลมออกมา แต่หลังจากนั้นทั่วร่างก็ถูกปราณกระบี่แปดกระแสซัดเข้าจนเกิดเสียงดังลั่น ถูกเฉือนร่างแยกออกกว่าสิบส่วน ฝนโลหิตโปรยลงมาจากฟากฟ้า เป็นการตายที่น่าสยดสยองยิ่ง
“หนีเลย! เร็วเข้า!” พออวี้เฉินที่ติดอยู่ในตาข่ายครอบคลุมสวรรค์เห็นเข้า นางก็กัดฟันร้องเตือนเสียงเครียด
คนอื่น ๆ ได้ยินก็คล้ายตื่นจากฝัน ตั้งท่าจะหนีไปโดยทันที
แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เฉินซีโจมตีรวดเร็วนัก การตอบสนองของพวกเขายังช้าไป ผลลัพธ์จึงออกมาว่า….
กระแสปราณกระบี่จำนวนมากพลันปรากฏขึ้นในอากาศ ก่อนที่ปราณกระบี่เหล่านั้นจะซัดเข้ามา!
ฉัวะ!
หนึ่งในนั้นถูกบั่นเศียรสะบั้นวิญญาณ
ฉัวะ!
อีกคนถูกเชือดคอ สังหารในกระบวนท่าเดียว
ฉัวะ!
อีกคนถูกฟันขาดครึ่งที่เอว ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนอยู่นานก่อนจะสิ้นลมหายใจสุดท้าย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมเพรียงกัน เทวารู้แจ้งโลกาทั้งหลายถูกกระแสปราณกระบี่สังหารไปพร้อมกัน
ช่างเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่ดุดันและโหดเหี้ยมนัก… ไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องตะลึง
เพราะในพริบตาเดียว นอกจากอวี้เฉินแล้ว เทวารู้แจ้งโลกาคนอื่นก็ถูกสังหารสิ้น!
อ่านน้อยลง
……….