บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 31 การเดินทางสู่ปินเฉิง 2
บทที่ 31 การเดินทางสู่ปินเฉิง 2
หม่าเหว่ยตบเรียกสติของจางต้าเผิงทันที
“แกเมามากไปแล้ว แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?!” หม่าเหว่ยเหยียดแขนของเขาไปปิดจางต้าเผิง “ตอนนั้นหัวหน้าห้องกำลังช่วยพี่เทียนทบทวนบทเรียน แกจำไม่ได้หรือไง?”
หม่าเหว่ยลากจางต้าเผิงออกจากห้องส่วนตัวไป
ถานเสี่ยวเทียนมองไปรอบๆ ยิ้มและพูดว่า “ต้าเผิงเมาไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงยิ้ม ทุกคนช่วยอย่าเอาเรื่องไร้สาระนี้ออกไปพูดข้างนอกได้ไหม? ที่ขอร้องไปก็เพื่อพวกนายเองนะ”
แคล็ก!
ถานเสี่ยวเทียนหักช้อนจีนในมือ
นี่ถือเป็นคำเตือนที่ส่งต่อไปถึงทุกๆ คน
ตอนนี้ทุกๆ คนกลัวจนรีบหันหน้าไปมองทางอื่น หลังจากพูดออกไปถานเสี่ยวเทียนก็เสียใจอย่างมาก ทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา คำพูดของเขาก่อนหน้านี้ค่อนข้างหนัก แต่มันก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
เพื่อนร่วมชั้นสองคนชายและหญิงเดินเข้ามา
ชายใส่แว่นขอบดำแม้จะอายุยังน้อย แต่ดูอวดดีอย่างมาก เขาชื่อซุนรุยเป็นสมาชิกของคณะกรรมการการศึกษาชั้นปีสาม ผลการเรียนของเขาติดสามอันดับแรกของโรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงมาโดยตลอด ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาเป็นนักวิชาการอันดับ 1 ในสาขาศิลปศาสตร์และยังสอบผ่านวิชาเอกจีนโบราณของมหาวิทยาลัยหยานจิงอีกด้วย
ส่วนผู้หญิงนั้นตัวสูงและผอมเพรียว เอวเรียวบางน่าหลงใหล ดวงตาโตของเธอที่กะพริบบนใบหน้ารูปไข่นั้นราวกับดวงดาวที่เจิดจ้า เธอคือถังอี้รู๋หนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการวรรณกรรมและศิลปะของปี 3 เธอเป็นนักเรียนวรรณกรรมที่เล่นเปียโนและร้องเพลงได้ดีและเธอก็มีผลสอบศิลปะที่ดีมาก เธอได้รับการตอบรับจากคณะขับร้องของวิทยาลัยดนตรีเซิงเทียนไว้ล่วงหน้า
“เสี่ยวเทียนนายไม่ต้องกังวล! เราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันทั้งนั้น ข่าวลือพวกนี้จะไม่หลุดออกไปแน่นอน” ซุนรุยเป็นชายหนุ่มที่มีความเป็นผู้ใหญ่ คำพูดของเขาเข้มงวดและรอบคอบไม่เหมือนกับนักเรียนมัธยมปลายทั่วไป
ถานเสี่ยวเทียนยกแก้วเหล้าขึ้นและชนแก้วกับเพื่อนร่วมชั้นทีละคน จากนั้นก็พูดสองสามคำซึ่งถือเป็นการขอโทษที่เขาเสียมารยาทกับทุกๆ คน แม้ว่าแก้วเหล้าของเขาจะไม่ใหญ่ แต่การชนแก้วขอโทษถึง 20 คน มันก็ทำให้เขาดื่มไปมากกว่า 3 ขวด
ถานเสี่ยวเทียน รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยที่จะดื่ม
เมื่อถึงตาของซุนรุย ถานเสี่ยวเทียนยกแก้วขึ้นอีกครั้งและพูดว่า “เฉวเว่ย ผมจะขอเดิมพันกับคุณด้วยเหล้าขวดนี้ว่าคุณจะสอบไม่ผ่านมหาวิทยาลัยหยานจิง” (เฉวเว่ย = คณะกรรมการวิชาการ)
แม้ว่าซุนรุยจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อน แต่เขาก็อายุเพียงแค่สิบเจ็ดหรือสิบแปดปีเท่านั้น เมื่อได้ยินว่าถานเสี่ยวเทียนท้าทายเขา เขาก็ยิ้มดูถานเสี่ยวเทียนดื่มจนหมดขวด
แม้ถานเสี่ยวเทียนจะดื่มไปถึงสามขวด แต่เขาก็ยังนั่งลงและหยิบอาหารขึ้นมากินต่อได้
“เสี่ยวเทียนอย่าดูถูกคนแบบนี้! นายดื่มให้พวกเขาทุกคนแล้วฉันล่ะ?” ถังอี้รู๋นั่งลงข้างๆ ถานเสี่ยวเทียนพร้อมกับแก้วเหล้า ดวงตาของเธอจ้องมาที่เขาด้วยความโมโห เด็กสาวอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน และเธอจะต้องเป็นหญิงงามเมื่อโตขึ้นแน่นอน
ถานเสี่ยวเทียนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เหวินเว่ย คุณให้ผมดื่มอีกอย่างนั้นเหรอ? ถ้าผมดื่มอีกผมต้องอาเจียนออกมาแน่นอน” (เหวินเว่ย = คณะกรรมการวรรณกรรม)
นิ้วที่เรียวยาวของถังอี้รู๋วนเป็นวงกลมรอบปากแก้ว เธอเอียงศีรษะแล้วจ้องไปที่ถานเสี่ยวเทียนโดยไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นแบบนี้ ถานเสี่ยวเทียนก็เสียวสันหลังขึ้นมาทันที
ในชั้นม.ปลายปีสามมีสาวสวยสองคน คนหนึ่งคือถังอี้รู๋ ส่วนอีกคนคือฉู่ถิง ทั้งสองถูกขนานนามว่าคู่ดอกไม้งามแห่งมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงที่ทั้งเก่งและสวยงาม อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมาเพื่อที่จะได้เรียนได้อย่างสงบ ฉู่ถิงจึงปิดบังความงามของตัวเอง เป็นผลให้ถังอี้รู๋กลายเป็นดอกไม้งามเพียงหนึ่งเดียว
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือที่ค่อนข้างคลุมเครือระหว่างถานเสี่ยวเทียนกับถังอี้รู๋อยู่พักหนึ่ง แน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น
ในชีวิตก่อนหน้านี้ ถานเสี่ยวเทียนถูกไล่ออกจากโรงเรียนและพลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนซุนรุยและถังอี้รู๋ที่เป็นคณะกรรมการเหมือนกันจึงได้เริ่มตกหลุมรักกัน แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองแยกจากกันในตอนท้ายเพราะซุนรุยไปเรียนที่หยานจิง แต่ถังอี้รู๋ได้ไปเรียนที่เซิงเทียน นอกจากนี้ซุนรุยก็ทุ่มเทให้กับการเรียนรู้จนไม่รู้วิธีดูแลสาวๆ ด้วยคำหวาน จึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองอยู่ได้เพียงแค่หนึ่งปี
เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ถานเสี่ยวเทียนรู้สึกเสียวสันหลังนั้นเพราะเรื่องในชาติที่แล้ว ในสองปีหลังจากที่เขาเป็นทหาร เมื่อเขากลับมาจากการไปเยี่ยมญาติ เขาก็เข้าไปจีบถังอี้รู๋และมีอะไรกับเธอแล้วก็เลิกรากันในคืนนั้นเพราะถานเสี่ยวเทียนต้องเข้าสู่กองทัพลับ ทำให้ทั้งสองติดต่อกันไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินมาว่าถังอี้รู๋ต้องเสียใจเป็นเวลานาน
หลังจากเกิดใหม่ ถานเสี่ยวเทียนพยายามหลีกเลี่ยงถังอี้รู๋ให้มากที่สุด เพราะเขากลัวว่าเขาจะไม่สามารถยับยั้งและทำสิ่งผิดพลาดอีกครั้งจนส่งผลต่อการสอบเข้าวิทยาลัย
“ถานเสี่ยวเทียนฉันได้ยินมาว่าคุณทำได้ดีในการสอบ หัวหน้าห้องเหนื่อยเพื่อคุณมากใช่ไหม?” ถังอี้รู๋เข้ามาและกระซิบที่หูของเขา “นายสนใจแต่หัวหน้าห้อง ไม่สนใจฉัน แล้วเป็นยังไง… ขาของเธอขาวมากไหม?”
อะแฮ่ม…
ถานเสี่ยวเทียนมองไปที่ซุนรุยราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ “เฉวเว่ย ถังอี้รู๋เมามากแล้ว ช่วยส่งเธอกลับไปที่ห้องด้วย”
“โอเค โอเค!” ซุนรุยที่เฝ้าสังเกตทั้งสองคนก็เห็นด้วยซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเอื้อมมือไปช่วยถังอี้รู๋
ถังอี้รู๋ปัดมือของเขาออกและพูดด้วยน้ำเสียงที่แหลมคมว่า “อย่าแตะต้องฉัน ฉันไปเองได้”
เธอลุกขึ้นยืนขึ้น ชี้นิ้วชี้ไปที่หน้าผากของถานเสี่ยวเทียนและสาปแช่ง “ถานเสี่ยวเทียน คนงี่เง่า ฉันเกลียดนาย”
ถานเสี่ยวเทียนยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นการจ้องมองของนักเรียนคนอื่นๆ
เขาอาจไร้ความปรานีต่อศัตรู แต่เขาอดทนต่อเพื่อนฝูงเสมอ
สาวๆ คนอื่นๆ เข้ามาช่วยปลอบถังอี้รู๋ ถานเสี่ยวเทียนฉวยโอกาสนี้หนีออกไป ลงไปข้างล่างเพื่อซื้อเบียร์สองขวดแล้วเดินข้ามถนนไปประมาณหนึ่งร้อยเมตร ยืนตรงข้ามกับทะเลจนได้ยินเสียงคลื่นและรับรสเค็มในอากาศ
ถานเสี่ยวเทียนจิบเบียร์ สูบบุหรี่และจ้องมองออกไปที่ทะเลที่มืดมิดด้วยความมึนเมา
อดทนไว้นะตัวฉัน! หลังจากเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ หลังจากพบเพื่อนร่วมชั้นใหม่ๆ เขาจะไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวเหมือนทุกวันนี้ การให้ชายวัยกลางคนแกล้งทำตัวเป็นเด็กอายุ 18 ทุกวัน มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน
เช้าตรู่ของวันที่ 16 กรกฎาคม ฉู่ถิงมาที่อาคารซ่างกังและเคาะประตูทีละคนเพื่อปลุกให้นักเรียนตื่น
เธอไม่พอใจที่ไม่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ได้ เธอจึงมาทำแบบนี้แทนคำขอโทษของเธอ
ประตูของหญิงสาวเปิดออก ถังอี้รู๋ที่มีผมยุ่งๆ จ้องมาที่เธอพร้อมกับถืออ่างล้างหน้าและไปที่ห้องน้ำสาธารณะ
ฉู่ถิงจ้องมองเธออย่างงุนงง เธอไม่รู้ตัวว่าตัวเองไปทำอะไรให้ถังอี้รู๋โกรธ
เมื่อโจวหยุนออกมาจากห้องข้างๆ พร้อมกับหาว เธอถูกจับโดยฉู่ถิงทันที “โจวหยุน ถังอี้รู๋เหมือนจะไม่พอใจฉันนะ เธอคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? ฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจงั้นเหรอ?”
ผู้หญิงทุกคนมีคุณสมบัติ 38 ประการ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ตาของโจวหยุนเป็นประกายและพูดถึงเรื่องของถังอี้รู๋ที่ชี้ไปที่ถานเสี่ยวเทียนเมื่อคืนนี้อย่างเกินจริง
ใบหน้าของฉู่ถิงขุ่นมัวในทันที แน่นอนว่าเธอรู้ข่าวลือเกี่ยวกับถานเสี่ยวเทียนและถังอี้รู๋มาก่อน ซึ่งมันเคยทำให้เธออารมณ์ไม่ดีทั้งวันมาแล้ว
เส้นทางทัวร์ที่จัดโดยไกด์นำเที่ยวในวันนี้คือการชมการแสดงวาฬเบลูก้าที่โพลาร์พาวิลเลี่ยนในตอนเช้า และไปชมปลาเขตร้อนที่โอเชียนเวิลด์ในตอนบ่าย
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเล่นกันอย่างสนุกสนานและหัวเราะกันอย่างเต็มที่ หลังจากเรียกหนักมาสามปีเต็ม พวกเขาก็ทำตัวเหมือนปลาที่ถูกปล่อยกลับคืนสู่ทะเล
จะยกเว้นก็เพียงฉู่ถิง ถังอี้รู๋ ซุนรุยและถานเสี่ยวเทียน
ฉู่ถิงกังวลว่าถานเสี่ยวเทียนจะชอบถังอี้รู๋
ถังอี้รู๋ไม่พอใจที่ถานเสี่ยวเทียนไม่สนใจเธอ
ซุนรุยรู้สึกไม่มีความสุขเมื่อเห็นถังอี้รู๋อารมณ์เสีย