บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 20 งานเลี้ยงฉลอง
บทที่ 20 งานเลี้ยงฉลอง
ต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ ถานเสี่ยวเทียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอดูการเปลี่ยนแปลง
อาจจะเป็นเพราะกระดาษคำตอบที่เรียบร้อยของฉู่ถิงที่ทำให้ความสงสัยของผู้คุมสอบหายไป จากนั้นเขาก็พึมพำด้วยความไม่ชอบใจ: “เด็กอะไรทาเล็บแดงแบบนี้?!” ก่อนที่จะจากไป
ถานเสี่ยวเทียนโล่งอก
แน่นอนว่าฉู่ถิงได้วางมือซ้ายของเธอลงบนโต๊ะอีกครั้ง
นิ้วชี้ของเธอเริ่มส่งสัญญาณอย่างรวดเร็ว
แต่ด้วยความที่เธอกลัวว่าถานเสี่ยวเทียนจะมองไม่เห็นคำตอบก่อนหน้านี้ เธอจึงได้เริ่มส่งคำตอบใหม่ตั้งแต่แรกอีกครั้ง
คราวนี้ ถานเสี่ยวเทียนมองเห็นได้ชัดเจน
ตำตอบแบบปรนัยถูกส่งออกมาอย่างราบรื่นและคำตอบข้อต่อๆ ไปก็ถูกส่งตามออกมา
ถานเสี่ยวเทียนเขียนคำตอบอย่างประณีต
หลังจากทั้งหมดนี้ เสียงระฆังก็ดังขึ้น
หลังจากส่งกระดาษตำตอบแล้ว ถานเสี่ยวเทียนและฉู่ถิงก็ยิ้มให้กัน
วันที่ 8 กรกฎาคม แดดยังร้อนอยู่ แดดร้อนนี้จะแผดเผาทุกอย่างในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ในห้องสอบ ทำให้ตอนนี้มีผู้สมัครหลายคนที่เหงื่อท่วมตัว
พัดลมแบบเก่าที่อยู่ด้านบนเพดานห้องสอบส่งเสียงเอี๊ยดแปลกๆ ทันทีที่มันเริ่มหมุน ดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ห้องสอบเย็นลง
ครูผู้คุมสอบพยายามเอาอ่างล้างหน้าใส่น้ำมาตั้งไว้และคอยสลัดน้ำใส่พื้นห้องบ่อยๆ เพื่อที่จะทำให้ห้องเย็นลงด้วยวิธีโบราณ
การสอบในวันนี้ ถานเสี่ยวเทียนทำได้ดีและเร็วมาก เขาใช้ความทรงจำที่คลุมเครือของชีวิตที่แล้วในการสอบวิชาศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จากนั้นก็ใช้เรียงความที่เตรียมไว้นานแล้วในการสอบวิชาภาษาจีน และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคะแนนของเขาจะต้องออกมาสูงอย่างแน่นอน
ส่วนวิชาภาษาอังกฤษที่จะสอบในตอนบ่ายนั้นไม่ต้องพูดถึง ในการสอบจำลองสามครั้งก่อนนี้เขาเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด!
เขาได้เตรียมบทความสำหรับการสอบไว้นานแล้ว ในการสอบครั้งนี้เขาจะพูดถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างเช็คสเปียร์ แม้ว่าเขาจะไม่กล้าบอกว่าตัวเองจะได้คะแนนเต็ม แต่ถ้าครูผู้คุมสอบมีตา พวกเขาก็คงจะไม่หักคะแนนของเขาแม้แต่คะแนนเดียว
หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบถึงสองครั้ง ถานเสี่ยวเทียนส่งกระดาษคำตอบก่อนที่จะหมดเวลาครึ่งชั่วโมง ทำให้เขาเป็นหนึ่งในสี่คนที่ออกจากสนามสอบก่อนเวลา
เหตุผล! หนึ่งคือเขามีความมั่นใจในภาษาอังกฤษมาก และอีกอย่างคือเขาไม่ต้องการที่จะเจอฉู่ถิงในตอนนี้
เพราะทั้งเรียงความภาษาจีน ทั้งประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง และแม้แต่บทความภาษาอังกฤษก็ยังออกสอบตามที่เขาพูดไว้ทั้งหมด มันเป็นไปได้เลยที่เด็กโง่คนนั้นจะไม่สงสัยเรื่องนี้!
เมื่อออกมาจากทางเข้าของสนามสอบ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเหล่าผู้ปกครองที่ล้นหลาม พ่อแม่ที่น่าสงสารทุกคนยอมทนตากแดดดีกว่าที่จะจากไปจากที่นี่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความคาดหวัง…
ด้วยความสูงของถานเสี่ยวเทียนทำให้เขาหาถานเยว่จินที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเจอไม่นาน และเมื่อเห็นพ่อของตนยืนอยู่คนเดียว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความสงสัยว่า: “พ่อครับ แม่ไปไหน?”
ถานเยว่จินปาดเหงื่อแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าลูกสอบเสร็จแล้วเหรอ? พ่อบอกให้แม่กลับไปทำอาหารที่บ้านรอก่อน คืนนี้เราจะปิดร้านก๋วยเตี๋ยวของเราเพื่อฉลองให้ลูก”
พ่อและลูกชายขับรถยนต์และหายไปจากสายตาอิจฉาของคนอื่นๆ
ในตอนเย็น ประตูของร้านถานเจี่ยเหล่าตังเมียน (ก๋วยเตี๋ยวโบราณตระกูลฐาน) ถูกปิดลง ถานเยว่จิน ซ่งชุนฮวา ถานเสี่ยวเทียนและอู๋เฉียนชิวกับภรรยาของเขาไป่หนิง ทั้งห้าคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ
ซ่งชุนฮวากลับมาตั้งแต่บ่ายเพื่อซื้อและเตรียมอาหารไว้จำนวนมาก ตอนนี้ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยไก่ เป็ด ปลา ปูและกุ้งที่ดูน่าอร่อย
“ลูกจ๋า การสอบเป็นอย่างไรบ้าง?” ดวงตาของซ่งชุนฮวาเต็มไปด้วยความหวัง ทั้งสองตระกูลไม่ว่าจะเป็นตระกูลซ่งหรือตระกูลถานนั้นไม่มีบัณฑิตมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ในเมื่อตอนนี้ลูกชายของเธอกำลังจะได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะไม่ให้เธอมีความสุขได้ยังไง?
“ไม่มีปัญหาอะไรครับแม่” ถานเสี่ยวเทียนตอบอย่างคลุมเครือพร้อมกับกัดขาปู
อู๋เฉียนชิวและไป่หนิงมองหน้ากันและทั้งคู่ก็ยกถ้วยขึ้นอวยพรพร้อมกัน “เสี่ยวเทียนมีอนาคตที่สดใสตั้งแต่ยังเด็ก เขาถือเป็นบัณฑิตคนแรกของตระกูลของเรา! แก้วนี้ พวกเราสองคนขอดื่มเพื่อแสดงความยินดีกับคุณลุงกับคุณป้าที่มีลูกชายที่ประเสริฐ”
ทั้งอู๋เฉียนชิวและภรรยาของเขาต่างก็เป็นคนที่จริงใจและซื่อตรง ในชีวิตก่อนหน้านี้ทั้งสองคนนี้ไม่เคยละทิ้งครอบครัวของเขาเลยแม้ว่าพวกจะลำบากขนาดไหนก็ตาม นั่นจึงทำให้ถานเสี่ยวเทียนไว้วางใจพวกเขาอย่างมาก
“ขอบคุณพี่เฉียนชิว ขอบคุณพี่สะใภ้!” ถานเสี่ยวเทียนยกโค้กและชนแก้วกับอู๋เฉียนชิว
เมื่ออยู่ที่บ้าน เขายังต้องทำตัวเป็นเด็กดีจึงไม่ดื่ม
“พี่เฉียนชิว อยู่ที่นี่พี่มีความสุขไหมครับ?” ถานเสี่ยวเทียนเทเบียร์อีกหนึ่งแก้วให้กับอู๋เฉียนชิว
“ที่นี่ดีมาก คุณลุงกับคุณป้าดูแลเราอย่างดี” ก่อนที่อู๋เฉียนชิวจะได้ตอบ ไป่หนิงพี่สะใภ้ของเขาก็พูดออกมาก่อน
ในใจถานเสี่ยวเทียนมีความสุขที่เห็นว่าพี่สะใภ้แย่งลูกพี่ลูกน้องของเขาตอบเพราะกลัวว่าคำพูดของลูกพี่ลูกน้องของเขาจะทำให้พ่อกับแม่ไม่มีความสุข
ในชาติที่แล้วความไม่พอใจเพียงอย่างเดียวของอู๋เฉียนชิวคือถานเยว่จินไม่ยอมสอนสูตรลับในการทำผักตุ๋นให้กับเขา
แต่เรื่องนี้ไม่สามารถโทษถานเยว่จินได้ เพราะเขาคาดหวังว่าจะส่งต่อสูตรลับนี้ให้กับถานเสี่ยวเทียนเพื่อที่ลูกชายของเขาจะได้ดูแลตัวเองได้
“พี่เฉียนชิว พี่สะใภ้ พี่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดนะครับ ในอนาคตเมื่อร้านที่หน้าสถานีเปิด ร้านนี้จะถูกมอบให้กับพวกพี่ทั้งสองคน”
เมื่อถานเสี่ยวเทียนพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของอู๋เฉียนชิวก็เปล่งประกาย
หลังจากเข้าเมืองมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน เขาก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าในหนึ่งวัน ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แห่งนี้สามารถทำเงินได้เท่าไร มันเป็นเงินที่เขาไม่หาได้ในชนบท แม้ว่าจะต้องทำงานเป็นเดือนๆ ก็ตาม
ไม่ใช่ว่าคู่รักคู่นี้จะไม่คิดออกไปเปิดร้านเล็กๆ ด้วยตัวเองหลังจากที่ได้เรียนรู้สูตรลับแล้ว แต่เพราะถานเยว่จินนั้นให้พวกเขาทำเพียงแค่งานบ้าน ล้างผักและล้างจานเท่านั้น ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นสูตรลับเลยแม้แต่นิดเดียว และอีกอย่างที่ทำให้พวกเขายังยินดีที่จะอยู่ที่นี่ก็เพราะค่าจ้างที่ถานเยว่จินจ่ายให้พวกเขาถึงสองพันหยวนต่อเดือน ซึ่งมากกว่าเงินที่พวกเขาสามารถหาได้ในชนบทมาก มันจึงทำให้พวกหวงแหนงานที่นี่มาก
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทุกๆ คนก็ต้องการที่จะเติบโตขึ้นทั้งนั้น มันจึงทำให้อู๋เฉียนชิวรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ยินว่าในอนาคตร้านเล็กๆ แห่งนี้อาจอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา
หลังจากดื่มฉลองเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง ในระหว่างมื้อค่ำ ถานเยว่จินก็ได้เริ่มที่จะส่งบุหรี่ให้กับลูกชายของตน ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่วันนี้เป็นตอนไป ถานเสี่ยวเทียนถือเป็นผู้ใหญ่ในใจของเขาแล้ว
******
ปัง ปัง ปัง…
ปัง ปัง ปัง…
เสียงตบประตูอย่างเร่งรีบดังขึ้นไม่หยุดจนถานเสี่ยวเทียนพลิกตัวซุกหัวไว้ใต้หมอน
“ถานเสี่ยวเทียน!”
“ถานเสี่ยวเทียน!”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงของผู้หญิงที่ดูละเอียดอ่อน ถานเสี่ยวเทียนก็ตื่นขึ้นทันทีราวกับรู้ว่าเป็นฉู่ถิงที่เรียกเขา
เขาพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง มองดูนาฬิกาและเห็นว่าเป็นเวลา 9:17 น. เขารีบสวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะแล้วรีบเดินไปเปิดประตู
แน่นอนว่าเป็นฉู่ถิงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงสีฟ้าที่ยืนอยู่หน้าประตู
“หัวหน้าห้องเข้ามารอข้างในก่อน ฉันขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่!”
ถานเสี่ยวเทียนเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำและมองตัวเองในกระจกด้วยความตกใจ
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าฉู่ถิงต้องมาที่นี่เพื่อถามเรื่องบทความที่เขาบอกเธอไปแน่นอน ฉันควรจะตอบเธอยังไงดี?