บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1544 ระดับขั้นของเต๋าศักดิ์สิทธิ์
บทที่ 1544 ระดับขั้นของเต๋าศักดิ์สิทธิ์
……….
บทที่ 1544 ระดับขั้นของเต๋าศักดิ์สิทธิ์
ครืน!
การต่อสู้ปะทุขึ้น เฉินซีกำยันต์ศัสตราแนบแน่น ในขณะที่ต่อสู้กับชายชรา
ทันใดนั้น ฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้ พลันเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว ทำให้ทุกสิ่งสูญสิ้นไปพร้อม ๆ กับกระแสพลังงานอันวุ่นวายที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งโหมกระหน่ำราวกับพายุที่พัดพาไปยังทุกทิศทาง
ฆ่า!
ผมของเฉินปลิวไสว ในขณะที่ย่างกรายผ่านอากาศราวกับเซียนกระบี่ โดยรีดพลังของยันต์ศัสตราอย่างเต็มพิกัด ทำให้เกิดแสงเรืองรองเปล่งออกมาอย่างมหาศาล ในขณะที่ผังยันต์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนได้แผดเสียงคำรามลั่นฟ้า และฟาดลงไปที่ชายชราอย่างดุเดือด
กล่าวตามตรง นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของเฉินซี นับตั้งแต่บรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา ยิ่งไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ยังเป็นผู้บรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ ซึ่งมีการบ่มเพาะที่เหนือกว่า!
ถ้าหากเป็นคนอื่น ๆ เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ คนผู้นั้นก็คงจะหนีไปนานแล้ว เพราะเราจะต่อสู้ได้อย่างไรเมื่อการบ่มเพาะต่างขั้นกันถึงเพียงนี้?
แต่เฉินซีกลับไม่หนี
ประการแรก เฉินซีมั่นใจต่อพลังฝีมือของตนเองอย่างมาก และประการที่สอง เป็นเพราะชายชราเลิกใช้เต๋าแห่งคันศรที่เชี่ยวชาญที่สุด และเลือกต่อสู้ระยะประชิดแทน มันจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นการเอาจุดอ่อนไปปะทะกับจุดแข็งของคู่ต่อสู้ และมันทำให้พลังยับยั้งที่มีต่อเฉินซีลดลงไปมาก
แม้ว่าแรงกดดันที่มีต่อเฉินซียังคงรุนแรงอยู่ แต่มันก็กระตุ้นจิตวิญญาณต่อสู้ภายในใจอย่างมหาศาล ซึ่งเขาก็ตั้งใจที่จะขัดเกลาผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ เพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ในคราวเดียว!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเริ่มการต่อสู้กับชายชราอย่างแท้จริง ในที่สุดเฉินซีก็ตระหนักว่าพลังของขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณนั่นน่ากลัวเพียงใด
…
โครม
อวกาศแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในเวลาเดียวกันก็มีหอกทองสัมฤทธิ์ที่ฉายแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าใส่ มันทั้งคมอย่างไม่มีใครเทียบได้ และดูเหมือนตั้งใจจะทำลายล้างทุกสิ่ง
เฉินซีหลบหลีกด้วยพลังเต็มพิกัด แต่เส้นผมยังถูกเฉือนด้วยรัศมีอันแหลมคมของหอก และมันห่างจากศีรษะของเขาเพียงไม่กี่ชุ่น!
สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มหรี่ตาลง และไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
ปราณกระบี่หลายสายฉีกผ่านท้องฟ้า และปราณกระบี่เหล่านั้นทั้งหมดมาจากแผนผังอันล้ำลึกของกระบี่เปื้อนเลือดที่เสียหาย มันลึกลับ ไม่อาจหยั่งถึง ทั้งยังเปี่ยมด้วยจิตสังหารของเต๋าแห่งกระบี่ที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง และมันเกินขีดจำกัดที่ขอบเขตเซียนกระบี่ใกล้จะบรรลุแล้ว!
“หืม?” แสงศักดิ์สิทธิ์แวบขึ้นมาในดวงตาของลุงเก้า ขณะที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางสิ่ง ชายชราจึงเหวี่ยงหอกทองสัมฤทธิ์วูบหนึ่ง ทำให้เกิดเงาหอกมากมายทิ่มแทงออกไปอย่างรุนแรง และพวกมันก็ระเบิดเสียงที่ดังจนแทบหูหนวก ขณะสกัดกั้นปราณกระบี่ทั้งหมดที่ปกคลุมท้องฟ้า
แต่ว่าร่างกายของเขากลับสั่นสะเทือนจากการโจมตีครั้งนี้จนลมปราณปั่นป่วน ร่างที่สูงเก้าจั้งสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนถึงสองสามครั้ง
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
นี่มันเคล็ดวิชากระบี่เช่นใดกัน?
แม้ว่าการฝึกฝนของเด็กคนนี้จะต่ำ แต่ความเข้าใจในเต๋าแห่งกระบี่กลับไปถึงขอบเขตเซียนกระบี่ขั้นสมบูรณ์แล้ว และถึงขนาดที่ยังมีร่องรอยที่แข็งแกร่งกว่านั้นด้วยซ้ำ…
เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ เจ้าตัวประหลาดน้อยนี้ปรากฏตัวในภพเบื้องล่างตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ทันใดนั้น ความคิดมากมายก็วูบวาบอยู่ในใจของลุงเก้า และตระหนักว่าเฉินซีเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเพียงใด
ในขณะเดียวกัน เฉินซีก็โจมตีอีกครั้ง ทุกรูขุมขนบนร่างกายของเขาดูเหมือนจะเปี่ยมด้วยปราณกระบี่ที่คมกริบ พวกมันเปล่งเสียงหวีดหวิวและเดือดพล่าน ขณะที่กวาดไปทั่วปฐพีด้วยพลังที่ทวีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
“ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่มีประโยชน์กับนายน้อย มันก็ต้องถูกฆ่า มิฉะนั้นมันอาจกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ในอนาคต…” ลุงเก้าไม่กล้าปล่อยให้ความคิดเตลิด และจิตสังหารพุ่งออกมาจากหัวใจของเขา พลันตะโกนดังลั่น พร้อมกับแทงหอกทองสัมฤทธิ์ฉีกกระชากผ่านท้องฟ้าสกัดกั้นการโจมตีของเฉินซี
“เจ้าหนุ่ม ขอบเขตการบ่มเพาะของเจ้าต่ำเกินไป แม้ว่าเต๋าแห่งกระบี่จะน่าเกรงขาม แต่ความเข้าใจในเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าก็เพียงผิวเผินเท่านั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีทางที่เจ้าจะเทียบข้าได้!”
ในระหว่างการต่อสู้ ลุงเก้าพลันกล่าวว่า “ตราบใดที่เจ้ายอมจำนนแต่โดยดี เงื่อนไขที่ข้าให้คำสัญญาก็ยังคงอยู่ ข้าไม่เพียงจะนำเจ้าไปยังแดนเทพโบราณเท่านั้น หากเจ้าทำผลงานได้ดี ข้าจะมอบตำราที่เกี่ยวข้องเต๋าศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เจ้า และมันเพียงพอที่จะช่วยให้เติบโตอย่างรวดเร็ว”
“ไอ้เฒ่าตัวเหม็น อย่าได้เสียเวลาพล่ามวาจา ข้าตระหนักดีว่าควรเดินบนเส้นทางไปสู่เต๋าของตัวเองอย่างไร และข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาบอกว่าต้องทำอะไร” การโจมตีของเฉินซีเร็วขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจที่จะต่อสู้กับชายชราจนถึงที่สุด
“ช่างเป็นเด็กที่หัวทึบอะไรอย่างนี้ เจ้ามันโง่เขลาบัดซบ!” ลุงเก้าเริ่มหัวเราะด้วยความโกรธจัด และทิ้งความตั้งใจที่จะดึงเฉินซีให้มาเป็นพวก ชายชราหยุดอดกลั้นและโจมตีด้วยพลังเต็มพิกัด โดยตั้งใจที่จะทำลายล้างเฉินซีเพื่อขจัดปัญหาในอนาคตทั้งหมด
โครม
หอกทองสัมฤทธิ์ฉีกทะลุผืนฟ้า ในทันใดนั้น มันเปล่งแสงอันศักดิ์สิทธิ์ของเบญจธาตุออกมา และพลังงานที่แตกต่างกันทั้งห้าของกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็ก่อตัวขึ้น ซึ่งควบแน่นกลายเป็น ‘โลก’ ที่ตั้งใจจะยับยั้งและบดขยี้เฉินซี
นี่คือพลังของกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์!
หากอยู่ในมือของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ เพียงแค่คิดก็สามารถสร้างโลกขึ้นได้ หรือทำลายล้างโลกได้เช่นกัน ดังนั้นขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณจึงอาจกล่าวว่าสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
กฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์คือความลึกล้ำของมหาเต๋าที่เทพครอบครอง
มันถูกเรียกว่าเต๋าแห่งเทพ ซึ่งเป็นพลังที่สูงกว่าเจตจำนงเต๋า
พลังดังกล่าวแบ่งออกเป็นห้าขั้น ได้แก่ ขั้นพื้นฐาน ขั้นเริ่มต้น ขั้นก้าวหน้า ขั้นสูงสุด และขั้นสมบูรณ์
ทุกขั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแตกต่างกันราวฟ้าดิน!
สำหรับเทพธรรมดา ๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบ่มเพาะทั้งห้าขั้นนี้จนบรรลุเต๋าศักดิ์สิทธิ์อย่างถ่องแท้
เพราะทุกขั้นนั้นยากที่จะบรรลุ แม้ว่าจะใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจมัน แต่ถ้าใครไร้พรสวรรค์และความสามารถในการเข้าใจที่จำเป็น ก็ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เนื่องจากอายุขัยของเทพดูเหมือนจะเป็นนิรันดร์ เวลาจึงกลายเป็นสิ่งเล็กน้อยบนเส้นทางสู่การแสวงหาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ แต่หากใครต้องการก้าวหน้าบนเส้นทางสู่เต๋า ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าใจ พรสวรรค์ โชค ความตั้งใจ และปัจจัย ๆ อื่นอีกมากมาย
ตัวอย่างเช่น เต๋าศักดิ์สิทธิ์ยันต์อักขระที่เฉินซีครอบครอง สามารถถือว่าอยู่ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น
ในทางกลับกัน ‘ลุงเก้า’ ได้บรรลุเต๋าศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุขั้นเริ่มต้นเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงมีผลปราบปรามอย่างไม่สั่นคลอนต่อเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเฉินซี
แม้จะละทิ้งเต๋าแห่งคันศรที่เชี่ยวชาญที่สุด แต่ด้วยการบ่มเพาะที่เหนือกว่าและเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่บรรลุขั้นเริ่มต้น ชายชรายังคงมั่นใจที่จะทำลายล้างเฉินซีได้
สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง หากต้องการพิจารณาว่าเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของใครแข็งแกร่งกว่ากัน นอกจากความแตกต่างในระดับขั้นของเต๋าศักดิ์สิทธิ์แล้ว มันขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่มีอยู่ในเต๋าศักดิ์สิทธิ์แต่ละชนิดด้วย
เช่นเดียวกับมหาเต๋าทั่วไป อาทิ เบญจธาตุ หยินหยาง และพายุ แต่ละชนิดก็มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน แต่พวกมันเป็นเพียงกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาเท่านั้น
ในทางกลับกัน แสงสว่าง ความมืด นิรันดร์ รังสรรค์ การกลืนกิน… สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นล้วนเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่หายากและเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งพวกมันก็สยบเต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปโดยธรรมชาติ
สำหรับสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในหมู่พวกมัน ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของผู้ที่ครอบของเช่นกัน
…
ครืน!
ทันทีที่ลุงเก้าโจมตี ชายชราก็ใช้เต๋าศักดิ์สิทธิ์เพื่อควบแน่น ‘โลกแห่งเบญจธาตุ’ โดยตั้งใจที่จะยับยั้งและบดขยี้เฉินซี ยิ่งกว่านั้น พลังอันเจิดจ้าของมันยังทำให้ฟ้าดินมืดลง
ทันใดนั้น เฉินซีรู้สึกว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ได้อย่างเต็มที่ และทำได้แค่เผชิญหน้ากับมันโดยตรงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาล้มเหลว ก็จะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกสยบอย่างสมบูรณ์!
สถานการณ์เช่นนั้นอันตรายอย่างยิ่ง!
แต่ภายใต้การกระตุ้นของอันตรายดังกล่าว ดวงตาสีดำหมึกของเฉินซีก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ ผิวหนังทุกอณูก็ดูเหมือนจะลุกโชนและเปล่งประกาย ราวกับอสูรร้ายกระหายการต่อสู้
ยิ่งไปกว่านั้น ความเข้าใจนับไม่ถ้วนในเต๋าแห่งกระบี่ได้พุ่งออกมาจากภายในหัวใจ
มันคือความเข้าใจที่ได้รับมาตลอดเส้นทางการฝึกฝน
มีทักษะหรือเคล็ดวิชากระบี่มากมายที่เขาเข้าใจจากตำรา
มีประสบการณ์ในเต๋าแห่งกระบี่ที่เขาได้รับจากการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน
ในท้ายที่สุด ความเข้าใจ ทักษะ และประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ได้สะท้อนให้เห็นอยู่ภายในแผนภาพของกระบี่เปื้อนเลือด จากนั้นมันก็ขยายและก่อตัวขึ้นภายในหัวใจอย่างไม่หยุดยั้ง
ฟิ่ว!
ภายใต้ผลลัพธ์ของความเข้าใจที่ไม่อาจอธิบายได้และน่าอัศจรรย์เช่นนี้ เฉินซีจึงฟันกระบี่ออกไปตามสัญชาตญาณ
ครืน!
ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ในขณะที่เมฆและลมพัดโหมกระหน่ำ แม้แต่อวกาศก็ถูกแยกออกจากกันอย่างเงียบ ๆ ปราณกระบี่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายคลุมเครือและมีอานุภาพอันทรงพลังได้พุ่งออกไปอย่างเต็มพิกัด
“บัดซบ! เต๋าแห่งกระบี่ของเจ้าเด็กนี้จะแข็งแกร่งมากขึ้นในทันทีได้อย่างไร!?” ลุงเก้าผงะอย่างรุนแรง ทำให้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้จบ และทันใดนั้น ชายชราก็ใช้ปีกวิญญาณสวรรค์เพื่อหลบเลี่ยงไปยังระยะไกล
โครม!
ในเวลาเดียวกัน ปราณกระบี่ฟัน ‘โลกแห่งเบญจธาตุ’ ออกเป็นสองส่วนในทันที มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และสลายหายไปในพริบตา!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าของลุงเก้าก็ประหลาดใจและสับสน “หรือว่าจะเป็นขอบเขตจักรพรรดิกระบี่?”
เมื่อคิดถึงชื่อนี้ หัวใจของชายชราก็สั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้
ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่! การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ที่อาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครเทียบเคียงได้ในโลกและภายในดาราจักรทั้งสามพันแห่งของเอกภพมสิหิม ซึ่งจักรพรรดิกระบี่จะถือกำเนิดท่ามกลางผู้ยิ่งใหญ่ที่บรรลุขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเมื่อนานมาแล้วเท่านั้น มิหนำซ้ำจำนวนของพวกเขายังมีน้อยอย่างน่าเสียดาย
แต่… การฝึกฝนในเต๋าแห่งกระบี่ดังกล่าว ไยเด็กน้อยที่ขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาถึงสำแดงพลังเช่นนั้นได้?
…
ทำลายโลกแห่งเบญจธาตุด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว กระบวนท่านี้เรียกว่า ทลายเบญจธาตุ… ในขณะที่สัมผัสถึงอานุภาพของการโจมตีนี้ เฉินซีก็พึมพำอยู่ในใจ
แต่หลังจากนั้น เขาก็ไม่ครุ่นคิดต่อไปอีก เพราะความเข้าใจต่อเต๋าแห่งกระบี่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด ซ้ำยังถูกอนุมานและเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง!
“บัดซบ! กลิ่นอายของเจ้าเด็กนี้เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ดูเหมือนมันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่…” เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในกลิ่นอายของเฉินซี สีหน้าของลุงเก้าก็มืดมนอย่างมากในทันที และโมโหสุดขีด
ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าตนได้กลายเป็นหินลับมีดให้กับเต๋าแห่งกระบี่ของเฉินซีโดยไม่รู้ตัว!
“ไอ้สารเลว ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำสำเร็จ!” ลุงเก้าคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ร่างของเขาราวกับเทพอสูรโบราณที่ทะยานขึ้นฟ้า กล้ามเนื้อทั่วร่างกายก็พลุ่งพล่านด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับโจมตีด้วยหอกทองสัมฤทธิ์ในมืออย่างดุเดือดอีกครั้ง
ครืน!
หอกฉีกผ่านท้องฟ้าอาบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์มากมายจากธาตุทั้งห้า และมันทำให้เงาภาพของทวยเทพโผล่ออกมาอย่างมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเสียงของเหล่าเทพที่ดังตามหลังการโจมตีครั้งนี้ อานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวของมันอาจเรียกได้ว่าไร้ขอบเขต!
ภายใต้อานุภาพของการโจมตีนี้ ผมยาวหนาทึบของเฉินซีปลิวไสว และทำให้ผิวหนังทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บ คล้ายถูกหนามแหลมจำนวนมากมายทะลวงทิ่มแทงเข้าไปในร่าง
แต่นี่เกิดจากกลิ่นอายของการโจมตีนี้เท่านั้น!
เห็นได้ชัดว่าลุงเก้าใช้พลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งนี้ และมันเป็นการโจมตีที่น่าหวาดหวั่นซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธแค้น!
แต่ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ สีหน้าของเฉินซียังคงนิ่งสงบอย่างน่าประหลาด มีเพียงดวงตาสีดำคู่หนึ่งที่ดูเหมือนเหวสองแห่งเท่านั้นที่ยังคงเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันเหมือนกับมีดวงอาทิตย์ที่แผดเผาคู่หนึ่งกำลังลุกไหม้อยู่ในตัวพวกมัน
ฟิ่ว!
ชายหนุ่มโจมตีด้วยกระบี่อีกครั้ง มันทั้งธรรมดาและเรียบง่ายมาก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสรรพสิ่งทุกสิ่งภายในฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้จะตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกสิ่งในโลกหวาดกลัว มีเพียงเสียงคำรามของกระบี่ที่ดังก้องเสมือนเสียงมังกรคำราม และยิ่งกว่านั้น มันเหมือนท่วงทำนองของเต๋าศักดิ์สิทธิ์อันสูงสุด
โครม!
เสียงการปะทะที่สั่นสะเทือนฟ้าดินดังก้อง ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่นี้ถูกระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน และตกลงสู่พื้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ภูมิประเทศพังทลายลงอย่างสมบูรณ์และแผ่กระจายไปทุกทิศทุกทาง
ในทางกลับกัน ภายใต้อานุภาพการโจมตีครั้งนี้ ร่างของลุงเก้าที่แข็งแกร่งดุจภูเขาก็เซกลับไปอย่างควบคุมไม่ได้ และถูกโจมตีจนแขนชาไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น หอกทองสัมฤทธิ์ในมือสั่นอย่างรุนแรง จนเกือบหลุดจากมือ!
……….