บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 24 ภูมิหลังลึกลับ
บทที่ 24 ภูมิหลังลึกลับ
ที่ชั้นล่างสุดของบันได ซานอิงรอบรวมความกล้าแล้วถามออกมา “พี่ใหญ่ ลูกน้องของผมจะไม่เป็นใช่ไหมครับ?”
ยังไงเสี่ยวหลิวก็เป็นลูกน้องเขา หากเขาทำเป็นไม่สนใจ มันอาจจะกระทบต่อความเชื่อของลูกน้องคนอื่นๆ ที่มีต่อตัวเขาได้
ถานเสี่ยวเทียนเหลือบมองเขา จากนั้นก็ยื่นนิ้วชี้ออกไปจิ้มที่ใต้กกหูของซานอิงลงมาครึ่งนิ้ว จากนั้นก็ออกแรงกดสองครั้ง
ซานอิงรู้สึกหนาวเหน็บเข้าไปในขั้วหัวใจ ในใจของเขาคิดว่าในที่สุดก็ถึงเวลาตายของเขาแล้ว
โชคดีที่ถานเสี่ยวเทียน แค่กดลงไปเบาๆ เท่านั้น “นี่คือจุดเชื่อมต่อของหลอดเลือดใหญ่ที่คอและเส้นประสาท หากตีตรงนี้ด้วยแรงที่พอดีก็จะทำให้เกิดอาการช็อกชั่วคราว หากนายต้องการจะแก้แค้น นายสามารถเอาวิธีนี้มาใช้กับฉันได้”
ซานอิงกลัวมากจนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “พี่ใหญ่ พี่ล้อเล่นแล้ว ต่อให้ผมมีความกล้ามากกว่านี้เป็นสิบเท่า ผมก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิดอยู่ดี”
ถานเสี่ยวเทียนยิ้มและเดินจากไป
เมื่อเห็นว่าถานเสี่ยวเทียนนั่งอยู่ที่โต๊ะไหน ซานอิงก็กวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟเข้ามาทันที “น้อง บิลของโต๊ะนั้นส่งไปที่ห้อง 206 ฉันจะจ่ายเอง”
กลับไปที่ชั้นสอง ซานอิงปลุกเสี่ยวหลิวแล้วพาเขากลับไปที่ห้องส่วนตัว
บรรยากาศในห้องตอนนี้กลับหัวกลับหางจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
ซานอิงผู้หยิ่งผยองเมื่อครู่นี้ ตอนนี้กำลังจับมือฉู่เฉียงและตะโกนเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ เขาถึงกับบอกว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น น้องชายคนนี้ต้องขอโทษพี่ฉู่จริงๆ จากนี้ไป ไม่ว่าพี่ฉู่จะมีปัญหาอะไร พี่สามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อ
ฉู่เฉียงตกตะลึง เขาพยายามจะถามออกมาหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้า แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ เขาพอจะเดาได้ว่าเรื่องนี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับถานเสี่ยวเทียนแน่นอน ไม่เช่นนั้นซานอิงที่โหดร้ายจะกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง!
เป็นไปได้ไหมว่าถานเสี่ยวเทียนมีภูมิหลังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ?
เมื่อเห็นว่าซานอิงไม่เต็มใจที่จะกินและดื่มต่อไป ฉู่เฉียงจึงเรียกบริกรมาคิดเงิน แต่บริกรกลับบอกเขาว่าบิลได้รับการชำระแล้ว ก่อนที่ฉู่เฉียงจะได้ถามอะไร ซานอิงก็ลุกขึ้นยืน “พี่ฉู่ มื้อนี้ให้ผมเลี้ยงพี่เอง ผมหวังว่าพี่จะลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีตและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจากนี้ไป”
คนแปดคนรีบออกไปจากห้องส่วนตัว ปล่อยให้ฉู่เฉียงและเพื่อนของเขาจ้องมองหน้ากับด้วยความงงงวย
เพื่อนของเขาโน้มตัวเข้ามาและยิ้ม “เฒ่าฉู่ แกรู้จักกับขาใหญ่แถวนี้ใช่ไหม คนคนนั้นเป็นใครอย่างนั้นเหรอ? ถ้าให้ฉันเดา… ในซานเฉิงนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้ซานอิงกลัวได้ก็มีเต้าตงเหลา ไห่หงษ์และเถี่ยเกอ จะต้องเป็นใครสักคนในนี้ใช่ไหม?”
ริมฝีปากของฉู่เฉียงขยับสองสามครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดออกมา
เพื่อนของเขาพูดถูก ที่ซานอิงกลายเป็นแบบนี้เพราะใครบางคนจริง แต่… คนคนนั้นเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น
เมื่อนึกถึงถานเสี่ยวเทียนที่มักจะแสดงรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตรายออกมาในทุกๆ ครั้งที่เจอ สันหลังของเขาก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา เขาลูกสาวของเขาให้รู้ให้ได้ว่าถานเสี่ยวเทียนเป็นยังไงกันแน่
******
ที่ชั้น 1 เพื่อนร่วมชั้นตัวน้อยทั้ง 5 คนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาคุยกันว่าก่อนที่พวกเขาจะกรอกใบสมัครเข้าวิทยาลัย ในวันที่ 15 กรกฎาคม พวกเขาจะเรียกรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นที่ดีอีกสองสามคนและเดินทางไปเที่ยวที่ปิ่นเฉิงด้วยกัน
ฉู่เฉียงลงมาจากชั้นสอง เมื่อเห็นทุกๆ คนเขาก็ฝืนยิ้มและพยักหน้าให้ถานเสี่ยวเทียนเล็กน้อย
“พ่อคะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของหนูเองค่ะ โจวหยุน จางต้าเผิง หม่าเหว่ยและ…ถานเสี่ยวเทียน” เมื่อเห็นพ่อตัวเองกำลังเดินมา ฉู่ถิงก็รีบลุกขึ้นและแนะนำทุกคน
คนอื่นไม่เห็นการเคลื่อนไหวของพ่อของเธอ แต่ฉู่ถิงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทัศนคติของครอบครัวของเธอที่มีต่อถานเสี่ยวเทียนนั้นเป็นปมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ ตอนนี้ เมื่อเห็นว่าพ่อของเธอพยักหน้าให้ถานเสี่ยวเทียน เธอจึงมีความสุขอย่างมาก
“สวัสดี ทุกคน!” ฉู่เฉียงทักทายเด็กๆ อย่างสุภาพ แล้วเขาก็เรียกพนักงานมา “ฉันจ่ายบิลให้โต๊ะนี้เอง เท่าไหร่งั้นเหรอ?”
“คุณลูกค้าหัวล้านคนก่อนหน้านี้ได้จ่ายให้โต๊ะนี้ไปแล้วครับ” พนักงานเสิร์ฟสุภาพมาก
พายุที่รุนแรงอีกลูกพัดผ่านหัวใจของฉู่เฉียง ซานอิงกำลังพยายามประจบถานเสี่ยวเทียนจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะจ่ายให้เด็กๆ พวกนี้ทำไม?
ฉู่เฉียงไม่สามารถเผชิญหน้ากับถานเสี่ยวเทียนอย่างสงบได้อีกต่อไป
เมื่อสองสามวันก่อน เขาพูดอย่างดุร้ายว่า “อย่ามารบกวนลูกสาวของฉัน” กับถานเสี่ยวเทียนอยู่เลย แต่วันนี้ถานเสี่ยวเทียนกลับแก้ไขปัญหาที่เขาไม่อาจแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
เขาต้องกล่าวขอบคุณเด็กคนนี้ไหม?
ตอนนี้เขาต้องการออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด
“ถิงถิงลูกกินข้าวอิ่มหรือยัง? กลับบ้านพร้อมกับพ่อเถอะ”
ฉู่ถิงไม่ต้องการจะจากไป แต่เธอไม่สามารถขัดขืนพ่อของเธอได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเข้าไปในรถของฉู่เฉียงอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากรถขับออกไประยะหนึ่ง ฉู่เฉียงก็เริ่มตั้งคำถามออกมา เขาถามฉู่ถิงว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น?
ฉู่ถิงไม่กล้าปกปิด แต่เธอรู้เพียงแค่ว่าถานเสี่ยวเทียนขึ้นไปชั้นบนเท่านั้น เธอไม่รู้ว่าเขาขึ้นไปทำอะไร
ฉู่เฉียงถามอย่างระมัดระวัง แม้กระทั่งถามเกี่ยวกับการเจอกันครั้งแรกของถานเสี่ยวเทียนและซานอิง แต่ครั้งนั้นฉู่ถิงถูกบังคับให้หนีไปก่อน เธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เงามืดค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจของฉู่เฉียง แม้ว่าพ่อแม่ของถานเสี่ยวเทียนจะเปิดแค่ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่ญาติคนอื่นๆ ในครอบครัวของเขาจะมีความสามารถในการเรียกลมและฝนในเส้นทางสีเทาได้ ไม่อย่างนั้นซานอิงจะยอมก้มหัวให้เขาได้ยังไง?
มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!
ฉู่เฉียงเป็นชายวัยกลางคนที่ผ่านอะไรมาพอสมควร ทำให้เขามั่นใจในการตัดสินของเขามาก
******
ที่ทางเข้าร้านอาหารต้าฟู่หาว สามสหายที่เพิ่งส่งโจวหยุนกลับบ้านไปต่างก็กำลังอิ่มและเบื่อหน่าย หลังจากสามปีของชีวิตที่น่าอึดอัดในโรงเรียนมัธยม มันทำให้พวกเขาในตอนนี้รู้สึกไม่ชินที่ไม่ต้องไปโรงเรียน
จางต้าเผิงมองไปที่ถานเสี่ยวเทียนและหม่าเหว่ยอย่างลึกลับ ปากของเขากว้างขึ้นและรอยยิ้มที่น่าสงสารก็แสดงขึ้นบนใบหน้าของเขา “เราจบ.ปลายแล้ว ตอนนี้พวกเราถือว่าเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เราไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันหน่อยไหม…”
พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ทันทีที่ถานเสี่ยวเทียนเห็นรอยยิ้มแบบนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าจางต้าเผิงกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อมองไปที่หม่าเหว่ยที่ปกติมักจะทำตัวจริงจัง ตอนนี้เขากำลังกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย
“แม่ของฉันให้เงินฉันมา 500 หยวน ฉันจะพาพวกนายไปร้องเพลง! ฉันได้ยินมาว่ามี…” จางต้าเผิงหยิบเช็คเงินสดห้าร้อยหยวนออกจากกระเป๋าแล้วโบกไปมาในสายลม
“ฉันก็มีเงินเหมือนกัน” หม่าเหว่ยหยิบธนบัตรสองสามใบออกจากกระเป๋าแล้วถือมันไว้ระหว่างนิ้วของเขา จากนั้นทั้งสองก็มองไปที่ถานเสี่ยวเทียนอย่างเจ้าเล่ห์
แน่นอนว่าถานเสี่ยวเทียนเข้าใจดีว่าความปรารถนาในใจของเด็กผู้ชายในวัยนี้ก็เหมือนแก๊สที่พร้อมจะติดไฟตลอดเวลา เขาถอนหายใจและพูดว่า “ฉันขอดูเพจก่อน!”
แน่นอนว่าถานเสี่ยวเทียนกำลังคิดถึงไห่หงษ์ ในโลกนี้มีเพียงไห่หงษ์เท่านั้นที่มีทรัพยากรประเภทนี้
เขาเจอโทรศัพท์สาธารณะและกดหมายเลขโทรศัพท์ที่ไห่หงษ์เพจทิ้งไว้ให้ครั้งก่อน ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“สวัสดี ใครโทรมา?”
“พี่หงห์ ผมเสี่ยวเทียนเอง”
เสียงจากอีกฝั่งของโทรศัพท์เริ่มมีความกระตือรือร้นขึ้นมาในทันใด “น้องชาย! ว่าไง นายต้องการจะเจอกับพี่สาวคนนี้งั้นเหรอ?”
เสียงของไห่หงษ์ยั่วยวนและชวนให้นึกถึงร่างที่ร้อนแรงของเธอ ถานเสี่ยวเทียนต่อสู้กับสงครามเย็นในหัวใจของตัวเอง
“พี่หงห์ ผมเพิ่งสอบเข้ามหาลัยเสร็จ ผมต้องการพาเพื่อนร่วมชั้นไปร้องคาราโอเกะที่บาร์ของพี่ พี่หงษ์มีที่ไหนแนะนำผมบ้างไหม? ไม่ได้ผมไปที่ร้านปารีสในฝันไม่ได้ ร้านของพี่อยู่ใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อผมมากเกินไป ถ้าเกิดว่าพ่อกับแม่รู้ว่าผมเข้าไปในร้านพี่ ผมจะต้องแย่แน่นอน”
“งั้นนายไปที่เมืองซุนได้เลย เดี๋ยวพี่จะจัดการให้เดี๋ยวนี้!” ไห่หงษ์พูดออกมาอย่างสบายๆ