บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 616 พรุ่งนี้!
SGS บทที่ 616 – พรุ่งนี้!
เพียงแค่กะพริบตา หนึ่งเดือนก็ผ่านพ้นไป……
หนึ่งเดือนมานี่ถือว่าเป็นยุคมืดอันแสนป่าเถื่อนของ SAO ผู้เล่นต้องฉกฉวยแย่งชิงทรัพยากรกัน ด้านมืดของมนุษย์ได้ถูกเผยออกมาหมด และในขณะเดียวกันก็ได้มีสองพันชีวิตที่ได้Logoutออกจากเกมไปแล้ว นานวันเข้าสังคมของSAOก็ยิ่งเหมือนโลกซิลวาเรีย นั่นก็คือผู้แข็งแกร่งกดขี่คนอ่อนแอ…….
ผู้เล่นที่เก่งกาจพิเศษเหนือใครก็ได้ปรากฏออกมาคนแล้วคนเล่า เหมือนคำกล่าวที่ว่าเมื่อเกิดกลียุคขึ้นมันก็คือเวลาฉายแสงของผู้กล้า ภายใต้ความสิ้นหวังและบีบบังคับของสภาพแวดล้อม ผู้เล่นที่ไม่ใช่เบต้าเทสเตอร์ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มจับกลุ่มกันเป็นกิลด์ใหญ่ค่อยๆทะยานขึ้นสู่แนวหน้าของเกม
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป มันจะมีเหลือรอดกันสักกี่คนนะ………
คนอื่นเป็นตายร้ายดียังไงวู่หยานย่อมไม่ทราบ เพราะตลอดหนึ่งเดือนมานี่จิตใจของชายหนุ่มได้จดจ่ออยู่แค่กับการเพิ่มเลเวล!
ตารางชีวิตในแต่ละวันของเขาก็คือ มองหามอนสเตอร์แล้วฆ่ามัน จากนั้นหาตัวต่อไป ถ้าเจอเควสก็ทำซะให้หมด ต่อจากนั้น……ไม่มีจากนั้น ชีวิตของวู่หยานก็วนเวียนอยู่แบบนี้แหละ
ไม่สิ…..ยังมีอีกอย่าง ตลอดหนึ่งเดือนมานี่ วู่หยานได้ฝึกฝนขัดเกลาสกิลทำอาหาร(cooking)ของตนจากวัตถุดิบที่ดรอปจากตัวมอน ไม่นานเขาก็สามารถทำซอสที่รสชาติใกล้เคียงกับนอกเกมได้ เขายังเจอเนื้อมอนที่ให้รสชาติเหมือนเนื้อวัวข้างนอกด้วย
ตัววู่หยานในตอนนี้ เอาแค่สกิลcookingอย่างเดียวไม่ดูอย่างอื่นเลย ตลอดทั่วทั้งSAOก็ไม่มีใครเก่งกว่าเขาแล้ว ยืนหนึ่งในเรื่องทำอาหารตลอดกาล นอกจากเพราะสกิลปรมาจารย์เชฟที่ซื้อตอนมาโลกซิลวาเรียใหม่ๆ เขายังมีสกิลติดตัวความทรงจำภาพถ่าย ทำให้สูตรทุกสูตรไม่จำเป็นต้องจด เพราะเขาจำแล้ว…..
แน่นอนว่าวู่หยานไม่ได้ไปเอาจริงเอาจังด้านนี้ ที่เขาทำอาหารก็เพื่อลิ้นของตัวเองเท่านั้น แต่ไอที่พัฒนาก้าวกระโดดจนน่ากลัวอย่างแท้จริงก็คือพลังของเขา!
จากเดิมที่ถูกล่ามโซ่ด้วยร่างกายอันแสน ‘อ่อนแอ’ นี่ พลังดั้งเดิมของวู่หยานกระทั่งหนึ่งในสิบส่วนก็ยังไม่สามารถงัดออกมาได้ ส่วนสกิล วิถียุทธ์อมตะ ก็ถูกร่างอ่อนแอนี่ฉุดกระชากลงเหวเหมือนกัน
แต่ ณ ตอนนี้ยิ่งเขาเลเวลมากขึ้น ค่าสถานะมากขึ้น ร่างกายวู่หยานก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามันยังห่างไกลกับร่างเดิมเขา แต่อย่างน้อยก็เหนือกว่าใครในเกมแน่นอน
วู่หยานเชื่ออย่างสุดใจว่าตลอดทั้งชั้นที่1นี่ ไม่มีใครสามารถเป็นคู่มือเขาได้แน่นอน ถ้าสามารถหาห้องบอสชั้นแรกเจอ เขาก็คงบุกเข้าไปฆ่ามันให้จบๆไปแล้ว
แต่เรื่ยงที่ทำวู่หยานประหลาดใจและดีใจก็คือ วันหนึ่งขณะที่เขาเพิ่งเชือดมอนตัวนึงตายไป เสียงแจ้งเตือนเลเวลอัพก็ดังขึ้น!
มันไม่ใช่เสียงจากระบบเกมSAO แต่เป็น ‘ระบบ’ ของจริงที่หลอมรวมกับวิญญาณเขา!
นับจากวินาทีนั้น วู่หยานก็ทราบว่าเขาสามารถได้รับEXPจากการค่ามอนในเกมได้!
จริงๆถ้าคิดดูมันก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ระบบได้บอกแต่แรกแล้วว่าตราบใดที่สามารถเอาชนะสิ่งมีชีวิตที่มีความ ‘มุ่งร้าย’ ต่อตัวเขาได้ เขาก็จะได้รับค่าประสบการณ์ ไอพวกมอนในSAOมันมุ่งร้ายอยากจะฆ่าเขาให้ตาย ซึ่งเข้าข่ายสามารถนับเป็นค่าประสบการณ์ได้
จู่ๆก็ได้รับเซอร์ไพรส์น่ายินดีแบบนี้ วู่หยานก็ยิ่งคึกคักมีใจอยากล่ามอนมากกว่าเดิม แต่น่าเสียดายมอนในชั้นที่1มันเลเวลน้อยเกินไป ถ้าให้เปรียบก็คงพอกับๆค่าประสบการณ์ที่ได้จากสัตว์อสูรแรงค์2 ต่อให้จำนวนมันจะเยอะก็เถอะ แต่ด้วยความต่างของเลเวลเขาจะได้expสักเท่าไรกันเชียว?
บางทีสาเหตุที่เขามาอัพเลเวลตอนอยู่ในเกม คงเพราะหลอดexpกว่าเก้าในสิบส่วนได้ถูกเติมตอนอยู่ซิลวาเรียอยู่แล้ว พอมาฆ่าอีกหน่อยในSAOเขาถึงเลเวลอัพพอดี
ทว่าความเร็วในการเก็บเวลของวู่หยานก็ไม่ได้ลดลงเลย กลับกันเขาเลเวลอัพรัวๆ ของดรอป และ เงิน ที่ได้ก็มากมายมหาศาลเป็นเงาตามตัวเช่นกัน คราวนี้ถ้านับกันที่จำนวนเงินในกระเป๋าอย่างเดียว ทั่วทั้งSAOวู่หยานก็ถือเป็นที่หนึ่งอีกเช่นกัน!
ในเวลานี้เขาก็ประหนึ่งเป็นมนุษย์ที่ครอบครองบ่อน้ำมัน เขารวยขนาดนั้นเลยไงล่ะ…….
ณ ตอนนี้ วู่หยานกำลังคุยกับซาจิและชิออนอยู่……
“พี่ชาย พี่…รวยมาก….” ซาจิอึ้งมองจำนวนตัวเลขเงินโชว์บนหน้าจอผู้เล่นของวู่หยาน ตัว0นี่เรียงยาวจนเธอตาลาย “พี่ตัวคนเดียวแต่กลับมีเงินมากกว่ากิลด์ที่มีสมาชิกหลายคน….”
ในที่สุดซาจิก็ยอมกดตกลงรับเงินและไอเทมที่วู่หยานส่งให้ ใกล้ตัวซาจิ ชิออนยื่นคอเข้ามามองก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเต้นแร้งเต้นกาดีใจใหญ่ “เย้!คราวนี้หนูจะได้มีเงินไปซื้อวัตถุดิบมาทำน้ำยาแล้ว!!”
“เงินนั่นมันไม่ใช่ของเธอนะ ยัยบ๊อง…..” วู่หยานเหลือกตาขาวใส่ชิออน
นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้ วู่หยานกับกิลด์ภาคีแมวดำก็ใกล้ชิดกันขึ้นเรื่อยๆจนสนิทกันแล้ว
สาเหตุเป็นเพราะในรายชื่อเพื่อนของเขา มีชื่อของ ซาจิ กับ ชิออน เพิ่มเข้ามา โดยมีสองคนนี้เป็นสื่อกลางเขากับคนอื่นๆจึงสนิทกันมากขึ้นจนสุดท้ายกลายมาเป็นร่วมมือกัน
ทุกๆวันหลังจากวู่หยานกลับมาจากไปฟาร์มเลเวล เขาก็จะโยน อุปกรณ์ และ ไอเทม ที่ไร้ประโยชน์กับเขาให้ภาคีแมวดำทั้งหมด ให้อีกฝ่ายช่วยเขาเปลี่ยนพวกมันเป็นเหรียญCor โดยภาคีแมวดำก็จะได้ส่วนแบ่งค่าทำงานหรือไม่ก็เป็นอุปกรณ์ดีๆสักอย่างสองอย่าง (Corชื่อค่าเงินในเกม)
สาเหตุที่ร่วมมือกันก็เพราะถ้าเอาไปขายกับNPCราคาที่ขายได้มันจะต่ำแสนต่ำ แต่ถ้าให้ภาคีแมวดำไปตั้งแผงลอยคอยขายให้ วู่หยานก็จะได้เงินมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นไอของไร้ประโยชน์ในสายตาเขา กลับเป็นของแรร์ในสายตาผู้เล่นทั่วไปและภาคีแมวดำ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายขึ้น และก็เพราะการร่วมมือนี่จึงทำให้กิลด์ภาคีแมวดำพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกว่าเนื้อเรื่องเดิมไม่รู้ตั้งกี่เท่า
ส่วน ชิออน ก็กลายเป็นนักปรุงยาของกิลด์ไป กับตัวเธอที่ต่อสู้ไม่เก่งแล้วถือว่าเป็นตำแหน่งที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมซาจิถึงได้มาเรียกวู่หยานว่าพี่ชาย มันเป็นเพราะมีครั้งนึงวู่หยานเผลอหลุดเรียกเธอว่า ‘ยัยหนูซาจิ’ เข้า นี่ทำให้ซาจิที่เดิมหวาดกลัวต่อโลกSAOก็ราวกับได้เจอที่พึ่งพา ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาแต่เรียกวู่หยานว่าพี่ชายท่าเดียว
ด้วยสาเหตุนี่แหละ น้องสาวคนที่สองของวู่หยานต่อจากโคโทริจึงถือกำเนิดขึ้น……
“นี่หนูว่านะมาเทรด(แลกเปลี่ยน)กันทุกวันแบบนี้ไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ?” ชิออนยกมือทั้งสองมาเท้าแก้มแล้วนั่งโยกตัวไปมาบนเก้าอี้ “หยาน ทำไมนายไม่เข้าร่วมกิลด์ภาคีแมวดำซะเลยล่ะ? แบบนั้นมันจะไม่สะดวกกว่าหรือไง?”
ได้ยินซาจิก็ทำหน้าคาดหวังมองวู่หยาน เจอแบบนี้เขาก็ได้แต่ฝืนยิ้ม “ก็ได้นะ แต่พวกเธอสามารถตามฉันทันเหรอ?”
ซาจิกับชิออนพูดไม่ออกทันที……
“อ๊ะจริงสิ พี่ชาย…..” ซาจิหันไปมองวู่หยาน “หัวหน้าบอกมาว่า ตัวเองได้รับข้อความแจ้งข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีประชุมวางแผนจัดการบอสชั้นที่1ที่จัตุรัสเมืองน่ะ!”
วู่หยานยกคิ้ว ก่อนยิ้มมีความสุข “ประชุมวางแผน? อย่าบอกนะว่ามีคนหาห้องบอสเจอแล้ว?”
ซาจิพยักหน้า ได้รับการยืนยัน มุมปากวู่หยานก็โค้งขึ้น “ในที่สุดก็เจอแล้ว….”
“พี่ชายจะไปงั้นเหรอ?….” ซาจิถาม “ถ้างั้นพวกเรา….”
“เลิกคิดจะตามไปด้วยเลย!” วู่หยานพูดปฏิเสธทันที “พลังของพวกเธอถึงจะพัฒนาเร็วขึ้นในช่วงนี้ แต่คิดจะไปสู้กับบอสประจำชั้นน่ะยังเร็วไป ฉันว่ารอให้พร้อมกว่านี้ก่อนเถอะ……”
“นี่…ก็ได้….”
วู่หยานหัวเราะแล้วยกมือลูบหัวซาจิไปมา ในขณะที่ความคิดเขาก็ได้บินไปไกลแสนไกล…..
“พรุ่งนี้อย่างงั้นสินะ……”