บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1545 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่
บทที่ 1545 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่
……….
บทที่ 1545 ก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่
“บัดซบ!” ลุงเก้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ยับยั้งลมปราณที่ปั่นป่วนจนทำให้กระอักเลือดออกมาคำโต
ปราณกระบี่นั่นน่ากลัวเกินไป และเกือบทำให้อวัยวะภายในบาดเจ็บ หากไม่ใช่เพราะการบ่มเพาะเหนือล้ำกว่าเฉินซี เพียงการโจมตีครั้งนี้ก็ทำให้เขาไม่อาจต้านทานได้
“การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ของเจ้าสารเลวจ้อยร่อยนี่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง และหากข้ายังไม่หยุดมัน วันนี้คงไม่สามารถจัดการกับมันได้จริง ๆ…” ดวงตาของลุงเก้าทอประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่จิตสังหารยังคงพลุ่งพล่านอยู่ในดวงตาคู่นั้น
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดกลับไม่สามารถทำร้ายเฉินซีได้ มิหนำซ้ำยังเกือบได้รับบาดเจ็บจากการซัดกลับด้วยปราณกระบี่นั้น สิ่งนี้ทำให้ตระหนักอย่างถ่องแท้ว่าสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเล็กน้อย
โครม!
ลุงเก้าไม่กล้าลังเลพลันเงื้อหอกทองสัมฤทธิ์ขึ้นแล้วตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด จากนั้นกวาดหอกออกไปพร้อมกับแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมท้องฟ้าซึ่งโจมตีอย่างดุเดือด
ชายชราไม่อาจนิ่งดูดายและปล่อยให้เฉินซีบรรลุขอบเขตได้สำเร็จ ซ้ำยังไม่อาจยอมรับความจริงที่เฉินซีรอดพ้นจากเงื้อมมือไปได้อย่างปลอดภัย!
…
กระบวนท่ากระบี่นี้ เผยให้เห็นความเป็นนิรันดร์ภายในสิ่งสามัญ เสียงฟ้าร้องในความเงียบงัน มันเหมือนกับคลื่นที่โหมกระหน่ำภายในมหาสมุทรสีคราม ซึ่งก่อให้เกิดพลังมากมายเกินคณานับ ข้าถือได้ว่ามันเป็นกระบวนท่ากระบี่ที่สองหลังจากข้าบรรลุเต๋าศักดิ์สิทธิ์… สงัดก่อนพายุโถม
เฉินซีดูเหมือนจะจมอยู่กับความคิด และจมกับการเปลี่ยนแปลงในเต๋าแห่งกระบี่ของตน
ด้วยกระบวนท่าแรก เขาได้ทำลาย ‘โลกแห่งเบญจธาตุ’ ที่ชายชราควบแน่น และมันเป็นกระบวนท่าที่มีอานุภาพร้ายแรงมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อมันว่า ทลายเบญจธาตุ
ด้วยกระบวนท่าที่สอง เขาได้สลายการโจมตีของชายชราและสวนโจมตีกลับไป มันเปี่ยมด้วยพลังที่น่าอัศจรรย์ ซ้ำยังกดดันที่สุด ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อมันว่า สงัดก่อนพายุโถม
กระบวนท่ากระบี่ทั้งสองนี้ มาจากเต๋าแห่งกระบี่อันลึกล้ำที่เขาเข้าใจและหลอมรวมมันเข้าด้วยกัน พวกมันเปี่ยมด้วยความล้ำลึกของเต๋าศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการหยั่งรู้รูปแบบหนึ่งซึ่งมุ่งสู่เส้นทางเต๋าแห่งกระบี่ มิหนำซ้ำมันยังท่วมท้นด้วยกลิ่นอายอันสูงและยิ่งใหญ่ของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่แล้ว!
มันยังไม่พอ เต๋าแห่งกระบี่ของข้ายังคงแข็งแกร่งได้มากกว่านี้… ในขณะนี้ ภายใต้แรงกดดันจากชายชรา เฉินซีได้คว้าโอกาสที่จะทะลวงผ่านการบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ได้อย่างถ่องแท้ และความเข้าใจมากมายก็ทะลักออกมาจากใจของเขา
ในขณะนี้ ดูเหมือนชายหนุ่มจะลืมไปอย่างสิ้นเชิงว่ามีคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามเยี่ยงลุงเก้า และจมอยู่ในโลกแห่งกระบี่ โดยที่ทำความเข้าใจต่อความลึกซึ้งต่าง ๆ ที่ได้รับอย่างไม่หยุดยั้ง
จักรพรรดิกระบี่!
จักรพรรดิแห่งกระบี่ผู้ซึ่งบัญชาเหล่าทวยเทพ มันคือจักรพรรดิแห่งเซียนกระบี่ และมันควบคุมเต๋าแห่งกระบี่ที่มีอยู่มากมายในจักรวาล!
ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในตัวตนที่ขอบเขตเทวาก็ตามแต่ มีเพียงเทพกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่สามารถบรรลุการบ่มเพาะเช่นนี้ได้ ซึ่งอาจถือว่าหายากเฉกเช่นขนวิหคอมตะและเขากิเลน
สิ่งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่ามันยากลำบากเพียงใดที่จะบรรลุขอบเขตในเต๋าแห่งกระบี่
ตัวอย่างเช่น เฉินซีก็ยังคงติดอยู่ที่ขอบเขตเซียนกระบี่ขั้นสมบูรณ์มาเป็นเวลานาน และยังไม่ก้าวหน้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หากไม่ใช่เพราะเขาได้รับแผนภาพของกระบี่เปื้อนเลือดโดยบังเอิญจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก และได้รับร่องรอยของปัจจัยสำคัญในการพัฒนาต่อไป ก็ไม่มีทางที่เขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้
นี่คือพลังแห่งวาสนา!
สำหรับตัวตนที่ขอบเขตเทวา ระยะเวลาที่บ่มเพาะไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินผู้เยี่ยมยุทธ์อีกต่อไป และมันขึ้นอยู่ศักยภาพของผู้เยี่ยมยุทธ์ ความสามารถในการเข้าใจ ร่างกาย และวาสนาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเส้นทางบ่มเพาะของผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มุ่งหน้าสู่เต๋า
บางทีแม้จะสามารถใช้พลังจากภายนอกเพื่อเปลี่ยนพรสวรรค์ตามธรรมชาติ ร่างกาย และความสามารถในการเข้าใจของตนได้ แต่วาสนาก็เป็นพลังที่มีโอกาสได้รับจากโชคเท่านั้น
โดยเฉพาะตัวตนที่ขอบเขตเทวา บางครั้งแม้แต่โชคลาภเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเหมือนผีเสื้อที่กระพือปีก ซึ่งอาจก่อให้เกิดพายุที่พัดผ่านบริเวณโดยรอบ!
แน่นอน หากใครปรารถนาที่จะได้รับโชคลาภ ก่อนอื่นต้องเผชิญมัน และอย่างที่สองต้องมีความสามารถในการคว้ามันไว้
เช่นเดียวกับการต่อสู้ในขณะนี้ เฉินซีมีวาสนาอย่างแผนภาพของกระบี่เปื้อนเลือด แต่ถ้าต้องการบรรลุสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ เขาก็จะต้องคว้ามันไว้เช่นกัน
ดังนั้นเฉินซีจึงทำเช่นนี้ โดยใช้ชายชราเป็นดั่งหินลับมีด และตั้งใจที่จะใช้แรงกดดันอันหนักอึ้งที่อีกฝ่ายมอบให้เพื่อทะลวงขอบเขตในรวดเดียว!
…
ครืน!
แม้ดูเหมือนใช้เวลานานในการอธิบาย แต่เพียงชั่วพริบตา ลุงเก้าก็โจมตีอย่างดุเดือดอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าหอกทองสัมฤทธิ์ในมือเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดา แม้ว่ามันจะไม่ใช่สมบัติวิญญาณธรรมชาติ แต่อานุภาพของมันก็ทรงพลังและดุร้ายถึงขีดสุด
มิหนำซ้ำ มันยังเปี่ยมด้วยกลิ่นอายที่ทระนงตัวและไร้ความปรานี ทั้งยังท่วมท้นไปด้วยพลังสูงสุดที่ดูเหมือนพลังของเทพอสูรบรรพกาล
หากมันอยู่ภายในสามภพ เพียงการโจมตีครั้งนี้อาจทำลายเมืองไปนับไม่ถ้วน และทำให้เกิดภัยพิบัติที่ไม่อาจหยุดยั้งได้!
เฉินซีพลิกแขนขวาโดยสัญชาตญาณ จากนั้นกระบี่สีดำสนิทและไร้ความแวววาวก็ส่งเสียงคำรามอย่างชัดเจน ก่อนที่มันจะกวาดออกไปในทันที
ฟิ่ว!
ปราณกระบี่ทะลุผ่านผืนฟ้าและโชติช่วงอย่างยิ่ง ทว่าหลังจากนั้น มันก็หายวับไปในทันที ราวกับมันได้หายจากไปโลก
อืม? ดวงตาของลุงเก้าหดตัวอย่างกะทันหัน นั่นอะไร?
ในขณะนี้ ชายชราไม่สามารถจับร่องรอยของปราณกระบี่นั้นได้จริง ๆ และมันก็ถึงขนาดที่ไม่สามารถจับกลิ่นอายของมันได้ด้วยซ้ำ! ราวกับว่ามันได้หายไปจริง ๆ
หรือเจ้าเด็กนี้กำลังขู่ให้กลัว?
ฟ่อ!
เสียงแผ่วเบาราวกับเสียงลมดังขึ้น แต่เมื่อมันเข้าหูของลุงเก้า มันกลับเหมือนเสียงฟ้าร้อง ทำให้เส้นผมตั้งชัน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตรายอย่างยิ่งจู่โจมเข้ามา
โดยไม่ลังเลใด ๆ ลุงเก้าแผดคำรามในทันใด แล้วจึงใช้ปีกวิญญาณสวรรค์เพื่อเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติไปทางด้านข้างด้วยความเร็วเต็มพิกัด
โครม!
ในขณะที่ชายชราเคลื่อนไหว ปราณกระบี่ก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ข้างหลัง และมันเฉี่ยวผ่านไหล่ไปอย่างแรง ทำให้เลือดสาดกระเซ็นไปในอากาศ ปรากฏเป็นแผลที่ลึกถึงกระดูก
หากเมื่อครู่หลบการโจมตีนี้ไม่ทัน มันคงแทงทะลุลำคอเขาไปแล้ว!
“ข้าบาดเจ็บ!? นี่ข้าบาดเจ็บจากฝีมือของเจ้าเด็กขอบขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาจริง ๆ เหรอ?” ลุงเก้าไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิด ทั้งรู้สึกโกรธแค้นในใจ แต่ก็มิวายรู้สึกถึงความตื่นตระหนักอย่างที่อธิบายไม่ได้
นี่คือเต๋าแห่งกระบี่ประเภทใด? ไยมันลึกลับขนาดนี้?
ในฐานะมือเกาทัณฑ์ระดับปรมาจารย์ อาจกล่าวว่าเขาได้บรรลุความสมบูรณ์ในศาสตร์การลอบสังหารและการจู่โจมอย่างไม่คาดฝัน แต่ถึงกระนั้น ชายชราก็อดไม่ได้ที่รู้สึกถึงความหวาดกลัว เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่โผล่ออกมาจากอากาศอย่างไร้ที่มา
กระบวนท่ากระบี่ครั้งนี้ไร้ร่องรอยและไร้เสียงโดยสิ้นเชิง ทั้งยังลี้ลับเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันสามารถหลุดรอดจากประสาทสัมผัสจนสามารถโจมตีได้อย่างไม่คาดฝัน ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่น่าสะพรึงกลัว!
โครม!
ในขณะนั้นเอง กลิ่นอายที่น่าเกรงขามก็กวาดออกมาจากเฉินซีที่ยืนอยู่ในระยะไกล ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะกลายเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิงในพริบตา
ปราณกระบี่ที่ลุกโชนได้หมุนวนไปทั่วร่าง ทำให้ชายหนุ่มดูเหมือนจักรพรรดิแห่งกระบี่ที่บงการเต๋าแห่งกระบี่ทั้งหมดในโลก!
กลิ่นอายดังกล่าวได้พัดพาไปทุกทิศทุกทางจนตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ในขณะนี้มันทำให้ทุกสิ่งในโลกกลายเป็นปราณกระบี่ที่สะท้อนกับพลังชีวิตจากระยะไกล
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเมฆ หมอก หิน พื้นดิน อวกาศ และแม้แต่แสงในฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้ ทั้งหมดดูเหมือนจะแฝงด้วยเจตจำนงกระบี่ที่พลุ่งพล่าน
เสมือนได้กลายเป็นโลกแห่งกระบี่
แม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่กระบี่จริง แต่ก็เปี่ยมด้วยเจตจำนงกระบี่
ทั้งหมดนี้ถูกสร้างโดยพลังชีวิตที่แผ่ออกมาจากร่างของเฉินซี!
ทุกสรรพสิ่งล้วนกลายเป็นกระบี่ สอดประสานกับโลกทั้งใบ และสามารถบงการได้ตามดั่งใจนึก นี่คือขอบเขตจักรพรรดิกระบี่!
ที่มันน่าเกรงขาม เพราะมันสามารถ ‘ควบคุม’!
มันควบคุมทุกสิ่งในโลก ควบคุมเต๋าแห่งกระบี่ที่มีมากมายมหาศาล และมันถูกควบคุมโดยดวงจิตแห่งเต๋าของตนเอง!
กระบวนท่ากระบี่นี้ลึกลับ แปรผัน และเคลื่อนไหวอย่างไม่คาดคิด ถือได้ว่าเป็นกระบวนท่าที่สาม หลังจากที่ข้าบรรลุขอบเขตเทวา สะบั้นไร้ลักษณ์!
ฉินซีพึมพำอยู่ในใจ ดวงตาที่เปล่งประกายเริ่มกลับมาสงบ ลุ่มลึก และกว้างใหญ่ราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ขอบเขต
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกสรรพสิ่งได้กลายเป็นเต๋าแห่งกระบี่ที่สามารถควบคุมได้ดั่งใจนึก
ในที่สุด เขาก็ทะลวงผ่านขอบเขตเซียนกระบี่ และก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่!
…
ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่? นี่ข้ากลายเป็นขั้นบันไดเพื่อให้ไอ้สารเลวจ้อยร่อยนี่ได้ก้าวไปข้างหน้าจริง ๆ เหรอ…
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในพลังชีวิตของเฉินซี ใบหน้าที่ดุร้ายของลุงเก้าก็ไม่น่าดูอย่างยิ่ง และยังหมองคล้ำอย่างถึงที่สุด
“ไอ้หนู วันนี้เจ้าต้องตาย!!” เสียงที่กล่าวออกมาดูเหมือนถูกบีบลอดจากการกัดฟัน มันเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชังอันไร้ขอบเขต ลุงเก้าถือหอกทองสัมฤทธิ์ไว้ในมือพลางสืบเท้าไปข้างหน้า และทะยานผ่านชั้นอวกาศชั้นแล้วชั้นเล่าเพื่อโจมตีใส่เฉินซีอย่างดุเดือด
ก่อนหน้านี้เขาถือเฉินซีเป็นมดที่เหยียบย่ำได้ตามใจชอบ บัดนี้เฉินซีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและบรรลุขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ ก็กลับกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่!
“ฆ่า!” ลุงเก้าคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ร่างสูงใหญ่ราวกับหินผาพุ่งทะลุอวกาศ วงแหวนแห่งความศักดิ์สิทธิ์เปล่งประกายจากรอยสัก ‘ศรเทวะ’ บนใบหน้า ทำให้กลิ่นอายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทันใด!
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ไอ้เฒ่า! เจ้าสูญเสียโอกาสไปแล้ว!” เฉินซีกล่าวอย่างไม่แยแส ร่างสูงใหญ่เปล่งประกายขณะพุ่งตัวออกไป และปะทะกับชายชราอีกครั้ง ชายหนุ่มเหวี่ยงกระบี่ในมืออย่างไร้กังวล พลันใช้กระบวนท่าทลายเบญจธาตุเพื่อทำลายการโจมตีของชายชราได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น จู่ ๆ ทั้งร่างก็เปล่งประกายราวกับจักรพรรดิที่ก้าวย่างไปในจักรวาล และมีกระบี่นับหมื่นนับพันพุ่งออกมาจากร่างกาย แล้วพุ่งเข้าใส่ชายชราพร้อมกัน
สีหน้าของลุงเก้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และตระหนักดีว่าการโจมตีครั้งนี้น่ากลัวเพียงใด ดังนั้นจึงใช้ปีกวิญญาณสวรรค์เพื่อหลบหลีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันโดยตรง
แต่กลับต้องพบด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาเป็นเหมือนเรือลำเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ใน ‘โลกแห่งกระบี่’ ที่บ้าคลั่ง และล่องลอยอย่างไม่มีจุดหมาย หนำซ้ำยังไม่สามารถหลุดพ้นจากมันได้ ถึงขั้นที่อาจจะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? หรือนี่คือพลังของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่?” คลื่นอันปั่นป่วนถาโถมในหัวใจของลุงเก้า เส้นเลือดบนหน้าผากปูดนูน แสงศักดิ์สิทธิ์รอบกายพลันพลุ่งพล่าน พลางเหวี่ยงหอกทองสัมฤทธิ์ด้วยความตั้งใจที่จะทะลวงพันธนาการ และหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้
ชายหนุ่มที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา มดตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งบรรลุขอบเขตเทวา แต่กลับก้าวเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ในระหว่างการต่อสู้ และใช้กระบวนท่าที่ทรงพลานุภาพจนสามารถพลิกสถานการณ์ มิหนำซ้ำยังกดดันตนซึ่งเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณจนรู้สึกตึงเครียดอย่างมาก ถ้าข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไป จะมีใครกล้าเชื่อ?
หากเป็นในอดีต แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่กล้าเชื่อเรื่องเช่นนี้
แต่เมื่อได้ต่อสู้กับเฉินซี ในที่สุดชายชราก็ตระหนักว่าชายหนุ่มที่แปลกประหลาดผู้นี้กลับไม่สามารถตัดสินด้วยสามัญสำนึก นั่นช่างแปลกประหลาดอย่างยิ่ง!
ครืน!
การต่อสู้ปะทุขึ้น และรุนแรงถึงขีดสุด มันทำให้ทุกสิ่งภายในระยะสองแสนห้าหมื่นลี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ในขณะที่ทั้งสองคนต่อสู้จนสะท้านฟ้าดิน มันทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดดับลง ในขณะที่ทุกสิ่งสั่นสะเทือน คล้ายวันโลกาวินาศมาถึงอย่างแท้จริง
ฟิ่ว!
หลังจากนั้นไม่นาน สะบั้นไร้ลักษณ์ก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง มันคว้าช่องว่างชั่วขณะฟันเข้าที่หน้าอกของลุงเก้าในทันที ทำให้เลือดสาดกระเซ็น จนมองเห็นกระดูกได้ราง ๆ
“เป็นไปไม่ได้!!” เสียงคำรามของลุงเก้าสั่นสะเทือนฟ้าดิน ซึ่งเผยให้เห็นความตกใจ ความโกรธ แม้กระทั่งความสับสนเสี้ยวเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถปกปิดได้ ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่จะน่าสะพรึงปานนี้ได้อย่างไร?
เขาไม่อยากเชื่อ!
ยิ่งกว่านั้น เขาไม่อาจยอมรับมันได้!
ทั้งหมดนี้ เกินกว่าการรับรู้ในอดีตอย่างแท้จริง หลังจากใช้ชีวิตมานานนับไม่ถ้วน มันเป็นครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและเหลือเชื่อเช่นนี้
ครืน!
ก่อนที่ชายชราจะฟื้นจากอาการตกใจ ร่างสูงใหญ่ของเฉินซีที่เหมือนกับร่างของจักรพรรดิ ได้นำพาเจตจำนงกระบี่อันกว้างใหญ่ถล่มลงไป
ครานี้ เฉินซีตั้งใจที่จะจับชายชราคนนี้ แล้วบังคับให้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับแดนโลกาวินาศและแดนเทพโบราณเพื่อความสะดวกในแผนการในอนาคต!
……….