บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 347 พลังใหม่ล่ะ!
//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล
ปัจจุบันมีทั้งหมด 1920 ตอน จุกๆ
SGS บทที่ 347 – พลังใหม่ล่ะ!
ชั่วขณะที่วู่หยานล้ม Floor Master ได้คริสตัลของแต่ละชั้นก็ได้เรื่องแสงจ้าดึงดูดสายตาของทุกคนในหอคอย!
“นักเรียนพิเศษ วู่หยาน ผ่านชั้น5!”
“นักเรียนพิเศษ วู่หยาน ผ่านชั้น5!”
“นักเรียนพิเศษ วู่หยาน ผ่านชั้น5!”
เสียงแจ้งเดือนดังก้องจากลูกคริสตัลไปทั่วทุกชั้น ทำให้นักเรียนหลายคนอ้าปากค้าง ตาแทบถลนออกมา
“วู่หยาน? หมายถึงวู่หยานคนนั้น?”
“ผ่านชั้น5ได้แล้ว? อย่างที่คิดเลยเขามีพลังที่เทียบเคียงได้กับสิบอันดับแรก!”
“ก่อนหน้าไม่นานนี้เด็กใหม่ที่ชื่อ มิซากะ มิโคโตะ ก็ชิงอันดับ4ไป แล้วตอนนี้หมอนี้ก็ผ่านชั้น5ได้แล้วอีก? นี่เด็กใหม่พวกนี้คิดจะท้าทายสวรรค์หรือไงกัน?”
“ท่าน มิซากะ มิโคโตะ เองก็ดูเหมือนจะเชื่อฟังคำพูด วู่หยาน มากเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าเขาทุบหัวเธอไปแต่กลายเป็นว่าเธอกลับทำหน้าหงอยๆสำนึกผิดแทนที่จะโกรธ นี่….พวกนายคิดว่า วู่หยาน คนนั้นจะเก่งกว่า ท่าน มิซากะ มิโคโตะ รึเปล่า?”
“เป็นไปไม่ได้! ท่านมิโคโตะสามารถปะมือกับท่านซิลฟ์ได้อย่างสูสีเลยนะ!ถ้าวู่หยานเก่งกว่าจริงล่ะก็เขาไม่กลายเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดไปเลยรึไง?”
“ใช่ๆ เห็นด้วยเลย แถมเจ้าหญิงก็ดูเหมือนจะไม่ได้ยอมรับวู่หยานด้วย……”
“แล้วก็เจ้าชาย คายะ กัย เจ้าชาย จาฟา ก็ไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลยด้วย…….”
“สิบอันดับแรกน่าจะเป็นลิมิตรของเขาแล้วแหละ!”
“ไม่ใช่สิ ยังมีคุณ นางฟ้า อีกนี่?”
“นี่แกเชื่อจริงๆเหรอว่าโลกนี้มีนางฟ้าอยู่จริงน่ะ?”
“ทำไมไม่ล่ะเฮ้ย! แกไม่รู้เหรอว่าพวกนักเรียนพิเศษเห็นนางฟ้ากับตาตัวเองเลยนะ!”
“บางทีมันอาจจะเป็นยุทธภัณฑ์หรือวิชาบางอย่างก็ได้นะ……”
“ฮือออ เค้าอยากเห็นนางฟ้าอ่า……”
………………………
เดิมทีความนิยมของวู่หยานเราได้ตกไปนิดหน่อยเนื่องจากการมาแรงแซงโค้งของมิโคโตะกับนางฟ้าผมชมพู ทว่าตอนนี้เองชื่อเสียงของวู่หยานก็ได้กลับมาอีกครั้งกลายเป็นชื่อที่ทุกคนพากันพูดถึง……….
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคน มีคนที่เฉยชาหรือไม่ชอบขึ้หน้าเขาอยู่เหมือนกัน อาทิเช่น บิงเมียนที่มีหนี้แค้นกับวู่หยาน ส่วนทางพี่ชายของเขา ไป่หลิง ได้เริ่มรู้สึกชื่นชมวู่หยานในใจ……….
…………………..
หลังจากชนะวู่หยานก็ไม่ได้เร่งรีบขึ้นไปชั้น6 เพราะถึงขึ้นไปเขาก็คงเจอแต่พวกสิบอันดับแรกเท่านั้น เพราะงั้นบางทีตอนนี้ชั้น6ก็คงไม่มีใครอยู่ อย่าลืมว่าไอ้สิบอันดับแรกนี่ต่างก็เป็นผู้นำของขุมกำลังใหญ่ต่างๆ ดังนั้นเลยไม่มีเวลาว่างมาหอคอยบ่อยนัก…….
ด้วยเหตุนี้วู่หยานจึงเดินหอบของรางวัล100,000แต้มโรงเรียนกลับคฤหาสน์ไปทันที ตอนนี้แต้มอบิลิตี้เขาเพียงพอที่จะซื้ออันที่อยากได้แล้ว!
เปิดประตูเข้าคฤหาสน์ไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือ ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส นั่งอยู่ในห้องโถง
“มาสเตอร์…….”
อิคารอสสังเกตเห็นวู่หยานทันที เธอลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วเดินมาอยู่ข้างตัวเขา ทุกครั้งที่วู่หยานปรากฏอิคารอสก็จะเดินประกบติดเป็นเงาตามตัวเขาอยู่ตลอด แต่ว่านี่ไม่เพียงไม่ทำให้วู่หยานรำคาญเขากลับรู้สึกชอบใจมีความสุขมาก
“กลับมาแล้วเหรอ?” ฮินางิคุกับมิโคโตะเองก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว……แม้ว่าจะไม่เร็วเท่าอิคารอสก็เถอะ เห็นภาพนี้วู่หยานก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ในใจรู้สึกอบอุ่น
บางทีถ้าตอนนี้อยู่ๆเขาโดนดึงตัวกลับโลกเดิมล่ะก็ เขามั่นใจเลยว่าตัวเองต้องได้เป็นบ้าแน่ เพราะเขาไม่อาจขาดพวกเธอไปได้อีกแล้ว…….
ทันใดนั้นเอง ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส ก็ใจเต้นรัวแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ……
ด้วยความที่ว่าชีวิตถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทุกครั้งที่วู่หยานรู้สึกอะไรมันก็จะส่งผ่านมาให้พวกเธอรู้สึกด้วย นี่ทำให้พวกเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่เขากำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้………
แล้วคำถามคือ….ทั้งสามสาวรู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า? ตัดสินจากสีหน้าแดงๆของพวกเธอในเวลานี้ก็คงจะรู้แหละ……
“นะ…นี่เป็นของที่นายอยากได้ไง! อะ… เอ้า! รีบเอาไปเร็ว!”
มิโคโตะพูดติดๆขัดๆใส่วู่หยานด้วยใบหน้าแดงก่ำ จากนั้นเธอก็โยนแหวนมิติให้เขาแล้วยกมือปิดหน้าแดงๆนั่นก่อนจะกลับหลังวิ่งจูดหนีหายไป เห็นแบบนี้ฮินางิคุก็รีบตามไปด้วย แต่ที่น่าแปลกใจคืออิคารอสที่ปกติติดตัวเขาแจกลับตามสองสาวไปด้วย (@เขิลจนวิ่งหนีหายกันหมด5555)
วู่หยานคว้าแหวนมิติไว้ ขณะที่ใช้สายตาอึ้งๆมองตามสามสาวที่พากันวิ่งหนีไป
ไม่เอาน่า ทั้งๆที่พวกเราก็รู้สึกเหมือนกันแท้ๆแล้วจะวิ่งหนีไปทำไมล่ะเนี่ย???
ผู้หญิงนี่น่า…….
วู่หยานส่ายหน้าแล้วเดินกลับห้องตัวเอง จากนั้นหยิบแหวนมิติที่มิโคโตะปาให้ขึ้นมา
วู่หยานลูบแหวนมิติด้วยสีหน้าครุ่นคิด ผ่านไปครู่นึงเขาก็ยื่นมือออกมาด้านหน้าแล้วใช้นิ้วกรีดบนอากาศว่างเปล่า!
หน้าจอระบบปรากฏออกมา วู่หยานไล่หาอบิลิตี้ที่เขาเล็งไว้……
Knight of Owner(อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่า) : ไม่ว่าสิ่งๆนั่นจะเป็นอะไรเมื่อถูกยูสเซอร์สัมผัสก็จะแปรสภาพกลายเป็น อุปกรณ์ระดับ D ทันทีและยังถูกทำให้กลายเป็น สมบัติวีรชน(Noble Phantasm) อีกด้วย ถ้าสิ่งของนั่นเดิมทีมีระดับสูงกว่าDเมื่อถูกแปรสภาพก็จะยังคงระดับเดิมไว้ ; 200,000แต้มอบิลิตี้
ใช่แล้ว Knight of Owner(อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่า) ไงล่ะ! เป็นNoble Phantasmของ แลนเซล็อต!!
ก่อนหน้านี้ตอนที่วู่หยานนั่งดูFATE เขาก็คิดแล้วว่า เกทออฟบาบิโลน กับ Knight of Ownerนี่ช่างเหมาะสมกันกันเสียจริง! ราวกับเกิดมาเพื่อเป็นคู่ผัวเมียกันเลย!!!
เกทออฟบาบิโลน จะทรงพลังขึ้นตามจำนวนอาวุธที่เก็บไว้ข้างใน ส่วน Knight of Owner ที่สามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้มาเป็น Noble Phantasm เช่น เสา กิ่งไม้ จอบ หรือ เครื่องบินรบ แม้กระทั่ง เรือดำน้ำ ก็ทำได้!
ถ้าผสานความสามารถทั้งสองเข้าด้วยกันล่ะก็!
แม้ว่า Knight of Owner จะทำได้แค่เปลี่ยนสิ่งของเป็น Noble PhantasmระดับD แต่ถึงระดับมันจะกากช่องว่างนี้ก็สามารถถมได้ด้วยจำนวน! เขาสามารถเลี้ยง เกทออฟบาบิโลน ให้เป็นระดับAได้ด้วย อุปกรณ์ระดับD!
ตามทฤษฎีมันทำได้ก็จริง…..แต่มันต้องอีกนานเท่าไหร่ล่ะ?….เฮ้ออออ
เขาเคยถามระบบมันว่า ระหว่างอุปกรณ์ระดับD กับ Noble PhantasmระดับD อันไหนจะทำให้ เกทออฟบาบิโลน เติบโตได้ดีกว่า ส่วนคำตอบก็คือ Noble Phantasm!
และ Knight of Owner ก็สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ระดับต่ำเป็น Noble Phantasm ระดับ D ได้!
อีกอย่างเมื่ออุปกรณ์หรือยุทธภัณฑ์ถูกเปลี่ยนเป็น Noble Phantasm (สมบัติวีรชน) พลังก็จะเพิ่มขึ้นด้วย!
อย่าลืมว่า Noble Phantasm ก็คือปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ มันเป็นตัวแทนหรือตัวตนของวีรชนคนนึงและเรื่องราวตามประวัติศาสตร์ของพวกเขา Noble Phantasmสามารถชนะยุทธภัณฑ์ในระดับเดียวกันได้ง่ายๆเลย
ข้อดีอีกอย่างของ Knight of Ownerก็คือเมื่อของอะไรสักอย่างถูกเขาเปลี่ยนเป็น Noble Phantasm แล้วก็จะไม่มีใครใช้ต่อได้อีก จะมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ใช้ได้ ต่อให้ถูกขโมยไปเพียงแค่หนึ่งความคิดมันก็จะบินกลับมาหาเขาเอง
ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่ว่ามาทำให้ วู่หยาน ตัดสินใจลงทุนซื้อ Knight of Owner!
แม้ว่าวู่หยานจะงุนงงว่าทำไม Noble Phantasmของแลนเซล็อตถูกระบบจัดให้เป็น อบิลิตี้หมวดพรสวรรค์ แทนที่จะเป็น อุปกรณ์ ก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ดีเขาจะได้ไม่ต้องกลัวโดนใครขโมยไป………..