บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 1026: ตัวการที่แท้จริง!
ตอนที่ 1026: ตัวการที่แท้จริง!
……….
ตอนที่ 1026: ตัวการที่แท้จริง!
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยตื่นขึ้น
ไร้ความยินดีที่ถูกช่วยเหลือ เหลือเพียงความลนลานและตื่นตระหนก
เขาพยายามพูดอย่างสุดความสามารถ อยากให้ซูอี้เร่งหนีโดยไวที่สุด!
ในใจซูอี้รู้สึกซาบซึ้งอย่างไม่อาจบรรยาย และกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ข้ากลับมาแล้ว ท้องนภา… จะมิแหลกสลาย”
กล่าวจบ เขาก็นำโอสถขวดหนึ่งกรอกใส่ปากของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย รักษาพลังชีวิตในร่างของเขาให้เสถียรโดยสมบูรณ์
“พักให้สบายเถอะ ข้าจะพาเจ้าออกจากที่นี่ก่อน”
ซูอี้กล่าวพลางแบกจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยไว้บนหลังตน
มุมปากของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยสั่นระริกด้วยความลังเล
เขาพลันจำได้ถึงภาพยามที่ซูอี้ยังอยู่ในมหาทวีปคังชิงขึ้นมา
ยามนั้น ไม่ว่าศัตรูจะอันตรายร้ายกาจเพียงไร ขอเพียงมีซูอี้อยู่ เขาก็จะสามารถพลิกสถานการณ์สงบการจลาจลได้
ยามนี้ ชายหนุ่มผู้ดูราวเทพเซียนจุติสรวงได้กลับมาอีกครั้ง เขาจะยังพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่?
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยดูฉงน
ครานี้ หัวใจของเขาสั่นคลอน
เพราะศัตรูในครานี้ร้ายกาจเกินไป!
วูบ!
ร่างของซูอี้ทะยานตรงสู่อากาศ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหล่ายอดฝีมือในซากปรักหักพังต่างก็ตกตะลึง ชายหนุ่มผู้นี้… คิดจะพาตัวจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยไปหรือ!?
เขาเป็นใครกัน?
ไฉนจึงเสี่ยงชีวิตมาช่วยจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย?
ในขณะที่ความคิดของทุกคนกำลังยุ่งเหยิงนั้นเอง เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ผ่านไปไม่กี่วัน ในที่สุดไอ้หนูไม่กลัวตายก็โผล่มา!”
เสียงนั้นสะท้อนก้องดุจสายฟ้าเหนือซากหักพังของภูเขาเทียนหมาง
ทุกคนร่างสั่นพลางมองขึ้นไป
รุ้งสีม่วงเจิดจ้าพาดผ่านนภา และพลันแปรเปลี่ยนเป็นชายวัยกลางคนในอาภรณ์สีม่วงผู้หนึ่งกำลังยืนอยู่ใต้ท้องฟ้า
ขณะเดียวกัน แสงสว่างก็ทะยานเข้ามาจากทิศต่าง ๆ และแปรเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกตนชายหญิงกีดขวางทางหนีของซูอี้ไว้
“ยอดฝีมือจากขุมกำลังลึกลับนั่น!”
“ที่แท้พวกเขาก็ซุ่มรออยู่แล้ว โดยใช้จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเป็นเหยื่อล่อกระต่ายจากโพรง!”
มีเสียงฮือฮาออกมาจากในซากหุบเขา
ผู้ฝึกตนผู้มาค้นหาสมบัติต่างตะลึงไปเช่นกัน จากนั้นพวกเขาก็หยุดการกระทำของตนแล้วหนีไปซุกซ่อนในที่ห่างไกล
สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สายตาของซูอี้กวาดมองตัวตนเหล่านั้นอย่างเฉยชา สีหน้าสุขุมเยือกเย็น
พวกเขาก็แค่กลุ่มตัวตนในขอบเขตวงล้อวิญญาณ ไม่อาจพบจักรพรรดิแม้สักคน
“หือ!”
เมื่อเขาเห็นหน้าซูอี้ชัด ๆ ชายวัยกลางคนในชุดม่วงซึ่งขวางทางอยู่ก็ดูจะตระหนักถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อและนำภาพม้วนหนึ่งมาเปิดดูตรงหน้า
ในม้วนภาพนั้นคือชายหนุ่มชุดเขียวผู้หนึ่งซึ่งไพล่มือไว้ด้านหลัง
ดูเหมือนซูอี้ทุกประการ
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า!!”
ชายวัยกลางคนชุดม่วงยัดม้วนภาพกลับไปและจ้องซูอี้ซึ่งอยู่ห่างออกไปราวกับเหยี่ยวในบัดดล จากนั้นก็หัวเราะลั่น “มารหัวขนน้อย เรารอเจ้าอยู่นานแล้ว!”
มารหัวขนน้อย?
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างประหลาดใจ ที่แท้ขุมกำลังลึกลับนี้ก็รอจับตัวชายหนุ่มนี่อยู่หรือ!?
ส่วนเหล่าผู้ฝึกตนที่ปรากฏกายพร้อมชายวัยกลางคนในชุดม่วง ก็ดูเหมือนจะเข้าใจปฏิกิริยาของชายวัยกลางคน ต่างคนต่างก็กระเหี้ยนกระหือรือขึ้นมา
ในที่สุดเป้าหมายก็มาถึง!
“หนีไปซะ!”
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเร่งอย่างร้อนรน สีหน้าของเขามีทั้งความเกลียดชังและกังวลอย่างลึกล้ำ
“หนี? ไม่มีทาง!”
ชายวัยกลางคนในชุดม่วงฉีกยิ้ม พลางกล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า “มารหัวขนน้อย ข้าแนะนำให้เจ้าไปกับเราแต่โดยดีเสีย หาไม่ ผลที่ตามมาจะไม่มีทางรับไหวสำหรับเจ้า! หากไม่เชื่อก็ได้”
กล่าวจบ เขาก็โคจรวิถีเต๋าเพื่อเรียกการใช้งานยันต์ลับ
ยันต์ลับแผ่นนั้นเรืองแสงอย่างเงียบงัน ก่อนจะปรากฏเป็นม่านแสง
ในม่านแสงนั้นปรากฏภาพสามภาพ…
ในภาพแรก ชายชราผมสีเทาผู้หนึ่งยืนกลางอากาศ ดาบในมือฟาดฟัน จากนั้นเขาเทียนหมางซึ่งตระหง่านสูงหลายพันจั้งก็ถล่มร่วงลง
ปราณดาบเหล่านั้นเป็นดั่งคลื่นเพลิงคลุ้มคลั่งปกคลุมทั่วเขาเทียนหมาง ผู้คนทั้งชายหญิงไม่อาจหลบทัน พวกเขาต่างปลิดปลิวไปท่ามกลางกระแสปราณดาบร้อนแรงเหล่านี้
วิญญาณล่องลอย
เมื่อเห็นภาพดังกล่าว จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเผยสีหน้าเจ็บปวด ดวงตาใกล้ถลนหลุด น้ำตาหลั่งรินสองสาย
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างกับตอนที่ภูเขาเทียนหมางถูกทำลาย คนในราชวงศ์เซี่ยบาดเจ็บล้มตาย!
สีหน้าของซูอี้เฉยเมยไม่หวั่นไหว
ภาพที่สองเป็นกรงขังอันหนาแน่น
ในกรงนั้นขังบุคคลไว้มากมาย
ในหมู่พวกเขามีข้ารับใช้เฒ่าเวิงจิ่วและสุ่ยเทียนฉีผู้รับใช้ใกล้ชิดจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย รวมถึงคนใหญ่คนโตบางคนในราชวงศ์เซี่ย ทว่าซูอี้ไม่ได้คุ้นหน้าคนเหล่านั้นเลย
แต่เดาได้ไม่ยาก ว่าผู้ถูกคุมขังเหล่านี้ทั้งหมดล้วนมาจากราชวงศ์เซี่ย!
ในภาพที่สามมีสองกรงขังเดี่ยว
ในกรงหนึ่งมีชายร่างสูงใหญ่ ร่างเต็มไปด้วยบาดแผลนอนอยู่ ใบหน้าของเขาซีดราวกระดาษ
อีกกรงหนึ่งมีหญิงสาวชุดขาวผู้หนึ่ง ผมยาวของนางสยายบดบังใบหน้าของนาง
เมื่อเห็นคนทั้งสองนี้ ม่านตาของซูอี้พลันหดตัว
หยวนเหิงกับเหวินซินจ้าว!!
ฟู่~
ม่านแสงสลายไป ชายวัยกลางคนในชุดม่วงเก็บยันต์ลับและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างที่เจ้าเห็นแหละ มารหัวขนน้อย หากเจ้าไม่ต้องการให้พวกเขาตายล่ะก็ ขอเพียงเจ้าร่วมมือ ก็ประกันได้ว่าคนเหล่านี้จะรอด”
เขากล่าวเนิบ ๆ ราวกำชัยในมือ
เหล่าผู้ฝึกตนที่รายล้อมบนอากาศต่างฉีกยิ้มเยาะ
ผู้ที่มองอยู่บนพื้นต่างรู้สึกหนาวเยือกในใจ
ยามนี้เอง พวกเขาจึงตระหนักว่าเหตุที่ขุมกำลังปริศนาทำลายนครหลวงจิ๋วติ่ง เหยียบย่ำราชวงศ์เซี่ยก็เพื่อจับตัวชายหนุ่มชุดเขียวผู้นั้น!
“ไม่ยุติธรรมโดยแท้ หนี้ใดใครก่อย่อมเป็นของผู้นั้น หากเจ้ามาหาเพียงข้า ซูอี้ ก็แล้วไป ทว่าเจ้า… พวกเจ้าทำเช่นนี้…”
ซูอี้ดกล่าวขึ้น
น้ำเสียงของเขายังคงเฉยเมย “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ครานี้ ข้าจะถอนรากถอนโคนขุมกำลังเบื้องหลังพวกเจ้า!”
ทันทีที่วาจาถูกเปล่ง โลกหล้าก็เงียบสงัด
จิตสังหารอันไม่อาจมองเห็นแผ่ซ่านสู่อากาศอย่างไร้วจี
เหล่าผู้ฝึกตนทั่วพื้นปฐพีต่างตัวสั่นหนาวเยือก สันหลังเย็นวาบ
ชายวัยกลางคนในชุดม่วงตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเล็กน้อย “เจ้า… เจ้าไม่คิดช่วยชีวิตคนเหล่านั้นหรือ!?”
ซูอี้กระซิบกับตนเอง “ข้าฝึกฝนมาไกลเพียงนี้ ไม่เคยสนใจคำขู่ หากพวกเขาตาย ข้าจะล้างแค้นให้พวกเขา!”
ชายวัยกลางคนในชุดม่วงหน้าเสีย และตะโกนลั่น “เด็กนี่มีปัญหา เร็วเข้า! จับเขาไว้!”
เหล่าผู้ฝึกตนใกล้เคียงลงมือโจมตีโดยไม่ลังเล
ตู้ม!
สมบัติวิเศษเคล็ดวิชาทะยานเวหา ฉายแสงสาดเพลิงเจิดจ้าบ้าคลั่ง
ซูอี้ไม่แม้แต่จะมอง ชายแขนเสื้อโบกสะบัด
สมบัติพร่างนภาต่างสลายพังไปพร้อมกัน สารพัดเคล็ดวิชามลายสิ้น
และร่างของผู้ฝึกตนฝั่งตรงข้ามสิบสามคนก็ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ และสลายหายเป็นธุลี
หนึ่งสะบัดแขนเสื้อ ง่ายดายดุจปัดฝุ่น ราวบี้มด!
ความแข็งแกร่งอันอหังการทำให้ทุกคนในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง
“นี่…”
“สวรรค์!!”
เหล่าผู้เฝ้ามองจากบนพื้นไกลออกไปแทบตะลึงและหวาดผวา
สำหรับพวกเขา ยอดฝีมือจากขุมกำลังลึกลับเหล่านั้นแข็งแกร่งจนได้แต่ต้องเงยหน้ามองอย่างเกรงขาม มิอาจล่วงเกินได้เลย
ทว่ายามนี้กลับมีผู้สามารถลบคนของอีกฝ่ายได้ถึงสิบสามคนในพริบตา!
“เจ้า…”
สีหน้าของชายวัยกลางคนในชุดม่วงดูตกใจ
เขาระแวดระวังตัวนับแต่รู้ตัวตนของซูอี้แล้ว
เพราะเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับวีรกรรมที่ซูอี้ก่อ จึงรู้ดีว่าชายหนุ่มในมหาทวีปคังชิงผู้นี้แข็งแกร่งเพียงไร
ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตของตัวประกันเหล่านี้มาขู่เพื่อบีบบังคับซูอี้
ทว่าใครเล่าจะคิด ว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจเรื่องนี้เลย!
ตู้ม!
ไม่รอให้ชายวัยกลางคนในชุดม่วงตั้งตัว ซูอี้ก็คว้าคอเขาราวคว้าคอไก่
ชายวัยกลางคนในชุดม่วงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว
ตู้ม!
ร่างของเขาระเบิดในทันที เลือดเนื้อแตกกระจายกลายเป็นเถ้าธุลีที่ปลิดปลิว
จิตวิญญาณของเขาถูกซูอี้ตะครุบไว้
ในสายตาผู้เฝ้ามอง ชายวัยกลางคนชุดม่วงผู้นี้เป็นตัวตนแข็งแกร่งน่าหวาดหวั่นโดยแท้ ทว่ายามนี้ เขากลับไม่มีโอกาสได้กระดิกตัวสักนิด อย่าว่าแต่ต่อต้านขัดขืนเลย!
“แค่ฆ่ามดเยี่ยงเจ้ายังห่างไกลจะระบายโทสะข้าได้นัก แต่ไม่เป็นไร เมื่อข้าเข้าใจเรื่องนี้ถ่องแท้ ข้าจะไปไล่หาขุมกำลังเบื้องเจ้าต่อ”
ดวงตาเฉยเมยของซูอี้มองไปยังวิญญาณของชายวัยกลางคนผู้นั้นอย่างเยือกเย็น
ชายวัยกลางคนในชุดม่วงหวาดกลัวสิ้นหวัง เขาแผดเสียงอย่างสิ้นสติ “มารหัวขนน้อย! เจ้าไม่ตายดีแน่!”
ตู้ม!
เสียงยังไม่ทันสร่าง วิญญาณของเขาก็ถูกอำนาจจิตสัมผัสร้ายกาจแทรกแซงจนสลายไปในพริบตา
ครู่ต่อมา ซูอี้ก็เก็บจิตสัมผัสของเขากลับมา สีหน้าของชายหนุ่มดูคาดเดาได้ยาก
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
ครานี้ ขุมกำลังปริศนาที่มาพลิกนครหลวงจิ๋วติ่ง ทำลายภูเขาเทียนหมางมาจากตระกูลเยี่ย!
ตระกูลเยี่ยแห่งคุนอู๋นั้นรู้กันว่า พวกเขาเป็นดุจนายเหนือแห่งภูมิคังเสวียน!
เรื่องทั้งหมดนั้นเรียบง่าย
ทุกเหตุผลเกี่ยวข้องกับเยี่ยอวี่เฟย มารดาของซูอี้
เยี่ยอวี่เฟยคือทายาทสายตรงของตระกูลเยี่ย และในฐานะบุตรของนาง ซูอี้ก็มีคุณสมบัติสืบทอดสิ่งล้ำค่าของตระกูลเยี่ยแห่งคุนอู๋เช่นกัน
เมื่อกาลก่อน ยามที่พี่ชายของเยี่ยอวี่เฟย ลุงของซูอี้เยี่ยอวิ๋นหลันมายังมหาทวีปคังชิง เขาก็เคยหารือเรื่องนี้กับซูอี้
ยามที่เยี่ยอวิ๋นหลันมาหา เขาอยากจะพาซูอี้กลับไปยังตระกูลเยี่ย และทำทุกวิถีทางเพื่อสืบทอดมรดกนี้
ทว่าใครเล่าจะคิด ว่าตระกูลเยี่ยเองก็ส่งยอดฝีมือมาพยายามฆ่าซูอี้เช่นกัน แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ล้มเหลว
กระทั่ง ‘เยี่ยเซียว’ ผู้ถูกมองเป็นผู้นำชนรุ่นเยาว์ตระกูลเยี่ยก็ยังตายด้วยน้ำมือซูอี้
ความแค้นจบลงที่นี่!
ซูอี้เองก็ได้รับรู้ว่ามารดาของเขาเยี่ยอวี่เฟยมายังมหาทวีปคังชิงเพราะถูกลวงหลอกใส่ความโดยเหล่าผู้อาสุโสตระกูลเยี่ย
เขาจึงยังรับปากเยี่ยอวิ๋นหลันไว้ว่าจะไปยังตระกูลเยี่ยในไม่ช้าก็เร็ว ประการแรกคือเพื่อทวงความยุติธรรมให้แม่ของเขา เยี่ยอวี่เฟย และสองคือช่วยเยี่ยอวิ๋นหลันสืบทอดมรดกนั้น
เพียงแค่ว่ายามนั้น ซูอี้ไม่ได้มีความเกลียดชังมากมายต่อตระกูลเยี่ยแห่งคุนอู๋ และคิดเพียงจะตามล่าพวกเจ้าเฒ่าที่วางแผนทำร้ายแม่ของเขาในกาลก่อนเท่านั้น
ทว่ายามนี้ เขาฉุนขาดโดยสมบูรณ์
ความทรงจำของชายวัยกลางคนในชุดม่วงทำให้เขาเข้าใจว่าการกระทำนี้ของตระกูลเยี่ยเป็นคำสั่งจากจักรพรรดิของเจ้าตระกูลเยี่ยโดยตรง!
เพื่อจับตัวเขา ยอดฝีมือตระกูลเยี่ยจึงทำทุกสิ่งที่ทำได้ หลังจากมาถึงมหาทวีปคังชิง พวกเขาก็ไล่จับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเขา!
การทำลายนครหลวงจิ๋วติ่ง การถล่มภูเขาเทียนหมาง การจับตัวเหวินซินจ้าว หยวนเหิงและเหตุน่าสลดใจอันเกิดกับคนอื่น ๆ ล้วนแต่เกิดจากน้ำมือยอดฝีมือตระกูลเยี่ยทั้งสิ้น!