บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 6 สายตาที่โหดร้าย
บทที่ 6 สายตาที่โหดร้าย
ที่ด้านหลังของถนนสายเล็กๆ ชายสี่คนหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัววิ่งเข้ามา ชายตัวเตี้ยที่สวมชุดนักเรียนที่วิ่งนำมาคือหลิวเสี่ยวกวงหลานชายของลำไส้หมู ส่วนทั้งสามคนที่วิ่งตามเขามานั้นมองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีโดยเฉพาะคนหัวโล้นที่อยู่ด้านซ้ายมือของหลิวเสี่ยวกวง หน้าตาน่าเกลียด ดวงตาดุร้ายราวกับนกอินทรี
ใบหน้าของฉู่ถิงซีดลง ร่างกายที่มีเสน่ห์ของเธอสั่นด้วยความกลัว แต่ไม่ว่าถานเสี่ยวเทียนจะพูดอะไร เธอก็ทำเพียงส่ายหัวไม่เชื่อฟัง “ไม่! ถานเสี่ยวเทียนนายขี่จักรยานไปกับฉันดีกว่า พวกนั้นตามเราไม่ทันแน่นอน”
ถานเสี่ยวเทียนถอนหายใจ เขายื่นมือออกไปลูบผมสั้นของฉู่ถิงจนยุ่งเล็กน้อย “ไม่ทันหรอก”
เขาแอบด่าตัวเองอย่างลับๆ ในใจ
ในสองวันนี้แกอยู่สบายเกินไปจนสูญเสียการระวังตัวไปหมดแล้วหรือไงถานเสี่ยวเทียน? หากเป็นเมื่อก่อนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่แกจะไม่สังเกตถึงไอ้พวกนี้!
เขาหันหลังกลับและดึงฉู่ถิงไปไว้ข้างหลังเขา เงยหน้าขึ้นเผชิญกับหลิวเสี่ยวกวง
หลิวเสี่ยวกวงอายุเพียงแค่สิบเจ็ดปี แต่ใบหน้าที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยความรุนแรงซึ่งดูไม่เข้ากับอายุของเขาเลยแม้แต่น้อย “ถานเสี่ยวเทียนแกเก่งมากหรือไงถึงได้ไม่ยอมให้ฉันเข้าทีมบาสเกตบอล ดี! วันนี้ฉันจะหักขาของแกซะ มาดูว่าในอนาคตแกจะเล่นบาสเกตบอลได้อย่างไร”
ฉู่ถิงโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังของถานเสี่ยวเทียนอย่างกล้าหาญ เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา “หลิวเสี่ยวกวง ถ้านายกล้าที่จะทำร้ายเรา ฉันจะไปบอกครู นาย… นายจะไม่สามารถสอบเข้าวิทยาลัยได้นะ”
“ยัยฟันเหล็กบัดซบนี่ หุบปากเน่าๆ ของเธอให้เหล่าซือเดี๋ยวนี้! ฉันมาแก้แค้นไอ้เสี่ยวเทียนมันเกี่ยวอะไรกับผู้หญิงน่าเกลียดอย่างเธอ? รีบไปให้พ้นๆ หน้าของฉันซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันคนนี้ใจร้าย”
“เด็กน้อยเอ๋ยช่างไม่รู้อะไรเสียแล้ว! เด็กสาวที่มีหุ่นดีอย่างนี้จะเรียกว่าน่าเกลียดได้อย่างไร?” ชายหัวโล้นหยุดหลิวเสี่ยวกวงที่กำลังโมโห ดวงตาที่น่าขยะแขยงของเขากับลูกน้องอีกสองคนมองไปที่ฉู่ถิง “ขายาวแบบนี้ ภายในเสื้อผ้านั่นคงจะมีน้ำมีนวลไม่เบา”
วันนี้เป็นวันเสาร์ฉู่ถิงจึงไม่ใส่ชุดนักเรียน เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่มีกระเป๋าหลังทำให้มองเห็นหุ่นที่สวยงามของเธอได้อย่างชัดเจน
หลิวเสี่ยวกวงรู้สึกกังวลขึ้นมา “พี่ซานอิง วันนี้ผมขอให้คุณมาช่วยผมต่อสู้ ไม่ใช่มาเพื่อหยอกล้อหญิงสาวนะครับ”
ซานอิงหัวเราะและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลเสี่ยวกวง ยกไอ้สารเลวน้อยคนนี้ให้กับพี่ได้เลย พี่สัญญาว่าขาของมันจะต้องหักทั้งสองข้าง แต่ผู้หญิงคนนี้เองก็พลาดไม่ได้เหมือนกัน ดูสิ เอวของเธอ ขาของเธอและ…”
ทั้งสองกระซิบกันเบาๆ จนไม่มีใครได้ยิน
ถานเสี่ยวเทียนใช้โอกาสนี้หันหลังกลับ “หัวหน้าห้อง ฉันจะหยุดพวกมันเอาไว้ส่วนเธอรีบหนีไปใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรแจ้งตำรวจให้เร็วที่สุด เธอได้ยินที่ไอ้หัวโล้นคนนั้นพูดแล้วใช่ไหม? ถ้ามันจับเธอได้ ผลที่ตามมามันจะต้องแย่มากแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่ถิงที่กำลังหวาดกลัวก็ได้สติขึ้นมาทันที เธอรู้ว่าคำพูดของถานเสี่ยวเทียนนั้นสมเหตุสมผลที่สุดแล้วในเวลานี้เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เธอจะสามารถช่วยเขาได้
เธอรีบคว้าแฮนด์รถจักรยานพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า “ถ้าสู้ไม่ได้ก็ให้วิ่งหนีให้เร็วที่สุดเข้าใจไหม? ฉันจะพาตำรวจมาแน่นอน”
ฉู่ถิงหนีไปด้วยจักรยาน
“สาวน้อยอย่าเพิ่งไป พี่ชายคนนี้อยากจะตรวจร่างกายของเธอสักหน่อย” ซานอิงต้องการจะไล่ตามเธอ เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับถานเสี่ยวเทียนเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเขาวิ่งผ่านถานเสี่ยวเทียนไปทันใดนั้นคอของเขาก็ถูกใครบางคนคว้าเอาไว้จากด้านหลัง ร่างกายทั้งหมดของถูกเหวี่ยงไปกระแทกกับกำแพงอิฐข้างถนนอย่างแรง
กำแพงทั้งแผงสั่นสะเทือน ฝุ่นควันกระจายไปทั่ว เขาร้องออกมาราวกับกระดูกทั้งร่างหัก
ใครตีฉัน?
ในความพร่ามัว เขาเห็นนักเรียนมัธยมปลายผิวขาวกำลังเดินเข้ามา บีบคางของเขาด้วยมือข้างหนึ่งและพูดเบาๆ ว่า “ปากเสีย!”
ตึ้ง!
หัวโล้นซานอิงบินไปกระแทกกับกำแพงอิฐแข็งอีกครั้ง
เสียงดังทำให้ใบหน้าของหลิวเสี่ยวกวงและคนที่เหลือกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
มันต้องเจ็บมากแน่ๆ ใช่ไหม?!
แน่นอนว่าซานอิงไม่ทำให้ทุกๆ คนผิดหวัง เขาสลบไปพร้อมกับตาที่เหลือกขึ้น
ถานเสี่ยวเทียนหันกลับมา รอยยิ้มที่ชั่วร้ายทำให้ทั้งสามคนตัวสั่น
ฉู่ถิงจากไปแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นคนดีอีกต่อไป
“พวกแกทั้งสามตัวเข้ามาพร้อมกันเลย!”
“เอาไงดี?”
“ก็ใส่ดิเอ๋ รออะไร!”
ตุบตับ! ตุบตับ! ตุบตับ! แม่*เอ๊ย!
ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วทั้งถนนสายเล็กๆ แต่ไม่นานทุกๆ อย่างก็สงบลง
ถานเสี่ยวเทียนยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคง ส่วนหลิวเสี่ยวกวงและอีกสามคนตอนนี้กำลังคุกเข่าขอความเมตตาอยู่กับพื้น
“ถานเสี่ยวเทียนอย่าตีฉันอีกเลย ไม่สิ พี่เทียน พี่เทียนเพียงพี่เอ่ยออกมาผมยอมทำทุกอย่าง อย่าตีผมอีกเลยนะครับ”
ถานเสี่ยวเทียนท้าวเอวแล้วพูดออกมาว่า “พวกแกสองคนไปช่วยพยุงไอ้โล้นนั่นมาที่นี่และระหว่างเดินกลับมาให้พวกแกตบหน้าตัวเองด้วย หลิวเสี่ยวกวงแกเองก็ตบด้วยเหมือนกัน ตบแรงๆ และนับให้ฉันได้ยินด้วย”
“1 2 3…”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ…
เสียงที่ไพเราะของฝ่ามือที่กระทบกับผิวหน้าดังก้องกังวานไปทั่วถนนทั้งสาย
หลิวเสี่ยวกวงและทั้งหมดทรุดตัวลงกับพื้น มือของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของซานอิงจนดูน่ากลัว
ตอนนี้ชายหัวโล้นดูไม่น่าเกรงขามอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ปากของเขาบวมเป็นไส้กรอกจนเผยให้เห็นว่าฟันหน้าว่าบางซี่หลุดออกไป
ถานเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วนั่งยองๆ ก้มลงมองไปที่ชายหัวโล้นโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
ชายหัวโล้นนั้นอยู่ในเส้นทางสีดำมานานแล้ว
เขาเริ่มคลุกคลีกับสังคมมืดตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่นและได้พบกับคนที่ดุร้ายมามากมาย
แม้ว่าชายที่อยู่ข้างหน้าเขาจะยังเป็นแค่เด็ก แต่ดวงตาของเขานั้นกลับเย็นเยียบ โหดร้ายและน่ากลัว มีเพียงอาชญากรและนักฆ่าที่โหดร้ายเท่านั้นที่จะมีดวงตาเช่นนี้ได้ การจะมีแววตาแบบนี้มีแต่ต้องผ่านชีวิตและความตายมาเท่านั้นเพราะมันไม่สามารถฝึกฝนกันได้
“พี่ใหญ่จริงอย่างที่พี่ว่า มันเป็นผมเองที่ปากเสีย ผมให้สัญญากับพี่ใหญ่ว่าผมจะไม่โผล่หน้ามาให้พี่ใหญ่เห็นอีกเป็นครั้งที่สอง” ชายหัวโล้นร้องขอชีวิต
ท้ายที่สุดแล้วการพูดคุยกับคนฉลาดก็เป็นเรื่องง่าย ถานเสี่ยวเทียนพยักหน้า ลุกขึ้นและเดินจากไปด้วยใบหน้าเย็นชา
******
เร็วสิ เร็วกว่านี้ ถ้าเป็นแบบนี้มันจะทันได้ยังไง?
ฉู่ถิงอยากจะเปลี่ยนจักรยานเสือภูเขา Merida คันนี้ที่เธอกำลังขี่อยู่ให้กลายเป็นรถยนต์จนใจแทบขาด เพราะถึงแม้ขาของเธอจะยาว แต่เธอมีแรงน้อยเกินไปทำให้ความเร็วในตอนนี้นั้นแตกต่างจากที่เธอคิดไว้มาก สายตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาของเธอพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาตู้โทรศัพท์สาธารณะ
น่าแปลกที่ตู้โทรศัพท์ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในวันธรรมดา แต่วันนี้พวกมันกลับหายไป
ฉู่ถิงมองหาไปเรื่อยๆ และในที่สุดเธอก็พบตู้โทรศัพท์ตู้หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ตู้โทรศัพท์ตู้นั้นมีหญิงสาวที่แต่งกายอย่างมีสไตล์กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ เธอพูดกับคนในสายอย่างไม่รู้จบ
“หนังเรื่อง Who Am I เมื่อคืนนี้สนุกมาก แจ็กกี้ชานหล่อมากเลย เราต้องไปดูด้วยกันอีกรอบนะ” (เฉินหลง)
“จะบ้าเหรอ? จะให้ฉันไปบ้านของนายได้ยังไง? ฉันเป็นผู้หญิงนะ”
“ไม่มีทาง! ถ้าฉันไป ฉันกลัวว่านายจะเล่นบทคนพาลใส่ฉัน!”
ฉู่ถิงราวกับมดตัวน้อยที่อยู่บนหม้อไฟ เธอเดินวนรอบตู้โทรศัพท์สามครั้งแล้วจึงอ้อนวอนออกมา “พี่สาว ฉันมีเรื่องด่วนมากๆ ให้ฉันใช้โทรศัพท์ก่อนได้ไหม?”
หญิงสาวผู้ทันสมัยทำเพียงเบือนหน้าหนีโดยไม่สนใจฉู่ถิง
ฉู่ถิงทนไม่ไหวและตะโกนออกมาว่า “ฉันต้องการโทรแจ้งตำรวจ” จากนั้นเธอก็แทรกตัวเข้าไปเบียดหญิงสาวผู้ทันสมัยออกมาทันที
หญิงสาวผู้ทันสมัยอ้าปากค้างด้วยความตกใจและตกตะลึงในที่เดียวกัน
1.
1.
ก่อนที่เธอจะได้กดเลข 0 ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเธอ “หัวหน้าห้องไม่ต้องแจ้งตำรวจแล้ว ฉันอยู่นี่แล้ว!”
คลิก!
หูฟังโทรศัพท์ตกลงพื้น ฉู่ถิงซึ่งกังวลมาตลอดจนถึงตอนนี้รีบหันหลังกลับไปพร้อมกับน้ำตาเม็ดโตที่ไหลออกมา