บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 349 คนใหญ่คนโตอยากเจอตูงั้นเหรอ?
ปัจจุบันแปลถึง 1951 ตอน สนุกมากครับ รีวิวมีทักมาสอบถามได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยาย
SGS บทที่ 349 – คนใหญ่คนโตอยากเจอตูงั้นเหรอ?!
สายสีแดงดุจเส้นเลือดได้ส่องแสงไปตามเปลือกนอกของดาบทรายเหล็ก โดยที่ข้างในก็กำลังถูกยกระดับขึ้น ไม่นานเส้นสายสีแดงก็ได้ซึมหายไปเข้าไปในตัวดาบหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการแปรสภาพ
วู่หยานโยนดาบทรายเหล็กเล่มสุดท้ายเข้าคลัง แล้วถอนหายใจฟู่จากนั้นสะบัดมือไปมา
หลายชั่วโมงที่เขาต้อง ‘จับ’ และ ‘โยน’ ดาบเขาคลังไม่หยุด การทำซ้ำไปมานี่แทบทำมือเขาไร้ความรู้สึก ตอนนี้วู่หยานเข้าใจความรู้สึกของแรงงานสมัยก่อนที่ต้องทำอะไรซ้ำๆแบบนี้แล้ว……..
…………………..
ชื่อ : วู่หยาน
ความสามารถ : แวมไพร์สายเลือดแท้ Eternal Arms Mastership Electro Master LV.5
อุปกรณ์ : เกทออฟบาบิโลน D>C
ซัมมอน : มิซากะ มิโคโตะ , คัตซึระ ฮินางิคุ , อิคารอส , แอสเทรีย , ฟราน สคาร์เลท , โชคุโฮ มิซากิ , คินุฮาตะ ไซไอ , ทาคิสึโบะ ริโกะ , เฟรนด้า และ น้องสาวมิซากะ(20,000)
แต้มอุปกรณ์ : 101,000
แต้มไอเท็ม : 760,000
แต้มอบิลิตี้ : 206,000>6,000
แต้มอัญเชิญ : 375,000
เลเวล : 68
…………………….
หนึ่งพันดาบทรายเหล็กทำได้แค่เลื่อนระดับจากDเป็นC ถึงวู่หยานจะคาดเดาไว้ก่อนแล้วแต่เขาก็อดที่จะรู้สึกผิดหวังหน่อยๆไม่ได้
ก่อนหน้านี้ วู่หยานได้บอกตัวเองในใจแล้วว่ามากที่สุด ดาบทรายเหล็ก ก็ทำได้แค่ เลื่อนระดับจากDเป็นC แต่ลึกๆภายในเขาก็หวังว่าเป็นจะโชคดีอัพระดับเป็นBได้
เพราะตามที่ระบบมันบอก เกทออฟบาบิโลนของกิลกาเมซมันอยู่ระดับBหรือยุทธภัณฑ์ฟ้า!
แน่นอนว่าระดับBก็ยังแบ่งย่อยออกอีกเป็น ต่ำ กลาง สูงสุด ต่อให้เขาดื้อด้านใช้ดาบทรายเหล็กดันจนอัพคลังตัวเองเป็นระดับBได้ เกทของเขาก็ไม่อาจสู้ของตู้ทองมันได้อยู่ดี………
ต้องรู้ก่อนว่าอุปกรณ์ต่างๆในคลังของป๋ากิลมันมากมายมหาศาลขนาดไหน แค่ระดับDก็มีนับไม่ถ้วนแล้ว ส่วนระดับCก็มีเยอะไม่แพ้กัน และแม้แต่ระดับBขั้นสูงสุดที่แทบจะไม่ต่างจากระดับA (EA) ”อีนูม่า เอลลิช” [ดาบผ่าโลกเเละสวรรค์ออกจากกัน] มันก็ยังมีเลย!
เทียบกับป๋ากิลแล้ว ทางเขายังห่างอยู่มาก ในคลังนี่แทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ……..
วู่หยานบิดขี้เกียจไปมา ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูห้องเตรียมลงเดินไปข้างล่าง ตอนที่เขาเปิดประออกไปก็เจอเข้ากับกำปั่นเล็กๆที่พุ่งเข้ามายังอกเขา
“ฮินางิคุ?” วู่หยานมองฮินางิคุที่ทำหน้าตกใจ จากนั้นเลื่อนสายตามามองยังอกตนที่โดนทุบเขาก็กรอกตามองบนใส่เธอ
“เฮ้ นี่ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธหรือไง?”
ได้ยิน ฮินางิคุก็สะดุ้งรีบถอนมือกลับ จากนั้นพูดด้วยความกระดากอาย “มะ…ไม่ใช่นะ ก็แค่นายดันโผล่ออกมาตอนฉันกำลังจะเคาะประตูเรียกพอดีเองนี่ ฉันไม่ผิดนะ……”
“เคาะประตู? หาฉัน? มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”
คำถามของเขาทำให้ฮินางิคุนึกจุดหมายเดิมได้ “ไม่ใช่ฉันหานาย แต่เป็นผู้คุมกฎที่มาหานาย!”
“ผู้คุมกฎ?” วู่หยานขมวดคิ้วแล้วยกมือขึ้นกอดหน้าอกตน “หนึ่งเลยนะ ฉันไม่ได้ไปขโมยของใคร สอง ไม่ได้ไปปล้นด้วย และสาม ฉันไม่ได้ไปลวนลามผู้หญิงคนอื่นซะหน่อย แล้วคนพวกนั้นมาทำซากอะไร? คงไม่ได้มาชวนนั่งจิบน้ำชาหรอกนะใช่มั้ย หรือว่าการอยู่เฉยๆที่บ้านกับเมียตัวเองมันผิดด้วย?”
ในเวลาแบบนี้ยังมาพูดไร้สาระอีก ฮินางิคุโมโหทันทียกหมัดชกเข้าที่ท้องวู่หยาน ทำเขากระอักลมออกจากปอด
“ใช่เวลาเล่นมั้ย? ทำตัวดีๆหน่อย!”
มองดูฮินางิคุที่ยกหมัดเตรียมชกซ้ำ วู่หยานก็รีบส่ายมือไปมา “จ๋าจ้ะ เข้าใจแล้วจ้า ทางนี้ผิดเองครับ ได้โปรดอย่าองค์ลงเลยนะ!”
ฮินางิคุมองค้อนวู่หยาน หลังจากพูดด้วยคิ้วที่ขมวด “คนพวกนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องนะ เห็นบอกว่าคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนนี้อยากเจอนายแนะ”
“คณะกรรมการบริหาร!” วู่หยานสตัน
คณะกรรมการบริหาร คือกลุ่มคนที่มีอำนาจสูงที่สุดใน Silvaria World Academy ประกอบไปด้วย สามคณบดี และเก้าผู้อาวุโส ซึ่งแต่ละคนก็มีพลังไม่ต่ำกว่าแรงค์9! (เวล80+)
ตาแก่ระดับนั้นอยากเจอตูงั้นเหรอ?
วู่หยานขมวดคิ้วแน่น “แล้วพวกผู้คุมกฎได้บอกมั้ยว่า คณะกรรมการเรียกฉันไปทำไม?”
“ฉันถามแล้วนะ…..” ฮินางิคุส่ายหน้า “แต่คนพวกนั้นบอกไม่รู้น่ะ”
พูดเสร็จ ฮินางิคุก็มองวู่หยาน “หยาน นายจะไปมั้ย?”
ได้ยินวู่หยานก็ก้มหน้าใช้ความคิด “ถึงจะไม่รู้ว่าตาลุงพวกนั้นมีเป้าหมายอะไร แต่อีกฝ่ายเป็นถึงผู้มีอำนาจสูงสุดของโรงเรียน ไปเจอไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย”
วู่หยานเพิ่งพูดจบ ฮินางิคุก็พูดสวนขึ้นทันที “พวกเราจะไปกับนายด้วย!”
วู่หยานยิ้มแล้วยกมือลูบผมสีชมพูของเธอ “ไม่ต้องหรอก ถ้าคณะกรรมการคิดหาเรื่องฉันจริงก็คงสั่งผู้คุมกฎมาลากตัวฉันไปแล้วละ ไม่ใช่มารอให้เธอขึ้นมาเรียกแบบนี้ ฉันไปคนเดียวน่ะดีแล้ว”
“แต่……” ฮินางิคุก้มหน้าลงด้วยสีหน้ากังวล เห็นแบบนี้วู่หยานก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้ เขาเอื้อมมือออกมาดึงตัวเธอเข้ามากอด
สีหน้ากังวลของฮินางิคุถูกแทนที่ด้วยความเขินอายทันที เธอยกมือทั้งสองขึ้นมาทาบบนอกเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโกรธหน่อยๆ “นายไอ้บ้า เวลาแบบนี้ก็ยังคิดจะฉวยโอกาศฉันอีกนะ!”
วู่หยานยืดคอขึ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าชอบธรรม “กอดเมียตัวเอง เค้าไม่เรียกว่าฉวยโอกาศหรอกนะ! อื้ม!”
พูดเสร็จเขาก็ก้มหน้าเอาหน้าผากแนบกับหน้าผากฮินางิคุ ทำเธอหน้าแดงแปร๊ด คำที่คิดจะด่าจำต้องกลืนกลับลงคอไปอย่างช่วยไม่ได้
วู่หยานพูดยิ้มๆ “มันจะเป็นปัญหาเอาได้นะถ้าไม่ไปน่ะ อีกอย่างพี่เฟยเฟยก็บอกพวกผู้คุมกฎมันน่ารำคาญมากด้วย แถมอีกฝ่ายก็พูดแค่ชื่อฉัน ดังนั้นคงไม่ให้พวกเธอไปด้วยหรอก”
ได้ยินแบบนี้ฮินางิคุก็เงียบไปชั่วครู่ แล้วพูดด้วยสีหน้าจนปัญญา “งั้น….นายก็ระวังตัวด้วยนะ”
วู่หยานมองบนใส่ฮินางิคุ “ฉันไม่ได้ไปป่าสัตว์อสูรน่ะถึงจะได้ต้องระวัง อีกอย่างตาแก่พวกนั้นก็คงไม่คิดจะลงมือกับฉันในโรงเรียนหรอกมั้ง?”
เห็นฮินางิคุทำท่าอยากจะพูดอะไรอีก วู่หยานก็พูดขัดเธอก่อนทันที “เอาละ เธอแค่รอฉันกลับมาก็พอ!”
พูดเสร็จก็ไม่รอให้เธอท้วง วู่หยานดึงมือเธอเดินลงบรรไดทันที
“หยาน….” มิโคโตะที่จ้องมองบันไดอยู่ก่อนแล้วจึงเห็นทั้งสองคนเดินลงมา เธอร้องเรียกวู่หยาน เสียงของเธอได้ทำให้ผู้คัมกฎหันไปมองตาม
ชายวัยกลางคนมองสำรวจวู่หยาน แล้วถามว่า “นายคือวู่หยาน?”
“ฉันเอง!” วู่หยานจับมือมิโคโตะแล้วบีบเบาๆบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นเดินมาตรงหน้าชายวัยกลางคน
มองสำรวจผู้คุมกฎทั้ง20คน วู่หยานร้องในใจ ทั้งหมดนี่เป็นแรงค์7ขั้นสูงสุดหมดเลย ส่วนตาลุงตรงหน้าเขาเป็นแรงค์8 ด้วยระดับพลังของคนพวกนี้จึงไม่แปลกที่เป็นผู้คุมกฎ เพราะในโรงเรียนไม่นับกลุ่มเขาก็มีไม่เกิน5คนหรอกที่จะรับมือตาลุงกับพวกได้
“พวกท่านคณะกรรมการบริหารต้องการเจอนาย……ตามพวกเรามา”
วู่หยานพยักหน้า อิคารอสกำลังก้าวเดินมาหามาสเตอร์ตนก็โดนฮินางิคุจับมือไว้ก่อน เธอส่ายหน้าไปมา
มิโคโตะมีสีหน้าลังเล จากนั้นหันไปถามฮินางิคุ “ฮินะ เราเตรียมตัวหนีกันเลยดีมั้ย?”
ฮินางิคุได้ยินก็กรอกตามองบน “ดูพูดเข้า ไม่เป็นไรหรอก คนพวกนั้นน่าจะไม่ได้คิดหาเรื่องพวกเรา……”
“แต่ฉันกังวลนี่…..” มิโคโตะยิ้มขื่น แล้วพูดต่อด้วยเสียงไม่พอใจ “ยัยบ้า โชคุโฮ ไม่รู้ว่าหายหัวไปอยู่ที่ไหน ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ในเวลาแบบนี้ถ้ามียัยนั่นอยู่ก็น่าจะช่วยคิดหาทางออกดีๆได้…….”
คำพูดของมิโคโตะทำฮินางิคุขมวดคิ้วตาม “พูดก็พูดเถอะ นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วนะ ไม่ใช่แค่ไม่มาหา แต่ทั้งที่อยู่พวกเราก็ยังไม่รู้เลย แถมไม่มีข่าวอะไรด้วย…….”
“ยัยบ้านั่นต้องวางแผนอะไรไม่ดีอีกแน่! ไม่ต้องสงสัยเลย!”
ได้ยินเสียงไม่ชอบใจของมิโคโตะ ฮินางิคุก็ยิ้มแห้งๆ
ปัจจุบันแปลถึง 1951 ตอน สนุกมากครับ รีวิวมีทักมาสอบถามได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยาย