บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1487 พลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต
บทที่ 1487 พลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต
……………………………………………………………………..
บทที่ 1487 พลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต
โครม!
หลังจากตัดสินใจแล้ว เจี้ยงทิงฟางก็เป็นคนแรกที่โจมตี เขาสะบัดแขนเสื้อ ปราณเซียนคำรามดังก้อง ก่อนที่กองทัพเซียนสามพันคนจะพุ่งออกมา!
กองกำลังเซียนเหล่านี้ แต่ละคนก็มีรัศมีที่น่าประทับใจและดูราวกับเป็นของจริง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทุกคนล้วนอยู่ระดับขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น แต่ละคนถือสมบัติอมตะไว้ในมือขณะตะโกนและพุ่งเข้าหาเฉินซี
สิ่งนี้คล้ายกับวิธีการ ‘โยนถั่วที่กลายร่างเป็นทหารได้’ ออกมา แต่นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่านั้นอีก มันเป็นทักษะขั้นสูงสุดของตระกูลเจี้ยงโบราณ ที่เรียกว่า อัญเชิญทาสวิญญาณ
เมื่อใช้ทักษะนี้ ยิ่งผู้ใช้ขัดเกลาวิญญาณมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะสามารถสร้างพวกมันให้เป็นกองทหารรับใช้ได้ตามจำนวนมากเท่านั้น และยิ่งความแข็งแกร่งของวิญญาณที่ได้รับการขัดเกลาสูงมากเท่าใด ความแข็งแกร่งของกองทหารรับใช้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!
ฆ่า!
ดั่งเสียงตะโกนของเทพอสูร กองทหารคนรับใช้สามพันคนระดับขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นคำรามอย่างเกรี้ยวกราด และวิ่งไปโจมตีเฉินซีราวกับกระแสน้ำ จำนวนพวกมันมหาศาลมากจนดูเหมือนเมฆดำอัดแน่นที่เคลื่อนตัวลงมาทางเฉินซี กลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
การแสดงออกของเฉินซียังคงนิ่งเฉย เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วผลักมันไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ปราณเซียนจำนวนมากระเบิดออก ทำให้สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน ในขณะที่ฝ่ามือนั้นขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมโซ่ยันต์จำนวนมากที่พัวพันอยู่รอบ ๆ ราวกับเมฆที่ห้อยลงมาจากท้องฟ้า ห่อหุ้มกองทหารไว้
โครม! โครม! โครม!
ก่อนที่กองทหารสามพันคนจะเข้าใกล้เฉินซี พวกมันก็ถูกผลักออกไปและแหลกเป็นชิ้น ๆ กลายเป็นฝนแสงปกคลุมท้องฟ้าสาดเทลงมา ถูกกวาดล้างไปเกือบหมดในพริบตา!
ประหนึ่งกวาดใบไม้แห้ง ช่างเป็นการบดขยี้ทำลายล้างทุกสิ่งอย่างแท้จริง
ฝ่ามือใหญ่หายไป พลังชะตากรรมที่ลึกลับพลันปะทุขึ้น เฉินซียืนอยู่ที่นั่นอย่างมั่นคงราวกับหินผา สายตาเย็นชาและลึกล้ำ เขามองดูกลุ่มราชันเซียน ราวกับว่าเพิ่งทำสิ่งธรรมดา ๆ ไป
“ช่างเป็นรัศมีที่น่าทึ่งจริง ๆ!” ราชันเซียนหลายคนแอบตกตะลึง เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้า ทันทีที่เฉินซีโจมตี เขาก็เผยให้เห็นรัศมีกดข่มที่ยิ่งใหญ่และสูงส่งจนน่าสะพรึงกลัว
พวกเขาตระหนักดีว่า เป็นเพราะเฉินซีได้ควบคุมหม้อมรดกเต๋าโบราณ ทำให้ชะตากรรมภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเวียนมาบรรจบกันที่ตัวเขา จึงไม่อาจมองข้ามพลังนี้ไปได้
“จู่โจม!” แม้ว่าจะคิดเช่นนั้น แต่ปฏิกิริยากลับไม่ได้ช้าลงเลย พวกเขาใช้ทักษะทุกประเภทและสมบัติอมตะทุกรูปแบบ ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นทั่วบริเวณโดยรอบ หมายรวมพลังและจัดการกับเฉินซีด้วยกัน
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เฉินซีก็เคลื่อนไหว ร่างสูงใหญ่ก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้น พลังชะตากรรมก็กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่ ม้วนพันรอบร่างของเขา พวกมันเงยหน้าขึ้นคำราม ทำให้รัศมีสง่างามราวกับจักรพรรดิที่มองลงมายังโลก
แม้ว่าเขาจะอยู่คนเดียว แต่กลับดูเหมือนเป็นเจ้าเหนือหัวผู้ตามดูชะตากรรมของสวรรค์และปฐพี รัศมีที่สง่างามและท่วงท่ายิ่งใหญ่ดุจมังกร สงบนิ่งและไม่รีบเร่ง
“ตาย!” หญิงชราคนหนึ่งมาพร้อมกับจิตสังหารอย่างรุนแรง ไม้เท้าอสรพิษเงินในมือ ห่อหุ้มด้วยพลังของราชันเซียน ขณะฉีกผ่านท้องฟ้าตรงไปยังเฉินซี
หญิงชราคนนี้มาจากตระกูลว่านฉี นามว่า ว่านฉีอิง เป็นผู้อาวุโสที่มีพลังอันไร้ขอบเขต ผู้ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากในตระกูล และยังเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานหลายปี
ครืน!
ไม้เท้าอสรพิษเงินฉีกผ่านท้องฟ้า เปลี่ยนเวลาและมิติให้กลายเป็นเมฆฟ้าร้องที่น่าสะพรึงกลัวหลั่งไหลลงมา พยายามบดขยี้เฉินซีให้เป็นผง
นั่นคือสายฟ้าแห่งกาลเวลาและมิติ แค่รัศมีของมันก็เพียงพอที่จะสังหารขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นได้มากมายแล้ว!
“ผู้อาวุโส ท่านช่างกล้าหาญจริง ๆ !” ทันใดนั้น เฉินซีก็เงยหน้าขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายอยู่ในดวงตา จากนั้นแสงที่ลุกโชนก็ปะทุออกมาจากทั่วร่างกาย ในเวลาเดียวกัน กระบี่สีแดงเลือดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะฟันลงมา
เจตจำนงกระบี่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า หนาแน่นยิ่งใหญ่ตรงไปถึงสวรรค์ ทอแสงอักขระยันต์ คำบัญชา และชะตากรรม ทำลายสายฟ้าแห่งกาลเวลาและมิติจำนวนมหาศาลลงได้อย่างง่ายดาย และสร้างเสียงดังกึกก้องขณะที่มันปะทะกับไม้เท้า
เปรี้ยง!
การแสดงออกของว่านฉีอิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ร่างของนางกะพริบหายไปทันที
พรึ่บ!
ในเวลาเดียวกันกับที่เฉินซีโจมตี การโจมตีอื่น ๆ อีกมากมายก็โผล่มาจากความว่างเปล่า สมบัติอมตะที่น่าสะพรึงกลัวและมีทักษะวิชาขั้นสูง มาบรรจบกันและปกคลุมท้องฟ้าเหนือหัว
นี่เป็นการโจมตีร่วมกันของราชันเซียนอีกห้าคน การโจมตีทั้งหมดของพวกเขาได้รวมตัวกัน พุ่งไปยังเฉินซีซึ่งเพิ่งสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก
ชายหนุ่มหยุดเคลื่อนไหว แสงเรืองรองในดวงตาระเบิดออก ผมสีดำปลิวไสว ขณะที่รัศมีบนร่างกายครวญครางราวกับเสียงลมจากก้นเหว ความว่างเปล่ากวาดกระจายออกไป สั่นสะเทือนไปทั่วตำหนัก
ในตอนนี้ สวรรค์และปฐพีประหนึ่งกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง เกิดเป็นเหตุการณ์ ‘เสียงดังที่สุดเงียบงัน และไร้รูปร่าง’ ขึ้นมา ความเงียบที่น่าสยดสยองแผ่ซ่านไปทั่วบรรยากาศอันว่างเปล่า
เวลานี้ มีเพียงรัศมีอันสง่างามของเฉินซีเท่านั้นที่ส่งเสียง ดุจเสียงคำรามของมังกร ดั่งเสียงสวดเต๋าดังก้องไปทั่วสวรรค์ทั้งเก้า!
ฟุ่บ!
อักขระยันต์จำนวนนับไม่ถ้วนที่หนาแน่นราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ผุดขึ้นมาจากร่างของเฉินซี และกลายเป็นปราณกระบี่ที่ยอดเยี่ยม ก่อตัวเป็นค่ายกลกระบี่ลึกลับ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพี!
โครม! โครม!
การปะทะกันของแผ่นดินไหวดังกึกก้อง เหมือนกับภูเขาไฟนับแสนลูกปะทุขึ้นพร้อมกัน มวลอากาศที่น่าหวาดหวั่นอย่างไม่มีใครเทียบ พัดแผ่กระจายไปทั่วทั้งตำหนัก
หากการปะทะกันที่น่ากลัวครั้งนี้เกิดขึ้นในโลกภายนอก เมืองต่าง ๆ นับไม่ถ้วนคงถูกทำลายเป็นผุยผงอย่างแน่นอน
ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ ร่างของเฉินซียังคงนิ่งสงบและไร้รอยขีดข่วน มังกรแห่งชะตากรรมพันโอบรอบร่างกาย ทำให้เขาดูเหมือนเทพอสูรที่เกิดจากความโกลาหล
ในทางกลับกัน ราชันเซียนทั้งหกต่างพากันหายใจหอบ สีหน้าซีดเซียว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากการปะทะกันในครั้งนี้ไม่น้อย
สิ่งนี้น่าตกใจคือ ลำพังเพียงเฉินซี กลับสามารถต้านทานการโจมตีร่วมกันของราชันเซียนทั้งหกได้ โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย!
การแสดงออกของราชันเซียนทั้งหมดมืดมน ดวงตาทอประกายเคร่งเครียด พวกเขารู้ว่าทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับหม้อมรดกเต๋าโบราณ เพราะมันทำให้พลังแห่งชะตากรรมภายในสำนักทั้งหมดอวยพรให้เฉินซี!
ท้ายที่สุดแล้ว เฉินซียังคงอยู่เพียงขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้นเท่านั้น แต่กลับสามารถเผชิญหน้ากับราชันเซียนทั้งหกคน ได้ด้วยพลังชะตากรรม ดังนั้นหากเขาได้มีโอกาสให้เติบโตต่อไป เกรงว่าจะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตาเดียว ดังนั้นแม้ว่าจะใช้เวลานานในการอธิบาย แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
โครม!
ชายวัยกลางคนที่เปลือยอกก็เริ่มลงมือ เขาใช้ทักษะลึกลับสร้างแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่สวยงามและไร้ตัวตนขึ้นมาโจมตีเฉินซีอย่างดุเดือด
นี่คือ ‘แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี’ มรดกสูงสุดของตระกูลจี้โบราณ ว่ากันว่ามันสามารถทำลายธาตุทั้งห้าและต่อต้านสมบัติทั้งหมดในโลกได้ ชื่อเสียงของมันโดดเด่นอยู่ทุกยุคทุกสมัย
ดวงตาของเฉินซีนิ่งสงบ เมื่อเผชิญกับทักษะลับเช่นนี้ เขาไม่ได้ประมาทแต่ก็ไม่ได้กลัวเช่นกัน!
ฟุ่บ!
ชายหนุ่มจรดนิ้วเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้เต๋าแห่งกระบี่ ฟันปราณกระบี่ออกไปทางชายวัยกลางคน ปราณกระบี่นี้เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งของความเป็นนิรันดร์ มันอัดแน่นไปด้วยความลึกลับหายากสูงสุดสามประการ ได้แก่ นิรันดร์ กลืนกิน และรังสรรค์
เต๋านั้นเป็นนิรันดร์ ดังนั้นจึงสามารถกลืนกินได้อย่างไม่มีขอบเขต พลังที่ความไร้ขอบเขตก่อเกิดความล้ำลึกหมุนเวียนไปไม่สิ้นสุด ดังนั้นจึงเรียกว่าอมตะ!
กระบี่นี้อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘กระบี่อมตะ’ แม้ว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสามารถทำลายธาตุทั้งห้าและตอบโต้สมบัติทั้งหมดบนโลกได้ แต่ต่อหน้าปราณกระบี่มันก็นับว่าไร้ประโยชน์
“หืม?” ดวงตาของราชันเซียนจากตระกูลจี้หรี่ลง เขารู้ได้ทันทีที่ลงมือ เฉินซีแข็งแกร่งกว่าที่ตนจินตนาการไว้มาก! เพราะเมื่อโจมตี อีกฝ่ายก็ตั้งใจที่จะทำลายทักษะลับและบดขยี้ตนทันที
โครม!
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีคำรามบดขยี้ห้วงเวลาและมิติ อยู่ยงคงกระพันและทรงพลังอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อมันปะทะกับปราณกระบี่ มันกลับถูกขัดขวางและเกือบจะถูกสับเป็นชิ้น ๆ จนหายไป!
สิ่งนี้ทำให้การแสดงออกของราชันเซียนจากตระกูลจี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง
โครม!
ก่อนที่เขาจะทันตอบสนอง เฉินซีก็ลงมือ ทุกส่วนบนร่างกายเต็มไปด้วยปราณกระบี่ ทำให้เขาดูเหมือนกลายร่างเป็นทะเลกระบี่ก็ไม่ปาน พวกมันส่งเสียงกรีดผ่านอากาศขณะที่ร่างสูงใหญ่พุ่งไปข้างหน้า
โครม!
ราชันเซียนจากตระกูลจี้ที่กำลังประหลาดใจ ไม่ทันระวังตัวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับแรงปะทะจากเฉินซีตรง ๆ แต่เขาก็ยังถูกโจมตีจนกระเด็นไปจนเกือบล้มลงกับพื้น
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องกันนี้เกิดขึ้นเร็วมาก และจบลงในเสี้ยวพริบตา ทำให้ราชันเซียนคนอื่น ๆ ไม่อาจให้ความช่วยเหลือเขาได้ทันเวลา
“ตายซะ!” เฉินซีพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาถูกคนผู้หนึ่งขัดขวางและหยุดเอาไว้
เป็นหญิงสาวสวยจากตระกูลจงหลี นางถือตราดอกบัวที่มีคุณสมบัติของหยิน และอ่อนโยนราวกับสายลมอ่อน ๆ พัดเข้าหาเฉินซี
การโจมตีนี้อ่อนโยนราวกับน้ำ ดุจการจ้องมองที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรักจากคนรัก แต่จิตสังหารที่อยู่ภายในนั้น กลับน่ากลัวเสียยิ่งกว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี!
“ฮึ่ม!” เฉินซีแค่นเสียงเย็น ชายหนุ่มยกมือขึ้นเพื่อคว้ามันและโจมตีออกไปอย่างแรง หลังจากนั้น โลกที่เป็นเหมือนความว่างเปล่าก็ปรากฏรูปลักษณ์ขึ้นบนฝ่ามือ ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ
นี่คือ ‘ดินแดนกระบี่’ ที่สร้างขึ้นจากพลังของเต๋ากระบี่มันถูกสร้างขึ้นจากอักขระยันต์ที่ไม่มีสิ้นสุด ก่อนที่จะถูกปลดปล่อยออกมาด้วยเต๋ากระบี่ ทำให้มันดูน่าทึ่งยิ่ง
ทักษะดังกล่าวคล้ายกับทักษะของนิกายพุทธ ‘ฝ่ามือชุมนุมหมื่นพุทธ’ ที่ยากจะใช้หากปราศจากอำนาจในการควบคุมเวลาและมิติ
เพล้ง!
ผนึกดอกบัวที่อ่อนโยนอันเต็มไปด้วยจิตสังหาร ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้ว นางแสดงสีหน้าเจ็บปวดและตกใจมาก นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลบออกไป
การโจมตีครั้งนี้รุนแรงและไร้การควบคุม มันทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำให้นางไม่กล้าขัดขวางมัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านางต้องการที่จะล่าถอย แต่เฉินซีก็เริ่มลงมือไล่ล่านางด้วยดินแดนกระบี่ ที่โหมกระหน่ำไปตามกาลเวลาและมิติภายใต้ฝ่ามือ ราวกับโลกเต็มไปด้วยกระบี่สังหารศัตรูในทุกทิศทางด้วยพลังอันไร้ขอบเขต
เปรี้ยง!
ชั่วครู่หนึ่ง ตราบใดที่ราชันเซียนเข้ามาใกล้ ไม่ว่าจะใช้ทักษะหรือความสามารถใด พวกเขาก็จะถูกกระแทกกลับไป จนไม่อาจเข้าใกล้ได้แม้แต่ก้าวเดียว
ตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้อย่างถ่องแท้ว่า เฉินซีนั้นน่ากลัวเพียงใด พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปลดปล่อยออกมาทำให้โลกตกตะลึง และกดดันจนถึงจุดที่พวกเขาไม่อาจอยู่เหนือกว่าได้เลย
สิ่งนี้ทำให้หัวใจสั่นสะท้าน และรู้สึกหนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พวกเขาไม่กล้าที่จะฟุ้งซ่านอีกต่อไป ก่อนที่จะใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อร่วมกันบดขยี้คนตรงหน้า
ราชันเซียนครึ่งขั้นที่เพิ่งสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนัก บังคับให้ราชันเซียนทั้งหกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือ หากคนอื่น ๆ จากโลกภายนอกเห็นเหตุการณ์นี้ ขากรรไกรของพวกเขาคงได้ร่วงกระแทกพื้นอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการทำให้โลกตกตะลึงอีกต่อไป แต่เป็นการท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง! มันทำลายความรู้ความเข้าใจที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณทั้งหมด และไม่อาจวัดได้ด้วยสามัญสำนึก
โอม!
ทันใดนั้น ค่ายกลเซียนที่ยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขตทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อตัวเป็นดวงดาวที่หนาแน่น รายล้อมเฉินซีจากทุกทิศทุกทาง มันเชื่อมโยงกับพลังแห่งจักรวาล สร้างจิตสังหารไร้ที่สิ้นสุด
ราชันเซียนทั้งหกร่วมมือกัน ตั้งค่ายกลการสังหารขั้นสูง!
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตระหนักดีว่าวิธีการธรรมดาไม่สามารถทำอะไรเฉินซีได้ ดังนั้นจึงเลือกใช้วิธีการเหล่านี้
ราชันเซียนทั้งหกถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อพวกเขาเห็นร่างของเฉินซีถูกผนึกไว้ในค่ายกลขนาดใหญ่ ค่ายกลนี้มาจากภพมังกร ที่ครั้งหนึ่งมันเคยสังหารเทพที่แท้จริงมาแล้ว มันทรงพลังอย่างยิ่ง ดังนั้นต่อให้สัตว์ประหลาดตัวน้อยที่ท้าทายสวรรค์อย่างเฉินซี เมื่อตกอยู่ในค่ายกล ก็จะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก และรู้สึกว่าผลลัพธ์ได้รับการตัดสินแล้ว เพราะนี่คือไพ่ตายที่อันตรายที่สุดในมือพวกเขาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นกลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มที่ติดอยู่ในค่ายกล กลับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพลางแผดเสียงหัวเราะดังลั่น และก้าวไปข้างหน้า
โครม!
ค่ายกลทั้งหมดขาดกระจายราวกับแผ่นกระดาษ แทนที่จะดักจับและสังหารเฉินซี มันกลับระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ
แสงสว่างจ้าส่องโปรยปรายดุจสายฝน ทำให้เฉินซีที่ก้าวเดินออกมาดูเหมือนทวยเทพ ที่ไม่ว่าทักษะในโลกนี้ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
ราชันเซียนทั้งหกตกตะลึงทันที นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?