บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1486 เจ้าสำนักคนใหม่
บทที่ 1486 เจ้าสำนักคนใหม่
……………………………………………………………………..
บทที่ 1486 เจ้าสำนักคนใหม่
ชิ้ง~
ทันทีที่ราชันเซียนดาราวีรบุรุษนำหม้อมรดกเต๋าโบราณออกมา ตราประทับหยกนพกระแสในมือเฉินซีก็ตอบสนอง มันส่องแสงมงคลออกมาราวกับจะอัญเชิญหม้อยา
เฉินซีไม่ได้ลงมือชิงของมา แต่มอง ‘โลกแห่งเพลิงชะตากรรม’ แทน กลุ่มราชันเซียนกำลังร้องเสียงดุดันอยู่ตรงจุดนั้น ออกแรงสู้สุดกำลัง ส่วนจ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดก็นั่งขัดสมาธิเงียบเชียบ ทั่วร่างปลดปล่อยกระแสเพลิงชะตากรรมบริสุทธิ์ออกมา
หากมองจากที่ไกล ทั่วร่างเขาเหมือนกำลังเผาไหม้ เหมือนคิดจะใช้ไฟจากร่างเผาทุกอย่างให้วอด
“หากเจ้ายังลังเลต่อ ไม่เพียงแต่ราตรีสงัดจะสละตนเองไปเสียเปล่า แต่พวกเราอาจจะตายทั้งคู่ ส่วนสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็จะตกอยู่ในมือคนอื่น!” ราชันเซียนดาราวีรบุรุษเอ่ยเสียงต่ำเตือนเฉินซี
ชายหนุ่มเม้มปากเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็เก็บสายตากลับมาแล้วเอ่ยในใจว่า ชะตากรรมเกิดจากชีวิต ส่งต่อไปยังชาติหน้าหลังความตาย จะทำลายก็ไม่ได้ ผู้อาวุโส ข้าจะสะบั้นมันให้ท่านเอง
จากนั้นเขาก็หันมาหยิบหม้อมรดกเต๋าโบราณขึ้นถือในมือ
ตู้ม!
เจตจำนงอันแรงกล้าพุ่งออกมาจากร่างเฉินซี พุ่งเข้าสู่หม้อยา เกิดเป็นคลื่นพลังสะท้อนออกมา
เขากำลังทำการกลั่นสมบัติและผสานเจตจำนงของตนเองลงไป คล้ายกับการเข้าครอบครองมันนั่นเอง
ใบหน้าซีดขาวของราชันเซียนดาราวีรบุรุษปรากฏแววยินดี เขาคือผู้สืบทอดที่เจ้าสำนักเลือกมา ทั้งยังได้มรดกจักรพรรดิเต๋าไปครอง สมบัติชิ้นนี้เองก็ต้องเป็นของเขาเช่นกัน!
“โอหังนัก! เฉินซีเจ้ากำลังเล่นอยู่กับไฟ! รีบวางหม้อมรดกเต๋าโบราณลงเสีย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครช่วยเจ้าได้อีก!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นมาจากภายในโลกแห่งเพลิงชะตากรรม
ดูเหมือนจะมีใครมาเห็นเข้า
“เจ้าบ้า! ไอ้พวกเวร! ปล่อยให้ไอ้เด็กบัดซบนี่ขึ้นตำแหน่งเจ้าสำนักได้ก็บ้าแล้ว! ราชันเซียนดาราวีรบุรุษ จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัด… พวกเจ้าสมควรตาย!” ราชันเซียนคนอื่น ๆ เองก็โกรธมาก ซัดวิชาทั้งหลายเข้าโจมตีโลกแห่งเพลิงชะตากรรม อยากหลุดออกมาแล้วสังหารเฉินซีเพื่อหยุดกระบวนการทุกอย่างนี้เสีย
“พุทธองค์จงรุ่งเรือง!”
ตู้ม!
ราตรีสงัดเปล่งบทสวดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นทั่วร่างเขาก็เริ่มเกิดเพลิงไหม้ รอบตัวคือเพลิงชะตากรรมบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่แผ่ออกมาพร้อมแสงศักดิ์สิทธิ์ ก่อนมันจะซัดลงมาอย่างรุนแรง
เฉินซีมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชา กลิ่นอายที่ปล่อยออกจากร่างยิ่งแกร่งขึ้นกว่าเก่า เขากำลังพยายามกลั่นหม้อมรดกเต๋าโบราณด้วยพลังชะตากรรมและเจตจำนงอันกล้าแกร่ง
ด้วยพลังบ่มเพาะของเฉินซีในตอนนี้ หากเป็นในเวลาปกติ อย่างน้อยก็ต้องใช้สิบถึงสิบห้าวันถึงจะสำเร็จ เพราะอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังเป็นเพียงราชันเซียนครึ่งขั้น
แต่สถานการณ์ตอนนี้เร่งด่วนนัก เขาคงไม่มีเวลาเช่นนั้น
“เฉินซี ข้าฝากสำนักไว้กับเจ้าด้วย อย่ากดดันไปเล่า แค่ให้เป็นไปตามโชคชะตาก็พอแล้ว” ทันใดนั้น ราชันเซียนดาราวีรบุรุษก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เหมือนว่าวางใจแล้ว
เฉินซีเห็นแล้วใจสะท้าน รู้สึกถึงลางไม่ดี “อย่า!”
แต่ก็ยังช้าไป สิ้นคำ ราชันเซียนดาราวีรบุรุษก็ใช้วิชาลับบางอย่าง ทำให้ทั่วร่างระเบิดออกเป็นชิ้น จากนั้นมันก็กลายเป็นเลือดสีทองเหลือบแดงที่เดือดพล่าน
ครืน!
โลหิตสายนี้เดือดดั่งตะวันระอุ และมีพลังแก่นแท้สสารของราชันเซียนดาราวีรบุรุษอยู่ มันทรงพลังยิ่ง ตอนนี้มันพุ่งเข้าไปในหม้อมรดกเต๋าโบราณ
ในสามภพนี้ จะมีราชันเซียนคนใดที่มีความกล้าหาญและเด็ดขาด ยอมสละชีพเพื่อความยุติธรรมเช่นนี้บ้าง?
แต่ตอนนี้…
จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดยอมแลกไปแล้ว
ราชันเซียนดาราวีรบุรุษเองก็ลงมือเช่นกัน!
จังหวะนั้น เฉินซีอึ้งไป ในใจว่างเปล่า เหมือนในใจมีบางอย่างขวางกั้นอยู่ กดดันจนทั่วร่างสะท้าน ไม่อาจยั้งเสียงกรีดร้องลั่นที่ดังขึ้นฟ้าได้!
เสียงนั้นเหมือนฟ้าลั่น มันเต็มไปด้วยความโกรธ ความเกรี้ยว ความคับข้อง ความคั่งแค้น และความเกลียดชัง มันสั่นสะเทือนไปทั่วตำหนัก เหมือนเสียงคำรามของเทพอสูรที่ไม่ยอมสยบต่อโชคชะตา!
ตู้ม!
ทั้งตำหนักส่องสว่างไปด้วยกระแสพลังแห่งชะตากรรมที่มาบรรจบกันบนร่างเฉินซี โอบกายเขาไว้จากทั่วทุกทิศ
จังหวะนั้น ตราประทับหยกนพกระแสในมือเฉินซีก็ลอยขึ้นมาส่องแสง พลันปล่อยกระแสมงคลออกมาอาบหม้อมรดกเต๋าโบราณไว้
พริบตาเดียวหม้อมรดกเต๋าโบราณก็หายไป จากนั้นหม้อยาทองแดงทรงกลมเกลี้ยงสามขา สองที่จับและมีฝาเปิดก็ปรากฏขึ้นใต้ตราประทับหยกนพกระแส!
ทั้งสองอย่างผสานรวมเป็นหนึ่ง
“เจ้าบ้า!”
“เวรเอ๊ย!”
หลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน เป็นเสียงจากเหล่าราชันเซียน พวกเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีจึงมีท่าทีไม่พอใจยิ่ง ใช้พลังทั้งหมดพังโลกแห่งเพลิงชะตากรรมออกมาได้ในจังหวะนั้น!
ในขณะที่ตอนนี้เอง จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดพลันลุกขึ้นยืนท่ามกลางเพลิงชะตากรรมที่กระจายไปทั่วฟ้า เขาหันมามองเฉินซี ก่อนประกบฝ่ามือเข้าหากัน จากนั้นก้มศีรษะลงแล้วเอ่ยบทสวดออกมา
จากนั้นใบหน้าก็เผยรอยยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มวางใจเจือด้วยความสุขและความบริสุทธิ์ เหมือนรอยยิ้มของเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรในใต้หล้า
ฟึบ!
ทั่วร่างเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงชะตากรรมที่ลอยไปพร้อมกับสายลม บทสวดเสียงแผ่วดังก้องไปทั่ว “ทุกสิ่งอย่างไม่จีรัง ใต้หล้าดั่งความฝัน เกิดและตายไม่เคยยั่งยืน พุทธองค์จงรุ่งเรือง”
จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดหายไปในพริบตา!
ตอนนี้ เฉินซีสงบลงแล้ว หลังจากได้เห็นเรื่องทั้งหมด เขากลับสงบอย่างน่าประหลาด เหมือนไม่รู้จักความเศร้า
เหมือนไม่สนอะไรทั้งสิ้น เหมือนโกรธเกรี้ยวจนไม่เหลืออารมณ์ใดอีก
ตอนนี้ ราชันเซียนทั้งหลายพุ่งออกมาจากโลกแห่งเพลิงชะตากรรม ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมและโกรธแค้น เจือด้วยแววสังหารหนาแน่น คิดจะกำจัดเฉินซีให้ได้
ตู้ม!
ทว่าตอนนี้เองที่ทั่วตำหนักพลันสั่นสะท้านด้วยกระแสพลังแห่งชะตากรรม มันขดรวมล้อมกายเฉินซี ทำให้ดูแล้วเหมือนราชันปกครองใต้หล้า
พร้อมกันนั้น น้ำเสียงยิ่งใหญ่ก็ดังก้องทั่วตำหนัก กังวานไปทั่วฟ้า…
“ผู้สืบทอดเฉินซี!”
ชั่วขนาดนั้น ทุกชีวิตในสำนักศึกษาก็ตกตะลึงไปพร้อมกัน เพราะมันคือเสียงของเจ้าสำนักเหมิงซิงเหอ เป็นเสียงที่ดังขึ้นจังหวะที่เขาจะมอบตำแหน่งส่งต่อให้เฉินซี!
เตร้ง! เตร้ง!
ณ เขตฝ่ายนอก ระฆังเต๋าแห่งการประชันที่ตั้งอยู่นิ่งไม่ไหวติงมานานเริ่มส่งเสียงกังวานขึ้น
ในฝ่ายบำเพ็ญเต๋า กระจกศักดิ์สิทธิ์กระแสสวรรค์ปล่อยกระแสแสงบริสุทธิ์พุ่งขึ้นฟ้า สว่างวาบลงทั่วพิภพ
ในฝ่ายสงวนโอสถ หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำปล่อยคลื่นเสียงดังกระจ่าง เกิดเสียงดังแห่งธรรมอยู่ภายใน เกิดเป็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์มากมายโปรยลงมาทั่วสำนักศึกษาจนสว่างจ้าไปทั่วทั้งแดน
ในฝ่ายสงวนคัมภีร์ คัมภีร์หยกเต๋าเรืองรองลอยขึ้นไปบนฟ้า มันเปิดหน้าออกเอง ก่อนได้ยินเสียงสวดบางอย่างดังจากด้านใน ดังไกลไปทั่วทุกบริเวณ
ตอนนี้ทุกข้อจำกัดภายในสำนักศึกษาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ดั่งต้อนรับการมาถึงของเจ้าสำนักคนใหม่!
“เฉินซี! เขาได้หม้อมรดกเต๋าโบราณและขึ้นเป็นเจ้าสำนักแล้ว!” เสียงร้องตกตะลึงดังขึ้น
ในสำนักศึกษาตอนนี้ มีอาจารย์และศิษย์มากมายพี่หลบอยู่ในมุมมืดต่างพากันตกตะลึงและตื่นเต้นจนพูดไม่ออก ตอนนี้สถานการณ์อันตรายภายในที่ไร้ผู้นำได้จบลงแล้ว!
“เฉินซี?”
“เฉินซี!”
“เจ้าสำนักคนใหม่ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า!”
“ศึกไร้วันจบสิ้นสุดลงเสียที!”
น้ำเสียงยิ่งใหญ่ดังก้องไกลไปทั่วฟ้าดิน ได้ยินไปถึงเมืองเซียนสัประยุทธ์ ทุกสิ่งมีชีวิตภายในเมืองล้วนตกตะลึง ทุกสายตามองไปยังตำแหน่งที่ตั้งของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าโดยพร้อมเพรียงกัน
เพราะพวกเขารู้ว่าเมื่อเฉินซีขึ้นรับตำแหน่งเจ้าสำนักเมื่อไหร่ ก็หมายความว่ายุคใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าแล้ว!
ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า ณ ปัจจุบัน
พลังชะตากรรมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากำลังหมุนคว้างอยู่รอบกายเฉินซีคล้ายมังกร มันท่องเที่ยวไปทั่ว ส่งเสียงหวีดหวิวอยู่รอบกายระหว่างผสานเป็นหนึ่งเข้ากับตัวเขา
เฉินซียืนอยู่เช่นนั้น อำนาจในกายแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นอายยิ่งลึกล้ำกว่าเก่า เหมือนราชันเหนือยุคสมัย ปกครองทุกใต้หล้า นัยน์ตาเย็นชาไร้อารมณ์คล้ายว่าสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่าง อีกทั้งชะตากรรมที่ม้วนตัวอยู่รอบกายเหมือนมังกรยังส่องแสงสีสดใส แผ่อำนาจสูงส่งเหนือผู้ใดออกมา
พอเห็นแบบนี้แล้ว ราชันเซียนทั้งหลายก็หยุดมือทันที ในใจพวกเขาตกตะลึงยิ่ง สีหน้าเปลี่ยนผันไปไม่หยุด ทั้งโกรธทั้งเกลียดผสมปนเปกันไป แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว
เว้นเสียแต่ว่า… พวกเขาจะฆ่าเฉินซี!
ราชันเซียนเผ่าวิหคอมตะได้จากไปแล้ว ราชันเซียนดาราวีรบุรุษก็สละตนเอง จ้าวพุทธองค์ราตรีสงัดเองก็ยอมแลกชีวิต ทำให้ตอนนี้ในตำหนักเหลือเพียงหกราชันเซียนเท่านั้น
พวกเขามาจากตระกูลเจี้ยง ตระกูลว่านฉี ตระกูลจงหลี ภพมังกร และตระกูลจี้ตามลำดับ
ในตอนนี้ สามภพไร้ทวยเทพ ดังนั้นราชันเซียนจึงถือเป็นตัวตนสูงสุด อีกทั้งยังมีถึงหกคนอยู่ที่นี่
ฉะนั้นแม้ว่าเฉินซีจะได้ชะตากรรมของทั้งตำหนักแห่งนี้มาแล้ว แต่ราชันเซียนเหล่านี้ก็ยังไม่ยอมจากไป หมายสังหารคนให้ได้เพื่อชิงเอาหม้อมรดกเต๋าโบราณกลับคืน
“เฉินซี! โอหังนัก! เจ้าใช้กำลังชิงหม้อมรดกเต๋าโบราณ ชิงตำแหน่งเจ้าสำนักไป ของพวกนี้เป็นสิ่งที่ราชันเซียนครึ่งขั้นจะใช้กำลังบังคับเอาได้อย่างนั้นหรือ? ยอมให้พวกข้าจับตัวเสียโดยดี! อย่าให้ตนเองต้องเสี่ยงเลย!” เจี้ยงทิงฟางจากตระกูลเจี้ยงเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเขาดุดันด้วยรู้ดีว่าหากเรื่องเป็นเช่นนี้ต่อไป เฉินซีคงมีแต่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พวกเขาต้องรีบลงมือโดยเร็ว
“ทุกคนจะรออะไรอยู่อีก? หรือพวกเจ้าเต็มใจมองเด็กนี่ชิงตำแหน่งเจ้าสำนักไป?” ราชันเซียนอีกคนเอ่ยเสียงขรึมออกมา
เฉินซีในตอนนี้เป็นราชันเซียนครึ่งขั้น แต่กลับมีพลังน่าเกรงขามเช่นนี้ สามารถข้ามขอบเขตต่อสู้กับราชันเซียนได้อย่างทัดเทียม หากปล่อยให้ขึ้นตำแหน่งเจ้าสำนัก ต่อไปจะมีใครสยบเขาลงได้?
ตอนนี้พวกเขาล่วงเกินเฉินซีไปมาก ความพยาบาทต่อกันหยั่งรากลึก ไม่อาจหวนคืนได้อีก ดังนั้นตอนนี้จึงได้แต่สังหารเฉินซีเสีย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อาจวางใจได้
“พวกเจ้าทุกคนตัดสินใจถูกแล้ว เพราะวันนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดไปสักคน” สายตาเฉินซียิ่งเย็นยะเยือกไร้อารมณ์ เหมือนเจ้าเหนือหัวผู้อยู่เหนือชีวิตเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
น้ำเสียงเขาเย็นชาดูธรรมดา แต่กลับเจือด้วยไอสังหารหนาแน่น พุ่งตรงเข้ากลางใจราชันเซียน ทำเอาสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนผันเป็นทั้งตกตะลึงและโกรธเกรี้ยว
“ทุกคนเห็นแล้วหรือไม่? เจ้าเด็กนี่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! หากเราไม่ฆ่ามันไปเสียตอนนี้ สุดท้ายในอนาคตมันก็ต้องเป็นหนามยอกอกเรา ต้องนำความวิบัติมาสู่เราเป็นแน่!” เจี้ยงทิงฟางคำรามเสียงโกรธด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ตอนนี้ราชันเซียนที่เดิมทีลังเล ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เผยจิตสังหารออกมายามมองเฉินซีที่ยืนอยู่
หกราชันเซียนร่วมมือกันจะยังไม่สามารถสังหารราชันเซียนครึ่งขั้นได้?
พวกข้าไม่เชื่อหรอก!